ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 275 เวลาไม่เคยรอใคร (1)

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 275 เวลาไม่เคยรอใคร (1)

ฟางผิงพักอยู่ในเจียงเฉิงสองวัน

หยวนฟางได้ขยับขยายเข้ามาในเจียงเฉิงแล้ว แพลตฟอร์มอาหารออนไลน์ บริการขนส่งหน้าร้านถูกวางระบบเรียบร้อยแล้ว

ฟางผิงได้เกริ่นเรื่องเปิดบริษัทไว้กับหวังจินหยางเล็กน้อย หวังจินหยางไม่แปลกใจเช่นกัน ก่อนหน้านี้ในอินเทอร์เน็ตเผยแพร่ข่าวอย่างดุเดือด หวังจินหยางก็รู้เรื่องนี้แล้ว

ไม่ได้พูดอะไรมากมาย ในสายตาของผู้ฝึกยุทธ์หลายคน การเปิดบริษัทไม่ใช่อาชีพหลัก

แม้หวังจินหยางจะไม่ได้เห็นด้วยเท่าไหร่ แต่บริษัทเล็กๆ ของฟางผิง หวังจินหยางไม่ได้ใส่ใจจริงๆ

สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลาง ฝึกวิชาแค่ครู่เดียวก็ปาไปหลายสิบล้านแล้ว หลายครั้งที่จำเป็นต้องอาศัยทรัพยากรจากถ้ำใต้ดิน ฟางผิงเปิดบริษัทเล็กๆ ต้องรอนานเท่าไหร่กันถึงจะได้เงินเพียงพอต่อการฝึกวิชาของเขา?

เรื่องบริษัทที่ฟางผิงคุยกับหวังจินหยางไม่ใช่ธุระสำคัญ

จากความสามารถและชื่อเสียงในปัจจุบันของฟางผิง ไม่จำเป็นต้องให้เหล่าหวังดูแล ในหนานเจียงก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สร้างปัญหาให้เขาได้

คุยเรื่องบริษัทแล้ว ฟางผิงก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พี่หวัง รู้เรื่องแพลตฟอร์มซื้อของออนไลน์ของเซี่ยงไฮ้หรือเปล่า?”

หวังจินหยางพยักหน้าเล็กน้อย

“แพลตฟอร์มที่ให้นักศึกษาซื้อยาบำรุงอาวุธพร้อมจัดส่งให้ แถมยืมคะแนนได้ล่วงหน้าอันนั้น?”

“ใช่”

ฟางผิงขานรับ เอ่ยต่อว่า “พี่หวัง หนานเจียงมีความคิดแบบนี้บ้างหรือเปล่า? ประโยชน์ยังคงมีไม่น้อยจริงๆ ประหยัดเวลาของพวกนักศึกษา ลดกำลังคนของมหาวิทยาลัย ระบบกู้ยืมนั้นไม่ใช่นั่งกินนอนกินอย่างสบายๆ แต่เป็นการจ่ายออกไปถึงจะมีสิ่งตอบแทนให้ นี่ก็สอดคล้องกับความหมายของผู้ฝึกยุทธ์ แข่งขันแย่งชิง! กล้าลงทุนถึงจะมีสิ่งตอบแทน เอาแต่รอการจัดสรรทรัพยากร การจัดสรรภารกิจของมหาวิทยาลัย จะทำให้นักศึกษาขาดความกระตือรือร้น”

หวังจินหยางขมวดคิ้วเล็กน้อย เงียบไปพักหนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า “หนานเจียงสู้เซี่ยงไฮ้ไม่ได้ พวกเราขาดแคลนทรัพยากรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ให้กู้ยืมล่วงหน้าไปส่วนหนึ่ง มีแต่จะติดขัดกว่าเดิม…”

“งั้นก็พักเรื่องระบบกู้ยืมไว้ก่อน”

ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ความหมายของผมคือ จัดตั้งแพลตฟอร์มขึ้นก่อน พี่คิดว่าเป็นเรื่องเกินความจำเป็นใช่หรือเปล่า ไม่ได้มีประโยชน์มากมายขนาดนั้น…”

หวังจินหยางพยักหน้า แค่เป็นภาระมากกว่าเดิมเท่านั้น ผู้ฝึกยุทธ์แค่วิ่งยังขี้เกียจด้วยซ้ำ ในความคิดเขาไม่ใช่เรื่องดีอะไร

“เป้าหมายของผมไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มมหาวิทยาลัยเพียงแห่งเดียว”

ฟางผิงเอ่ยด้วยเสียงทุ้มลึก “ผมคิดจะสร้างแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างต่อสถาบันศึกษาทั้งประเทศ อาวุธบางอย่างของเซี่ยงไฮ้ หนานเจียงอาจจะไม่มี ยาบำรุงบางอย่างของเซี่ยงไฮ้ หนานเจียงอาจไม่มีเหมือนกัน รวมถึงห้องแหล่งพลังงาน สระปราณ และห้องฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้ หนานเจียงน่าจะมีห้องฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้ แต่ตอนนี้ใช้ไม่ได้ ทั้งพูดให้ระคายหูหน่อย หนานเจียงมีเคล็ดวิชาต่อสู้เยอะเท่าเซี่ยงไฮ้หรือเปล่า? นี่ยังแค่มหาวิทยาลัยสองแห่งเท่านั้น ตอนนี้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นแล้ว มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ภายในประเทศควรจะรวมความรู้ทุกอย่างเข้าด้วยกัน ไม่ควรจำกัดอยู่แค่ในมหาวิทยาลัยใดมหาวิทยาลัยหนึ่ง” “ปรมาจารย์และอาจารย์บางส่วนของเซี่ยงไฮ้เป็นผู้คิดค้นเคล็ดวิชาขึ้น ทำได้เพียงจัดสรรให้กับมหาวิทยาลัยตัวเองเท่านั้น ไม่อาจส่งให้หนานเจียง ทุกคนเป็นแบบนี้เหมือนกันหมด ยอดฝีมือของพวกเรา อันที่จริงพวกเขาค่อยข้างเปิดกว้างกับเคล็ดวิชาของตัวเอง ไม่เก็บค่าใช้จ่ายอะไร พยายามเจียดเวลาออกไปสอนสั่ง…แต่มีบางครั้งที่มีข้อจำกัดอยู่ ก่อนหน้านี้ผมพูดกับอาจารย์คนหนึ่งไปเหมือนกัน ครอบครัวเล็กและครอบครัวใหญ่มีความแตกต่างกัน ผู้แข็งแกร่งในทุกวันนี้เห็นประเทศเป็นครอบครัวใหญ่ กลับดูแลแต่ครอบครัวเล็กๆ ของตัวเอง…”

หวังจินหยางแววตาเป็นประกายขึ้นมาอย่างน่าตกใจ เอ่ยด้วยใบหน้าจริงจัง “ฟางผิง นายไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่หรือเปล่า? ทรัพยากรและสิ่งอำนวยความสะดวกของเซี่ยงไฮ้บางอย่างสามารถเปิดกว้างต่อหนานเจียงได้?”

ที่หนานเจียงไม่มีห้องแหล่งพลังงาน ไม่มีสระปราณ

ห้องแหล่งพลังงานยังไม่พูดว่าต้องใช้เงินทุนก่อสร้างเท่าไหร่ ประเด็นสำคัญอยู่ที่สิ้นเปลืองหินพลังงาน หนานเจียงไม่อยู่ในเขตของถ้ำใต้ดิน การครอบครองเป็นเรื่องยาก สิ้นเปลืองแบบนั้นไม่ไหว

ส่วนสระปราณ หลักๆ มีไว้สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลาง

หลายปีมานี้ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางของหนานเจียงที่เรียนจบไปมีสักกี่คนกัน?

กระทั่งพวกอาจารย์ยังมีระดับกลางไม่เยอะเลย

หากเซี่ยงไฮ้เปิดกว้างต่อภายนอกจริงๆ…

ระหว่างที่หวังจินหยางพูด จู่ๆ ก็ส่ายหัวว่า “เป็นไปไม่ได้ นายทำเรื่องนี้ไม่ได้หรอก แม้ตอนนี้ศัตรูภายนอกกำลังรออยู่ข้างหน้า แต่มนุษย์ย่อมมีความเห็นแก่ตัว เซี่ยงไฮ้สามารถรักษาชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยชื่อดังได้เพราะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ รวมถึงเคล็ดวิชาที่เผยแพร่อย่างลับๆ บางส่วน เซี่ยงไฮ้ไม่อาจเปิดเผยต่อภายนอกได้เช่นกัน นี่ถึงเป็นสิ่งที่ทำให้เซี่ยงไฮ้มีชื่อเสียงในอันดับต้นๆ หากเปิดเผยออกไปจริงๆ งั้นเซี่ยงไฮ้…”

ฟางผิงกลับไม่คิดแบบนั้น “เคล็ดวิชาต่อสู้พวกนี้ ประเด็นสำคัญอยู่ที่คนฝึกวิชา ฝึกวิชาไม่ลึกล้ำ ต่อให้เคล็ดวิชาดีแค่ไหนก็เป็นการเสียเปล่า ส่วนสถานที่ฝึกวิชา…ขอแค่พวกนายยินดีจ่ายเงิน จ่ายค่าตอบแทนออกมา เซี่ยงไฮ้สามารถเปิดให้ใช้ได้อยู่แล้ว การรักษาความเกรงขามและตำแหน่งของมหาวิทยาลัยชื่อดัง ไม่ได้อยู่ที่ทำให้คู่ต่อสู้อ่อนแอลง แต่เป็นทำให้ตัวเองแข็งแกร่งกว่าคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แน่นอนว่า…”

ฟางผิงยิ้มบางๆ “ตอนนี้ผมยังไม่มีอำนาจในการทำเรื่องพวกนี้ แต่…ผมเชื่อว่าวันนั้นน่าจะอยู่ไม่ไกลแล้ว ขั้นสี่ไม่พอ ขั้นห้าไม่พอ…งั้นก็ขั้นเจ็ด ขั้นแปด…หรือกระทั่งขั้นเก้า! การมีฝีมือก้าวหน้าส่งผลกระทบค่อนข้างใหญ่ ทำให้ผมมีอำนาจในการพูดมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่จำกัดอยู่ในแค่เซี่ยงไฮ้ แต่รวมถึงทั่วประเทศจีน! ตอนนี้วางรากฐานพวกนี้ขึ้นก่อน มีพื้นฐานแล้ว รอวันที่ดำเนินการได้วันนั้น ทุกอย่างก็ง่ายขึ้นแล้ว ถึงกระทั่งในอนาคตพวกเราอาจจะสามารถแลกเปลี่ยนอาจารย์กัน อาจารย์ของเซี่ยงไฮ้มาสอนในหนานเจียงช่วงหนึ่ง อาจารย์ของหนานเจียงก็ไปเปิดหูเปิดตาที่เซี่ยงไฮ้ช่วงหนึ่ง สถานการณ์ที่ศัตรูตัวฉกาจอย่างถ้ำใต้ดินกำลังอยู่ตรงหน้า พวกเราจำเป็นต้องก้าวหน้าให้มากขึ้นและเร็วขึ้นกว่าเดิม”

“เวลานั้นสำนักเป็นผู้สืบทอดเส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ ตอนนี้มีสำนักเท่าไหร่กัน? เวลานั้นยอดฝีมือในสำนักมีกี่คน หลายปีมานี้มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้กลายเป็นผู้สืบทอดหลัก ทำให้ประชาชนทุกคนหันเข้าหามหาวิทยาลัย รวมความรู้ทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้ว ยอดฝีมือมีกี่คนกัน? แต่นี่ยังไม่พอ! บางทีรัฐบาลอาจจะรู้สึกว่าไม่อาจก้าวหน้าเร็วเกินไปได้ แต่ในความเป็นจริง พวกเราไม่มีเวลาให้รอนานขนาดนั้น ค่อยๆ กำจัดช่องว่างนี้ ประชาชนคนทั่วไปยังไม่เท่าไหร่ พวกเขาสามารถซึมซับไปอย่างช้าๆ รอวันที่ความจริงเปิดเผยออกมาได้ แต่พวกเราที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ขึ้นชื่อว่าเป็นแนวหน้าที่ต่อสู้กับการรุกรานของถ้ำใต้ดิน ไม่ควรจะประวิงสภาวะนี้ไว้”

หวังจินหยางลุกยืนขึ้น เดินวนไปเวียนมาอยู่พักหนึ่ง

ขึ้นชื่อว่าเป็นประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์หนานเจียง สมาชิกขั้นสี่ตอนปลายเพียงคนเดียว ทั้งความสามารถของเขายังล้ำหน้าอาจารย์ไปเยอะแล้ว

หากเข้าสู่ขั้นห้า ตำแหน่งในหนานเจียงของเขาจะยิ่งสูงกว่านี้

เรื่องพวกนี้ให้หวังจินหยางผลักดัน ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร

แต่ว่า…สิ่งที่ฟางผิงพูดมาทั้งหมด จะทำให้เป็นจริงได้อย่างนั้นเหรอ?

ตอนนี้พูดถึงแค่เซี่ยงไฮ้และหนานเจียง แต่ฟางผิงบอกว่าจะรวมสถาบันศึกษาทั้งประเทศเข้าด้วยกัน งั้นหลังจากนี้ มหาวิทยาลัยอย่างพวกปักกิ่งก็จะเข้าร่วมด้วย?

มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั้งเก้าสิบเก้าแห่งแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน แบ่งสรรทรัพยากรแก่กัน?

เพราะเป็นมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั้งเก้าสิบเก้าแห่ง ไม่ใช่แค่แห่งเดียว ความเกี่ยวข้องภายในนี้มีมากมาย รวมถึงการแบ่งอาณาเขต รักษาสภาวะแข่งขัน การแจกจ่ายทรัพยากรการศึกษา และการป้องกันการรวมอำนาจของมหาวิทยาลัย…

แต่ฟางผิงคิดจะใช้แค่แพลตฟอร์มผสานทุกอย่างเข้าด้วยกัน เหมือนจะเป็นไปได้เช่นกัน

ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง หวังจินหยางก็เอ่ยว่า “สร้างแพลตฟอร์มนั้นได้ แต่จะให้บริการยังไง? ใครเป็นคนให้บริการ? ใครจะเป็นคนควบคุมแพลตฟอร์ม?”

“หยวนฟางจะรับผิดชอบแพลตฟอร์มนี้ เป็นประโยชน์กับการหลอมรวมกันในวันข้างหน้า”

หวังจินหยางส่ายหัวว่า “หนานเจียงไม่อนุญาตให้คนนอกควบคุมเรื่องนี้”

ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ดังนั้นผมเลยไม่ไปมหาวิทยาลัยอื่นแต่มาหาพี่หวังยังไงล่ะ อันที่จริงแพลตฟอร์มเป็นแค่ตัวกลางเท่านั้น…”

“ไม่ใช่แบบนั้น ข้อมูลนักศึกษาทั้งหมดของพวกเรา รวมถึงความก้าวหน้าจะปรากฏอยู่เบื้องหน้าของเซี่ยงไฮ้…”

“ผมก็คือผม หยวนฟางก็คือหยวนฟาง เซี่ยงไฮ้ก็คือเซี่ยงไฮ้” ฟางผิงส่ายหัวว่า “เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวข้องกัน”

“นี่เป็นแค่ความคิดของนายคนเดียว”

“งั้นความหมายของพี่หวังคือ?”

“หนานเจียงจะสร้างแพลตฟอร์มขึ้นเอง ในอนาคตถ้านายมีความสามารถและอิทธิพล ต้องการหลอมรวมจริงๆ สามารถอาศัยนายเป็นหลักได้ หรือจะให้รัฐบาลออกหน้า รัฐบาลเป็นฝ่ายดำเนินการควบคุมทั้งหมด…”

ฟางผิงเบะปาก งั้นฉันยังจะต้องลงแรงทำเรื่องนี้ไปทำไม!

“พี่หวัง เรื่องนี้รัฐบาลไม่อาจเป็นฝ่ายผลักดัน รัฐบาลออกหน้า กลับจะกลายเป็นการลำเอียง เซี่ยงไฮ้เป็นหลัก ปักกิ่งเป็นหลัก หรือสถาบันการศึกษาอื่นเป็นหลัก ถึงเวลานั้นจะกลายเป็นปัญหา ทำให้ปรมาจารย์ใหญ่แต่ละฝ่ายเกิดความไม่พอใจได้ พวกเราที่เป็นนักศึกษาทำเรื่องกันเล็กๆ กลับไม่มีใครสนใจอะไร”

สุดท้ายฟางผิงจึงเอ่ยว่า “แพลตฟอร์มมอบให้ฟางหยวนเป็นผู้ให้บริการ แต่แพลตฟอร์มของหนานเจียง หรือจะพูดว่าแพลตฟอร์มของแต่ละมหาวิทยาลัย จะอยู่ในสภาพอิสระชั่วคราว ส่วนเรื่องข้อมูลของนักศึกษา เรื่องพวกนี้ผมคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องปิดเป็นความลับอะไร หรือว่าพวกพี่ยังปิดบังจำนวนนักศึกษาขั้นห้ากว่าสิบคนเอาไว้?”

หวังจินหยางหัวเราะ ก่อนจะเงียบลงอีกครั้ง ผ่านไปสักพักก็เอ่ยว่า “ลองดูละกัน แต่ฉันไม่ได้คาดหวังไว้เยอะ”

——————

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดาราฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปีผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง!หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้นด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นแม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตามเรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนานผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน