ตอนที่ 206 ขั้นสามตอนกลาง (1)
ฝ่ายบริการ
ฟางผิงนั่งอยู่ที่จุดแลกเปลี่ยนมาสักพักแล้ว
ตาเฒ่าหลี่ฟุบหลับไม่สนใจเขา
ฟางผิงเอาแต่จ้องตารางแลกเปลี่ยนที่อยู่ด้านหน้า จู่ๆ ก็ตัดสินใจว่า “อาจารย์ ผมอยากซื้ออันนี้!”
ตาเฒ่าหลี่กวาดสายตามองแวบหนึ่ง ก่อนจะมองเขาอย่างแปลกใจ “แน่ใจ?”
“แน่ใจ!”
“เธอจะซื้อไปทำไม?”
ตาเฒ่าหลี่เอ่ยอย่างสงสัยอยู่บ้าง มองเขาอยู่พักใหญ่ “นี่เป็นยาบำรุงระดับห้า! เป็นเพราะเธอมาที่นี่บ่อยๆ หรอก ปกติในตารางแลกเปลี่ยนแทบจะไม่ปรากฏขึ้นมา มันไม่ใช่ของสำหรับนักศึกษา ส่วนมากจะเสนอให้กับพวกอาจารย์”
“เอาอันนี้แหละ”
ฟางผิงทำหน้ามั่นใจ เอ่ยอย่างปวดใจว่า “ได้ยินว่ายาเสริมสร้างร่างกายทำมาเพื่อให้ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามใช้โดยเฉพาะ เพราะเปลี่ยนแปลงจากทั้งในและนอก ประสิทธิภาพจึงน่าตกใจ กระทั่งอวัยวะภายในยังสามารถหลอมไปด้วย อาจารย์ นี่คงไม่ใช่เรื่องโกหกสินะครับ?”
“แน่อยู่แล้ว!”
ตาเฒ่าหลี่มองเขาอยู่สักพัก ครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยว่า “ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสามารถหลอมอวัยวะภายใน พูดได้ว่าขั้นตอนนี้จะทำให้ร่างกายมนุษย์แข็งแกร่งดั่งทองคำ! ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสูงสุด นอกจากกะโหลกแล้ว ส่วนอื่นทางกายภาพแทบจะไร้จุดอ่อนเลยทีเดียว”
ระหว่างที่พูด ตาเฒ่าหลี่ยังคว้ากริชโลหะผสมที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา แทงที่มือตัวเองหลายครั้ง เกิดเป็นเสียงเสียดสีของโลหะ
“เด็กน้อย เห็นหรือยัง? พูดตามตรง ตอนนี้ฉันนอนอยู่ที่นี่ ให้เธอฟันฉันได้ตามใจชอบ เว้นส่วนหัวไว้ ถ้าฆ่าตาแก่อย่างฉันได้ นับว่าเธอสุดยอดแล้ว”
ฟางผิงหน้าตาดำคล้ำ เอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “อาจารย์ ผมไม่ได้อยากจะมาฟังคุณคุยโม้ ผมแค่อยากแลกยาบำรุงไม่กี่เม็ด ถือโอกาสถามประสิทธิภาพของมันเท่านั้น”
“พูดแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน?”
ตาเฒ่าหลี่เอ่ยอย่างไม่พอใจ “ฉันก็กำลังแสดงประสิทธิภาพให้เธอเห็นอยู่นี่ไง?”
“ยาเสริมสร้างร่างกาย สร้างประโยชน์ให้กับร่างกายมนุษย์ แต่ไม่ใช่ประโยชน์หลักๆ ตาแก่อย่างฉันแค่อยากบอกเธอว่า อย่าสิ้นเปลืองเกินไป ตอนนี้สถานการณ์ของเธอ ใช้ยาเสริมสร้างร่างกาย อย่างมากก็เพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น แต่สำหรับอวัยวะภายในกลับจะเป็นอันตราย เธออาจไม่สามารถรับประสิทธิภาพที่รุนแรงของยาได้เสมอไป…”
“อาจารย์ งั้นคุณคิดว่าตอนนี้ผมใช้ยาเสริมสร้างร่างกายหนึ่งเม็ด ร่างกายจะแข็งแกร่งจนสามารถรองรับกับการหลอมกระดูกของขั้นสามได้หรือเปล่า?”
ตาเฒ่าหลี่ไม่พูดอะไร ยื่นมือมาตบร่างกายของเขาหลายครั้ง ก่อนจะเงียบไปพักหนึ่ง “หากเธออยากลองจริงๆ สามารถลองดูได้ ใช้ยาเสริมสร้างร่างกายสามเม็ดน่าจะเพียงพอแล้ว แต่ครั้งแรกค่อนข้างอันตราย ฤทธิ์ของยาแข็งแกร่งอย่างมาก อีกอย่างหนึ่งเม็ดต่อสองร้อยคะแนน เธอมั่นใจนะว่าจะใช้หกร้อยคะแนนซื้อยานี้? แค่เพื่อเตรียมพร้อมให้ร่างกายแข็งแกร่งรองรับกับการหลอมกระดูกขั้นสามตอนกลางได้เนี่ยนะ? สิ้นเปลืองขนาดนี้ ครั้งหน้าอย่ามาบ่นว่าบ้านเธอจนละกัน?”
ฟางผิงอับจนหนทาง ถอนหายใจว่า “อาจารย์ การพัฒนาของผมช้าเกินไป ต้องรอเดือนไหนปีไหนถึงจะฝึกถึงขั้นสามตอนกลางหรือสูงกว่านั้นได้ ผมอยากให้ค่อยเป็นค่อยไปเหมือนกัน ประหยัดได้หน่อยก็ดี แต่มันไม่ไหวจริงๆ หากช้ากว่านี้ ผมคงรั้งอยู่ท้ายคนอื่น…”
“ปีหนึ่งยังมีคนที่แข็งแกร่งกว่าเธอ?”
“ไม่ได้หมายถึงปีหนึ่ง ผมหมายถึงคนอื่นๆ”
ตาเฒ่าหลี่หัวเราะ เงียบไปพักใหญ่ “งั้นอย่างน้อยยังต้องแลกยาป้องกันอวัยวะภายในขั้นสามอีกสามเม็ด หนึ่งเม็ดเก้าสิบคะแนน สามเม็ดสองร้อยเจ็ดสิบคะแนน ทุกครั้งต้องใช้ยาป้องกันอวัยวะก่อน ค่อยใช้ยาเสริมสร้างร่างกาย อวัยวะภายในของเธอจะได้ไม่รับผลกระทบหนักเกินไป ความปลอดภัยจะเพิ่มสูงขึ้น ประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งหมดแปดร้อยเจ็ดสิบคะแนน ใช้ครบสามครั้งแล้ว ร่างกายเพิ่มความแข็งแกร่งสำเร็จก็จะรองรับความสามารถของขั้นสามตอนกลางได้อย่างเหลือเฟือ”
“แปดร้อยเจ็ดสิบคะแนน…”
ฟางผิงพึมพำ จะให้ใช้ชีวิตต่อไปยังไงล่ะเนี่ย
ฉันแค่อยากเตรียมพร้อมฝึกวิชาให้ถึงขั้นสามตอนกลางล่วงหน้า แพงขนาดนี้ เทียบกับการหลอมกระดูกแล้ว ยิ่งกว่าถูกปล้นไปด้วยซ้ำ!
ตาเฒ่าหลี่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ดังนั้นฉันถึงบอกเธอว่าอย่ารีบร้อน ให้ค่อยเป็นค่อยไป อันที่จริงตอนนี้เธอฝึกถึงขั้นสามได้ถือว่าไม่ง่ายแล้ว…”
“ไม่ ผมไม่สามารถช้าไปกว่านี้อีกแล้ว ได้ยินว่าฉินเฟิ่งชิงกำลังจะทะลวงขั้นสี่ เซี่ยเหล่ยใกล้จะเข้าสู่ขั้นสามสูงสุดเช่นกัน อาจารย์ ผมต้องทะลวงขั้นสามสูงสุดให้เร็วหน่อย จากนั้นถึงจะมีเวลาฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้ให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง ไม่งั้นผมคงไม่มีใจไปทำเรื่องอื่นแล้ว…แลกเปลี่ยนแล้วกัน อาจารย์ ผมไม่มีคะแนนจะใช้เงินแทน คุณคิดให้ผมถูกหน่อย ตอนนี้ผมไม่ค่อยมีเงินจริงๆ”
ตาเฒ่าหลี่แค่นเสียงหัวเราะ “ยาเสริมสร้างร่างกายไม่ใช่ยาชุบร่างกาย ยาชุบร่างกายไม่เป็นที่ต้องการเท่าไหร่ แต่ยาเสริมสร้างร่างกายสำหรับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามกลับขายดีเป็นอย่างมาก รวมกับยาป้องกันอวัยวะภายในขั้นสามสามเม็ด ให้เธอยี่สิบห้าล้าน ตาแก่อย่างฉันใช้เส้นให้เธอสุดๆ แล้ว”
“ยี่สิบห้าล้าน?” ฟางผิงขัดแย้งในใจ กำลังจะอ้าปากพูด ตาเฒ่าหลี่กลับเอ่ยอย่างง่วงหงาวหาวนอน “ไม่ต้องพูดแล้ว จะซื้อก็ซื้อ ไม่ซื้อก็ออกไป”
“ซื้อ!”
ฟางผิงกัดฟัน ซื้อแล้วกัน!
สามวันเข้าสู่ขั้นสามตอนกลาง ทั้งทันก่อนวันรับการทดสอบพอดี
ตอนนี้ในมือเขายังมีเงินสดกว่าสี่สิบห้าล้าน ยังเหลือพอให้ใช้ช่วงนี้
หลังจากเข้าสู่ขั้นสามตอนกลาง พักผ่อนสักระยะหนึ่งแล้วค่อยทะลวงขั้นสามตอนปลายต่อ
พอเข้าสู่ขั้นสามตอนปลายแล้ว ตัวเองก็จะได้พักการหลอมกระดูกไปช่วงหนึ่ง ฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้เป็นหลัก
ช่วงชิงโอกาสก่อนที่จะเข้าสู่ถ้ำใต้ดิน กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่พร้อมสู้รบอย่างแท้จริง
ตาเฒ่าหลี่ไม่มากความอีก เอายาป้องกันอวัยวะภายในขั้นสามให้ฟางผิงสามเม็ด
ส่วนยาเสริมสร้างร่างกายต้องให้คนไปเบิกที่เขตทางใต้ ที่นี่ไม่มีของ
ผ่านไปหลายนาที ฟางผิงจึงได้ยาบำรุงมาอยู่ในมือ ขณะเดียวกันเงินในบัตรก็ลดไปยี่สิบห้าล้าน ไม่รู้เหมือนกันว่าการทดลองครั้งนี้จะสามารถเอากำไรกลับมาได้หรือเปล่า
ผ่านจุดรับคะแนน ฟางผิงจึงถือโอกาสไปรับคะแนนสะสมหนึ่งร้อยยี่สิบคะแนนของเดือนนี้ด้วย
ค่าทรัพย์สินกลับเพิ่มขึ้นแค่สี่แสนเท่านั้น!
ฟางผิงตะลึงไปเล็กน้อย ผ่านไปสักพักค่อยตระหนักถึงเรื่องหนึ่งได้
เขาเคยรับปากพวกฟู่ชางติ่งว่า สามร้อยคะแนนของทุกเดือน หนึ่งร้อยคะแนนในนั้นจะเป็นของพวกเขา
“ระบบแอบฟังคำพูดของฉัน?”
เป็นครั้งแรกที่ฟางผิงเจอเรื่องแบบนี้ เมื่อก่อนเคยมีเหตุการณ์ที่ระบบไม่คำนวณค่าทรัพย์สินเหมือนกัน
แต่นี่คะแนนมาถึงมือแล้ว กลับไม่นับเป็นทรัพย์สินของตัวเอง ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เจอจริงๆ
ไม่สิ นี่ก็เหมือนกับคะแนนที่แลกเปลี่ยนบนแพลตฟอร์มของมหาวิทยาลัยพวกนั้น ไหลเวียนผ่านมือของเขา กลับไม่ถือว่าเป็นคะแนนของเขา
“หมดคำจะพูดจริงๆ!”
ฟางผิงกลัดกลุ้มอย่างถึงที่สุด พอคิดดูแล้วก็ไม่มีอะไรให้กล่าวโทษ
เหมือนที่ทำภารกิจก่อนหน้านี้ ตอนสรุปภารกิจทั้งหมดกลับไม่ได้นับเป็นคะแนนของฟางผิงแค่คนเดียว
—
กลับมาถึงหอพัก ฟางผิงก็ไปหาฟู่ชางติ่ง
ใช้คอมพิวเตอร์โอนให้อีกฝ่ายหนึ่งร้อยคะแนน ส่วนพวกเขาจะแบ่งกันยังไง ฟางผิงไม่คิดสนใจ
หลังจากนั้นฟางผิงก็แขวนป้าย ‘ห้ามรบกวน’ ที่ประตูห้องของตัวเองทันที
—
เจ็บจะตายอยู่แล้ว!
ตอนที่ใช้ยาเสริมสร้างร่างกายขั้นห้า ฟางผิงอยากด่าคนขึ้นมาทันที!
ตาเฒ่าหลี่บอกว่าใช้ครั้งแรกค่อนข้างอันตราย ใช้ยาป้องกันอวัยวะแล้ว จะลดความเสี่ยงน้อยลง ฟางผิงน่าจะรับไหว
แต่ตาเฒ่าหลี่ไม่ได้บอกเขาว่ามันจะเจ็บขนาดนี้!
กล้ามเนื้อทั่วร่างคล้ายกับถูกคนรุมทึ้ง อวัยวะภายในกระตุกอย่างไม่หยุดหย่อน
“เจ็บชะมัด!”
ฟางผิงเจ็บจนมองเห็นภาพข้างหน้าเบลอไปหมด
เหงื่อเม็ดใหญ่ผสมปนเปกับเลือดหยดอยู่บนพื้น
“ฉันอยากจะแข็งแกร่งขึ้น ตกลงเพื่ออะไรกันแน่?”
“เพื่อยอมรับความเจ็บปวด?”
“ทนทุกข์กับความทรมาน?”
“หรือเพื่อกอบกู้โลกที่น่าขำนั่นจริงๆ…”
ภายใต้ความเจ็บปวด ฟางผิงอดนึกถึงปัญหาพวกนี้ขึ้นมาไม่ได้
“ฉันยิ่งใหญ่ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ยิ่งใหญ่จนคิดจะกำราบถ้ำใต้ดิน ภัยของมนุษยชาติและสังคม…ช่างเป็นความคิดที่น่าขำ!”
“พยายามอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อเส้นทางของผู้ฝึกยุทธ์ คุ้มค่าอย่างนั้นเหรอ?”
“เป็นคนธรรมดาไม่ต้องสนใจเรื่องพวกนี้ บางทีฉันอาจจะใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขได้มากกว่า…”
ความคิดต่างๆ นานาผุดขึ้นในสมองของเขาอย่างไม่ขาดสาย
นึกมาถึงตรงนี้ จู่ๆ ในหัวก็ปรากฏภาพที่อาจารย์ของเซี่ยงไฮ้กลับมาจากสนามรบ ไป๋รั่วซีที่เผยรอยยิ้มทั้งที่สูญเสียแขน…
รวมถึงภาพในจินตนาการที่พวกถ้ำใต้ดินบุกออกมา พ่อแม่และน้องตายอยู่ตรงหน้า ขณะที่เขาเองช่วยเหลืออะไรไม่ได้
“ฉันไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ฉันทำทั้งหมดนี้เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอด เพื่อให้คนในครอบครัวปลอดภัยเท่านั้น…”
—————–
