อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนที่ 163 มีปัญหาอะไร

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

ตอนที่ 163 มีปัญหาอะไร

ฮูหยินใหญ่ถึงกับสูดลมเย็นเข้าปาก สิ่งนี้ไม่ใช่ของธรรมดา ทั้งประณีตและเล็กกะทัดรัดเช่นนี้ เมื่อได้มองหยกแขวนโดยละเอียดแล้ว มันก็ดูคล้ายกับ…ของที่อยู่ในวัง

หรือว่าแม่นางชิงคนนี้ จะเป็นองค์หญิงจากในวัง?

ฮูหยินใหญ่แอบเหลือบมองนาง เมื่อเห็นว่านางใช้ผ้าคลุมปิดบังใบหน้าตลอดเวลา ก็ยิ่งดูคล้ายขึ้นหลายส่วน

ได้ยินมาว่าองค์หญิงในวังต่างก็ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้อย่างมาก ของที่องค์หญิงชื่นชอบหรือเรื่องอะไรที่ชอบทำ ฮ่องเต้ก็จะไม่ขัดขวาง หรือว่าองค์หญิงชื่นชอบทักษะทางการแพทย์ ฮ่องเต้จึงปล่อยให้นางได้ทำตามใจปรารถนา?

แต่ว่า…แต่ว่า…ไม่ว่าแม่นางชิงผู้นี้จะเป็นองค์หญิงหรือไม่ จากหยกแขวนที่นางนำออกมา รวมถึงพลังที่อยู่บนร่างกายของนาง สถานะของนางย่อมไม่ใช่น้อย ๆ

นอกจากนี้ เมื่อครู่…เสนาบดีฝั่งขวาก็ติดตามนางเข้ามาในจวนอวี๋ด้วย

ฮูหยินใหญ่ยื่นหยกแขวนกลับไปให้อวี้ชิงลั่วอย่างระมัดระวัง แย้มยิ้มด้วยท่าทางประจบประแจงยิ่งขึ้น “หยกแขวนชิ้นนี้ แม่นางชิงต้องเก็บไว้ให้ดี ๆ หากทำหายโดยไม่ทันได้ระวัง คงน่าเสียดายแย่”

อวี้ชิงลั่วเก็บหยกแขวนไว้อย่างดี จึงอมยิ้มด้วยท่าทางที่ทำให้คนที่เห็นพึงพอใจอย่างมาก “งั้นหรือ? เช่นนั้นคงต้องขอบคุณฮูหยินมากที่เตือน จริงสิ ข้าได้ยินคุณชายอวี๋พูดว่าอาการป่วยของคุณหนูอวี๋เป็นมาระยะหนึ่งแล้ว ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เรียนฮูหยินช่วยเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่?”

“คุณหนูอวี๋?” ฮูหยินใหญ่ชะงัก ในจวนแห่งนี้มีคุณหนูอวี๋ที่ไหนกัน?

“หืม? คุณชายอวี๋บอกว่าคนที่ป่วยเป็นน้องสาวของเขา หรือว่านางไม่ใช่คุณหนูอวี๋?” อวี้ชิงลั่วจงใจถามแสร้งทำเป็นไม่รู้

ฮูหยินใหญ่ได้สติกลับมาในทันที นางนึกถึงเรื่องที่อวี๋จั้วหลินบอกก่อนหน้านี้ จึงรีบตอบสนองด้วยการยิ้มแห้ง ๆ สองสามครั้ง พยักหน้าอย่างไม่หยุดพลางกล่าวว่า “ถูกต้อง ๆๆ เป็นคุณหนูอวี๋ ข้านี่เลอะเลือนจริง ๆ คุยกับแม่นางอยู่แท้ ๆ กลับเหม่อลอยเสียได้”

อวี้ชิงลั่วหัวเราะและก้าวเท้าเดินไปด้านหน้าต่อ

สองแม่ลูกคู่นี้ สมกับที่เป็นแม่ลูกกันจริง ๆ ดูเหมือนว่าหลี่หรานหร่านคนนั้นคงเหลือชีวิตดี ๆ อีกไม่มากแล้ว

“นี่ เจ้าทำอะไรเนี่ย? ยกยาเป็นหรือไม่ นี่เป็นยาที่จะนำไปให้ฮูหยินเชียวนะ แพงมากด้วย หากทำหกขึ้นมาใช้ชีวิตของเจ้าชดใช้ก็ใช้ไม่หมดหรอก” ขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินอยู่ จู่ ๆ ประตูห้องเล็กที่อยู่ข้าง ๆ ก็มีเสียงตำหนิด้วยความโกรธดังขึ้น

อวี้ชิงลั่วช้อนสายตามอง ก็พบว่ามีสาวใช้สวมใส่ด้วยชุดผ้าดิบกำลังถือถ้วยยาร้อน ๆ อย่างระมัดระวัง นิ้วมือขดงอเล็กน้อย คิดอยากจะดึงนิ้วกลับมาแต่ก็ต้องถือไว้ให้มั่น หน้าผากร้อนเสียจนเหงื่อเย็นผุดออกมา ทว่ากลับไม่กล้าทำยาที่อยู่ในถ้วยหกเลอะเทอะออกมา ทว่าข้างกายของนางยังมีสาวใช้ที่สวมด้วยชุดประณีตยืนอยู่ นางกำลังใช้นิ้วเคาะศีรษะของสาวใช้อีกคนอย่างไม่หยุด ทั้งยังใช้นิ้วหยิกแขนไม่หยุดด้วย

ฮูหยินใหญ่เห็นแล้วก็ถึงกับขมวดคิ้ว ส่งสัญญาณผ่านสายตาให้สาวใช้ที่อยู่ข้าง ๆ สาวใช้คนนั้นจึงรีบเดินไปด้านหน้า ถลึงตาใส่ทั้งสองคน “พวกเจ้ากำลังทะเลาะอะไรกัน ใช้ไม่ได้เลย”

สาวใช้ที่สวมใส่ด้วยชุดประณีตเห็นมีคนมา ก็รีบก้าวเท้ามาด้านหน้าเพื่อประจบประแจงและทำเป็นไม่ได้รับความเป็นธรรม “พี่ซานนี่นา? โถ่ เรื่องนี้จะโทษข้าได้อย่างไรกัน ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเยว่ซิน ให้นางถือถ้วยยายังถือไว้ไม่ได้ นั่นเป็นของ…”

“หุบปาก ไม่เห็นรึว่าฮูหยินก็อยู่ที่นี่ด้วย?” ฟางซานรีบส่งสายตาให้อีกฝ่าย โบกมือเพื่อไม่ให้นางพูดอะไรอีก

เยว่ซิน? อวี้ชิงลั่วเม้มปากหันไปมองสาวใช้ที่สวมใส่ด้วยผ้าดิบคนนั้น หลังจากเอะอะไปยกใหญ่ ความร้อนของยาถ้วยนั้นก็ลดน้อยลงแล้ว มือของสาวใช้คนนั้นก็ปรับตัวได้เช่นเดียวกัน ตอนนี้ไม่เห็นนางเกิดอาการเหงื่อซึมออกมาแล้ว นิ้วมือก็ไม่ได้ขดงอ เพียงแต่บริเวณฝ่ามือกลับมองเห็นปื้นสีแดง ๆ ปรากฏขึ้น

สาวใช้คนนี้ชื่อเยว่ซิน? นางจำได้ว่าตอนนั้นแม่นมเก๋อเคยพูดกับนาง สาวใช้คนนั้นที่ดูแลอวี้ชิงลั่วตั้งแต่เด็กชื่อเยว่ซิน ตอนนั้นที่เกิดเรื่องขึ้นกับนาง เยว่ซินถูกฮูหยินใหญ่ใช้ให้ไปทำงานหนักในห้องเก็บฟืน ทั้งยังหาปัญหามาให้นางทุกทุกสามวัน นางถูกปล่อยให้หิวโซและถูกโบยบ่อย ๆ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายมาก

ทว่าสาวใช้คนนั้นกลับภักดีต่ออวี้ชิงลั่ว เมื่อได้ยินว่าเกิดเรื่องกับนาง จึงคิดอยากจะมาช่วย เพียงแต่วันนั้นนางถูกแม่เฒ่าโบยไปยกใหญ่จนทำให้นางลุกไม่ขึ้น

แม่นมเก๋อยังเล่าอีกว่า อาจเป็นเพราะอวี้ชิงลั่วออกจากจวนอวี๋ไปแล้ว ชีวิตของเยว่ซินจึงดีขึ้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าสถานการณ์ยังคงเลวร้ายเหมือนเคย

“แม่นางชิงอย่าได้ถือสา สาวใช้ในจวนไร้มารยาท ทำให้แม่นางต้องขบขันแล้ว มาเถิด เชิญทางนี้” ฮูหยินใหญ่เห็นนางเอาแต่มองไปยังเยว่ซินตลอด นางกลัวว่าอวี้ชิงลั่วจะเกิดความประทับใจที่ไม่ดี จึงรีบเบี่ยงเบนความสนใจ

อวี้ชิงลั่วเบนสายตากลับมา แย้มยิ้มเบา ๆ “จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? เมื่อครู่ข้าได้ยินพวกนางพูดว่า ยานี้นำไปให้ฮูหยินดื่ม ฮูหยินเป็นอะไรหรือ? ร่างกายไม่สบายตรงไหน อยากให้ข้าช่วยดูให้หรือไม่?”

“หา?” ฮูหยินใหญ่ถึงกับตกใจ รีบส่ายหน้าพัลวัน “ไม่ต้อง ๆ เป็นแค่ยาบำรุงที่กินประจำ ต้มมาเพื่อบำรุงร่างกาย ไม่ต้องรบกวนแม่นางหรอก” ยานั้นไว้สำหรับหลี่หรานหร่านดื่ม สาวใช้คนนั้นนับวันยิ่งกล้าหาญ ถึงได้กล้าตะโกนเรียกหลี่หรานหร่านว่าฮูหยินต่อหน้านาง

อวี้ชิงลั่วตอบ ‘อ๋อ’ เบา ๆ ไม่ได้มองไปยังสาวใช้ทางฝั่งนั้นอีก แย้มยิ้มกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็หมดกังวล ฮูหยินต้องรักษาสุขภาพให้ดี มิเช่นนั้นคงทำให้คุณชายอวี๋ปวดหัวใจแย่”

ฮูหยินใหญ่ได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกมีความสุขอย่างมาก คิดว่าในคำพูดของแม่นางอวี้ก็นึกถึงบุตรชายของนาง คาดว่านางคงรู้สึกดีต่ออวี๋จั้วหลินเช่นกัน

ก็จริง ภายในเมืองหลวงแห่งนี้ ยังจะมีใครที่เป็นชายหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ หล่อเหลาและมีความสามารถเทียบชั้นกับบุตรชายของนางได้?

ระหว่างที่ทั้งคู่พูดคุยกันก็เดินทางมาถึงเรือนด้านหลัง ฟางซานเปิดม่านเพื่อให้ทั้งคู่เดินเข้าไป

แสงสว่างที่อยู่ด้านในห้องสว่างขึ้นอย่างมากภายในพริบตาเดียวจนอวี้ชิงลั่วมองเห็นการตกแต่งภายในห้องนี้ การตกแต่งห้องอ้างตามรูปแบบของฮูหยินทั้งหมด หลี่หรานหร่านผู้นี้ได้รับความโปรดปรานมากจริง ๆ

น่าเสียดาย หากอวี๋จั้วหลินและฮูหยินใหญ่รู้ว่าสตรีผู้นี้เป็นหมัน ไม่รู้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นเช่นไร

อืม…นางตั้งตารอคอยอย่างมาก

หลี่หรานหร่านเอนตัวอยู่บนเตียง ร่างกายดูอ่อนแอ แม้แต่การเปล่งเสียงพูดก็ไร้เรี่ยงแรง เมื่อเห็นฮูหยินใหญ่เดินเข้ามา จึงคิดอยากจะลุกเพื่อทำความเคารพต่อฮูหยินใหญ่

ฮูหยินใหญ่โบกมือ “เอาเถิด นอนลงไปเถิด ร่างกายไม่แข็งแรงอย่าได้ขยับตัวตามอำเภอใจเลย”

“เจ้าค่ะ ท่านแม่” หลี่หรานหร่านเอนตัวนอนอีกครั้ง จากนั้นสายตาจึงเหลือบมองที่อวี้ชิงลั่วที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มุมปากยกขึ้นเผยให้เห็นรอยยิ้มแข็งทื่อ “ท่านนี้คือแม่นางชิงสินะเจ้าคะ ต้องรบกวนแล้ว”

อวี้ชิงลั่วเดินมาด้านหน้าด้วยรอยยิ้ม ฟางซานหันไปส่งสายตาให้สาวใช้ภายในห้อง สาวใช้รีบยกเก้าอี้มาวางที่ข้างเตียงเพื่อให้อวี้ชิงลั่วนั่ง

“แค่ก ๆ…” อวี้ชิงลั่วให้นางยื่นมือออกมา หลี่หรานหรานกลับยกมือปิดปากไอสองครั้ง ก่อนจะยิ้มให้นางด้วยความเกรงใจ

อวี้ชิงลั่วไม่ได้รู้สึกหงุดหงิด ทว่าหลังจากเสียงไอนั้น เพียงไม่นานด้านนอกก็มีสาวใช้คนหนึ่งยกถ้วยยาเข้ามา

อวี้ชิงลั่วเห็นได้อย่างชัดเจน สาวใช้คนนี้คือสาวใช้ที่ทะเลาะกับเยว่ซินที่อยู่ข้างนอกเมื่อครู่มิใช่หรือ?

“คุณหนู ยาของท่าน รีบดื่มตอนที่ยังร้อนเถิดเจ้าค่ะ”

คุณหนู? อวี้ชิงลั่วถึงกับเลิกคิ้วขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ อวี๋จั้วหลินผู้นี้มีควาสามารถจริง ๆ สามารถพูดให้หลี่หรานหร่านยอมแสร้งทำเป็นคุณหนูตระกูลอวี๋ต่อหน้านางได้ด้วย

หลี่หรานหร่านลุกขึ้นนั่งเล็กน้อย ยื่นมือออกไปเพื่อรับยา ทว่ายื่นมือไปได้ครึ่งหนึ่งก็หยุดลงอีกครั้ง “แม่นางชิง ข้าทราบดีว่าท่านมีทักษะทางการแพทย์ชั้นสูง ยานี้เป็นยาที่ท่านหมอคนก่อนจ่ายไว้ให้ข้า แต่ข้ากินมานานแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น รบกวนแม่นางชิงช่วยดูให้หน่อยเถิดว่ายานี้มีปัญหาหรือไม่?”

อวี้ชิงลั่วอยากหัวเราะเสียเหลือเกิน ทว่านางกลับพยักหน้าด้วยท่าทางจริงจัง ยื่นมือออกไปเพื่อรับยาถ้วยนั้น

สาวใช้คนนั้นและหลี่หรานหร่านแอบส่งสัญญาณให้กันผ่านสายตาโดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้ ก่อนจะยื่นถ้วยให้อวี้ชิงลั่ว

………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

ชิงลั่วคงแอบคิดว่าจะเอาตัวเยว่ซินออกจากจวนอวี๋ยังไงอยู่แน่ ๆ เลย

จะจัดฉากอะไรต่อหน้าชิงลั่วก็ดูสติปัญญาของชิงลั่วด้วย ไม่งั้นจากเป๊ะจะกลายเป็นโป๊ะนะ

ไหหม่า(海馬)

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

Status: Ongoing
จากภรรยาผู้เป็นที่รังเกียจของสามีและถูกใส่ความว่าเป็นชู้กับบุรุษอื่นจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน​ อีกหกปีให้หลังได้เป็นหมอหญิงฉายา​ ‘หมอปีศาจ’​ ผู้ลือนามพร้อมบุตรชายแสนซนที่สรรหาเรื่องราวต่างๆ​ รวมถึงบุรุษที่คาดว่าจะเป็นบิดาตนมาให้ไม่หยุดหย่อน​ อวี้ชิงลั่ว​ แพทย์หญิงมือฉกาจจากยุคปัจจุบันผู้ทะลุมิติ​มาเข้าร่างของหมอปีศาจผู้นี้จะทำอย่างไรต่อไปดี​ ในเมื่อปริศนาเกี่ยวกับตัวเองก็ต้องสืบ​ ส่วนบิดาของลูกติดเจ้าของร่างก็ต้องหา?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท