บทที่ 99 ความคิดต่าง ๆ
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ซางชุนหลานไม่อยากจะยอมรับ
ทว่าในตอนนั้นเอง เฉินจื่ออันเอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง
“คุณลุงครับ คุณป้าครับ ผมมาสู่ขอซิ่วเอ๋อร์จากใจจริง และปรารถนาให้พวกคุณทำให้มันเกิดขึ้นด้วยครับ”
ท่าทางที่จริงใจนั้นเกือบทำให้คนตระกูลซูตอบตกลง
แต่ซางชุนหลานผู้มีความปรารถนาซ่อนเร้นอยู่ในใจกลับยิ่งขมขื่น ขมขื่นอยู่ชั่วครู่และเกือบจะหลั่งน้ำตาออกมา
ครูผู้ชายที่ยืนอยู่ด้านข้างอย่างอวี๋หงหมิงมองไปยังซางชุนหลาน การแสดงออกบนใบหน้าไม่ค่อยดีนัก
ตอนนั้นเองที่เขาเข้าใจว่าทำไมซางชุนหลานถึงยังยืนกรานที่จะมาบ้านซูให้ได้
และสถานการณ์ในตอนนี้นั้นชัดเจนแจ่มแจ้ง กษัตริย์เซียงไร้เจตนาขณะเทพธิดามีความฝัน*[1]
ไม่ได้คาดหวังว่าซางชุนหลานจะมีความทะเยอทะยานแบบนี้
เขามองไปที่ซางชุนหลานด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
ไม่คิดสักหน่อยหรือว่าเฉินจื่ออันเป็นคนแบบไหน แล้วจะถ่อมาถึงชนบทเพื่อตามหานักศึกษาคนหนึ่งไปทำไม?
ไม่ใช่ว่าสติไม่สมบูรณ์ไปแล้วหรอกนะ
แต่หลังจากที่ขบคิดดูแล้ว ครูผู้ชายคนนั้นรู้สึกว่าสมองของเฉินจื่ออันคงไม่กระจ่างพอจริง ๆ
แล้วซูหม่านซิ่วเป็นคนอย่างไร? เป็นแค่ผู้หญิงที่ถูกครอบครัวสามีทิ้งเพราะมีลูกไม่ได้
ต่อให้ผู้หญิงแบบนี้อยู่ในชนบท แม้แต่พ่อม่ายที่เมียตายยังไม่คิดอยากได้เลย
อีกทั้งเฉินจื่ออันเป็นถึงผู้นำใหญ่ของอำเภอ แต่ไปสู่ขอเธออย่างจริงจัง ถ้าไม่โง่แล้วจะเป็นอะไรได้เล่า?
อวี๋หงหมิงก็เป็นชายหนุ่มที่มีอายุเช่นกัน แม้ผู้หญิงบางคนในชุมชนการผลิตหงซินจะแสดงออกว่าชอบเขา และหวังจะพัฒนาความสัมพันธ์ด้วยมากมาย
แต่อวี๋หงหมิงเป็นคนสูงส่ง รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเมือง จึงไม่ชายตามองหญิงสาวจากชุมชนการผลิตหงซินหรอก
สุดท้ายจึงตั้งเป้าไว้ที่ซางชุนหลาน ซึ่งเป็นยุวชนเช่นเดียวกันกับตนเองแทน
พวกเราต่างก็มีชะตาชีวิตเกี่ยวพันกัน มีประสบการณ์ชีวิตแบบเดียวกัน บางทีอาจได้พูดคุยกันมากขึ้นก็ได้
ที่สำคัญคือ ถ้าในอนาคตได้มีโอกาสกลับเมือง พวกเขาทั้งสองก็จะกลับเข้าเมืองไปด้วยกัน
หากแต่เขายังไม่ได้ทันได้แสดงความรู้สึก และตระหนักได้ว่าซางชุนหลานตกหลุมรักเฉินจื่ออันอย่างเต็มหัวใจ
ไม่ว่าภายในใจจะไม่ยินดีมากแค่ไหน แต่เฉินจื่ออันเป็นคนที่หน้าตาดีมากคนหนึ่งจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่คนข้างกายจะชอบ
“ยังอยากเข้าไปอยู่ไหม” อวี๋หงหมิงถาม
“ไม่เข้าแล้ว!” ซางชุนหลานรู้สึกท้อแท้ราวกับเรี่ยวแรงกำลังจะหมดลง
ทุกย่างก้าวล่องลอย รู้สึกราวกับอนาคตของตนเองมืดมน แสงแห่งรุ่งอรุณเพียงดวงเดียวหายวับไปในพริบตาเสียแล้ว
พูดได้ว่าความหวังก่อนหน้านี้มันยิ่งใหญ่มาก แต่ความผิดหวังในตอนนี้กลับใหญ่ยิ่งกว่า!
หญิงสาวไม่รู้ว่าตอนนี้หัวใจตนเองรู้สึกอย่างไร หึง อิจฉา หรือมีความคิดอื่นกันแน่
แต่รู้ว่าสภาพตัวเองในตอนนี้ไม่เหมาะจะเข้าไปในบ้านตระกูลซู
ซูฉางจิ่วเห็นครูทั้งสองเดินไปที่ประตูแล้วหันหลังเดินออกไปพลันรู้สึกแปลกใจ หากแต่ไม่ได้คิดอะไรเยอะ
ไม่ใช่ว่าไม่เต็มใจที่จะคิด แต่เขามัวแต่ทึ่งกับสิ่งที่เฉินจื่ออันพูด
“นักบัญชีหลี่ ผมหูฝาดหรือเปล่า?”
“ไม่น่าจะใช่นะ ผมเหมือนจะได้ยินเหมือนกัน!” นักบัญชีหลี่กระซิบ
ตระกูลผู้เฒ่าซูจะได้โบยบินจริงหรือ?
ถ้าพวกเขามีลูกเขยเป็นข้าราชการชั้นสูงในอำเภอ หลังจากนี้สถานะพวกเขาจะไม่เพิ่มขึ้นหรือ?
นักบัญชีหลี่เริ่มรู้สึกโชคดีที่ภรรยาตนกับตระกูลซูมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของซูหม่านซิ่ว บางทีอาจได้พึ่งพาหัวหน้าเฉินให้ประสบความสำเร็จมากขึ้นในอนาคตก็ได้
แต่ก็อดมองไปที่ซูฉางจิ่วไม่ได้ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะมีความสัมพันธ์อันดียิ่งกว่า!
ในท้ายที่สุด ซูฉางจิ่วก็พานักบัญชีหลี่ไปยังห้องหลัก
คุณปู่ซูรู้สึกว่าซูฉางจิ่วมาได้ถูกเวลามาก
“หัวหน้ามาที่นี่ทำไมครับ? มาหาหัวหน้าเฉินหรือ?” คุณปู่ซูรีบหาเรื่องคุยทันที
“ลูกแพร์ในหมู่บ้านเก็บเสร็จแล้วครับ ผมกับพวกสมาชิกปรึกษากันว่าอยากจะขอบคุณหัวหน้าเฉินที่ดูแลชุมชนของเรา เลยอยากมอบตะกร้าลูกแพร์ให้ครับ หัวหน้าเฉินได้โปรดอย่ารังเกียจเลยนะครับ!”
พอเจ้าตัวได้ยินก็รีบโบกมือทันที “ลูกแพร์พวกนี้เป็นของสมาชิกชุมชน ผมไม่เอาหรอก ไม่งั้นจะแบ่งให้พวกเขาอย่างไรล่ะ”
คนสองคนนี้ตอนที่อยู่ด้านนอกก็ได้ยินเรื่องที่เขาพูดแล้ว แต่กลับเข้าบ้านมารบกวนเรื่องของเขาอีก
ไม่เท่ายุวชนสองคนนั้นหรอกที่รู้ดี ไม่รู้จริง ๆ ว่าเจ้าพวกนี้เป็นเจ้าหน้าที่ได้อย่างไร!
ชายทั้งสองที่คิดประจบผู้เป็นหัวหน้าของตนไม่คาดคิดเลยว่าการกระทำเหล่านี้จะถูกผู้เป็นหัวหน้าจดบันทึกเอาไว้ในสมองเรียบร้อยแล้ว
คุณปู่ซูพอใจกับการปฏิเสธอย่างหนักแน่นของเฉินจื่ออันมาก
ซูฉางจิ่วและนักบัญชีหลี่ต่างผิดหวัง เอาตะกร้าแพร์มาอย่างไรก็เอากลับไปอย่างนั้น
เรื่องที่เฉินจื่ออันมาสู่ขอซูหม่านซิ่วขจรขจายไปในชุมชนอย่างรวดเร็ว หลายคนในชุมชนต่างไม่คิดว่าเป็นเรื่องจริง
แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินคนในชุมชนพูดกันเยอะแยะไปหมดถึงเรื่องของขวัญอันล้ำค่าที่เฉินจื่ออันเอามามอบให้ตระกูลซู เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเขาชอบซูหม่านซิ่วจริง ๆ
ทั้งยังพูดอีกว่าเฉินจื่ออันโง่เขลาตาบอดที่คิดจะแต่งงานกับผู้หญิงที่เคยหย่าและมีลูกไม่ได้
ยังมีคนพูดอีกว่าซูหม่านซิ่วเต็มใจหย่ากับไอ้หมาหวังเพราะลักลอบคบกับเฉินจื่ออัน
สรุปแล้วพวกเขาไม่เข้าใจว่า ทำไมเฉินจื่ออันถึงสนใจซูหม่านซิ่ว?
ในชุมชนมีเด็กสาวอายุสิบเจ็ดสิบแปดปีเยอะแยะมากมาย ไม่ใช่ว่าพวกหล่อนดีกว่าซูหม่านซิ่วงั้นหรือ?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกยุวชนหญิงที่คิดมาตลอดว่าตนเองสูงส่งกว่าพวกเด็กสาวในชุมชน
ทว่าชายผู้สูงศักดิ์คนนี้กลับชอบผู้หญิงที่เคยหย่าร้างมาก่อนในหมู่บ้าน จึงทำให้พวกเขาผิดหวังมาก
ในหมู่พวกเขา คนที่ผิดหวังมากที่สุดคือคังอี้เยี่ย
เธอถามตัวเองว่า ตนมีดีกว่าซูหม่านซิ่วทุกอย่าง อีกทั้งไม่เคยหย่าด้วย ทำไมถึงไม่ชอบเธอบ้าง?
หลังจากขบคิดเรื่องนี้ก็รู้สึกว่าไม่ใช่อีกฝ่ายไม่ชอบเธอหรอก แต่เพราะไม่เคยเจอมาก่อนต่างหาก
ครั้นตัดสินใจได้แล้ว คังอี้เยี่ยจึงเริ่มหาวิธีที่จะพบกับเฉินจื่ออัน
ไม่ว่าเรื่องนี้จะถูกหรือผิด สมาชิกตระกูลซูไม่รู้เลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้สมาชิกทุกคนรวมตัวกันอยู่ภายในห้องโถงหลัก ไม่มีผู้ใดปริปากส่งเสียง
เรื่องที่เฉินจื่ออันมาสู่ขอซูหม่านซิ่วทำให้พวกเขาประหลาดใจ และเป็นเรื่องที่ไม่กล้าฝันถึง
“พ่อครับ ไม่อย่างนั้นให้พวกเขาลองก่อนไหม” ในที่สุดซูเหล่าซานก็พูดขึ้นหลังจากได้เห็นผิวพรรณที่ดีขึ้นของน้องสาวเมื่อไม่นานมานี้
น้องสาวคนนี้ทนทุกข์ทรมานมามากจริง ๆ
หากช่วงชีวิตที่เหลือมีคนที่รักและเอาใจใส่ดูแลจริง ๆ คงจะดีกว่าอยู่คนเดียวแน่นอน
“จะเป็นไปได้อย่างไร? เหล่าซาน น้องสาวแก…” คุณย่าซูพูดไปได้เพียงแค่ครึ่งประโยค
“แม่เถียนเอ๋อร์ ถ้าในอนาคต… ถ้ามีวันหนึ่งในอนาคตข้างหน้าจริง ๆ… ถ้าฉันเอาน้องสาวกลับบ้านมา คุณจะเห็นด้วยไหม?”
แม้ว่าจะอยากพูดในสิ่งที่ตนคิด แต่สุดท้ายก็หันไปมองภรรยาเพื่อถามความเห็นอยู่ดี
เดิมทีเหลียงซิ่วคิดว่าสามีจะแสดงความคิดออกมาเลย แต่ใครจะรู้เล่าว่าสามีหันมาถามเธอ เมื่อถูกปฏิบัติด้วยความเคารพนับถือเช่นนั้น หัวใจก็พลันอ่อนยวบ
“ถ้ามีวันนั้นจริง ๆ ก็ให้พวกลูก ๆ เลี้ยงดูไปจนแก่เฒ่าเลยก็ได้!”
ครั้นได้ยินพี่สะใภ้พูดเช่นนี้ ซูหม่านซิ่วก็ร้องไห้ออกมาทันที
“พี่สาม พี่สะใภ้สาม…” น้องใหญ่กลืนก้อนสะอึก
“พ่อครับ แม่ครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องน้องใหญ่หรอก ให้เธอแต่งงานเถอะนะ? หากไม่ไหวจริง ๆ ก็ค่อยกลับบ้านก็ได้!”
*[1] อุปมาว่าเป็นความรักที่ไม่สมหวัง จากบทกวีเรื่อง 神女赋 เนื้อเรื่องกล่าวว่า กษัตริย์ฉู่ชอบเทพธิดาเหยาจี๋มาก เพียรพยายามไล่ตามเธอไป แต่เทพธิดาไม่ปรารถนาจะพบเขา