ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา – บทที่ 413 ฉู่เชิ่งพบลู่หยวน

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 413 ฉู่เชิ่งพบลู่หยวน

บทที่ 413 ฉู่เชิ่งพบลู่หยวน

ดาบใหญ่ในมือของฉู่เชิ่งกวาดผ่านพร้อมกับปราณดาบที่กระแทกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนทาสอารักขายังคงหลบหลีกไปมาโดยไม่มีทีท่าว่าจะลงมือกับอีกฝ่าย!

พวกเขาทั้งสองเผชิญหน้ากันอยู่อย่างนั้น

ตู้ม!

หลังจากปราณดาบอีกกลุ่มซึ่งถูกปกคลุมด้วยเพลิงวิญญาณมอดดับ เสียงของกลุ่มศิษย์สำนักกระบี่สวรรค์ก็ดังขึ้น

“ทั้งที่ฉู่เชิ่งผู้นี้ฟันปราณดาบออกไป แต่กลับไม่ทำให้เจ็บหรือคันได้เลย! เขาอยากช่วยศิษย์พี่จริงหรือ? เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าเขากำลังเล่นละครตบตา?”

“ชิ… เขามีปัญญาหรือเปล่า นี่ก็ผ่านมาหนึ่งก้านธูปแล้ว แต่กลับไม่มีอะไรคืบหน้า ถ้าเขาทำไม่ได้ก็ให้ข้าทำแทน!”

“ศิษย์พี่ถูกคนพวกนั้นโยนเข้าไปในเกี้ยวหยกมานานแล้ว หรือว่า… ฉู่เชิ่งผู้นี้กำลังถ่วงเวลาอยู่!”

“หากท่านประมุขไม่ห้ามเสียก่อน ข้าคงจับกระบี่ออกไปฆ่าแล้ว!”

“เหอะ… หรือว่าฉู่เชิ่งผู้นี้จะเป็นพวกเดียวกับตระกูลชิว! หรืออาจจะเป็นหน้าม้าก็ได้! เขาจงใจสร้างความเชื่อใจก่อน จากนั้นค่อยลอบสังหารศิษย์พี่!”

ความสงสัยก่อตัวขึ้นท่ามกลางฝูงชน

ลู่หยวนผู้อยู่ในเกี้ยวหยกขยับปากพูดก่อนเสียงจะลอยถึงหูของทาสอารักขา

พริบตาต่อมา พลังของทาสอารักขาก็ระเบิดออกมา ทำให้โลกทั้งใบมืดมน ปราณรอบข้างเคลื่อนตัวเข้าสู่ด้านใน กลายเป็นพลังอันเกรี้ยวกราดกดทับลงมา!

ฉู่เชิ่งสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่กดลงบนบ่าทันที จากนั้นจึงกระตุ้นเพลิงวิญญาณจนพลังตัวเองก้าวกระโดด พร้อมเผชิญหน้ากับแรงกดดันที่กำลังเคลื่อนลงมาจากท้องนภา!

ทาสอารักขาทำท่าคว้าขณะพลังรอบฝ่ามือเกิดการผันผวน แล้วแสงสีขาวจึงรวมตัวกัน ปราณวิญญาณพลันถูกบีบอัดอย่างต่อเนื่อง

ฉู่เชิ่งมองพลังที่รวมตัวกันอยู่ในมือของอีกฝ่ายจนหัวใจอ่อนยวบ

แต่หลังจากผ่านไปหนึ่งอึดใจ เขาก็สงบสติลงขณะกัดฟัน

ทันทีที่ดาบใหญ่ถูกปล่อยออกมา เขาก็ยืนอยู่ด้านข้างพร้อมยื่นมือทั้งซ้ายขวา แล้วเปลวเพลิงที่แตกต่างกันก็ลุกโชนขึ้น

จากนั้นเขากดมือลงไป แล้วปราณวิญญาณรอบข้างก็ถูกบีบอัดอยู่พร้อมกับเปลวเพลิงทั้งสามลูกมาบรรจบกัน พวกมันหดตัวอย่างต่อเนื่อง ก่อนรูปทรงดอกบัวจะปรากฏขึ้นในฝ่ามือ

หลังจากทาสอารักขารวบรวมปราณทั้งหมด เขาก้าวเท้าออกมาพร้อมกับระเบิดพลังอย่างรุนแรง ก่อนจะโจมตีฉู่เชิ่งในหนึ่งอึดใจ

ฉู่เชิ่งยังคงตวัดมือลงอย่างต่อเนื่องราวกับมองไม่เห็นสิ่งใด

ปัง! ปัง! ปัง!

เสียงระเบิดของพลังอันมหาศาลยังคงดังอย่างต่อเนื่อง

มือใหญ่ที่เกิดจากการรวบรวมปราณของทาสอารักขาก็ฟาดเข้าใส่ศีรษะของฉู่เชิ่ง!

ในช่วงวิกฤตดังกล่าว!

ฉู่เชิ่งพลันเงยหน้าขึ้น เปลวเพลิงลุกโชนอยู่ในดวงตา แล้วริมฝีปากเผยยิ้มออกมา

“บงกชพิโรธ! เพลิงสวรรค์!”

“ไป!”

ฉู่เชิ่งคลายมือ แล้วดอกบัวเพลิงขนาดเล็กก็บานสะพรั่งอย่างสมบูรณ์ พลันลอยเข้าหาทาสอารักขาผู้เข้าถึงตัว

วิ้ง!

ลำแสงสีขาวสาดส่องไปทั่วจนปกคลุมโลกทั้งใบในชั่วพริบตา!

ยามนี้ฟ้าดินตกอยู่ในความเงียบ ผ่านไปสักพัก เสียงระเบิดที่สามารถทำลายทั่วหล้าได้ก็ดังขึ้นในจุดที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กัน!

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

กระแสอากาศที่มีพลังมหาศาลกระจายตัวออกไป ขณะถาโถมเข้ามาจากทั้งสี่ทิศ

ทาสอารักขาที่อยู่รอบข้างต่างเคลื่อนไหวพร้อมกันขณะรวบรวมพละกำลังเพื่อขัดขวางคลื่นอากาศทั้งหมดนี้

เมื่อแสงสีขาวสาดส่องเข้ามา ไม่ว่ามันผ่านที่ใดก็ไร้ซึ่งร่องรอยของต้นหญ้า

มีเพียงฉู่เชิ่งที่ยืนอยู่ในอากาศ!

เขาหอบหายใจ เพลิงวิญญาณที่โคจรอยู่บนร่างกายอ่อนกำลังอย่างเห็นได้ชัด

ทาสอารักขาคนหนึ่งล้มลงกับพื้น มีโลหิตไหลนองไปทั่วร่าง

การต่อสู้ครั้งนี้ ฉู่เชิ่งชนะ!

คราวนี้ โลกพลันตกอยู่ในความเงียบ

หลังจากผ่านไปหลายอึดใจ เสียงโห่ร้องด้วยความประหลาดใจก็ดังมาจากฝูงชนของสำนักกระบี่สวรรค์

“บัดซบ! ศิษย์พี่ฉู่เชิ่งโคตรเจ๋งไปเลย!”

“ฉู่เชิ่งจัดการสมาชิกของตระกูลชิวได้งั้นหรือ?!”

ถึงแม้ระดับการบ่มเพาะของคนเหล่านี้จะต่ำมาก แต่พวกเขาก็ยังสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายที่แผ่อยู่บนร่างของทาสอารักขาแข็งแกร่งกว่าอีกฝ่ายมาก!

แต่บัดนี้ ฉู่เชิ่งกลับเอาชนะได้งั้นหรือ?!

“ศิษย์พี่ฉู่เชิ่งร้ายกาจไม่เบา คนตระกูลชิวเทียบไม่ติดเลย!”

“หากเขาเข้าร่วมสำนักกระบี่สวรรค์ได้ เช่นนั้นพวกเราก็จะได้ยอดฝีมือมาเพิ่มอีกคน!”

“เท่าที่ข้าเห็น หากศิษย์พี่ฉู่เชิ่งอยากเข้าสำนักในฐานะศิษย์ มันออกจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เขาน่าจะเหมาะกับตำแหน่งผู้อาวุโสพิทักษ์มากกว่า!”

“หุบปาก! ท่านประมุขจะเป็นคนตัดสินใจเรื่องของฉู่เชิ่งเอง! เจ้ามีสิทธิ์มาพูดเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?!”

ฝูงชนพากันส่งเสียงอึกทึกด้วยความตื่นเต้นเป็นส่วนใหญ่

ด้วยพลังต่อสู้ของฉู่เชิ่ง เขาอาจจะช่วยศิษย์พี่ได้!

สายตาที่จับจ้องฉู่เชิ่งของเยวี่ยอู๋ฉือเปลี่ยนไปเช่นกัน เด็กคนนี้รวบรวมเปลวเพลิงทั้งสามชนิดเข้าด้วยกันได้อย่างไร?!

หากนางไม่ได้มองผิดไป หนึ่งในเปลวเพลิงดังกล่าวคือเพลิงสวรรค์ใช่หรือไม่?!

หรือว่าฉู่เชิ่งผู้นี้เกี่ยวข้องกับราชวงศ์แดนมัชฌิม?!

ทางฝั่งตระกูลชิว ทุกคนต่างไม่แสดงสีหน้าราวกับทาสอารักขาไม่มีความเกี่ยวข้องกับตัวเอง

ฉู่เชิ่งไม่สนใจเรื่องนี้ ก่อนจะยื่นมือแล้วดาบใหญ่ก็ปรากฏอีกครั้ง

เขาชี้ไปที่เกี้ยวหยกอย่างอวดดีพร้อมเอ่ยว่า “ข้ารู้ว่าพวกเจ้าแบกยอดฝีมือสูงศักดิ์เอาไว้ในเกี้ยวหลังนั้น ข้ามั่นใจว่าจะต้องเป็นคนของตระกูลชิวไม่ผิดแน่!”

“ไม่ว่าเจ้าจะยิ่งใหญ่ในตระกูลชิวมากแค่ไหน แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหลังออกจากตระกูลมาแล้ว! แผ่นดินหยวนหงไม่ได้เป็นของเจ้าเพียงผู้เดียว!”

“คนอื่นอาจจะกลัวเจ้า แต่ข้าฉู่เชิ่งหาได้กลัวไม่!”

คำพูดของเขาเปี่ยมด้วยความชอบธรรมราวกับตนเป็นแสงสว่างดวงเดียวในโลกอันมืดมิดนี้

ศิษย์ของสำนักกระบี่สวรรค์ล้วนจับจ้องฉู่เชิ่งด้วยความนับถือประหนึ่งกำลังสักการะทวยเทพ!

แม้ฉู่เชิ่งจะมีสีหน้าสงบ แต่เขากำลังลอบรวบรวมปราณวิญญาณในร่างอย่างบ้าคลั่ง

เขาต้องใช้ความพยายามอย่างหนักกว่าจะจัดการทาสอารักขาได้ ทำให้ปราณวิญญาณในทะเลลมปราณเหลืออยู่ไม่มาก หากมีอีกคนลงมือ ตนอาจจะไม่มีทางเลือกนอกจากหนี

ฉู่เชิ่งครุ่นคิดกับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว ถึงอย่างไรเขาก็ได้ทำสิ่งที่ควรทำเรียบร้อย เหตุใดต้องต่อสู้กับตระกูลชิวเพื่อสำนักกระบี่สวรรค์ด้วยเล่า

ในเมื่อเป้าหมายบรรลุแล้ว ที่เขาต้องทำคือออกไปจากที่นี่!

ขณะฉู่เชิ่งกำลังคิดคำนวณอยู่ในใจ

น้ำเสียงเกียจคร้านก็ดังมาจากเกี้ยวหยก “จริงหรือ?”

แม้จะเป็นสองคำอันเรียบง่าย แต่กลับทำให้เหงื่อเย็นผุดขึ้นบนแผ่นหลังของฉู่เชิ่ง

เสียงนี้… เหตุใดช่างฟังดูคล้ายกับลู่หยวน?!

หัวใจของฉู่เชิ่งตกไปถึงตาตุ่มจนอยากถอยหนี แต่เขารีบห้ามตัวเองเอาไว้

ลู่หยวนยังคงอยู่ในแดนมัชฌิม!

เรื่องใหญ่ขนาดนั้นจะต้องตามหลอกหลอนอีกฝ่ายอีกสักพัก!

อีกอย่าง ลู่หยวนจะมาทำอะไรที่นี่?!

อย่าตีตนไปก่อนไข้!

มันก็แค่เสียงคล้ายกันเท่านั้น!

หลังจากสงบสติ ฉู่เชิ่งจึงสูดหายใจ ก่อนจะเปล่งเสียงดังลั่น

“เหอะ…ถ้าเจ้ากล้าก็ออกมาสู้กับข้า!”

ทันทีที่สิ้นคำ ม่านของเกี้ยวหยกสั่น จากนั้นมันก็ถูกยกขึ้นก่อนจะเผยให้เห็นมุมหนึ่งของชุดคลุมสีขาว

ฉู่เชิ่งตกตะลึงสักพัก แล้วทั่วทั้งร่างพลันแข็งทื่อ

จากนั้นเขาก็เห็นผู้ชายหล่อเหลาเดินออกจากเกี้ยวหยก อีกฝ่ายเผยรอยยิ้มซุกซนขณะกลิ่นอายถูกสะกดเอาไว้ ทำให้ยากจะเห็นระดับการบ่มเพาะได้

“ลู่หยวนหรือ?! เป็นสารเลวเช่นเจ้าจริงด้วย!”

ฉู่เชิ่งสบถออกมา!

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

Status: Ongoing
นิยายแปลเรื่อง ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา เรื่องย่อ : ลู่หยวน ชายหนุ่มผู้กลับชาติมาเกิดใหม่ในมหาแดนโชคชะตา พร้อมกับตำแหน่งคุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะผู้โฉดชั่ว! ทั้งก่อกรรมทำเข็ญ ทั้งลักพาตัวลูกหลานของกองกำลังอื่นมากักขังไว้นับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นคือสาวงามผู้กำลังจะมีผู้ฝึกยุทธ์รูปหล่อตามมาช่วยชีวิต บัดซบ… ไม่ว่าจะคิดอย่างไร นี่มันบทบาทของตัวร้ายกากเดนชัด ๆ! ในระหว่างที่กำลังปวดหัวกับชีวิตใหม่อยู่นั้นเอง กล่องข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า บ่งบอกว่าการเชื่อมต่อกับระบบวายร้ายสำเร็จแล้ว! ด้วยระบบที่สามารถช่วงชิงโชคชะตาของเหล่าตัวเอกได้ ตำนานจอมวายร้ายสุดอหังการ์ผู้โค่นล้มพระเอกทั่วหล้าจึงเปิดฉากขึ้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท