สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด – บทที่ 6 ตอนที่ 124

บทที่ 6 ตอนที่ 124

หลังจากหลีจื่อค้นพบ ชั่วขณะนั้นด้านหลังของเธอก็มีเสียงชีสร้องดังเข้ามา เมื่อหันกลับไปก็พบกับใบหน้าของชีสที่เกือบเต็มจอโน้ตบุ๊ค

“วางใจได้ ครอบครัวของนายไม่เป็นอะไรแค่หมดสติไปเท่านั้น” หลีจื่อรีบพูด

ชีสพูดอย่างรวดเร็วว่า “คุณอยู่ที่ไหน! ผมจะรีบไปหาคุณ!”

ทันใดนั้นหลีจื่อก็พูดว่า “ให้ฉันไปหานายเถอะ…อีกเดี๋ยวฉันจะไปแล้ว อืม รอฉันแปบนึง”

พูดแล้วหลีจื่อก็ปิดจอโน้ตบุ๊ค

ทันใดนั้นภาพฝั่งนั้นก็มืดไป ไม่เห็นอะไรอีกเลย ทั้งสนามบาสเกตบอลมีเพียงแค่ชีสและนีนี่…ชีสยังไม่วางใจ ถ้ายังไม่เห็นครอบครัวมาอยู่ข้างกายอย่างปลอดภัยจริงๆ แล้วจะวางใจได้ยังไง

“นีนี่ นีนี่?” ชีสเดินไปตรงหน้าของนีนี่ จับไหล่ของเธอ เขย่าเบาๆ และพูดว่า “นีนี่ เธอได้ยินที่ฉันพูดไหม”

ตอนนี้นีนี่ตัวแข็ง

ชีสทำได้เพียงฝากความหวังไว้กับหลงซีรั่ว มองดูรูบนเพดานสนามบาสเกตบอล…ไม่รู้ว่าตอนนี้ใต้เท้าหลงกับจุยเฟิงเป็นไงบ้าง

“ถ้าหาก…ถ้าหากฉันแข็งแกร่งหน่อยละก็”

ทันใดนั้นเขาก็คิดถึงปัญหาหนึ่ง…นั่นก็คือถ้าหากเขาแข็งแกร่งก็คงไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังแบบนั้น

สถานการณ์ที่ต้องเลือกให้คนใกล้ชิดของตัวเองตาย แม้จะเป็นเพียงแค่การคิดก็ยังรู้สึกหดหู่ใจ…เขาไม่รู้จริงๆ ว่าตอนนั้นเขาหยัดยืนมาได้อย่างไร

ความรู้สึกเหมือนหัวใจและร่างกายแหลกสลายในพริบตา…ไม่สามารถเลือกได้เลย ชีสเชื่อว่าถึงจะเปลี่ยนเป็นใครคนอื่นก็เลือกไม่ได้อยู่ดี

ในขณะที่ชีสกำลังครุ่นคิดเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น ประตูข้างหนึ่งของสนามบาสเกตบอลก็ถูกเปิดออกมา ทำให้เขาตกใจจนรีบหันไปมอง…เขามองเห็นผู้หญิงคลุมหน้าคนหนึ่งกำลังเดินแบกซูเสี่ยวซูเดินออกมา

“ไฮ”

“ทำไมคุณถึงเร็วขนาดนี้…”

ชีสชะงัก จากนั้นก็รีบวิ่งไปข้างกายผู้หญิงคนนั้น ซึ่งตอนนี้เขาถือว่าเธอเป็นผู้มีพระคุณผู้ยิ่งใหญ่ไปแล้ว

“อา ที่แท้ครอบครัวของนายก็ถูกซ่อนเอาไว้ด้านหลัง” หลีจื่อหยักไหล่และพูดว่า “ถ้ารู้ก่อนฉันคงไม่ต้องตามหาอย่างยากลำบากอยู่ข้างนอก เสียเวลาจริงๆ”

“ที่นี่…งั้นเหรอ” ชีสชะงัก รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ…เขากับครอบครัวของตัวเองและเสี่ยวเจียงห่างกันเพียงแค่ประตูนี้กั้นอย่างนั้นเหรอ

ชีสรีบเดินผ่านหลีจื่อไป ผลักประตูบานนั้นออกจนสุด เห็นน้องๆ ของเขาและเสี่ยวเจียงล้มอยู่บนพื้น…แต่ดูจากลักษณะแล้วปลอดภัยดี

“ขอบคุณมาก ขอบคุณจริงๆ…บุญคุณในครั้งนี้ ผมจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต” ชีสมองผู้หญิงคลุมหน้าอย่างซาบซึ้งใจ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพูดว่า “บุญคุณในครั้งนี้ ผมจะต้องตอบแทนอย่างแน่นอน”

“เอ่อ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้เลย” หลีจื่อวางซูเสี่ยวซูลงและพูดในทันใดว่า “ใช่แล้ว จะบอกนายอย่างนึงนะ ดูเหมือนเจ้าเด็กเมื่อกี้จะไม่ได้คิดจะฆ่าครอบครัวและเพื่อนของนายจริงๆ หรอก…นายดูสิ นี่เป็นของที่ฉันพบบนร่างของพวกเขา”

หลีจื่อยื่นมือออกมา แบมืออกให้เห็นถุงเลือดขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ

ชีสรับมันมาจากมือของหลีจื่อโดยไม่รู้ตัวและพูดว่า “จุยเฟิง…แต่เห็นได้ชัดว่าเขา…”

“เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้แล้ว คงเป็นเรื่องระหว่างพวกนายใช่ไหม”

หลีจื่อหยักไหล่และพูดว่า “ฉันก็ไม่เข้าใจว่าเจ้านั่นคิดอะไรอยู่ สายนั้นแบบนั้นเต็มไปด้วยความรุนแรงและการฆ่าล้างจริงๆ อา…ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจพวกนายจริงๆ เอาเถอะ ไม่ยุ่งแล้ว เอาล่ะ ฉันลาก่อนนะ บ๊ายบาย~ลาก่อน”

“รอเดี๋ยว คุณยังไม่บอกชื่อคุณกับผมเลย ผู้มีพระคุณ”

“เอ่อ…”

หลีจื่อเอามือจับคาง ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งถึงพูดว่า “อืม ถ้านายคิดจะตอบแทนบุญคุณฉันจริงๆ ก็เอาแบบนี้เถอะ…ต่อไปถ้าพบมนุษย์ที่ชื่อว่าเริ่นจื่อหลิงแล้วเธอเจออุปสรรคหรืออันตรายอะไรอยู่ก็ช่วยเธอหน่อยแล้วกัน แต่นายห้ามบอกเธอนะ ต้องแอบทำ เธอไม่รู้ว่าในโลกนี้มีปีศาจอยู่”

“เริ่นจื่อหลิง…มนุษย์?” ชีสสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยักหน้าและพูดว่า “ได้ครับ ผมจำเอาไว้แล้ว จะไม่ลืมแน่นอน”

“บ๊ายบาย~”

หลีจื่อที่คลุมหน้ากระโดดอย่างสบายๆ จากไปทางรูบนเพดาน แต่ก็ไม่ได้พูดถึงว่าจะไปไหน

เธอเพียงแค่หาสถานที่ซ่อนตัวและจับตามองไปยังแสงสีทองและสีม่วงสองสายที่กำลังพัวพันกันอย่างบ้าคลั่งกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน

แสงวาววาบที่เกิดจากแสงสีทองและสีม่วงปะทะกันอยู่ท่ามกลางแสงสปอตไลท์จำนวนมากเหนือสนามกีฬา…พวกมันซ่อนอยู่ท่ามกลางแสงสปอตไลท์เหล่านี้ และดูเหมือนจะเพิ่มความพิเศษให้แสงสปอตไลท์ที่ซ้ำซากน่าเบื่อเหล่านี้ให้ดูงดงามขึ้น

แต่เพราะได้แสงสปอตไลท์จำนวนมากเหล่านี้ทำให้การต่อสู้ที่ดุเดือดไม่เป็นที่สังเกตของผู้คนนับหมื่นด้านล่าง…หรืออาจจะพูดได้ว่าพวกเขาไม่ได้ใส่ใจเลยกันนะ

พวกเขาล้วนแต่ถูกบรรยากาศอันร้อนแรงบนเวทีดึงดูดให้จ้องมองบนเวทีขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ดูเหมือนว่าได้ลืมทุกอย่าง…ไปแล้ว

“นี่คือมังกรแท้จริงแห่งแผ่นดินเทพจริงๆ งั้นเหรอ…ทำไมถึงรู้สึกว่าไม่ได้แข็งแกร่งยิ่งใหญ่เหมือนในตำนานเลย”

หลีจื่อกำลังยกกล้องเล็งไปกลางอากาศ “จุยเฟิงคนนี้มีที่มายังไงกันแน่ถึงได้ต่อสู้กับมังกรแท้จริงได้อย่างสูสีแบบนี้ แต่พูดแล้วก็น่าแปลก การต่อสู้เปิดเผยเช่นนี้ ทำไมถึงไม่มีใครสนใจเลย…โง่กันไปหมดแล้วเหรอ อา หิวจังเลย…”

“ท่านแม่ ตื่นสิ! ท่านแม่ ตื่นสิ!” ชีสกำลังเขย่าไหล่ของซูเสี่ยวซูเบาๆ…แต่ดวงตาของเธอยังคงว่างเปล่า เหมือนกับนีนี่ ส่วนคนอื่นๆ ก็เป็นเหมือนกัน

“กระดิ่ง…” ชีสคิดถึงฉากที่จุยเฟิงเอากระดิ่งออกมา…หรือต้องทำลายกระดิ่งอันนั้น

“ต้องแจ้งใต้เท้าหลงถึงเรื่องนี้”

ชีสสูดลมหายใจเข้าลึกๆ คิดจะเคลื่อนไหว…แต่ในพริบตาเดียวที่ขยับกลับได้ยินเสียง เขาหันมองไปยังมุมใดมุมหนึ่ง เป็นทิศทางของสนามกีฬาหลัก

เขาตั้งใจฟัง เสียงดังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ…ดูเหมือนกับมีใครยืนร้องเพลงอยู่ตรงหน้าของตนเอง เสียงที่แข็งแกร่งและทรงพลังนี้เป็นเสียงของกีตาร์ที่เหมือนกำลังบอกอะไรบางอย่าง…ทำให้เขาสติหลุดไปในทันใด

แต่ชีสก็ส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาฟังเพลง

“ชี…ชีส…”

“นีนี่!”

ครั้งแรก นี่เป็นครั้งแรกที่นีนี่เรียกชื่อของตนเอง ชีสดีใจมากรีบเดินเข้าไปตรงหน้าของนีนี่ “นีนี่! นีนี่! นีนี่! เธอได้สติแล้วเหรอ”

เห็นใบหน้าของนีนี่แฝงร่องรอยของการขัดขืน ทันใดนั้นเธอก็ล้มลงกับพื้น แต่ก็พยายามยันร่างกายขึ้นมามองชีส ดวงตาของเธอแดงก่ำ น้ำตาไหลลงมา “ชีส…ฉันมองเห็น…จุยเฟิงเขา…เขากำลัง ร้องไห้…ร้องไห้เพียงลำพัง…ร้องไห้…เจ็บปวดมาก…ชีส…”

“นีนี่ เธอกำลังพูดอะไร” ชีสขมวดคิ้วขึ้น

นีนี่เอามือกุมหัวของตนเองแสดงให้เห็นว่าเจ็บปวดมาก…ภายในสมองของเธอเหมือนมีพลังสองชนิดกำลังฉุดรั้งกันอยู่

อีกหนึ่งมาจากเสียงของจุยเฟิง อีกหนึ่งคืออะไร

เหมือนกับเสียงเพลงอะไร

แต่ก็เพราะพลังสองชนิดกำลังฉุดรั้งกันทำให้เธอได้สติ

เธอพูดอย่างยากลำบากว่า “ฉันไม่รู้…ไม่รู้…บางทีเขาอาจคิดว่า คิดว่าพวกเราล้วนถูกควบคุมหมดแล้ว เลยไม่รู้…แต่ แต่ว่าฉันเห็น…ฉันสามารถสัมผัสได้…เขา…พูดเรื่องอะไรแปลกๆ มากมาย…จุยเฟิงเขา เขา…”

“เขาเป็นอะไรกันแน่”

“ชีส…ระวัง…ข้างหลัง!”

“ข้างหลัง?” ชีสหันกลับไป แต่กลับเห็นเพียงเงาร่างดำสายหนึ่ง…เขามองเห็นเงาดำนี้ไม่ชัด รู้สึกเพียงดวงตาดำมืดลงอย่างฉับพลันและสลบไป

ชีสล้มลงไปและก็ถูกเงาร่างสีดำที่โผล่ออกมาอย่างกะทันหันคีบขึ้นมาไว้บนตัว…จากนั้นก็กระโดดหนีออกไปทางรูบนเพดานสนามบาสเกตบอล

ม่านตาของนีนี่หนักขึ้นเรื่อยๆ…

เธอแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะลุกขึ้นยืน ดูเหมือนพลังสองพลังที่ฉุดรั้งกันในหัวของเธอ สุดท้ายแล้วเสียงที่มาจากจุยเฟิงก็ชนะ

“ลุง…ซูโย่ว…? ทำไม…”

ก่อนที่นีนี่จะสลบไปเพราะรับพลังสองสายนี้ไม่ไหวนั้น เธอสามารถพูดออกมาได้เท่านี้

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด

มีตำนานเล่าขานกันว่า เมื่อคุณมีความปรารถนาอันแรงกล้า สถานที่แห่งหนึ่งจะปรากฏสู่สายตาของคุณ

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่แค่ตำนานเล่าขาน แต่มันมีอยู่จริง…ที่นี่

เมื่อคุณได้ก้าวเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ไม่ว่าความปรารถนาของคุณจะเป็นอะไร ที่แห่งนี้พร้อมจะบันดาลให้มันเป็นจริง

แต่เราไม่ได้ให้คุณเปล่าๆ ทุกความปรารถนาย่อมมีสิ่งแลกเปลี่ยน ถ้าคุณไม่รู้จะแลกกับสิ่งไหน เราก็มีตัวเลือกให้คุณ…ความสุข อิสรภาพ หรืออายุขัย?

คุณพร้อมจะแลกเปลี่ยนกับเราแล้วหรือยัง?

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ดยินดีต้อนรับ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท