ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 255-2 ฟุ่มเฟือยสักครั้ง (2)

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 255 ฟุ่มเฟือยสักครั้ง (2)

ในเวลาเดียวกัน

ห้องปฏิบัติการของหน่วยทหาร

พวกผู้อาวุโสหลายคน บ้างก็ยืนบ้างก็นั่งอยู่ที่นี่ อธิการบดีเฒ่าของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เช่นกัน

กลางฝูงชน ชายวัยกลางคนสวมสุดทหารเงียบไปนาน ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ผู้อาวุโสทุกคน สถานการณ์ยังไม่เลวร้ายจนถึงขั้นนั้น…” สิ้นเสียงของเขา ชายชราผมขาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ก็ขมวดคิ้วว่า “พูดพล่ามอะไรนักหนา จำเป็นต้องให้นายเตือนพวกเราหรือไง? ความต้องการของรัฐบาล ตกลงให้สังหารหนึ่งเมืองก่อน หรือว่าทำลายทิ้งทั้งสองเมือง? หากถามฉัน ควรจะทำลายเมืองๆ หนึ่งอย่างสุดกำลัง เมืองเทียนเหมินมีบัญชีแค้นกับพวกเราอย่างลึกล้ำ ครั้งนี้พวกนายควรจู่โจมเมืองเทียนเหมิน เหล่าไป๋และเหล่าจางอยู่ขั้นแปด พวกนายสองคนรับหน้าที่ฆ่าแม่ทัพใหญ่สองคน ส่วนพวกฉันจะฆ่าขั้นเจ็ดที่เหลือ ฆ่าได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ทำลายเมืองเทียนเหมินให้ราบคาบ”

ชายชราที่ร่างผอมกะหร่องนั่งด้านข้างเขาส่ายหัวว่า “ฉันคิดว่าควรจะโจมตีพวกตงขุย เทียนเหมินรบกับพวกเรามาหลายปี พวกเรารู้ไส้รู้พุงพวกเขาแล้ว เหลือเทียนเหมินไว้จะเป็นประโยชน์ต่อเรา กลับกันหากทำลายเมืองเทียนเหมินจริงๆ งั้นเกรงว่าต่อไปพวกเราต้องเผชิญหน้ากับเมืองตงขุยที่เราไม่คุ้นเคยแล้ว”

“หรือความแค้นหลายปีที่ผ่านมาจะปล่อยทิ้งไปแบบนี้? ช่วงเวลาที่ตาแก่อย่างฉันใกล้ตาย ก็อยากฆ่าเดรัจฉานอย่างพวกเทียนเหมินให้ตายไปบ้างเท่านั้น!”

“ใครเป็นตาแก่กับนายกัน? นายอายุน้อยกว่าฉันด้วยซ้ำ ตอนนี้ยังเป็นหนุ่มเถอะ…”

ชายชราที่ร่างกายแข็งแรงคนหนึ่งเผยรอยยิ้มแห้งๆ ตาแก่อายุเกือบร้อยแล้ว นายยังเรียกฉันว่าเป็นคนหนุ่มสาว เหมาะสมหรือไง?

ชายชราคนอื่นพูดคุยอยู่พักหนึ่ง อธิการเฒ่าที่เงียบมาโดยตลอดส่งเสียงว่า “ฆ่าระดับสูงของเมืองเทียนเหมินดีกว่า พวกเราไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับเมืองตงขุยเท่าไหร่ โอกาสเป็นไปได้น้อย ต่อสู้กันครั้งแรกจะฆ่าพวกเขาได้หรือไง? แต่ทางเทียนเหมิน พวกเรารู้ไส้รู้พุงกันแล้ว มีโอกาสสูงที่จะเอาชนะได้”

ชายชราที่ผอมกะหร่องส่ายหัวว่า “ไม่รู้ไส้รู้พุงพวกเราถึงจะมีหวังกว่า เมืองเทียนเหมินต่อสู้กับพวกเรามาหลายปี มีการเตรียมพร้อมมานานแล้ว”

สรุปแล้วพวกเขาไม่อาจลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ได้

ในเวลานี้มีชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่เดินเข้ามา ใบหน้าเหลี่ยม คิ้วดกหนา ชายที่สวมชุดทหารก่อนหน้านี้รีบเอ่ยว่า “ผู้บัญชาการอู๋!”

ชายหน้าเหลี่ยมพยักหน้าเล็กน้อย มองไปยังพวกอาวุโส ไม่พูดอะไรเช่นกัน ค้อมกายอย่างนอบน้อม พวกชายชราก็คารวะกลับด้วยรอยยิ้ม

“ผู้เฒ่าไป๋ ผู้เฒ่าหวัง…”

ชายหน้าเหลี่ยมยืดตัวขึ้น ไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบทุกคน ก่อนสุดท้ายจะมองไปทางอธิการของเซี่ยงไฮ้ เอ่ยด้วยแววตาแดงก่ำเล็กน้อย “อาจารย์”

อธิการเฒ่าคลี่ยิ้ม “เป็นปรมาจารย์ขั้นเก้าแล้ว อะไรกัน ยังอยากจะร้องไห้ขี้มูกโป่ง?”

“ไม่อยู่แล้ว สามสิบปีก่อน ผมก็บอกกับตัวเองว่าชั่วชีวิตนี้จะหลั่งแค่เลือดไม่หลั่งน้ำตา”

แม้ชายหน้าเหลี่ยมจะพูดอย่างนั้น แววตากลับเคลือบไปด้วยน้ำตา

“ความต้องการของรัฐบาลและหน่วยทหารคือโจมตียอดฝีมือของเมืองเทียนเหมิน แม้ว่าต่อไปต้องเผชิญหน้ากับเมืองตงขุย ก็ต้องลากสงครามให้ยาวออกไป ตอนนี้ระยะห่างของทั้งสองเมืองใกล้เกินไป! ผู้อาวุโสทั้งหลาย เป็นพวกเราเองที่ไร้ความสามารถ…”

ชายหน้าเหลี่ยมค้อมกายอีกครั้ง เอ่ยด้วยน้ำตาคลอ “ขอให้ทุกอย่างราบรื่น กำราบถ้ำใต้ดินได้สำเร็จ!”

อธิการเฒ่าหัวเราะเบาๆ หยัดกายขึ้น “เอาล่ะ ทำซะรู้สึกอึดอัดแปลกๆ แค่กลุ่มคนหัวขาว มีชีวิตไม่ยืนยาวกว่านี้หรอก ตายเร็วหรือช้าก็ตายเหมือนกัน หากยังไม่ลงมืออีก ผ่านไปสองปี เกรงว่าคงจะลงมือไม่ไหวแล้ว”

“อาจารย์…”

“เอาเถอะ นายไปยุ่งธุระของนายได้แล้ว ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าเป็นเมืองเทียนเหมิน พวกเราจะปรึกษากันสักหน่อย อย่าลืมว่าต้องสกัดเจ้าหมอนั่นไว้ ขั้นเก้าเข้ามา ตาแก่อย่างพวกเราต้านไม่ไหวหรอก”

“แน่นอน!”

“ไปเถอะ…”

ไม่นานเวลาก็ล่วงเลยมาถึงช่วงบ่าย

พลังงานดวงอาทิตย์ไม่คล้อยหายไป ในครรลองสายตาของพวกฟางผิงมีกองทัพทหารอันเกรียงไกรปรากฏขึ้น

ในเวลาเดียวกัน ทัพของเทียนเหมินก็เริ่มเข้าใกล้ประตูเหนือเช่นกัน

เสียงสัญญาณของทหารดังขึ้นทันที!

พวกฟางผิงดึงสติกลับมาในชั่วพริบตา มองไปทางหน่วยทหารที่อยู่ไกลๆ ห่างจากเมืองความหวังไม่ถึงห้าลี้

ผู้บัญชาการกองสูดลมหายใจ เอ่ยว่า “เตรียมพร้อม!”

พวกฟางผิงห้าคนเตรียมแนบปราณไว้กับลูกธนูที่สร้างด้วยโลหะผสมทันที

แต่กองทัพใหญ่ที่อยู่ตรงข้ามกลับหยุดลง ไม่ได้เดินมาข้างหน้าต่อ

ในเวลานี้ฝั่งตรงข้ามมีผู้ฝึกยุทธ์ลอยตัวในอากาศ ปรากฏคลื่นพลังงานอย่างเข้มข้น

“ยอดฝีมือระดับสูง!”

ทางเมืองความหวัง ชั่วพริบตานั้นก็มีกลุ่มอนุภาคพลังงานอันแข็งแกร่งปรากฏขึ้นมากว่าสิบสาย ก่อนฟางผิงจะเห็นกลางอากาศมียอดฝีมือลอยอยู่บนนั้น

กลางอากาศ

พวกชายชราไม่มีอาการหลังงองุ้มอีกแล้ว หยัดกายขึ้นตรงดิ่ง ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า

อธิการเฒ่าเผยใบหน้าเปื้อนยิ้ม มองไปทางผู้อาวุโสคนอื่นๆ “สหายทั้งหลาย อย่ามาตกม้าตายเอาตอนสุดท้ายล่ะ!”

“นายสนใจเรื่องตัวเองดีกว่า!”

มีคนแค่นเสียงขึ้น อธิการเฒ่าไม่คิดต่อปากต่อคำ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “งั้นไปกันเลย?”

“พูดพล่ามอะไรเยอะแยะ!”

ครู่ต่อมาพวกชายชราก็ลอยตัวไปทางเหนือ

เมืองเทียนเหมินที่อยู่ทางเหนือมีเงาปรากฏกายขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทั้งสองฝ่ายต่างแยกตัวจากทัพทหาร ลอยออกไปไกล

กองทัพทั้งสองฝ่ายยังไม่ทันได้ต่อสู้ก็ได้ยินเสียงสนั่นหวั่นไหวดังสะท้อนไปทั่วแล้ว!

ความผันผวนของพลังงานอันแข็งแกร่ง แผ่กระจายออกมาจากที่ไกลๆ

การทำสงครามของถ้ำใต้ดินรวดเร็วกว่าที่ฟางผิงจินตนาการไว้ซะอีก

ครู่ต่อมา ฟางผิงก็เห็นเงาคนนับพันกระโดดลงจากกำแพง เขาเห็นถังเฟิง หลู่เฟิ่งโหรว และอาจารย์คุ้นหน้าหลายคน…

“บุก!”

เสียงคำรามดังขึ้น ฟางผิงเห็นยอดฝีมือระดับกลางพวกนี้เข้าไปเผชิญหน้ากับพวกถ้ำระดับกลางอย่างรวดเร็ว

ทั้งสองฝ่ายต่างตั้งใจเบี่ยงไปทำสงครามทางด้านหนึ่ง

เห็นฟางผิงจ้องอยู่ข้างหน้า ผู้บัญชาการกองก็เอ่ยว่า “ยอดฝีมือระดับกลางและระดับสูง พวกเขามีสงครามของตัวเอง สิ่งที่พวกเราต้องเผชิญหน้าคือทหารทั่วไปและผู้ฝึกยุทธ์ต่ำกว่าขั้นสาม รวมถึงผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางส่วนหนึ่งด้วย แน่นอนว่าทางพวกเรานี้มีผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางอยู่ด้วยเช่นกัน”

ทางนี้เพิ่งจะพูดจบ ด้านนอกเมืองก็มีผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏตัวขึ้น เข็นรถศึกโล่ที่ส่องแสงวับวาวมาทางกำแพงเมืองอย่างรวดเร็ว

ฟางผิงเพิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายมีรถศึกโล่เป็นครั้งแรก

นอกจากรถศึกโล่โลหะผสม ฟางผิงยังเห็นรถศึกสำหรับบุก และบันไดปีนค่าย

ผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำนั้นผลักดันรถพวกนั้นเคลื่อนไหวเข้ามาอย่างรวดเร็ว

ฟางผิงทำอะไรไม่ถูกอยู่บ้าง ผู้บัญชาการกองเอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “เป้าหมายของพวกเราไม่ใช่พวกเขา ไม่นานจะมีผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางปรากฏตัว เป้าหมายของพวกเราคือคนพวกนั้น จำไว้ให้ดี เดี๋ยวจะมีผู้ฝึกยุท์ระดับกลางบางส่วนปะปนมากับทัพทหาร ปีนกำแพงขึ้นมาจู่โจม ไม่ต้องสนใจ จะมีคนต้านกับศัตรูเอง!”

ฟางผิงพยักหน้าระรัว คนอื่นๆ กลับไม่มีท่าทีลนลาน หนึ่งในนั้นถึงกระทั่งควักบุหรี่ออกมาสูบ ในมือถือหินพลังงานก้อนหนึ่งไว้ ปล่อยแสงสว่างราวกับไฟออกมาจุดบุหรี่…ฟางผิงเห็นแค่ควัน ไม่ได้เห็นไฟ ใบหน้าจึงตกตะลึงไปอยู่บ้าง

“ฟุ่มเฟือยสักครั้ง สูบสักมวนถึงจะมีพลัง ปราณเข้มข้นขึ้นมาหน่อย”

ผู้ฝึกยุทธ์วัยกลางคนหัวเราะขึ้นมา นับว่าอธิบายให้เขาฟัง

———————

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดาราฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปีผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง!หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้นด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นแม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตามเรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนานผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท