บทที่ 860 จับไว้ได้
บทที่ 860 จับไว้ได้
เสี่ยวเถียนใส่ข้อมูลไว้ในระบบแล้ว ตอนนี้จึงโล่งใจขึ้นมาก เสิ่นจื่อเจินกับซานกงเหนื่อยล้าทั้งวันจากการนั่งเกวียนวัว แม้จะนึกห่วงเรื่องความปลอดภัยเอกสาร แต่หลังจากได้เอนกายลงนอนบนเตียงก็ผล็อยหลับไปทันที
กลางดึกคืนนั้น ประตูห้องของเราถูกเปิดออกอย่างระมัดระวังจากด้านนอก มีคนเข้ามาในห้องเรา ไม่รู้ว่าเพราะความบังเอิญหรือความรู้สึกไว้ของเสี่ยวเถียนทำให้ตื่นขึ้นในทันที
เธอลืมตาขึ้นมาเห็นเงาร่างเงาหนึ่งนั่งยอง ๆ ค้นหาของใต้เตียงท่ามกลางแสงมืดสลัว ด้วยความที่มีนิสัยสงบของตนเอง เสี่ยวเถียนจึงไม่ตื่นตระหนกยามเห็นใครบางคนกำลังจะขโมยของ และนอนสังเกตชายคนนั้นอย่างใจเย็น เพราะต้องรู้ก่อนว่า จุดประสงค์ที่ชายคนนี้เข้ามาคือเงินหรืออย่างอื่น
ถ้าเขาต้องการเงินก็อาจปล่อยผ่านไปได้ แต่ถ้าเป็นอย่างอื่น เช่นเอกสารที่ใส่ไว้ในระบบก็ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่แล้ว อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่ามีคนกำลังเพ่งเล็งพวกเขาเอาไว้ แต่ไม่รู้ว่าบุคคลนั้นคือใคร
เสี่ยวเถียนนอนสังเกตเงียบ ๆ แม้แต่การหายใจยังมั่นคงราวกับหลับอยู่
การเคลื่อนไหวของเขาค่อนข้างรุนแรง จนทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าพี่สามกับอาจารย์หลับสนิทอยู่ได้ยังไงทั้งที่เสียงดังขนาดนี้ มันทำให้เธอสงสัยว่าทั้งสองแอบมองเหตุการณ์อยู่หรือเปล่า
แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีกลิ่นหอมจาง ๆ ลอยขึ้นในอากาศ กลิ่นมันจางมากจนแทบจะไม่ได้กลิ่น ถ้าไม่ได้ศึกษาเรื่องยามาก่อนจะเธอก็คงไม่รู้แน่ ๆ
กลิ่นหอมแบบนี้ถือว่าเป็นของคุณภาพสูง ตามที่เธอรู้มามันมีราคาแพงไม่น้อย อีกฝ่ายเต็มใช้ของแบบนี้ แสดงว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาเอาเงินอย่างแน่นอน เพราะถ้าคิดจะมาลักทรัพย์ ไม่จำเป็นต้องใช้ของดีขนาดนี้หรอก
เสี่ยวเถียนเข้าใจได้ทันทีว่าพวกเขาต้องมาเอาเอกสารการวิจัยของเราแน่นอน เพราะพวกเราตัดสินใจจะนั่งเกวียนวัวเข้าเมืองกะทันหัน อีกฝ่ายไม่มีทางรู้ด้วยว่าพวกเราจะนั่งรถไฟขบวนนี้แต่คนพวกนี้กลับหาห้องเราเจอโดยเฉพาะ
จู่ ๆ ก็นึกเรื่องเหตุการณ์ในสถานีขึ้นได้ แสดงว่าคนพวกนี้ต้องคอยสอดแนมเราอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้พี่สามและลุงเขยกำลังมึนเมากับกลิ่นยา ส่วนเธอต่อต้านไว้ได้จึงไม่มีส่งผลกระทบ แต่ตอนนี้เธอเองก็ไม่กล้าขยับตัวไปมา
เธอสามารถนิ่งสงบจนถึงตอนนี้ได้เพราะเคยเห็นโลกมาก่อน ถ้าเธอเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดา ๆ คงกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจตั้งแต่เห็นอีกฝ่ายเข้ามาแล้ว
จิตใจเสี่ยวเถียนราวกับถูกเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา เธอควรจะจัดการคนที่ค้นกระเป๋าข้างล่างทันที แต่ก็กลัวว่าถ้าตนเองเคลื่อนไหวแล้วศัตรูรู้ จับพี่สามไม่ก็ลุงเขยเป็นตัวประกันจะทำยังไง
พวกเขาอ่อนแรงเพราะกลิ่นยาที่กำลังมอมเมา
เสี่ยวเถียนนอนนิ่ง พยายามขบคิดหาหนทาง
เธออยู่เตียงบนสุด จัดการคนข้างล่างง่ายอยู่แล้ว
ใช่ ชั้นบน
จากสายตาที่กะระยะระหว่างเรา มันค่อนข้างลำบาก สุดท้ายก็คาดการณ์ได้ว่า ถ้าคนคนนั้นหาของไม่เจอ มันจะต้องขึ้นมาชั้นบนแน่ และนั้นแหละคือโอกาสจัดการมัน
จิตใจของเสี่ยวเถียนสงบลงไม่น้อย โอกาสมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นและมันจะไม่มีอีก เธอจึงไม่กล้าประมาทเลย
อย่างที่คิด ชายคนนั้นคุ้ยหาของที่ต้องการในสัมภาระเสิ่นจื่อเจินกับซูซานกงไม่เจอ เขาพึมพำ ๆ อะไรสักอย่าง เหมือนจะสบถทำนองนั้น เพราะเป็นเสียงที่เบามากจึงไม่ได้ยิน จากนั้นมันก็เตะกระเป๋ากลับไปใต้เตียง แล้วมองมายังเตียงชั้นบน
“ไม่คิดเลยว่าจะเอาของพวกนั้นไว้กับเด็กผู้หญิงคนนี้น่ะ”
ชายคนนั้นหัวเราะเบา ๆ และเอ่ยเสียงเบา ด้วยความที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ เลยทำให้เสี่ยวเถียนได้ยินชัดเจน เป็นน้ำเสียงที่ไม่คุ้นเคย ไม่ได้พูดภาษาถิ่นแต่เป็นภาษาจีนกลาง
ฟังจากน้ำเสียงน่าจะอายุประมาณสี่สิบปี ไม่รู้ว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังสั่งให้เขามาขโมยข้อมูลแบบนี้ แล้วมีเจตนาแอบแฝงอะไรกัน?
ถ้าข้อมูลส่วนนี้หายบอกได้เลยว่า งานวิจัยที่เสิ่นจื่อเจินทำมาในปีนี้ไร้ประโยชน์ทันที และอาจจะกลายเป็นผลงานคนอื่นเลยก็ว่าได้ มันไม่ใช่การสูญเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ เลยนะ
เสี่ยวเถียนหรี่ตามอง หากเป็นสายตาคนอื่นคนแทบไม่เห็นร่างชายคนนั้นที่กำลังเข้ามาใกล้ ๆด้วยความที่มีสายตาที่ดี ต่อให้หรี่ตามองแค่ปราดเดียว ก็ทำให้มองเห็นทุกการเคลื่อนไหวของบุคคลนั้นล่วงหน้าได้แล้ว อีกฝ่ายรีบปีนเตียงขึ้นมา และเคลื่อนตัวไปยังสัมภาระของเธอ
จังหวะนี้แหละที่เสี่ยวเถียนพุ่งเข้าไปล็อกคออีกฝ่ายทันที เฉินจื่ออันสอนท่านี้กับเธอ และมันลงมือง่ายมาก โดยเฉพาะถ้าเป็นคนที่ได้เปรียบในเรื่องความสูงใช้ท่านี้ แต่เธอเป็นแค่เด็ก และตัวไม่ได้สูงอะไร จึงไม่ค่อยได้ใช้มันเท่าไร
ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะมีประโยชน์
ชายคนนั้นไม่คาดคิดว่าเด็กสาวจะไม่ตกใจตนเลยสักนิด และคิดว่ายังใช้กลิ่นมอมเมาไม่เพียงพอ แล้วสาวน้อยบอบบางคนนี้เป็นสัตว์ประหลาดแบบไหนกัน? ไม่ใช่แค่นั้นยังนะ เธอยังจัดการเขาได้ในชัวพริบตาด้วยซ้ำ
เขาไม่มีแรงแม้แต่จะสู้กลับเลย
ต้องบอกก่อนว่าเขาได้รับการฝึกฝนมาอย่างมืออาชีพ จัดการคนสี่ห้าคนล้มได้อย่างง่ายดาย แต่ในตอนที่จะได้รับชัยชนะ กลับถูกทำลายโดยน้ำมือของเด็กหญิงคนนี้
เสี่ยวเถียนไม่คิดผ่อนแรง เธอไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ต่อต้านแน่นอน เธอบิดและตวัดหมุนอย่างง่ายดาย จากนั้นผลักอีกฝ่ายประชิดมุมห้องใกล้ ๆ กับเตียง ตรงนี้ถือเป็นจุดบอด ยิ่งโดนล็อกคอด้วยแล้วถือว่าติดกับดักเข้าแล้ว
“ปล่อย! ไม่งั้นเหล่าจื่อจะฆ่าแกซะ!”
ชายคนนั้นลดเสียงลงและขู่ด้วยท่าทางน่ากลัว หมายจะให้เด็กหญิงคนนี้ปล่อยตนเอง เขามั่นใจว่าถ้าเธอลังเลแม้เพียงครู่เดียว จะฉวยโอกาสใช้จังหวะนั้นจัดการเธอทันที