บทที่ 880 สู้หลานสาวบ้านอื่นไม่ได้เลย
บทที่ 880 สู้หลานสาวบ้านอื่นไม่ได้เลย
หลังจากกลับมารวมตัวกัน เราก็เกือบจะมากันครบแล้ว
ขาดก็แต่ซูอู่ร่าง
เหลียงซิ่วเสียใจนิดหน่อย แต่ก็รู้ว่าลูกชายกลับมาลำบาก ยังดีที่มีคนกลางและคนเล็กคอยอยู่เคียงข้างด้วย
ตอนสามสาวกินข้าว บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารละลานตาและพวกเธอก็เขินอายเกินกว่าจะตักมากินเอง แต่คนบ้านซูดูแลพวกเธอดีมาก และตักอาหารมาให้กินบ่อยครั้ง พวกเธอกินจนอิ่มได้ภายใต้การต้อนรับของคนบ้านซูเลย
ส่วนฉีเสี่ยวฟางไม่มีปัญหาหรอก เธอกินเยอะอยู่แล้ว
แม้บ้านซูจะหลังใหญ่ แต่หลังจากทุกคนมารวมตัวกันมันจึงดูแคบลงถนัดตา
หลานชาย เฉินจื่ออัน ซูเหล่าเอ้อร์และคนอื่น ๆ ตามไปบ้านตู้
วันรุ่งขึ้นจะเป็นวันส่งท้ายปีเก่าซึ่งตรงกับวันที่ 30 เดือน 12
รุ่งเช้าคุณย่าซูให้หลาน ๆ เอาอาหารไปส่งที่บ้านเด็กกำพร้าที่บ้านปู่ถาน แล้วก็ถือโอกาสไปรับฉือเก๋อมาฉลองปีใหม่ด้วยกันเลย
เดิมทีซื่อเลี่ยงกับซานกงจะพาน้องแปดน้องเก้าไปด้วย แต่เสี่ยวเถียนอยากไปเหมือนกัน สุดท้ายก็เลยหิ้วน้องสาวและเพื่อนอีกสามคนไปแทน
พวกเราเดินทางมาถึงจุดหมายก็เห็นเด็ก ๆ สวมเสื้อผ้าตัวใหม่แล้ว
เด็กน้อยมีความสุขกันมากเมื่อเห็นคนมาใหม่
หลีอวี๋เหนียงกำลังซักเสื้อผ้าเด็ก ๆ อยู่ พอเห็นพวกเสี่ยวเถียนมาก็ลุกขึ้นต้อนรับทันที
“คุณย่า สามคนนี้เป็นเพื่อนหนูเองค่ะ พวกเขาอยากมาหาเด็ก ๆ น่ะ”
เสี่ยวเถียนยิ้ม ก่อนหยิบลูกอมนมแล้วแจกจ่ายให้เด็ก ๆ
“ขอบคุณครับพี่เสี่ยวเถียน” พวกเขาเป็นเด็กดีกันมาก
“พี่เจี้ยนหงเตรียมของมาให้ทุกคนด้วยนะ ถุงมือคนละหนึ่งคู่ ชอบหรือเปล่า?”
เด็ก ๆ ไม่คิดเลยว่าจะได้รับของขวัญปีใหม่ พวกเขาลูบถุงมือพร้อมใบหน้าที่แดงระเรื่อด้วยความดีใจ
“ขอบคุณครับพี่เจี้ยนหง มันสวยมากเลย!”
เฉียนเสี่ยวเป่ยกับฉีเสี่ยวฟางก็หยิบของขวัญที่เตรียมไว้ให้ออกมาเช่นกัน เป็นของที่ใช้งานได้จริง และเด็ก ๆ ก็ชอบกันมากเลยด้วย
ก่อนหน้ามีครอบครัวเลยรู้สึกว่าโชคดี แต่ตอนนี้กลายเป็นเด็กกำพร้า ทำให้รู้สึกว่าแค่ได้กินข้าวอิ่มก็พอแล้ว ไม่เคยนึกถึงของขวัญด้วยซ้ำ
ไม่คิดเลยว่าช่วงปีใหม่จะได้รับของมากมายขนาดนี้
สุดท้ายเป็นของขวัญจากเสี่ยวเถียน เธอเตรียมหนังสือให้เด็ก ๆ คนละเล่ม
เพราะพวกเขายังอายุน้อยอยู่ เธอจึงเลือกเป็นหนังสือการ์ตูนสำหรับเด็ก ๆ แทน แต่ละคนจะได้เรื่องราวที่แตกต่างกัน
“อ่านของตัวเองเสร็จแล้วเอาไปแลกกับเพื่อนอ่านได้ด้วยนะ ถ้าทำแบบนี้จะได้อ่านหนังสือได้เจ็ดเล่มเลยใช่ไหมล่ะ?”
เสี่ยวเถียนเอ่ยเสียงอ่อนโยน สอนให้พวกเขารู้จักแบ่งปัน แม้เด็ก ๆ จะลังเลที่ต้องมอบหนังสือให้คนอื่น แต่พอคิดตัวเองก็จะได้อ่านของคนอื่นด้วยเหมือนกันจึงพยักหน้ารับ
เห็นเจ้าพวกหัวไชเท้าดีใจ หลีอวี๋เหนียงก็มีความสุข เธอรับเด็ก ๆ มาเลี้ยง และทำตามขั้นตอนการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมแล้ว แต่การดำเนินเรื่องบ้านเด็กกำพร้ายังไม่เสร็จ จึงไม่สามารถรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลได้
โชคดีที่ได้ทุก ๆ คนช่วยเหลือ ไม่งั้นเราสองคนตายายคงลำบากกันมากกว่านี้
หลังจากนั้นพวกหลี่เจี้ยนหงได้ออกแรงช่วยซักผ้าให้
ไม่ใช่แค่นั้น พวกเธอยังซักผ้าปูที่นอนและผ้าห่มให้ด้วย
“ย่าจะปล่อยให้พวกหนูทำงานได้ยังไงกัน?” หญิงชราละอายใจมาก
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณย่าทำมาเยอะแล้ว พวกเราช่วยแค่ครั้งเดียวเองนะ!” หลังจากหลี่เจี้ยนหงแขวนผ้าปูที่นอนผืนสุดท้ายเสร็จ เธอก็ยิ้มให้อีกฝ่าย
เรามาจากชนบททุกคน ทำงานพวกนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ ยิ่งกับฉีเสี่ยวฟางที่กินเยอะแรงก็ยิ่งเยอะไปด้วย ขยี้สองสามทีก็เสร็จแล้ว
แต่เธอไม่ได้บิดนะ เพราะตอนเด็ก ๆ เคยทำแล้วดันทำขาด เลยมีหน้าที่คอยซักเท่านั้น
สาว ๆ หัวเราะลั่นเมื่อเพื่อนเล่าอดีตอันน่าเศร้าของตัวเอง
มีข้อเสียที่แข็งแรงไปสินะ
เด็ก ๆ ต่างมีความสุขกันมาก ทั้งได้ใส่เสื้อผ้าตัวใหม่และได้รับของขวัญในวันนี้
เสี่ยวเถียนกลัวว่าพวกเขาจะทะเลาะกัน แต่พวกเขาได้รับการสอนมาอย่างดี และไม่เคยต้องเกิดเรื่องที่ทำให้เธอกลัวเลย
แถมเด็ก ๆ ยังอ่อนน้อยถ่อมตน แม้ของขวัญที่ได้จะไม่เหมาะกับตัวเองก็ยังแลกกันเองได้
“ทุกคนเก่งมากเลย จากนี้ไปต้องดีกว่านี้แน่ ๆ!” เสี่ยวเถียนลูบหัวน้อง ๆ ด้วยความเอ็นดู
“พี่เสี่ยวเถียน คุณย่าคุณปู่บอกว่าให้พวกเราเรียนหนังสือกับพี่ครับ! พอโตขึ้นจะได้เก่งเหมือนพี่เลย!”
เสี่ยวเถียนไม่คิดเลยว่าเด็ก ๆ จะเห็นเธอเป็นแบบอย่าง เพราะตนก็ถือว่าเป็นลูกบ้านอื่นนะ
“แล้วพวกเธอเต็มใจเรียนกับพี่หรือเปล่า?” เธอโนเมตัวลงหาเด็ก ๆ แล้วถาม
เด็ก ๆ รีบพยักหน้าตอบ
จากนั้นเธอก็พาพวกเขามาช่วยกันทำความสะอาดลานบ้าน
เด็ก ๆ อายุยังน้อยทำผลงานยังไม่ค่อยดีเท่าไร แต่ทุกคนตั้งใจกันมากทีเดียว อันไหนที่ทำไม่ได้ ผู้ใหญ่ก็จะเข้ามาช่วย
จู่ ๆ เสี่ยวเถียนก็รู้สึกว่าจากนี้ไปคุณปู่ถานกับคุณย่าหลีต้องมีความสุขในภายภาคหน้าแน่เลย
ถึงจะไม่ใช่ลูกหลานโดยสายเลือด แต่ตราบใดที่ได้รับการศึกษาดี ๆ ก็สามารถประสบความสำเร็จได้
หลายคนอยู่คอยช่วยงาน คนที่เหลือก็ไปรับฉือเก๋อไปบ้านซู กว่าจะทำอะไรเสร็จก็บ่ายสองกว่าแล้ว
สาว ๆ ที่ยุ่งกันมาตลอดทั้งเช้ากินข้าวเที่ยงกันแบบง่าย ๆ
พอถึงบ้านซูจะได้ไม่ต้องพะวงเรื่องกินแล้ว ลงมือทำงานได้เลย
ทำความสะอาดลานบ้าน เก็บโต๊ะ ช่วยงานในครัว
สรุปแล้วไม่ว่าจะงานอะไร ขอแค่ได้เห็นก็จะทำทันที
ผู้หญิงที่ขยันทำงานมักจะเป็นที่ชื่นชอบเสมอ
คุณย่าซูยังหวังให้พวกเธอเป็นหลานสะใภ้ตามที่พวกลูก ๆ พูดเลย
แต่ถ้าหลานชายไม่ขยัน อันนี้น่าเสียใจกว่าอีก!
หลินหลินอยากช่วยบ้างแต่คุณย่าห้ามไว้
“ที่บ้านเรามีเจ้าพวกเหลือขอเต็มไปหมด เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานทีไรไม่รู้จักทำนู่นทำนี่เสียบ้าง เหมือนพวกลูกข่างนั่นแหละ ถ้าหมุนก็เอาแต่หมุน ถ้าไม่หมุนก็ไม่หมุนเลย”
แกมองหลานชายทั้งแปดด้วยความรังเกียจ ดีแต่กิน ไม่รู้ว่าชาติไหนจะช่วยงานคนอื่นเขาบ้าง!
หลานชายตระกูลซู “…”
บอกว่าสู้หลานสาวตัวเองไม่ได้ก็ว่าพอแล้วนะ นี่ยังเทียบกับหลานบ้านอื่นอีกเหรอ
ช่างเถอะ พวกเขาโตแล้ว ไม่สนใจเด็ก ๆ พวกนั้นหรอกนะ
หลานชายยังคงทำหน้าที่ตัวเองต่อไป
ส่วนคุณย่าซูก็ได้แต่บ่นพร่ำ ก่อนไปทำหน้าที่ของตนเอง