อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนพิเศษ 26 บังเอิญเสียจริง

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

ตอนพิเศษ 26 บังเอิญเสียจริง

ตอนพิเศษ 26 บังเอิญเสียจริง

หงเย่ไม่รู้ว่าไท่ฮูหยินกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ ยิ่งกว่านั้นคือไม่รู้ตัวว่าภาพลักษณ์ของตัวเอง ถูกทำให้สูงเกินเอื้อมในหัวใจของคนอื่น

ขณะที่นางสนทนากับไท่ฮูหยิน นางก็ตอบคำถามพื้นฐานได้อย่างไร้ที่ติ

นางไม่ได้ยืนขึ้นด้วยรอยยิ้ม จนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าด้านนอกประตู

เมื่อเห็นสองสาวสกุลหลานแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ รูปร่างอรชรอ่อนหวาน ดวงตาของนางก็ฉายแววเย้ยหยันทันที

วินาทีต่อมา นางยังคงเผยรอยยิ้มขณะชมเชยว่า “ช่างงดงามยิ่งนัก อ่อนหวานเหลือเกิน หวางเฟยจะต้องประหลาดใจเมื่อได้พบเจ้าค่ะ”

หลานสุ่ยหยวนและน้องสาวก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย พลางกัดริมฝีปากล่างเบา ๆ ด้วยความประหม่า

ไท่ฮูหยินจับมือพวกนาง แล้วให้คำแนะนำพวกนางเสียงเบา จากนั้นให้พวกนางตามหงเย่ออกจากจวนหลานไป

ขณะเดียวกัน แม่นมปู้ก็รีบไปที่เรือนของหลานสุ่ยชิง ใบหน้าของนางมีเหงื่อเล็กน้อย

“คุณหนู ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ? หากซิวหวางเฟยโปรดปรานคุณหนูรองและคุณหนูสามจริง ๆ แล้ววันข้างหน้าของพวกเรา…” จะไม่ยิ่งน่าเศร้ากว่าเดิมหรือ?

เยียนจือที่อยู่ด้านข้างกังวลมาก “คุณหนู ท่านต้องรีบคิดหาวิธี คุณหนูรองและคนอื่น ๆ มีจิตใจชั่วร้าย พวกนางจึงไม่คู่ควรที่จะเข้าไปในครอบครัวที่ดีอย่างตำหนักอ๋องซิว”

สายตาของหลานสุ่ยชิงจับจ้องไปที่กล่องบนโต๊ะเครื่องแป้ง บนนั้นมีไข่มุกที่ใครบางคนให้นางเมื่อคืนนี้

นางตกอยู่ในภวังค์ และเมื่อได้ยินสิ่งที่ทั้งสองพูด นางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “พวกเจ้าจะร้อนใจไปเพื่ออะไร? พวกนางสองคนแค่ไปเจอหวางเฟยไม่ใช่หรือ? ไม่ได้บอกว่าพวกนางจะเข้าไปอยู่ในตำหนักอ๋องซิวจริง ๆ เสียหน่อย ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือแค่ต้องเตรียมการให้ดี อีกสักพักเนี่ยนเนี่ยนและจวิ้นจู่จิ่นซิ่วจะมาที่นี่แล้ว อย่าได้ละเลยพวกนาง”

หลานสุ่ยหยวนกับหลานสุ่ยเถียนจะเป็นอย่างไรนั้นไม่ใช่เรื่องของนาง นางตั้งตารอคอยการมาถึงของเนี่ยนเนี่ยน เพื่อให้อาการของแม่ของนางได้ทุเลาลง

สำหรับน้องสาวสองคนนั้น หากพวกนางไม่อยู่ก็จะดีกว่า เกรงว่านางจะไม่รู้ว่าแมลงเม่าแบบไหนที่จะออกมาจัดการกับนาง และนางจะเสียสมาธิเพราะต้องจัดการรับมือ

เอ๊ะ? หรือว่า…

ถูกต้อง ช่างเป็นเรื่องบังเอิญเสียจริง หากจวิ้นจู่จิ่นซิ่วมาที่นี่ในวันนี้ หลานสุ่ยหยวนและคนอื่น ๆ จะต้องสร้างปัญหาแน่นอน แต่จู่ ๆ ซิวหวางเฟยก็ต้องการพบพวกนางโดยไม่มีเหตุผล และพาพวกนางออกไปจากจวนหลาน

นี่… เป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือ?

หลานสุ่ยชิงรู้สึกแปลกใจมาก นางใช้นิ้วลูบโต๊ะเบา ๆโนเวล-พีดีเอฟ

แม่นมปู้และเยียนจือเห็นดังนั้น ก็ได้แต่ลอบถอนหายใจและไม่พูดอะไรอีก

แต่ก็ถอนหายใจเพราะกลัวว่าจะโชคร้าย หากซิวหวางเฟยโปรดปรานคุณหนูรองกับคุณหนูสามขึ้นมาจริง ๆ

เยียนจือประสานมือเข้าด้วยกัน หลับตาและเริ่มสาปแช่ง

ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าแผ่วเบาก็ดังขึ้นข้างนอก เยียนจือวิ่งออกไปดู และเห็นว่าเป็นไฉ่ซินที่อยู่ข้างกายไท่ฮูหยิน

เมื่อคิดว่าไฉ่ซินดูหมิ่นคุณหนูของพวกนางมาโดยตลอด สีหน้าของนางก็กลายเป็นบึ้งตึง ขณะก้าวเข้าไปถามว่า “พี่ไฉ่ซินถึงมาที่เรือนเล็ก ๆ ของเราด้วยเหตุอันใดมิทราบ?”

ใบหน้าของไฉ่ซินเรียบเฉย ในใจรู้สึกหงุดหงิด แต่นางไม่รู้ว่าเหตุใด ครั้งนี้ท่าทางของนางถึงดีกว่าครั้งที่แล้ว นางพูดเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าว่า “ไท่ฮูหยินบอกให้ข้ามาที่นี่ เห็นว่าจวิ้นจู่จิ่นซิ่วจะมาหาคุณหนูใหญ่ที่นี่”

เยียนจือหรี่ตาและนึกเย้ยหยันในใจ เมื่อรู้ว่าจวิ้นจู่จิ่นซิ่วใจดีกับคุณหนูของพวกนาง คนผู้นี้ก็เริ่มทำเป็นแล่นเรือไปตามลมใช่หรือไม่? หน้าด้านเสียจริง

นางพ่นลมหายใจเบา ๆ แล้ววิ่งกลับไปในเรือนอีกครั้ง

หลังจากนั้นไม่นาน หลานสุ่ยชิงก็เดินออกมาด้วยสายตาลึกล้ำ

ไฉ่ซินทักทายนาง แล้วพานางไปยังเรือนของไท่ฮูหยิน

ไท่ฮูหยินระมัดระวังเรื่องการมาถึงของจวิ้นจู่จิ่นซิ่วมาก และแสดงท่าทางถือยศถือศักดิ์ แต่หงเย่มาเชิญหลานสุ่ยหยวนกับน้องสาวไปด้วยท่าทางอ่อนน้อมก่อน ซึ่งทำให้ไท่ฮูหยินรู้สึกว่าสถานะของนางสูงกว่า อีกทั้งยังดูถูกจวิ้นจู่จิ่นซิ่วด้วยเล็กน้อย

แต่ภายนอก นางก็ยังคงให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

แต่ในขณะนี้ นางเอาแต่ครุ่นคิดเรื่องหลานสาวสองคนที่ไปตำหนักอ๋องซิว นางจึงไม่มีใจปั้นแต่งถ้อยคำดี ๆ ดังนั้นเมื่อจวิ้นจู่จิ่นซิ่วเสนอขอพบหลานสุ่ยชิง นางจึงตอบตกลงทันทีโดยไม่พูดอะไรสักคำ

ดังนั้นเมื่อหลานสุ่ยชิงหน้าเรือนของไท่ฮูหยินพร้อมกับเยียนจือ นางก็เห็นจวิ้นจู่จิ่นซิ่วและเนี่ยนเนี่ยนเดินออกมาพอดี

แม่นมซ่งที่เป็นผู้นำทางก้าวเข้าไปทักทาย และอธิบายด้วยรอยยิ้มทันที “คุณหนูใหญ่ ไท่ฮูหยินบอกว่านางอายุมากแล้วและไม่ค่อยสบายเล็กน้อย จวิ้นจู่เป็นแขกผู้มีเกียรติและมีอายุไล่เลี่ยกับคุณหนูใหญ่ ขอให้คุณหนูใหญ่ปฏิบัติต่อจวิ้นจู่อย่างดี อย่าได้เสียมารยาทเจ้าค่ะ”

นางหยุดชั่วครู่ แล้วกล่าวเสริมด้วยรอยยิ้ม “เดิมทีไท่ฮูหยินยังวางแผนให้คุณหนูรองและคุณหนูสามออกมาต้อนรับจวิ้นจู่ ทว่าน่าเสียได้ที่ไม่อาจทำได้ เพราะเมื่อเช้านี้ เหวินฮูหยินที่อยู่ข้างกายซิวหวางเฟยมาเชิญคุณหนูรองและคุณหนูสามไปตำหนักเป็นการส่วนตัว จึงเป็นเหตุผลให้ไม่อาจมาต้อนรับจวิ้นจู่ได้เจ้าค่ะ”

สองประโยคสุดท้ายนี้เป็นการโอ้อวดและเย้ยหยันอย่างชัดเจน

หลานสุ่ยชิงไม่สนใจเรื่องนี้ แต่นางรู้สึกว่าไท่ฮูหยินและหลานสุ่ยหยวนกับน้องสาวเพ้อฝันเกินไป แค่เชิญพวกนางไปตำหนัก ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น? บางทีอาจจะเป็นเพราะเรื่องเสิ่นเหวินเสียนตกน้ำเมื่อวานนี้ก็ได้ไม่ใช่หรือ?

เฮ้อ โชคดีที่พวกนางเอาแต่คิดไปในทางที่ดี พวกนางคิดว่าหลานสุ่ยหยวนกับน้องสาวจะได้แต่งงานเข้าตำหนักอ๋องซิว มันจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?

จิ่นซิ่วตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็กะพริบตา และหันไปมองเนี่ยนเนี่ยนทันที

เหมือนจะถามนางว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุใดมารดานางถึงเรียกหญิงอัปลักษณ์สองคนนั้นไปเจอ?

เนี่ยนเนี่ยนยักไหล่ บ่งบอกว่านางไม่รู้ว่าท่านแม่ของนางมีแผนการอะไรอยู่

อย่างไรเสีย เห็นทีสองพี่น้องสกุลหลานคงจะโชคไม่ดีเสียแล้ว

หลังจากพูดจบ แม่นมซ่งก็รู้สึกสาแก่ใจ แต่หลังจากรออยู่นาน ไม่ว่าจะเป็นหลานสุ่ยชิงหรือจวิ้นจู่จิ่นซิ่ว พวกนางก็ไม่ตอบสนองเลยแม้แต่น้อย ไม่มีแม้แต่สีหน้าประหลาดใจ ซึ่งน่าผิดหวังมาก

ใบหน้าเหี่ยวย่นของแม่นมซ่งกลายเป็นสีแดงเล็กน้อย นางจึงทำได้เพียงหาทางพูดแก้เก้อ “จวิ้นจู่จิ่นซิ่วมาที่นี่ มีคุณหนูใหญ่คอยต้อนรับก็ไม่ต่างกัน จะว่าไปแล้วจวิ้นจู่ก็เป็นเพื่อนผู้สูงศักดิ์คนแรกของคุณหนูใหญ่ด้วย”

หลานสุ่ยชิงหรี่ตาลง พวกคนรับใช้รอบกายไท่ฮูหยินล้วนเป็นคนหยิ่งยโส และชอบข่มเหงผู้ต่ำต้อย

นางหันหน้าไปบอกกับแม่นมซ่งว่า “แม่นมไม่ต้องกังวล ข้าจะดูแลจวิ้นจู่อย่างดี ในเมื่อท่านย่าไม่ค่อยสบาย แม่นมซ่งก็ควรกลับไปดูแลนาง”

“ใช่แล้ว ข้าเห็นหน้าแม่เฒ่าหลานค่อนข้างซีด เจ้ากลับไปได้แล้วแม่นม เราต่างก็เป็นเด็กวัยเดียวกัน คุยกันได้ถูกคอกันดี อย่างไรเสียแม่นมกับเราก็อายุห่างกันเกินไป ข้าเกรงว่าเราจะคุยกันไม่รู้เรื่อง”

จวิ้นจู่จิ่นซิ่วเชิดคางขึ้นเล็กน้อย นางวางตัวเย่อหยิ่งต่อหน้าคนอื่นเสมอ

ริมฝีปากแม่นมซ่งอดไม่ได้ที่จะกระตุกด้วยความไม่พอใจ หลังจากที่จวิ้นจู่จิ่นซิ่วพูดกับนางต่อหน้าเช่นนั้น นางกล่าวลาก่อนจะกลับไปที่เรือนของไท่ฮูหยิน

ทันทีที่นางจากไป จิ่นซิ่วก็เดินเข้ามาหาหลานสุ่ยชิง แล้วถามนางว่า “เกิดอะไรขึ้น? น้องสาวสองคนของเจ้า… เหตุใดพวกนางถึงได้เข้าไปในตำหนักอ๋องซิว?”

……………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ฝันหวานเกินไปแล้ว ถ้าถึงเวลาแล้วไม่เป็นไปอย่างที่ฝันไว้จะขายหน้ายกจวนนะ ดูท่าจวนหลานจะได้กินแกงหม้อใหญ่ๆ จากตำหนักอ๋องซิวเสียแล้วสิ

ไหหม่า(海馬)

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

Status: Ongoing
จากภรรยาผู้เป็นที่รังเกียจของสามีและถูกใส่ความว่าเป็นชู้กับบุรุษอื่นจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน​ อีกหกปีให้หลังได้เป็นหมอหญิงฉายา​ ‘หมอปีศาจ’​ ผู้ลือนามพร้อมบุตรชายแสนซนที่สรรหาเรื่องราวต่างๆ​ รวมถึงบุรุษที่คาดว่าจะเป็นบิดาตนมาให้ไม่หยุดหย่อน​ อวี้ชิงลั่ว​ แพทย์หญิงมือฉกาจจากยุคปัจจุบันผู้ทะลุมิติ​มาเข้าร่างของหมอปีศาจผู้นี้จะทำอย่างไรต่อไปดี​ ในเมื่อปริศนาเกี่ยวกับตัวเองก็ต้องสืบ​ ส่วนบิดาของลูกติดเจ้าของร่างก็ต้องหา?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท