บทที่ 965 แค่แสร้งว่าไม่เคยพบฉันก็พอ
บทที่ 965 แค่แสร้งว่าไม่เคยพบฉันก็พอ
เซี่ยหนานลุกขึ้นพร้อมเผยรอยยิ้มฝืน
“พวกพี่ช่วยชีวิตเสี่ยวเฉ่า เลี้ยงดูเธอจนเติบใหญ่ย่อมถือว่าเป็นพ่อแม่เขาค่ะ ชีวิตนี้ฉันจะไม่มีทางให้เสี่ยวเฉ่ารู้เรื่องนี้เด็ดขาด”
เธอหยุดไปครู่หนึ่งแล้วกล่าวต่อ “เห็นพี่ปฏิบัติต่อเขาเหมือนลูกสาวแท้ ๆ ฉันก็โล่งใจแล้วค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะกลับเมืองหลวงแล้ว ทำเป็นว่าไม่เคยพบฉันมาก่อนด้วยนะคะ!”
สิ้นประโยคก็ปิดหน้าร้องไห้ทันที
ท่าทางนี้ย่อมแสดงถึงความเจ็บปวดของเซี่ยหนานได้ดี
ทว่าเธอจำเป็นต้องทำแบบนี้
ทุกข์คนเดียวดีกว่าทุกข์กันหมด
เสี่ยวเถียนปิดหน้าร้องไห้เช่นกัน น้ำตาไหลซึมออกมา
นี่คือความรักของแม่ที่มีต่อลูกใช่ไหม?
เพื่อยืนยันว่าลูกสาวสบายดีและอยู่อย่างมีความสุข เธอจึงยอมเดินทางหลายพันลี้เพื่อมาหมู่บ้านหนานหลิ่ง
และในตอนที่ได้รับการยืนยัน กลับเลือกที่จะไม่ขอลูกคืน
“น้องสาว เธอพูดจริงหรือ? ไม่อยากรู้จักเสี่ยวเฉ่าเลยหรือ?” ภรรยาของฉางจิ่วไม่อยากเชื่อ
ในฐานะที่เป็นแม่คน ตนจะไม่เลือกวิธีนี้เด็ดขาด
เซี่ยหนานส่ายหัว “ฉันอยากรู้จักเธอนะคะ แต่ไม่อยากให้เสียใจ”
แม้ไม่ได้ติดต่อกันบ่อย แต่สัมผัสได้ว่าเธอเป็นเด็กอ่อนไหวง่าย
และสัมผัสได้ถึงความรักที่เสี่ยวเฉ่ามีต่อพ่อแม่ด้วย
เซี่ยหนานไม่อยากคิดเลยว่าเสี่ยวเฉ่าจะเสียใจแค่ไหนหากรู้ความจริง
สองสามีภรรยารู้สึกละอายใจขึ้นมา
รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนไม่ดีเลย
พรากลูกพรากแม่ออกจากกัน
ทั้งสองคนมองหน้ากัน
ส่วนเซี่ยหนานก็หมุนตัวจากไป
เสี่ยวเถียนรีบตามไปสมทบ
ภรรยาฉางจิ่วเห็นก็รีบเข้าไปหยุดไว้
“น้องสาว ฉันไม่ได้ใจร้ายนะ แต่ว่า…”
“ฉันเข้าใจค่ะ ขอบคุณที่เลี้ยงเสี่ยวเฉ่ามาอย่างดีนะคะ บุญคุณนี้ฉันจะจำไว้ ถ้าชาติหน้ามีจริง ฉันจะตอบแทนพวกพี่นะคะ”
ซูฉางจิ่วกับภรรยาเป็นคนจิตใจดีอยู่แล้ว จึงทนเห็นเซี่ยหนานเจ็บปวดไม่ได้
พวกเขาสบตากัน
ภรรยาฉางจิ่วกล่าวขึ้น “ไหน ๆ เธอก็มาบ้านเราแล้วพักสักคืนเถอะ ป่านนี้แล้วด้วย เธอยังไม่คุ้นเคยกับที่นี่แล้วจะไปพักที่ไหน? อีกอย่างไม่อยากรู้หรือว่าบ้านที่เสี่ยวเฉ่าเติบโตมาเป็นยังไงน่ะ?”
เสี่ยวเถียนตกใจ ก่อนหน้านี้ยังต่อต้านกันอยู่เลย ทำไมเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้ล่ะ?
เซี่ยหนานมองภรรยาฉางจิ่ว
“พี่สะใภ้…”
“ถือเสียว่าโชคชะตาแล้วกัน ไม่ว่าจะดีหรือไม่อย่างน้อยก็ใช่! คืนนี้พักที่ห้องเสี่ยวเฉ่านะ”
เซี่ยหนานไม่รู้จะพูดอะไรดี สุดท้ายก็ทำได้แค่กล่าวขอบคุณ
เมื่อเห็นดวงตาบวมช้ำ ภรรยาซูก็สงสารอีกฝ่ายจับใจ “หน้าตาสวย ๆ ร้องไห้จนหมดเสน่ห์แล้ว เดี๋ยวฉันไปตักน้ำมาให้ล้างหน้าล้างตาสักหน่อย ฉันได้ยินเขาบอกว่าถ้าเอาไข่ต้มมากลิ้ง ๆ แล้วจะไม่บวมด้วย”
ทำไมท่านถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้?
เสี่ยวเถียนมองคุณป้าด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
ก่อนหน้านี้ยังอยากให้อาจารย์เซี่ยออกไปไว ๆ อยู่เลย แล้วทำไมถึงตอนนี้ถึงดูอยากรู้จักกับเขานัก?
แถมยังจะต้มไข่ให้นวดตาอีก
ถึงช่วงหลังมานี้ชีวิตจะเริ่มดีขึ้น แต่ไข่ยังเป็นของมีค่าอยู่นะ
“คุณป้า…”
ภรรยาฉางจิ่วมองเคือง ๆ “ก่อนหน้านี้ไปล้างมะเขือเทศมาไม่ใช่หรือ? ทำไมไม่เอาไปให้อาจารย์เขาล่ะ?”
เซี่ยหนานว่า “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่หิว!” โนเวล-พีดีเอฟ
“คนในเมืองให้ความสำคัญกับผลไม้ไม่ใช่หรือ ชนบทเรา ๆ ไม่มีของอร่อยเลย มีแค่มะเขือเทศนี่ละ บ้านเราปลูกเอง มันมีคุณค่าพอ ๆ กับผลไม้แน่นอน!”
เสี่ยวเถียนหัวเราะ แล้วรีบไปหยิบมา
นอกบ้านมีคนอยู่เต็มไปหมด พอได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวก็พากันมองมา แต่เห็นแค่เสี่ยวเถียนวิ่งไปเท่านั้น
จากนั้นก็ตามมาด้วยผู้ใหญ่บ้าน
ส่วนผู้หญิงสองคนที่ตกเป็นเป้าสนทนากลับไม่ได้ออกมาด้วย
ซูฉางจิ่วยืนใต้ต้นสาลี่ มองใบไม้สีเขียวโดยที่ไม่พูดอะไร
ชาวบ้านอยากจะรู้เหลือเกิน แต่ไม่มีกล้าบุกเข้าไป
ฝั่งในบ้าน ภรรยาฉางจิ่วเอาน้ำมาให้เซี่ยหนานล้างหน้าพร้อมกับผ้าสะอาด
“นี่เป็นผ้าของเสี่ยวเฉ่าน่ะ ที่บ้านไม่มีของใหม่เลยเธอเอาไปใช้ก่อนนะ”
เซี่ยหนานกล่าวขอบคุณก่อนจะล้างหน้าล้างตา แล้วใช้ผ้าซับอย่างระมัดระวัง
แต่เสี่ยวเถียนรู้สึกว่าอาจารย์เห็นผ้าเป็นลูกสาวตัวเองหรือ?
ภรรยาฉางจิ่วก็เช่นกัน
เธอจึงอดเศร้าใจไม่ได้
เราต่างก็เป็นแม่คนกันทั้งนั้น
ตอนนั้นเองที่เธอนึกอะไรขึ้นได้
“น้องสาว เธอบอกว่าไม่อยากได้ลูกคืน แล้วคนอื่น ๆ ในครอบครัวเห็นด้วยหรือเปล่า?”
เสี่ยวเถียนเดินเข้ามาได้ยินพอดี หัวใจเธอพลันบีบรัดแน่น
มันเป็นประโยคที่ทำร้ายจิตใจอาจารย์เซี่ยหนานมาก
เด็กสาวเลยทำได้แค่ส่งสายตามองเขาอย่างประหม่า
“ฉันไม่มีครอบครัวค่ะ อยู่ตัวคนเดียวน่ะ”
ภรรยาฉางจิ่วตกใจ
จากนั้นก็มองหลานสาว แต่เสี่ยวเถียนไม่รู้จะบอกยังไง
“น้องสาว สามีเธอล่ะ?”
เสี่ยวเถียนอยากกุมขมับ แต่ผู้หญิงในหมู่บ้านเป็นคนตรง ๆ เนี่ยสิ จึงไม่แปลกใจที่จะถามแบบนี้
เซี่ยหนานมองออกไปข้างนอก
“ไม่มีแล้วค่ะ!”
ภรรยาฉางจิ่วไม่รู้จะพูดอะไร
เธออยากตบปากตัวเองนักที่ไปพูดจี้ใจดำเขา!
หลังจากนั้นก็ว่าต่อ “ขอโทษนะ ฉันไม่รู้น่ะ”
เซี่ยหนานยิ้มบาง ๆ “ไม่เป็นไรค่ะ มันผ่านไปแล้ว”
เธอไม่อยากพูดต่อ และอีกฝ่ายก็คงมองออกแล้วเช่นกัน
เธอจึงเปลี่ยนไปพูดถึงหัวข้ออื่น
“น้องสาว แล้วตอนแรกพลัดพรากจากลูกได้ยังไงหรือ?”
ถึงได้โดนหมามันคาบไปน่ะ!
เสี่ยวเถียนอยากเข้าไปบอกเหลือเกินว่าหยุดถามเรื่องพวกนี้เถอะ มันทำให้อาจารย์เขาอึดอัด
แต่ตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอาจารย์พลัดพรากจากลูกได้ยังไง
แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าเธอจะท้องทั้งที่ไม่แต่งงาน ด้วยสภาพแวดล้อมแบบนั้นน่ะ
อาจารย์เซี่ยหนานคงไม่อยากพูดถึงเหตุการณ์พวกนี้แม้แต่นิดเดียว
ในตอนที่เสี่ยวเถียนคิดหาวิธี เจ้าตัวก็เป็นคนตอบเอง
“หลังจากคลอดลูก ร่างกายฉันอ่อนแอมากค่ะ เลยเป็นลมอยู่ข้างถนน พอตื่นมาลูกก็ไม่อยู่แล้ว ฉันพยายามตามหาแล้วค่ะ แต่ไม่เจอเลย”
เซี่ยหนานเหมือนชะงัก
“แต่สุดท้ายฉันก็จากไปอยู่ดี เป็นความผิดฉันเองที่ไม่ตามหาเขาให้ดี”
เมื่อคิดถึงตรงนี้พลันเสียใจขึ้นมา ตอนนั้นเธอใจร้ายจริง ๆ ที่เลือกจะจากไป
ภรรยาฉางจิ่วทอดถอนใจออกมา