เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 356 ครูใหญ่บอกกฎมาสิ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 356 ครูใหญ่บอกกฎมาสิ

บทที่ 356 ครูใหญ่บอกกฎมาสิ

หลังจากขบคิดเรื่องนี้ หัวหน้าอู๋ที่ชอบร่ำสุราก็ตัดสินใจได้ในที่สุด! ครูใหญ่จินเฝ้ามองอีกฝ่ายที่เคลื่อนไหว แล้วรีบเอ่ยปากทันที

“หัวหน้าอู๋ ผมรู้ว่าคุณเป็นคนที่ทุ่มเทในการทำงานนะ แต่บางเวลาที่ต้องผ่อนคลายก็ควรจะผ่อนคลายบ้างนะ!”

ล้อกันเล่นแล้ว เอกสารยังอยู่ในห้อง ถ้าอยากจะอ่านจริง ๆ ได้เกิดเรื่องใหญ่แน่

แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะรอช้าก็ไม่ได้อีก เขารอส่งคนมาทำดีกว่า แล้วใช้โอกาสตอนที่ประตูห้องเปิดแล้วทำลายมันให้หมดเลย

หัวหน้าอู๋ที่โดนครูใหญ่จินรั้งไว้ อีกทั้งตนยังคิดอยากจะดื่มต่อด้วยก็เกิดความลังเลใจ ตอนนั้นครูใหญ่กู้พูดว่าอย่างไรนะ?

เหมือนจะบอกว่าให้เขารีบไปอ่านกระดาษคำตอบ แต่ไม่ได้บอกว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนนี่นา

หรือจะรออ่านพรุ่งนี้เช้าเลยทีเดียว สุดท้ายโรคพิษสุราเรื้อรังก็เอาชนะเหตุผล และหัวหน้าอู๋ก็ผ่อนปรนในทันที

“ครูอวี่ รีบไปหาคนมาซ่อมประตูเถอะ แต่คุณต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองนะ โรงเรียนไม่มีงบให้!”

ถึงครูใหญ่จินจะไม่กล้าลองดีกับครูอวี่อีก แต่เขาก็ยังพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

ครูอวี่เห็นอีกฝ่ายตั้งใจจะไปก็มองทะลุความคิดเจ้าตัวออก และไม่ได้พูดอะไร

เหอะ ไม่บอกหรอกนะว่าครูใหญ่กู้ก็อยู่ที่นี่น่ะ!

เขาอยากจะเห็นนักว่าคนแซ่จินจะคายดอกไม้ไหนออกมา*[1] ตอนเผชิญหน้ากับครูใหญ่!

“ครูอวี่ ไม่ต้องคิดเยอะหรอก ผมเองก็ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่คุณโดยเฉพาะเสียหน่อย คุณควรรู้นะว่าทุก ๆ อย่างมันมีกฎของมันอยู่! คุณทำลายทรัพย์สินของโรงเรียน คุณต้องก็ชดเชยสิ! ถ้าคุณไม่ทำ แล้วโรงเรียนเราจะมีกฎไปทำไมล่ะ?”

ที่ครูใหญ่จินพูดเช่นนี้เพราะเชื่อว่าตนเป็นคนที่ดี!

ส่วนครูใหญ่กู้ที่บังเอิญออกมาพอดีเลยได้ยินเสียง มันทำเขารำคาญมาก

ถ้าเดาไม่ผิด ครูใหญ่จินควรรับผิดชอบเรื่องในวันนี้นะ ปกติเขาทำเรื่องงามหน้าก็ว่ามากพอแล้ว รอบนี้ยังไปแหย่คนอื่นจนเกือบโดนต่อยอีก

แล้วถ้าปล่อยอีกฝ่ายไว้อีก เขาคงอยู่ไม่สุขแน่

“ฉันอยากฟังครูใหญ่จินพูดนะว่ากฎของโรงเรียนคืออะไร?”

ครูใหญ่จินไม่คิดว่าจู่ ๆ ครูใหญ่กู้จะออกมาจากห้องเก็บเอกสาร เขาจึงได้แต่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ

ตอนนั้นเองที่ตระหนักได้ว่าไม่ใช่ครูอวี่ที่ทุบประตู แต่เป็นครูใหญ่กู้ต่างหาก

พอนึกถึงสิ่งที่เป็นไปได้ก็มองไปทางครูอวี่ด้วยสายตาแข็งกร้าว มันหมายความว่าเขากำลังตำหนิที่อีกฝ่ายไม่บอกข้อมูลสำคัญแบบนี้ให้ชัดเจน

เขาก็ไม่ได้บอกด้วยซ้ำ แรกเริ่มก็ไม่ได้ทำดีด้วย อีกทั้งยังขู่ว่าจะไล่เจ้าตัวออก แล้วทำไมครูอวี่จะต้องบอกล่ะ

หลังจากจ้องมอง เขาก็หันกลับไปหาครูใหญ่กู้ทันที

อีกฝ่ายเข้าไปในห้องเก็บเอกสารใช่ไหม?

เขาจงใจหักกุญแจแล้วแท้ ๆ เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าไปเอาเอกสารออกมาได้

แล้วนี่ยังหาโอกาสเข้าไปเอาเอกสารของเด็กบ้านซูออกมาตรวจได้อีกหรือ?

ถ้ามีคนเห็นมันแล้ว แล้วเรื่องที่เขาทำจะไปซ่อนไว้อีกได้อย่างไร?

เดี๋ยวก่อน ๆ ครูใหญ่กู้ถืออะไรอยู่ในมือน่ะ?

เหมือนกระดาษคำตอบเลย

ใช่จริงด้วย มันคือกระดาษคำตอบ!

และเขาก็นึกขึ้ันมาทันทีว่าการที่ครูใหญ่กู้ทุบประตูห้องเก็บเอกสารเพื่ออ่านกระดาษพวกนี้มันหมายความว่าอย่างไรนะ?

มันหมายความว่าครูใหญ่กู้รู้อะไรบางอย่างมาจริง ๆ

แถมยังรู้เรื่องหลักฐานด้วย

พอคิดแบบนี้แล้ว ครูใหญ่จินก็ยิ่งตื่นตระหนก เม็ดเหงื่อปรากฏขึ้นบนหน้าผาก

เขาเป็นผู้อาวุโสในโรงเรียนเหมือนกัน และยังเป็นรองครูใหญ่ที่กุมอำนาจที่แท้จริงอีกด้วย ปกติก็ชอบทำตัวอวดดีกับครูคนอื่นไปทั่ว

แต่ต่อหน้าครูใหญ่ เขากลับกลัวมาก

ครูใหญ่กู้ไม่ใช่คนที่ไม่มีรากฐาน อย่างน้อยคนที่คอยหนุนหลังเขาก็ไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามกับคนที่คอยหนุนเขาแล้วกัน

แม้แต่ในตอนที่ต้องแข่งกัน เขาก็ยังเป็นฝ่ายแพ้และได้เห็นอีกฝ่ายดำรงตำแหน่งครูใหญ่ ส่วนเขาเป็นแค่รอง

ยิ่งไปกว่านั้น ครูใหญ่กู้ยังเป็นคนที่มีความสามารถมากและเป็นคนเข้มงวด ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องทำให้ได้

แล้วถ้าครูใหญ่กู้ยืนยันว่าผลคะแนนในรอบนี้มันมีปัญหาแล้วจริง ๆ เขาจะต้องตรวจมันอย่างละเอียดแน่นอน เดาชะตากรรมเขาในตอนนั้นได้เลย

ไม่ได้การ ต้องห้ามไม่ให้ครูใหญ่กู้เห็นเอกสารจริงให้ได้

ครูใหญ่จินกวาดสายตาไปรอบ ๆ ก่อนจะบังเอิญเห็นถังข้างครูใหญ่กู้ที่เต็มไปด้วยน้ำ

เขาฉวยโอกาสพุ่งเข้าไปทันที

ก่อนจะตะโกนขณะวิ่งไปด้วย “ครูใหญ่ ทำไมทำเรื่องนี้ด้วยตัวเองล่ะครับ แค่ผมก็พอแล้ว คุณไปพักผ่อนเถอะ!”

ตอนที่ครูใหญ่จินวิ่งไปด้านข้างครูใหญ่กู้นั้น เขาหมายจะฉกกระดาษมาจากมือด้วย

แต่มีหรือที่ครูใหญ่กู้จะปล่อยไปง่าย ๆ?

กระดาษพวกนี้เป็นอุบายทั้งนั้น และตอนนี้ก็แน่ใจแล้วด้วยว่า คนที่ทำมันได้ปรากฏตัวออกมาแล้ว ซึ่งก็คือคนตรงหน้าเขานั่นเอง!

ครูใหญ่กู้หลบอีกฝ่ายที่วิ่งมาอย่างเงอะงะ ครูใหญ่จินตัวเล็กและก็อ้วนเล็กน้อย อีกทั้งยังไม่ค่อยระวังตัว

พอโดนคนหลบ เขาก็เสียศูนย์ถ่วงอย่างแรงจนพุ่งเข้าไปที่ถังน้ำ

เพราะถังใบเล็ก ตัวเลยไม่ได้เข้าไปในนั้น แต่น้ำในถังก็หกออกมาจนหมด และบังเอิญโดนร่างกายคนล้มจนเปียกไปทั้งร่าง

“ครูใหญ่จิน ทำไมประมาทแบบนี้ล่ะ? คุณทำถังน้ำคว่ำนะ รู้ไหมว่าประเทศเราสนับสนุนการประหยัดน้ำน่ะ?”

“ผมจำได้นะว่าคุณเคยเป็นครูสอนภูมิศาสตร์ คุณไม่รู้หรือว่าประเทศเราขาดแคลนทรัพยากรน้ำขนาดไหน? พวกเราทุกคนควรประหยัดน้ำ จะทิ้งขว้างแบบคุณไม่ได้!”

ครูใหญ่กู้ร้องเหอะ แล้วเริ่มสั่งสอนรองครูใหญ่

เดิมทีอีกฝ่ายคิดจะฉกกระดาษคำตอบไปจากมือเขา จากนั้นเหมือนว่าจะโยนมันลงในถังน้ำเพื่อทำลายทิ้งซะ

แต่ใครจะรู้เล่าว่านอกจากทำไม่ได้แล้ว ยังทำให้ตัวเองเปียกอีก คนแซ่จินคนนี้เขาจะต้องสั่งสอนให้ได้

แต่โชคดีที่ตอนนี้เป็นฤดูร้อน ถึงเสื้อผ้าจะเปียกก็ไม่สำคัญหรอก แต่อย่างไรก็น่าขายหน้าอยู่ดี

“ครูใหญ่ ผม…”

รองครูใหญ่คิดจะแก้ตัวเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“ครูใหญ่จิน คุณคิดจะพูดอะไรผมรู้นะ คุณประมาทเลินเล่อมาตลอดเลย แล้วรอบนี้ก็ทำถังน้ำคว่ำอีก ผมจะไม่โทษคุณหรอกนะ แต่ต้องเตือนสักหน่อยว่าอย่าทำเรื่องผิดพลาดแบบนี้อีกเด็ดขาด”

“พวกเราเป็นครู ถ้าเราเป็นครูไม่ได้แล้วจะสอนศิษย์ได้ยังไง?”

“เอาแบบนี้แล้วกันนะครูใหญ่จิน คุณกลับไปเขียนรายงานทบทวนตัวเองมา ถึงเวลาประชุมเมื่อไรเราค่อยมาว่ากัน ต้องเขียนให้ดีนะ ต้องตระหนักถึงความผิดพลาดที่ใช้ทรัพยากรน้ำไปอย่างสิ้นเปลืองด้วย!”

ครูใหญ่กู้พูดด้วยท่าทางจริงจัง รูปร่างหน้าตาราวกับว่าครูใหญ่จินทำผิดพลาดครั้งใหญ่ ทั้งยังแสดงท่าทีเสียใจ และคาดหวังว่าครูใหญ่จินจะกลับตัวกลับใจได้

ครูใหญ่จินหัวหมุนเสียแล้ว

ก็แค่ถังน้ำไม่ใช่หรือ มันกลายเป็นเรื่องใช้ความคิดได้อย่างไรเนี่ย?

แล้วยังให้เขาทำรายงานทบทวนตัวเองตอนประชุมอีก?

เขาเป็นรองครูใหญ่ที่สง่างามนะ แบบนี้ไม่เสียหน้าแย่หรือ?

มีเหตุผลอะไร?

มันมีเหตุผลอะไรกันแน่!

“ครูใหญ่ ผมเข้าใจความผิดพลาดแล้ว ไม่เขียนรายงานทบทวนตัวเองได้ไหมครับ?” ครูใหญ่จินต้องเลือกที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

*[1] พูดจาเป็นเรื่องเป็นราว

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท