บทที่ 331 ชิวซิวหย่วนตาย!
บทที่ 331 ชิวซิวหย่วนตาย!
ผู้อาวุโสใหญ่มาถึงถ้ำที่ชิวสิงอยู่พร้อมกับความคิดนับไม่ถ้วนที่อยู่ในใจ
“ท่านบรรพชน!”
ผู้อาวุโสใหญ่พลันคุกเข่าลง แนบหน้าผากกับพื้นด้วยความเคารพ
ไม่มีเสียงใดดังมาจากภายในถ้ำ
ผู้อาวุโสใหญ่กลืนน้ำลายแล้วเอ่ยอีกครั้งอย่างหวั่นใจ “ท่านบรรพชน…”
ก่อนจะทันได้เอ่ยจบก็เห็นเงาเคลื่อนผ่านออกมา เขาจึงเงยหน้าโดยไม่รู้ตัว พลันเห็นร่างสูงโปร่งปรากฏอยู่ตรงหน้า
ชายผู้สวมชุดเรียบง่ายและมีเศษดินอยู่ตามร่างกาย แต่อีกฝ่ายกลับไม่ใส่ใจ สายตาหลุบต่ำและเต็มไปด้วยความเฉยชา
“ชิวซิวหย่วน ชิวเสวียนอยู่ที่ไหน?”
แม้เอ่ยอย่างแผ่วเบา แต่ชิวซิวหย่วนกลับรู้สึกเหมือนโลหิตทั่วร่างจับตัวเป็นก้อน คล้ายกับมีบางสิ่งมาอุดตันที่บริเวณลำคอ
ชิวสิงก้มมองอีกฝ่ายราวกับมองมดที่กำลังถึงแก่ความตาย!
“พูด!”
ชิวซิวหย่วนสั่นสะท้านไม่หยุด “ไปที่…แดนมัชฌิม…”
“แดนมัชฌิม…”
ชิวสิงมองไกลออกไป เขาหรี่ตาลงราวกับกำลังนึกถึงบางสิ่ง
ผ่านไปสักพัก เขาก็ถอนสายตากลับมาแล้วยกเท้าซ้าย ก่อนจะเหยียบลงบนไหล่ของชิวซิวหย่วน
ชิวซิวหย่วนรู้สึกถึงลางร้ายบางอย่างในใจ
เขารีบเอ่ยว่า “ท่านบรรพชน ข้าสมควรตาย! ข้าจะไปตามหาเสวียนเอ๋อร์เดี๋ยวนี้! ขอเวลาเพียงหนึ่งเดือน ไม่สิ! สิบวัน ขอสิบวันเท่านั้น ข้าจะ… อ๊าก!!!”
ชิวซิวหย่วนแผดเสียงร้องอันน่าสังเวชหลังจากเอ่ยไปได้เพียงครึ่งประโยค
ชิวสิงกระทืบเท้าซ้ายกดร่างของอีกฝ่ายลงกับพื้นหิน
กร็อบ! กร็อบ! กร็อบ!
เสียงกระดูกและเนื้อถูกบดขยี้อย่างน่าสะพรึงกลัวดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกลบเสียงของชิวซิวหย่วน
ชิวสิงยกเท้าซ้ายขึ้น ทำให้เห็นอีกฝ่ายถูกฝังอยู่ในพื้นหินไปครึ่งร่าง ใบหน้าถูกกดทับขณะร้องขอความเมตตา
สรรพสิ่งในบริเวณใกล้เคียงถูกปิดกั้นโดยค่ายกล นอกจากองครักษ์บางส่วนแล้ว ก็ไม่มีใครในตระกูลชิวทราบว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่
หากผู้น้อยในตระกูลมาเห็นผู้อาวุโสใหญ่กำลังร้องขอความเมตตา พวกเขาอาจรู้สึกสับสน
ถึงอย่างไร ผู้อาวุโสใหญ่มักเป็นคนเย่อหยิ่งที่สุดในตระกูลชิว พูดคำไหนคำนั้น!
แม้กระทั่งประมุขตระกูลก็มักหลีกเลี่ยงการปะทะคารมกับผู้อาวุโสใหญ่!
แต่บัดนี้อีกฝ่ายกลับถูกเหยียบย่ำไม่ต่างจากสุนัขที่รอความตาย!
“ท่านบรรพชน ข้า…ข้ายังมีประโยชน์ต่อท่าน!”
ความคิดเดียวในตอนนี้ของชิวซิวหย่วนคือการเอาชีวิตรอด เขาจึงพูดทุกอย่างเท่าที่จะคิดได้ออกมา
“ท่านบรรพชน! เสวียนเอ๋อร์เป็นญาติเพียงคนเดียวของข้า หากกลับมาแล้วไม่พบข้าขึ้นมา เขาจะต้องออกตามหาแน่นอน!”
ชิวซิวหย่วนทราบว่าบรรพชนให้การดูแลตนเป็นอย่างดีล้วนเป็นเพราะชิวเสวียน!
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาอาศัยสิ่งนี้เพื่อกระทำไร้ยางอายอยู่ในตระกูลชิว!
แม้บัดนี้ชิวเซี่ยวเทียนจะเป็นประมุขแห่งตระกูลชิว แต่ผู้ควบคุมที่แท้จริงคือบรรพชน!
ขอเพียงบรรพชนไม่เอ่ยสิงใดก็ไม่มีใครแตะต้องเขาได้!
นี่คือเหตุผลที่เขาปล่อยวางทุกสิ่งและไม่กล้าขอให้ใครออกตามหาหลังจากชิวเสวียนหนีไปในครั้งนี้
เขาไม่แม้แต่จะกล้าส่งองครักษ์ข้างกายออกไปเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นทราบเรื่องเข้า!
เขาเพียงถ่ายทอดคำสั่งให้คนที่อยู่ในแดนมัชฌิมออกตามหา!
เขาได้ปิดข่าวสารทั้งนอกและในตระกูลเช่นกัน โดยบอกเพียงว่าชิวเสวียนเข้าสู่การเก็บตัวอีกครั้ง!
ชิวซิวหย่วนคิดว่าสิ่งที่ตนทำนั้นสมบูรณ์แบบ ชิวเสวียนหายตัวไปหลายวันโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น แต่คาดไม่ถึงว่าบรรพชนจะทราบเรื่องเข้า!
ดูจากท่าทางของบรรพชนในตอนนี้ อีกฝ่ายคงอยากให้เขาตาย!
แต่เขาจะตายไม่ได้!
บรรพชนเป็นห่วงชิวเสวียนมากที่สุด ขอเพียงเอ่ยถึงเสวียนเอ๋อร์ อีกฝ่ายจะต้องทบทวนจนยอมไว้ชีวิตเขาอย่างแน่นอน!
ชิวสิงหัวเราะ “เจ้ากำลังข่มขู่ข้าหรือ?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาพลันหายไป “หากเป็นเมื่อหลายปีก่อน ข้าจะชั่งน้ำหนักคำพูดของเจ้า แต่ตอนนี้ข้าไม่จำเป็นต้องทำอีกต่อไป หมดเวลาของเจ้าแล้ว!”
สิ้นคำ ชิวสิงยกเท้าซ้ายไปที่ศีรษะของชิวซิวหย่วนแล้วกระทืบอย่างรุนแรง
พรวด!
โลหิตกระเซ็นจนย้อมหินบริเวณใกล้เคียงให้เป็นสีแดง บางส่วนกระเด็นมาเปรอะเปื้อนมุมเสื้อของชิวสิง
กลิ่นโลหิตคลุ้งในอากาศจนทำให้ผู้คนรู้สึกคลื่นไส้
แต่ชิวสิงกลับสูดหายใจพร้อมกับยกยิ้มที่ผิดแปลกออกมา
“ผ่านมาสามแสนปี ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว!”
ชิวสิงมองท้องนภาไร้พรมแดน ซึ่งยามนี้เต็มไปด้วยชั้นหมู่เมฆมารวมตัวกันราวกับขั้นบันไดที่กลับหัวกลับหาง
ใจกลางผืนฟ้ามีชั้นเมฆาเบาบาง และลำแสงสีทองทะยานออกมา ทอดยาวมาสู่เบื้องหน้าจวนตระกูลชิว
“ให้ผู้คนนับล้านในโลกใบนี้ปูทางให้ข้ามุ่งสู่แดนเซียน!”
“ทาสอารักขา!”
สิ้นเสียงตะโกนของชิวสิง ในอากาศก็เกิดความผันผวน ร่างซึ่งสวมชุดคลุมสีขาวกับหน้ากากเทพมารก็ปรากฏขึ้นจากอากาศ
พลังอันแกร่งกล้าพวยพุ่งออกมาจากรอบข้างคนเหล่านี้ ระดับการบ่มเพาะของพวกเขาไม่ต่ำไปกว่าระดับสูงของขั้นเทียมเทพ!
หลังจากคนเหล่านี้ปรากฏตัว พวกเขาคุกเข่าข้างหนึ่งตรงหน้าชิวสิงทันทีแล้วเอ่ยพร้อมกัน “คารวะนายท่าน!”
“พวกเจ้าจงนำตัวชิวเสวียนกลับมา ฆ่าทุกคนที่กล้าทำร้ายเขาซะ!”
“ขอรับ!”
หลายคนขานรับพร้อมกัน จากนั้นยืนขึ้นแล้วถอยหลังจากไป
อากาศสั่นไหวอีกครั้งก่อนร่างของพวกเขาจะหายไป
ชิวสิงสะบัดแขนเสื้อ แล้วกลับเข้าถ้ำไป
…
ดินแดนลับแดนมัชฌิม
พื้นดินสั่นสะเทือนจนเกิดการระเบิดขนาดใหญ่ สร้างความสนใจให้กับลู่หยวน
หลุมขนาดใหญ่พลันปรากฏขึ้นบนพื้นซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเขา
หินหลอมเหลวนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากช่องว่าง กระจายไปทั่วทุกทิศทางประหนึ่งคลื่น
หมู่เมฆสีแดงเคลื่อนตัวอยู่บนท้องนภาอย่างต่อเนื่อง ราวกับหินหลอมเหลวที่กำลังปะทุ
เหตุการณ์แบบนี้หมายความว่าจะต้องมีมหาโชคชะตากำลังปรากฏขึ้นแน่นอน!
เสียงของระบบพลันดังขึ้นในยามนี้
[แจ้งเตือนจากระบบ: ชิวเสวียนผู้เป็นบุตรแห่งโชคชะตามีชะตาที่จะปกป้องพลังแห่งวิถีคุณธรรม เนื่องจากการสูญเสียพลังที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ให้กับท่าน ค่าโชคชะตาจึงลดลง 2,000! ค่าโชคชะตาที่เหลืออยู่ในตอนนี้ 88,000!]
[ค่าโชคชะตาวายร้ายของท่านเพิ่มขึ้น 4,000! ค่าโชคชะตาวายร้ายที่มีของท่านในตอนนี้ 34,000!]
สิ้นเสียงของระบบ กลิ่นอายโทสะของชิวเสวียนก็บังเกิด
ลู่หยวนกวาดสายตามอง ก่อนจะเห็นหลุมดำขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ด้านหลังชิวเสวียนสั่นไหวในอากาศ โดยมีร่างครึ่งหนึ่งของอีกฝ่ายอยู่ข้างในนั้นและกำลังจะออกไปจากที่นี่
ลู่หยวนไม่คิดจะไล่ตาม ชิวเสวียนในตอนนี้มีค่าโชคชะตามากกว่าแปดหมื่นแต้ม ดังนั้นเขาย่อมฆ่าไม่ได้แน่นอน
ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ โชคชะตาขนาดใหญ่กำลังจะปรากฏขึ้น!
ฟ้าดินกว้างใหญ่! โชคชะตามากมี!
บุตรแห่งโชคชะตาเอ๋ย วันเวลายังอีกยาวไกล ดังนั้นพวกเจ้าช่วยรออีกสักวันก็แล้วกัน!