ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 262-2 ดีแต่เปลือก (2)

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 262 ดีแต่เปลือก (2)

“ปราณของเหวินหลงไม่ได้แข็งแกร่งเท่าเขา พื้นฐานร่างกายก็เป็นรอง ปะทะซึ่งๆ หน้ายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”

ชายวัยกลางคนที่ไม่ได้พูดก่อนหน้านี้ส่ายหัวเบาๆ เอ่ยว่า “เด็กจากเซี่ยงไฮ้คนนี้ ปราณเกินกว่าหนึ่งพันแคลไปแล้ว!”

พวกคนที่อยู่ด้านหลังหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย

ทหารวัยกลางคนเอ่ยต่อว่า “กระดูกและพื้นฐานร่างกายแข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุดทั่วไป ดูจากพลังหมัดรวมกับการปะทุปราณแล้ว หมัดที่เขาโจมตีออกมาทำให้อาวุธโลหะผสมระดับ D เปลี่ยนรูปได้ด้วยซ้ำ”

ชายคนนั้นเอ่ยต่อ “แต่วิชาหมัดจินกังของเขายังฝึกฝนไม่ถึงขั้นเชี่ยวชาญ ไม่งั้นชกไปหนึ่งหมัด เหวินหลงคงไม่อาจถอยหลบได้ง่ายๆ หรอก เกรงว่าคงจะกระทบกระเทือนถึงอวัยวะภายใน แม้ว่าตอนนี้จะแสดงฝีมือในขั้นสามได้ดี แต่ยังเทียบกับเฉินเจียวั่งไม่ได้”

ระหว่างที่เขาพูด เด็กหนุ่มตัวสูงที่อยู่ด้านหลังคนหนึ่งกลับดูการต่อสู้ของพวกฟางผิงอยู่ตลอด ฟังจบก็เอ่ยว่า

“ได้ยินว่าฟางผิงชำนาญวิชาดาบคลั่งโลหิต ตอนนี้ทิ้งดาบมาใช้หมัด เกรงว่าคงจะฝึกวิชาหมัด ประสานพลังเป็นหนึ่งเพื่อเข้าสู่ขั้นสามสูงสุด”

คนที่อยู่ข้างๆ ต่างพยักหน้า ทหารวัยกลางคนส่ายหัวว่า “ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น จากที่ฉันดูพลังหมัดจินกังของเขาค่อนข้างกระจัดกระจาย น่าจะเพิ่งเรียนไม่นาน เขาไม่ใช้ดาบ เหวินหลงอาจจะสู้ไหวก็ได้”

ทุกคนไม่พูดอะไรอีก เพราะตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว

“นายคิดจะใช้วิชาหมัดเอาชนะฉัน คิดว่าตัวเองไร้คู่ต่อสู้จริงๆ หรือไง?”

จูเหวินหลงถูกฟางผิงชกจนถอยหลัง กลับไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย หอกยาวเลื้อยราวกับมังกร แทงออกมาคล้ายกับมีชีวิต วนเวียนอยู่รอบคอฟางผิงอย่างไม่หยุดหย่อน

ฟางผิงแกว่งหมัดอย่างว่องไว โจมตีหอกยาวไม่ขาดสาย กลับไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบมากนัก

“ปราณของฉันเกาะตัวไม่พอ!”

“พลังหมัดของฉันก็ไม่ลึกล้ำพอเหมือนกัน”

“ไม่งั้นชกหมัดจินกังออกไปคงสั่นสะเทือนอวัยวะภายในของเขา ทำให้บาดเจ็บหนักได้แล้ว!”

“ประสานพลังเป็นหนึ่ง…”

ฟางผิงแนบพลังจิตใจติดไปกับหมัด จับการเปลี่ยนแปลงไหลเวียนของปราณอย่างไม่หยุดหย่อน

ผ่านไปสักพัก จู่ๆ ฟางผิงก็สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย พลังจิตใจแนบติดไปกับปราณของจูเหวินหลงแล้ว ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุดคนนี้ ทำถึงขั้นประสานหมัดเป็นหนึ่ง หรือพูดอีกอย่างว่าพลังรวมเป็นหนึ่งแล้ว แทงหอกยาวออกไปพร้อมกับพลังที่เต็มเปี่ยม

ฟางผิงสำรวจการไหลเวียนปราณของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ปกติการกระจัดกระจายของอนุภาคพลังงาน ตอนที่ยังไม่ต่อสู้นั้นเป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบ หากอีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินไป ย่อมไม่ปล่อยโอกาสให้ฟางผิงสำรวจ แต่ตอนนี้ฝีมือของจูเหวินหลงพอๆ กับเขา ฟางผิงจึงสำรวจได้อย่างชัดเจน

ทั้งสองหมัดยังโจมตีไม่หยุด ตอนแรกจูเหวินหลงยังป้องกันได้อย่างสบายๆ แต่ไม่นานจูเหวินหลงก็หน้าเปลี่ยนสี

วิชาหมัดของฟางผิงระเบิดปราณรุนแรงต่างจากก่อนหน้านี้อย่างมาก พลังที่กระจัดกระจายในตอนแรกกลับค่อยๆ รวมตัวกัน ทุกหมัดที่พุ่งออกมาระเบิดอานุภาพมากยิ่งขึ้น

จูเหวินหลงคำรามอีกครั้ง ถือหอกร่ายระบำจนทำให้คนตาลายอยู่บ้าง ผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ต่ำกว่าขั้นสามตอนปลายแทบมองการเคลื่อนไหวของเขาไม่ออก

ส่วนฟางผิง ตอนนี้เริ่มปัดป้องยากขึ้นเรื่อยๆ บนหน้าผากมีหยาดเหงื่อชุ่มเต็มไปหมด

ด้านนอก

มีนักเรียนขมวดคิ้วว่า “นี่น่ะเหรอฟางผิง อันดับสามของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้?”

ฟางผิงถูกจัดในอันดับสามของขั้นสามในมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ อยู่อันดับเก้าในการจัดอันดับรวม

จูเหวินหลงไม่ได้เข้าสู่การจัดอันดับของมหาวิทยาลัย แต่อยู่ในอันดับที่สี่สิบหกของการจัดอันดับรวม ตามหลักแล้วยังห่างจากสิบอันดับแรกอยู่มาก แต่ตอนนี้กลับดูเหมือนว่าจูเหวินหลงเป็นฝ่ายได้เปรียบ ฟางผิงอาศัยแค่พื้นฐานร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าฝืนต้านไว้ เคล็ดวิชาต่อสู้ไม่ได้มีอานุภาพมากมาย

“อยู่แค่ระดับนี้ยังกล้าเรียกตัวเองว่าไร้คู่ต่อสู้ มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ไร้คนมีฝีมือแล้วจริงๆ!”

“พูดแบบนี้ไม่ได้ ทำได้แค่พูดว่าฟางผิงไร้ความสามารถ อย่าลืมว่าที่ผ่านมาผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งทั้งนั้น”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทุกคนต่างพยักหน้า

โรงเรียมเตรียมทหารอวิ๋นเมิ่งไม่ได้ถูกท้าประลองแค่ครั้งสองครั้งแล้ว

ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสามโรงเรียนเตรียมทหารหลักย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีในการขัดเกลาวิชา หลายปีมานี้นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ก็เคยเข้ามา นักเรียนจากโรงเรียมเตรียมทหารแห่งอื่นและลูกศิษย์จากสำนักอื่นๆ ด้วยเช่นกัน…คนที่ดีแต่เปลือกนอกนั้นมีน้อย

ฟางผิง…ดูแล้วตอนนี้ถูกจัดอยู่ในห้าสิบอันดับแรกได้ก็บุญหัวแล้ว อยู่ในสิบอันดับแรกนับว่าไกลเกินความสามารถอยู่บ้าง

แต่เวลานี้หลังจากทั้งสองคนประมือ ปราณต่างลดหลั่นอย่างมาก ปราณของฟางผิงค่อนข้างกระจัดกระจาย สิ้นเปลืองเยอะกว่าจูเหวินหลง ความได้เปรียบเรื่องปราณจึงค่อยๆ ลดน้อยลง

ฟางผิงแทนที่จะตกใจกลับดีใจ ตอนนี้เขากำลังใช้พลังจิตใจสำรวจวิธีปล่อยพลังของจูเหวินหลง แจกจ่ายพลังงานอย่างช้าๆ ให้ผลดีมากกว่า

“อย่างนี้นี่เอง…นี่ก็คือการควบคุมพลัง?”

ฟางผิงพึมพำ ประกายแสงบนหมัดนั้นอ่อนลงเรื่อยๆ คนภายนอกคิดแค่ว่าปราณเขาสิ้นเปลืองอย่างมาก กระทั่งพลังปราณยังใกล้จะประคองไว้ไม่ไหวแล้ว

แต่ผู้ฝึกยุทธ์ทหารวัยกลางคนพวกนั้นกลับมีแววตาต่างออกไป

ฟางผิงจากเซี่ยงไฮ้เป็นอัจฉริยะจริงๆ ระหว่างการต่อสู้เขาก็เริ่มควบคุมพลังงาน ไม่ได้สิ้นเปลืองปราณอย่างส่งเดชเหมือนก่อนหน้านี้

“ผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะ!”

ทหารวัยกลางคนถอนหายใจ อัจฉริยะในมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้มีเยอะจริงๆ

แม้ในโรงเรียนเตรียมทหารจะมีไม่น้อย แต่คนส่วนใหญ่ต่างต้องอาศัยการต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า สังหารซ้ำไปซ้ำมาถึงจะเรียนรู้เรื่องพวกนี้ได้

ทว่าฟางผิงกลับพึ่งพาแค่การประลองแลกเปลี่ยนความรู้ ก็สามารถก้าวเข้าสู่เส้นทางของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุดได้แล้ว

“เหวินหลงกำลังจะแพ้แล้ว!”

ผู้ฝึกยุทธ์ทหารวัยกลางคนเอ่ยขึ้น

ครู่ต่อมาด้านหน้านั้นหมัดของฟางผิงก็ฟื้นฟูแสงขึ้นมาเป็นปกติ แต่ชั่วพริบตาที่โจมตีถูกหอกของจูเหวินหลงกลับระเบิดแสงสว่างจ้าออกมา

หมัดนี้พุ่งโจมตีออกไป หอกยาวของจูเหวินหลงก็สั่นสะเทือนอย่างแรง อุ้งมือที่จับหอกปริแตกทันที เลือดสดนั้นย้อมไปทั่วหอก

ฟางผิงไม่คิดทำร้ายพวกเดียวกันอยู่แล้ว สบโอกาสก็พุ่งสลับหมัดสองข้างโจมตีหอกยาวอย่างรวดเร็ว

จูเหวินหลงถอยหลังติดต่อกัน กลับหลบจากฟางผิงไม่ได้โดยสิ้นเชิง

ชั่วพริบตาหมัดโจมตีออกไปกว่าสิบครั้ง หอกยาวหลุดจากมือจูเหวินหลงร่วงสู่พื้น

ตอนนี้แขนสองข้างของเขายังคงสั่นไม่หยุด บาดแผลที่อุ้งมือมีเลือดไหลเต็มไปหมด

ฟางผิงหน้าซีดเช่นกัน กลับไม่คิดจะไล่โจมตีต่อ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “นายแพ้แล้ว!”

ใบหน้าจูเหวินหลงที่ดำคล้ำนั้นขึ้นสีเล็กน้อย ผ่านไปสักพักจึงก้มเก็บหอก เอ่ยว่า “วันหน้าสังหารศัตรูในถ้ำแล้ว จะทำให้นายได้เปิดหูเปิดตากับพลังของฉันอีกที!”

“ไม่ทำให้นายผิดหวังอยู่แล้ว!”

ฟางผิงยิ้มอย่างยินดี เขาไม่ได้ใช้ความได้เปรียบเรื่องปราณ…ปราณหนึ่งพันสองร้อยแคลเดิมก็เป็นความได้เปรียบอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกัน

อาศัยหมัดจินกัง รวมถึงวิเคราะห์วิธีรวมพลังเป็นหนึ่งของจูเหวินหลงและความได้เปรียบจากการหลอมไขกระดูก เขาก็สามารถทำให้จูเหวินหลงที่อยู่ในขั้นสามสูงสุดเสียอาวุธไปได้แล้ว นี่พิสูจน์ได้ว่าจูเหวินหลงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

แต่วิธีรวมพลังเป็นหนึ่ง ฟางผิงเข้าใจคร่าวๆ แล้ว ทั้งยังคงศึกษาอยู่ แต่ยังไม่อาจใช้ถึงขั้นคล่องแคล่ว นี่หมายความว่าเขายังไม่เข้าสู่ขั้นสามสูงสุดเช่นกัน

จูเหวินหลงไม่ได้ผิดหวังมากมาย เก็บหอกแล้วก็หมุนตัวเดินออกไป

ตอนนี้มีอีกคนเดินเข้ามาแล้ว

“โรงเรียนเตรียมทหารอวิ๋นเมิ่ง เฉินเจียวั่ง”

ฟางผิงถอนหายใจเบาๆ อันดับที่สิบสี่ของขั้นสาม ทั้งเป็นคนที่ถูกจัดอยู่ในอันดับสูงที่สุดในโรงเรียนเตรียมทหารอวิ๋นเมิ่ง นี่ถึงจะเป็นเป้าหมายที่เขามาอวิ๋นเมิ่งในครั้งนี้

—————–

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดาราฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปีผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง!หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้นด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นแม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตามเรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนานผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน