ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 251-2 ภารกิจใหม่ (2)

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 251 ภารกิจใหม่ (2)

เป็นดังที่คาด ถังเฟิงเอ่ยต่อว่า “ความต้องการของหน่วยทหารนั้น ไม่อาจนั่งรอความตายให้ทั้งสองเมืองร่วมมือกันได้ หากถูกทหารทั้งสองเมืองโอบล้อม เมืองความหวังเล็กเกินไป พลังทำลายล้างของผู้ฝึกยุทธ์นั้นมหาศาล อาจจะถูกตีแตกได้ ดังนั้นพวกเราต้องเป็นฝ่ายออกไปจู่โจม ก่อกวนกองบัญชาการของพวกเขา กองกำลังเมืองตงขุยยังอยู่ห่างจากพวกเราหนึ่งร้อยยี่สิบลี้ ถือโอกาสนี้ลงมือก่อน โจมตีฐานทัพของเมืองเทียนเหมิน ทหารของเมืองเทียนเหมินอยู่ภายใต้อำนาจของกองทัพ แต่ผู้ฝึกยุทธ์อิสระจำนวนมากของเมืองเทียนเหมินก็มารวมตัวเช่นกัน”

“ภารกิจที่หน่วยทหารมอบให้พวกเธอคือโจมตีผู้ฝึกยุทธ์อิสระที่รวมตัวกันในค่ายชั่วคราว ทหารสอดแนมของเราก็ค้นพบแล้วเหมือนกัน อยู่ห่างจากเมืองความหวังไปทางตะวันตกเฉียงเหนือยี่สิบห้ากิโลเมตร ตอนนี้มีการก่อตั้งพื้นที่ขนาดเล็กๆ ขึ้นมา ทีมผู้ฝึกยุทธ์เกือบสามร้อยคน มีทั้งระดับล่างและระดับกลาง ภารกิจของเซี่ยงไฮ้คือทำลายค่ายชั่วคราวแห่งนี้ ตัดกำลังคนของเมืองเทียนเหมิน ตอนกลางคืนผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งขั้นสองแทบไม่อาจมองเห็นอะไร ไม่มีอะไรให้กังวล แต่ผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ขั้นสามตอนปลายขึ้นไป ยังจำเป็นต้องอาศัยฝีมือพวกเรา ครั้งนี้อาจารย์ขั้นสี่ขั้นห้าของเซี่ยงไฮ้และนักศึกษาขั้นสามตอนปลายและสูงสุดจะเคลื่อนไหวรวมกัน ทำลายค่ายชั่วคราวของอีกฝ่าย!”

เห็นได้ชัดว่าอาจารย์ขั้นหกนั้นมีภารกิจอย่างอื่น

ระหว่างที่ถังเฟิงพูดก็มองไปยังทุกคน “มีข้อสงสัยอะไรหรือเปล่า?”

ฟางผิงยังไม่ทันถาม ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยขึ้นมาก่อน “ทำลายฐานทัพของพวกพื้นเมือง จะยากสักเท่าไหร่กัน พูดตามตรงผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำ มีแต่พวกผู้ฝึกยุทธ์ทหารเท่านั้นที่แข็งแกร่งขึ้นมาหน่อย คนทั่วไปนั้นมียอดฝีมือไม่เยอะ”

ถังเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “อย่าประมาทเกินไป ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนปลายขึ้นไปของอีกฝ่ายมีไม่น้อย แต่พวกเราจะล่อผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกของพวกเขาออกมา สรุปแล้วหวังว่าทุกคนจะปลอดภัยกลับมา! ตอนนี้สถานการณ์เลวร้ายขึ้น สองเมืองร่วมมือกัน พวกยอดฝีมือต่อกรกัน พวกเรายังเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งขั้นสองโจมตีเมือง พวกเราไม่กลัว แต่หากขั้นสามตอนปลายขึ้นไปมีเยอะ เมืองความหวังคงต้านอีกฝ่ายไม่ไหว”

แม้กำแพงเมืองความหวังจะสูงใหญ่ รอบนอกสร้างด้วยเหล็กกล้า แต่สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนปลาย กระโดดข้ามกำแพงไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไร

กองกำลังของหน่วยทหารสามารถต้านทหารของอีกฝ่ายได้ แต่ทุกครั้งที่เกิดสงครามใหญ่มักต้องการยอดฝีมือออกมาสกัดกั้นกับยอดฝีมือของอีกฝ่ายเช่นกัน

รอเขาพูดจบแล้ว ฟางผิงค่อยเอ่ยว่า “งั้นถ้าอีกฝ่ายยังมีขั้นหกแฝงตัวอยู่ล่ะครับ?”

“พวกเราจะพยายามแยกออกมาให้หมด…ถ้ายังมีหลงเหลืออยู่ พวกอาจารย์ขั้นห้าจะรับมือ เรื่องนี้เธอไม่จำเป็นต้องกังวล เป้าหมายของพวกเธอคือผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสาม รวมถึงพวกที่ต่ำกว่าขั้นสามลงไป”

อันที่จริงผู้ฝึกยุทธ์มนุษย์ไม่ได้อ่อนแอ

ทั้งผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำก็ไม่ได้อ่อนด้อยกว่ามนุษย์มากมาย ประเด็นอยู่ที่ผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำ โดยเฉพาะพวกพื้นเมืองรู้เคล็ดวิชาต่อสู้แค่เล็กน้อย ใช้อาวุธสภาพทั่วไป ดูจากสินสงครามที่ฟางผิงได้มาจากผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ ส่วนมากจะใช้อาวุธระดับ D กันทั้งนั้น

แต่ผู้ฝึกยุทธ์มนุษย์พอถึงขั้นสี่ มักจะเตรียมอาวุธโลหะผสมระดับ C ไว้ให้ตัวเองเสมอ

พวกปรมาจารย์ของมนุษย์ก็ไม่ได้หวงวิชา มีเคล็ดวิชาต่อสู้ให้เรียนฟรีถมเถไป แต่ทางถ้ำใต้ดิน ลำดับขั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก พวกระดับล่างแทบไม่สามารถเรียนเคล็ดวิชาต่อสู้ได้

นี่ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์พื้นเมืองและผู้ฝึกยุทธ์ในกองทัพของถ้ำใต้ดินมีฝีมือที่ห่างชั้นกันอย่างมาก

คนอื่นๆ ไม่สงสัยอะไรอีก โดยเฉพาะคนที่เคยมีประสบการณ์มาก่อน พอถึงขั้นสามตอนปลาย ก็ทำเรื่องพวกนี้จนแทบชินแล้ว

แต่ฟางผิงถือเป็นครั้งแรกจริงๆ

รอถังเฟิงพูดจบก็กระซิบถามฉินเฟิ่งชิงว่า “ถึงเวลานั้นก็ต่อสู้ร่วมกัน?”

ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “สู้ไหวก็ฆ่า สู้ไม่ไหว ล่อไปทางพวกอาจารย์ แน่นอนว่าอย่าล่อไปมั่วซั่ว เห็นตำตาว่าอาจารย์ต้านไม่ไหวก็อย่าล่อไปทางนั้น หากอาจารย์ไม่รอด พวกเราก็ไม่รอดเหมือนกัน สรุปแล้วภารกิจที่มอบให้พวกเราไม่นับว่ายากจนเกินไป ไม่ให้พวกเราไปทำลายค่ายทหารของอีกฝ่าย…น่าจะกลัวนายถ่วงแข้งถ่วงขา ใครใช้ให้นายเป็นเด็กใหม่กัน”

ฟางผิงสีหน้าดำคล้ำ เอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “งั้นนายก็ไปโจมตีค่ายทหารสิ”

“เห็นฉันเป็นคนโง่หรือไง ไปรนหาที่ตายน่ะสิ?”

ฟางผิงไม่มีแรงจะประชดแล้ว เมื่อกี้นายยังพูดเหมือนกับไม่กลัวอะไรอยู่เลย

ครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนฟางผิงจะเอ่ยว่า “ทำไมไม่ให้ปรมาจารย์เข้าไปเลย ซัดฝ่ามือเดียวก็ตายแล้ว…”

ฉินเฟิ่งชิงกลอกตาใส่เขา เอ่ยอย่างหมดคำพูด “ไอ้เวร ปรมาจารย์มีกฎของพวกเขาเช่นกัน สงครามใหญ่จะเปิดฉาก ทหารสู้กับทหาร แม่ทัพสู้กับแม่ทัพ นอกเสียจากกำลังคนจะห่างชั้นเกินไป ไม่งั้นนายฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ระดับล่างของอีกฝ่าย ระดับสูงของอีกฝ่ายจะไม่มาฆ่าคนของพวกเราหรือไง? เมื่อก่อน…อันที่จริงปรมาจารย์ของพวกเราเคยทำเรื่องแบบนี้เหมือนกัน…”

ฉินเฟิ่งชิงพูดเสียงเบา “สังหารกองกำลังอีกฝ่ายตายเป็นเบือ เวลานั้นสิ่งที่ปรมาจารย์คนนั้นคิดคือยังไงก็ไม่ได้อยู่บนโลก ฆ่าจะไปไรไป ตอนนั้นมนุษย์ยังไม่ได้สร้างเมืองในทางเข้าถ้ำใต้ดินแห่งนั้นเหมือนกัน…ให้ปรมาจารย์บุกเข้าไปฆ่าแล้วก็ค่อยหนีออกมา ผลปรากฏว่า…ถ้ำใต้ดินกลับปั่นป่วนขึ้นมา ยอดฝีมีมือขั้นเก้านับสิบคนเกือบจะทะลวงอุโมงค์ทางเดินเข้ามาได้แล้ว หลังจากนั้นปรมาจารย์หลายสิบคนต้องลงมือทำสงครามกับอีกฝ่ายภายในทางเดิน เกือบจะทำให้ทางเดินระเบิดพังพินาศไปด้วยกันแล้ว เรื่องราวเป็นมาประมาณนี้แหละ ทั้งสองฝ่ายจะทำอะไรก็กลัวกระทบกัน พวกเรากลัวพวกเขาจะบุกออกมา พวกเขาก็กังวลว่าปรมาจารย์ของพวกเราจะสังหารคนไปทั่วอย่างไม่สนใจอะไรเช่นกัน เว้นเสียจากอีกฝ่ายจะครองความได้เปรียบจริงๆ ไม่งั้นยอดฝีมือที่ฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ระดับต่ำเป็นวงกว้างต้องถูกล้างแค้นอย่างแน่นอน”

ฟางผิงเอ่ยอย่างแปลกใจว่า “ยอดฝีมือในถ้ำเยอะขนาดนี้ ทำไมเวลาปกติถึงไม่ออกมา?”

ฉิงเฟิ่งชิงยักไหล่ “อย่าถามฉัน ไม่รู้เหมือนกัน แต่มีคนคาดการณ์ว่าบางทีแต่ละประตูถ้ำอาจจะไม่เชื่อมต่อกัน ยอดฝีมือจะทะลวงผ่านเป็นเรื่องยาก มีข้อจำกัดอยู่ ดังนั้นพวกเขาทำได้แค่รอคอย รอให้ประตูถ้ำแต่ละแห่งเชื่อมต่อกัน รวบรวมกำลังคนแล้วทำลายโลกของมวลมนุษยชาติทีเดียว แต่ใช่หรือไม่ ไม่รู้เหมือนกัน แม้ว่าพวกเราจะคาดเดาแบบนี้ แต่ก็ทำได้แค่รอถูกกระทำเท่านั้น ไม่มีทางเลือก ประตูถ้ำแต่ละแห่งอาจจะไม่สามารถผ่านได้ทีละมากๆ แต่ยอดฝีมือระดับสูงบางส่วนอาจแลกเปลี่ยนบางสิ่งเพื่อให้สามารถทะลวงผ่านไปได้ นายกวาดล้างคนที่นี่ ทางนั้นก็จะได้รับข่าว ทะลวงประตูถ้ำ สร้างแรงกดดันให้พวกเรา…ยังไงตอนนี้ก็ทำได้แค่รอ พวกเรารอปรมาจารย์มีเยอะกว่านี้ รอสำรวจข้อมูลได้มากกว่าเดิม อีกฝ่ายก็รอเหมือนกัน รอให้ประตูถ้ำแต่ละแห่งเชื่อมต่อกัน ตอนนี้เป็นการทำสงครามบางส่วนเท่านั้น สงครามใหญ่ทั้งหมดยังไม่เกิดขึ้น”

ฟางผิงถอนหายใจ ไม่ถามอะไรอีก

ฉินเฟิ่งชิงเห็นแบบนั้นจึงเอ่ยเสียงเบา “คืนนี้นายติดตามฉันสิ พวกเราไปทำการใหญ่กัน สู้กับขั้นสามไม่น่าสนใจ สินสงครามมีน้อย จะสู้ทั้งทีก็เอาขั้นสี่ขั้นห้าไปเลย ฆ่าตายหนึ่งคนเท่ากับฆ่าขั้นสามได้หลายคนแล้ว นายออกกระบวนท่าใหญ่สักยี่สิบสามสิบครั้ง ถึงเป็นขั้นสี่ก็ต้องหาทางรับมือเหมือนกัน ฉันจะรวบรวมพลัง ฆ่าเขาให้ตายในดาบเดียวเอง!”

ฟางผิงเหน็บแนมออกมา “นายคิดว่าปราณฉันโผล่ขึ้นมาฟรีๆ หรือไง? ฉันต้องใช้ทรัพยากรยาเหมือนกัน”

“ห้าสิบห้าสิบเป็นไง?”

“ไสหัวไปเลย!”

“สี่สิบหกสิบ น้อยกว่านี้ไม่ได้แล้ว ฉันก็ลงมือเหมือนกัน…”

ฟางผิงครุ่นคิดเล็กน้อย “ผมคิดว่าฆ่าขั้นสามดีกว่าฆ่าขั้นสี่ ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางฆ่ายาก แม้ผมจะระเบิดปราณได้ แต่นายล่ะ? นายฟันดาบเดียวปราณเกลี้ยงแล้วจะทำยังไงต่อ?”

“ปัญญาอ่อน!” ฉินเฟิ่งชิงด่าออกมา “ฆ่าขั้นสี่หนึ่งคน เท่ากับขั้นสามถึงสิบคน นายคิดว่าไงล่ะ?”

“เยอะขนาดนี้เลย?”

“เหลวไหล พลังงานหัวใจของพวกเขามีมูลค่าไม่น้อย หัวใจหนึ่งดวงของขั้นสี่แลกได้สามร้อยคะแนน!”

“สูงชะมัด?”

ฟางผิงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน จู่ๆ ก็ปวดใจขึ้นมาทันที “ขั้นห้าล่ะ?”

“ดูจากระดับ ขั้นห้าสูงสุดมูลค่าหนึ่งพันคะแนน”

ฟางผิงสบถออกมาทันที สิงโตทองในป่าราชันเจี่ยวตัวนั้นกินของดีของเขาไปตั้งมากมาย!

แต่ไม่นาน ฟางผิงก็นึกอะไรได้ ก่อนหน้านี้เขาเอาหัวใจของขั้นสี่มาหนึ่งดวง ไม่เห็นจะเพิ่มค่าทรัพย์สินให้เขาเลย?

“เพราะของชิ้นนี้ไม่มีมูลค่า หรือว่า…ดึงออกมาจากตัวคน ระบบถึงไม่คำนวณให้?”

ฟางผิงไม่แน่ใจอยู่บ้าง ทำได้เพียงกลับไปลองอีกครั้ง

บางทีหัวใจอาจจะไม่สามารถประเมินค่าออกมาได้?

“เปลี่ยนเป็นคะแนนแล้ว น่าจะเพิ่มค่าทรัพย์สินได้”

ตอนนี้ฟางผิงไม่เข้าใจเหมือนกันว่าระบบคำนวณยังไง ทำได้เพียงปล่อยไปก่อน

ส่วนข้อเสนอของฉินเฟิ่งชิง ถึงเวลานั้นค่อยว่ากัน อีกอย่างตอนนี้หมอนี้ยังอยู่ในขั้นสามสูงสุด ช้าไปอยู่บ้างจริงๆ

———————

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดาราฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปีผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง!หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้นด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นแม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตามเรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนานผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท