เทพสงครามอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 29-30

ตอนที่ 29-30

บทที่ 29 ค่ำคืนที่นอนไม่หลับ เรียกหาเพื่อนพ้อง!
ท่านหญิงสวีขมวดคิ้ว แต่กลับพูดอะไรไม่ได้เลย
ต้องยอมรับว่า เย่เทียนนั่น มีความสามารถที่สูงมาก
ไม่อย่างนั้น ตระกูลหู ตระกูลจ้าว ตระกูลหลินแต่ละตระกูลก็คงจะไม่ตกอยู่ในกำมือของเขาอย่างไม่สิ้นสุดอย่างนี้
รวมทั้งตระกูลหยางด้วย ก็ยังมีความผิดพลาดบางอย่างเกิดขึ้น!
“แล้วผู้นำหยางคิดว่า ตอนนี้พวกเราควรทำยังไงกันดี?”
หยางไห่ซานส่ายหัว: “คุณหญิงท่าน เรื่องนี้คุณต้องถามตัวคุณเองมากกว่า สองตระกูลเรากับเย่เทียนตอนนี้ก็คือไม่ยอมแพ้จนกว่าจะตาย ดังนั้น ต้องใช้พละกำลังที่มีออกไปให้หมด!แม้แต่ ยังต้องขอความช่วยเหลือ !”
ท่านหญิงสวีขมวดคิ้วขึ้น ตระกูลสวีและตระกูลหยางร่วมมือกันจัดการกับเย่เทียน ยังต้องขอความช่วยเหลืออีก นี่มันไม่ตลกไปหน่อยเหรอ?
“แล้วคุณคิดว่าจะลงมือตอนไหน?”
หยางไห่ซานครุ่นคิดสักพัก: “ยี่สิบหกวันหลังจากนี้ วันครบรอบวันตายของสวีเทียนเฉิง!”
อะไรนะ?
ทุกคนก็สูดลมหายใจเข้าไปหนึ่งที
ลงมือในวันที่ครบรอบวันตายของสวีเทียนเฉิง อย่างนั้นก็แปลว่าตบหน้าตระกูลสวีชัดๆไหม?
ท่านหญิงสวีรู้สึกไม่พอใจ กำลังจะแย้งขึ้น จู่ๆเสียงของสวีเว่ยเฟิงก็ดังขึ้น
“ผู้นำหยางใจกล้ามากจริงๆ คิดไปในทางเดียวกับฉันเลย!”
เมื่อเห็นการมาของสวีเว่ยเฟิง คนในตระกูลสวีรีบลุกขึ้นยืนต้อนรับ
“พี่ใหญ่ ถ้าหากเลือกในวันนั้น แบบนี้ไม่ใช่ว่าเพิ่มความทะเยอทะยานให้เย่เทียน ให้มาทำลายศักดิ์ของตระกูลสวีเราเหรอ?”
ท่านหญิงตระกูลสวีพูดอย่างประหลาดใจ
สวีเว่ยเฟิงมองไปที่หยางไห่ซาน ดวงตาที่ลึกซึ้ง
“จะตัดหญ้า ก็ต้องถอนราก!”
“ไม่เลว!” ดวงตาของหยางไห่ซานเป็นประกาย:“ตัดหญ้า ก็ต้องถอนราก!ฆ่าคน ก็ต้องมีแรงจูงใจ!”
……
ตระกูลหลี่ ผู้นำหลี่ฉงหนิงเดืนไปเดินมาในห้องโถง รู้สึกหงุดหงิดและสับสน
เย่เทียน มาด้วยความเย่อหยิ่งและรุนแรง หรือว่าต้องการให้ความยุติธรรมกลับให้เทียนเฉิงจริงๆ?
หรือว่า เป้าหมายของเขา คือครอบครัวใหญ่ทั้งสี่ ?
เมื่อนึกถึงคำรับเชิญของสวีเทียนหมิง เวลานี้ก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี!
“เป็นเรื่องยากมากที่ผู้นำหลี่ยังไม่เข้านอน หรือว่าจะมีอะไรในใจหรือเปล่า?”
เสียงเบาๆที่ดังขึ้น หลี่ฉงหนิงก็ขมวดคิ้วขึ้น เดินออกห้องโถงไป กลับเห็นสวีเว่ยเฟิงยืนอยู่ตรงหน้าประตู มีรอยยิ้มที่มุมปาก
“สวีเว่ยเฟิง? แม้แต่คุณก็นั่งไม่ติดเช่นกันเหรอ” หลี่ฉงหนิงพูดเบาๆ มีสีหน้าที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ด้วยใจที่เป็นธรรม เขาไม่อยากทำชั่วตามใคร
“การพัฒนาของชานเมืองทิศเหนือ ตอนนั้นตระกูลหลี่ไม่ได้รับการแบ่งปันผลประโยชน์เลย ในใจคุณคงไม่พอใจเป็นอย่างมากเลยสิ?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว หลี่ฉงหนิงคิ้วขมวดขึ้นทันที: “เงื่อนไข!”
สวีเว่ยเฟิงยิ้มอย่างลึกลับขึ้น:“ตระกูลหลี่ จะทำดีที่สุด เพื่อจัดการกับเย่เทียน!”
แน่นอน หลี่ฉงหนิงหลับตาลง ส่ายหัวเบาๆ
“ต้องขออภัยที่ต้องพูดตรงๆ ในเมื่อเย่เทียนกล้าพูดถึงขนาดนี้ ก็คงจะไม่กลัวการรวมตัวกันของครอบครัวใหญ่ทั้งสี่ เพื่อที่ดินผืนเดียว ใช้ทั้งตระกูลหลี่มาเป็นเดิมพัน คุณคิดว่ามันคุ้มไหม?”
สวีเว่ยเฟิงก็ไม่ได้คิดอะไร จู่ๆมุมปากก็กระตุก
“ถ้าหาก บวกกับยมราชอีกล่ะ?”
เมื่อได้ยินคำว่ายมราช จู่ๆดวงตาของหลี่ฉงหนิงก็เบิกกว้างขึ้น ทั่วหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
“คุณ เชิญได้แม้กระทั่งยมราชเหรอ?”
ยมราช ตามชื่อเลย ปีศาจมารที่ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา
ผู้นี้เป็นดั่งเหมือนเทพเจ้าและผี ไม่มีร่องรอยและเงา ไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา
ก็แค่เพราะได้ชื่อจากหน้ากากยมราชเท่านั้น!
แม้แต่ครอบครัวใหญ่ทั้งสี่ ก็กลัวผู้นี้เป็นที่สุด
ส่วนตระกูลสวี กลับเชิญท่านยมราชได้!
เพื่อเย่เทียนเพียงคนเดียว เขาอยากปั่นป่วนให้ทั่วทั้งหรงเฉิงให้โกลาหลวุ่นวายงั้นเหรอ?
สวีเว่ยเฟิงมีรอยยิ้มที่มุมปาก เหมือนกับว่าทุกสิ่งอย่างอยู่ในภายใต้การควบคุม : “ผู้นำหลี่ ตอนนี้ คุณเลือกได้หรือยัง?”
สายตาของหลี่ฉงหนิงรวมเป็นจุดเดียวกัน มีความสว่างที่แผ่วบาง!
……
ตระกูลจ้าว ผู้นำจ้าวหมิงเซิงที่ไม่เคยมีความขัดแย้งกับโลก
สำหรับคำรับเชิญของสวีเทียนหมิง ลืมไปนานแล้ว ตอนนี้ ก็หลับไปแล้ว
เขาไม่สนเย่เทียนอะไรทั้งนั้น ขอแค่คนอื่นไม่ลามไปถึงตระกูลขอเขา เขาก็จะไม่สนอะไรเลย
“ผู้นำจ้าว เพื่อนเก่ามาเยี่ยม คุณจะไม่ออกมาพบเจอหน่อยเหรอ?”
เสียงเยือกเย็นที่ไม่ส่งสัญญาณก็ดังขึ้น ทำให้จ้างหมิงเซิงเดิมที่หลับสนิทแล้วตื่นขึ้นมาทันที
“ใคร เป็นใคร?”
ขณะที่พูด มือขวาจับไปที่ปืนที่อยู่ใต้หมอนเบาๆ
“หึหึ ผู้นำจ้าวเป็นผู้อันประเสริฐที่ชอบลืมจริงๆ ตระกูลหลิวจากไป แค่สองสามปีเท่านั้น คุณก็ลืมฉันแล้ว?”เสียงที่เยือกเย็นดังขึ้นอีกครั้ง อยู่ภายใต้แสงมืดมนทำให้รู้สึกน่ากลัวมาก?
“คุณคือ.……ยมราช?”
จ้าวหมิงเซิงคิ้วขมวดขึ้น รีบลงมาจากเตียง ดันประตูออก เห็นแค่เงาร่างที่ไม่ชัดเจนอยู่ใต้แสงมืดมน
ได้เห็นหน้ากากสีสันแบบจางๆ!
“ยมราช คุณ คุณยังกล้ากลับมาอีกได้ยังไง? ถ้าหากมีคนจับได้ พวกเราก็จบกัน” จ้าวหมิงเซิงขมวดคิ้ว มีความหงุดหงิดเล็กน้อย
“ทำไมฉันถึงไม่กล้ากลับมาล่ะ?” ยมราชยิ้มติดตลก
“ในวันนี้ชิงหลงก็ไม่ได้อยู่ในหรงเฉิง มีใครที่เป็นคู่ปรับกับฉัน?”
“แต่ว่า.……” จ้าวหมิงเซิงก็ยังไม่วางใจ!
“ไม่มีแต่!” ยมราชขัดจังหวะของเขา: “ยี่สิบหกวันหลังจากนี้ จะเกินสงครามความเป็นความตายระหว่างตระกูลสวีกับเย่เทียน ฉันอยากให้คุณอยู่ข้างของตระกูลสวี”
“เรื่องอะไร?” สีหน้าจ้าวหมิงเซิงเปลี่ยนทันที: “นั่นเป็นเรื่องของพวกเขา ตระกูลจ้าวเราไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย!”
“คุณไม่มีทางเลือก!” เสียงที่เย็นชาของยมราช ทำให้สีหน้าของจ้าวหมิงเซิงซีดขาวมาก
“หลังจากคืนนั้นเมื่อสามปีที่แล้ว คุณก็ไม่มีทางเลือกแล้ว!จำไว้นะ ยี่สิบหกวันหลังจากนี้ ต้องใช้พละกำลังทั้งหมดที่คุณมีให้หมด ไม่อย่างนั้น ตระกูลจ้าว จะถูกนำชื่อออกจากหรงเฉิง!”
พูดจบ เสียงนั้นก็ค่อยๆไกลออกไป เงาที่มัวๆก็จางหายไปในแสงที่มืดมน!
จ้าวหมิงเซิงกำหมัดจนแน่น ภายในใจมีความดิ้นรนพัวพันอยู่มาก!
ตระกูลหยาง ตอนที่หยางไห่ซานวางสายลง ในที่สุดก็ถอนหายใจยาวๆอย่างโล่งอก
“คุณพ่อ คุณตาว่ายังไงบ้าง?”
ข้างๆ หยางเจียวเจียวที่ตั้งตารอคำถามอยู่
หยางไห่ซานหัวเราะอย่างได้ใจ: “หนูวางใจได้ คุณตาของหนูตอบตกลงแล้ว ให้คุณน้าของหนูมาจากในเมือง พรุ่งนี้ก็ถึงแล้ว”
“จริงเหรอคะ?” หยางเจียวเจียวดีใจขึ้นมาทันที!
“หนูได้ยินมาดูเหมือนว่าคุณน้าได้เป็นครูที่สนามรบชิงหลงแล้วไหม? มีคุณน้าช่วยสนับสนุนอยู่ข้างหลัง หนูจะดูว่าไอ้เย่เทียนนั่นจะหยิ่งผยองยังไงอีก!”
หยางไห่ซานอืมไปทีหนึ่ง ดวงตาเป็นขอบที่ไม่สิ้นสุด
ไพ่ตัวจริงที่เหนือกว่าของเขา ก็คือบ้านของพ่อตาที่อยู่ในเมือง
ตอนนี้ มีน้องเมียจะออกด้วยตัวเอง จัดการกับเย่เทียนคนเดียว มันง่ายต่อการจับมาก!
คืนนี้ กำหนดให้เป็นคืนที่ไม่หลับแน่นอน!
เพื่อที่จะจัดการกับเย่เทียนตระกูลสวีและตระกูลหยาง ได้เรียกเพื่อนพ้องไปทั่ว
สามารถจินตนาการได้เลยว่า ยี่สิบหกวันหลังจากนี้ หรงเฉิงต้องมีพัฒนาการที่ใหญ่อย่างรวดเร็วแน่นอน!
“คุณท่าน หรงเฉิงในคืนนี้ ดูเหมือนว่าจะมีความสนุกสนานมากเลย!”
หลินขุยยืนอยู่ข้างๆของเย่เทียน ได้อธิบายอย่างละเอียด!
เย่เทียนอืมไปเสียงหนึ่ง บนใบหน้าไม่มีคลื่นใดๆ
“มีความสนุกสนานหน่อยสิดี ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีความหมายแล้ว!”
พูดไป เย่เทียนหันหลัง เดินเข้าคฤหาสน์ไป!
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันครบรอบวันตายของเทียนเฉิง ฉันไม่พบแขกนอก! จับตาหนูกลุ่มพวกนั้นไว้ กล้ามีคนหนีไปล่ะก็ ฆ่าอย่างเดียว!”
“ครับ!”
กลางคืนค่อยๆจมลงไปและทุกอย่างที่เย่เทียนทำในวันนี้ กลับถูกหมักอยู่ทั่วทั้งหรงเฉิงอย่างรวดเร็ว!
เพียงแค่เวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ก็ถูกแพร่กระจายไปทั่วถนนและตรอกซอกซอย!
ในเวลาหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ โทรศัพท์
หรือจะเป็นหัวตลาดท้ายตลาด ก็พูดถึงข่าวของเย่เทียนทั้งนั้น!
ด้วยกำลังของตัวเอง ทำลายตระกูลหูและตระกูลจ้าว และตบหน้าของตระกูลหยาง และยังให้ตระกูลสวีมุ่งหน้าไปกราบไหว้หลุมศพของสวีเทียนเฉิง ในวันที่ครบรอบวันตายของสวีเทียนเฉิง!
ช่างหยิ่งผยองมาก ช่างเหลือเชื่อจริงๆ
หรงเฉิงก่อตั้งมาเกือบร้อยปี เย่เทียนยังคงเป็นคนแรก!
ในขณะเดียวกัน เกี่ยวกับตัวตนของเย่เทียน ยิ่งมีคำพูดที่แตกต่างไป
แม้ว่าจะมีคนใช้วิธีการสืบจนสุดขีดยังไง อย่างมากก็สืบได้แค่ เย่เทียนเป็นลูกเลี้ยงของตระกูลเย่
ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสิบปีที่เขาอยู่ในกองทัพ เป็นปริศนามาตลอด!

บทที่ 30 นับแต่วันนี้เป็นต้นไป จะไม่มีตระกูลหยางอีก!
แน่นอน สิ่งที่ผู้คนตั้งตารอมาก ก็คือการตอบสนองของตระกูลสวีและตระกูลหยาง!
ทั้งสองตระกูลเป็นถึงครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดของหรงเฉิง มีตำแหน่งเป็นผู้นำที่ดูแลหรงเฉิง!
วันนี้ถูกรังแกอย่างนี้โดยชายหนุ่มน้อย แล้วจะยอมต่อไปได้ยังไง?
สามารถจินตนาการได้ สิ่งที่เย่เทียนจะต้องเผชิญ เป็นการโจมตีจากความร่วมมือกันของตระกูลสวีและตระกูลหยาง
แม้แต่ เป็นความเอาเปรียบที่แข็งแกร่งของครอบครัวใหญ่ทั้งสี่!
สามปีก่อน เจ้าเหนือหัวหรงเฉิงตระกูลหลิวที่ทรงพลัง ภายใต้ความกดขี่ของครอบครัวใหญ่ทั้งสี่นั้น ก็แตกสลายหายไปในชั่วข้ามคืน
ในวันนี้ ถ้าหากครอบครัวใหญ่ทั้งสี่ร่วมมือกันอีกครั้ง เย่เทียน จะต้านทานไหวหรือไม่?
สามารถจินตนาการได้ พรุ่งนี้ มันจะเป็นพายุฝนที่นอนด้วยเลือด!
แต่น่าเสียดาย ทุกคนผิดหวังกันทั้งหมด
วันที่สอง ทั่วทั้งหรงเฉิงกับความเงียบสงบที่ไม่เคยมีมาก่อน
ครอบครัวใหญ่ทั้งสี่ เหมือนกับว่าได้นัดกันอย่างนั้น รวมตัวกันเงียบ
“นี่มันอะไรกัน?กูรอมาทั้งคืนโดยเปล่าประโยชน์ มันกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น?”
“แล้วใครว่าไม่ใช่ล่ะ?จะว่าไป ครอบครัวใหญ่ทั้งสี่ไม่ได้ขี้ขลาดไปแล้ว?”
“พวกนายไม่รู้อะไร? นี่เป็นความเงียบสงบก่อนเกิดพายุลมฝน! ตอนนี้ยิ่งเงียบเท่าไหร่ การแก้แค้นของครอบครัวใหญ่ทั้งสี่ ถึงจะยิ่งน่ากลัว!”
พวกนักข่าวจากทุกแพลตฟอร์มแต่ละคนต่างผิดหวังกันหมด
เดิมคิดว่าจะได้รับข่าวใหญ่เป็นเวลาแรก ไม่คิดว่าจะว่างเปล่าไม่มีอะไร!
ส่วนนักข่าวและปาปารัสซี่ที่จะไปแอบถ่ายเย่เทียนนั้นยิ่งแยก ถูกหลินขุยตัวคนเดียวขวางอยู่ที่ใต้ภูเขาเทียนเชว่
ไม่เพียงไม่ได้เจอเย่เทียน กล้องวิดีโอราคาแพงทุกชนิดก็ถูกทุบเป็นชิ้นๆ
เดิมทียังอยากขอคำอธิบาย แต่พอเห็นหน้าหลินขุยที่เหมือนกันกับจางเฟยแล้ว ก็เลยล้มเลิกความคิดนี้แล้ว!
ทั้งวันทั้งคืน ครอบครัวใหญ่ทั้งสี่ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใดๆ ตั้งแต่ต้นจนจบเย่เทียนก็ไม่ได้ปรากฏตัวให้เห็น
ภาพที่ทุกคนรอคอย กลับไม่ปรากฏขึ้นเลย!
เห็นได้ชัดว่า ครอบครัวใหญ่ทั้งสี่กับเย่เทียน ได้มีความเข้าใจบางอย่างที่เหมือนกัน
เตรียมการไว้ในวันที่ครบรอบวันตายของสวีเทียนเฉิง ด้วยสงครามความเป็นความตาย!
ทั่วทั้งหรงเฉิงภายนอกแม้จะดูเงียบสงบ ภายในกลับปรากฏตัวขึ้นดั่งสายน้ำที่ซ่อนอยู่!
ยากที่จะจินตนาการ รอวันที่ระเบิดขึ้นจริงๆ ต้องน่ากลัวขนาดไหน
แล้ว เวลาหนึ่งปีต่อมา ชื่อของสวีเทียนเฉิง ดังก้องไปทั่วทั้งหรงเฉิงอีกครั้ง
เพราะว่า คนทั้งหรงเฉิง ต่างตั้งตารอวันที่ครบรอบวันตายของเขามาถึง
การเยาะเย้ยเช่นนั้น!
ดังนั้น……
วันที่หกของเดือนที่เจ็ด ตอนเช้ามีหมอกเล็กน้อย อากาศชื้นมาก
เหมือนท้องฟ้าเพิ่งร้องไห้ไปอย่างนั้น!
พระอาทิตย์เริ่มขึ้น ร่างของเย่เทียน ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ตรงข้ามภูเขาซิ่วเสว่ เนินภูเขาเล็กๆที่ไม่มีชื่อ
ที่นี่เป็นทางที่ห่างไกลผู้คนไม่ค่อยมีคนผ่าน หลินขุยได้ใช้แรงเล็กน้อย ถึงได้เปิดทางออกได้
ทั้งสองคนได้ตัดหญ้าที่รกออก เนินเล็ก ๆ ก็ปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้า
ตรงหน้ามีอนุสรณ์ตั้งอยู่ ข้างบนมีคำว่าสวีเทียนเฉิงสามคำปรากฏอยู่อย่างที่เห็นไม่ค่อยชัด
“เทียนเฉิง พี่ใหญ่มาเยี่ยมนายแล้วนะ!”
ร่างกายของเย่เทียนนิ่งลง เสียงสั่นเล็กน้อย!
“รายงานครับ ผมชื่อสวีเทียนเฉิง อยากอยู่กับคุณ ลุยสนามรบฆ่าศัตรู!”
“พี่เทียน พวกเราโดนกับดักแล้ว ผมช่วยพี่กันไว้ พี่รีบไป!”
“พี่เทียน ผมจะได้กลับไปแต่งเมียแล้ว ถึงตอนนั้นพี่ต้องมางานแต่งนะ ไม่อย่างนั้นผมไม่ยอมแน่ๆ!”
……
เสียงและรอยยิ้มของเทียนเฉิง ดูเหมือนเพิ่งจะเมื่อวานเอง!
แต่ตรงหน้า พี่น้องกลับตายไปอย่างคับข้องใจ มีแต่หลุมฝังศพที่เยือกเย็นเท่านั้น!
เมื่อหนึ่งปีก่อน เทียนเฉิงกลับมาด้วยความเกลียดชัง ถูกทรมานจนตายไป
และตอนนี้ เนินที่แห้งแล้งถูกล้อมรอบด้วยหญ้าเต็มไปหมด หนึ่งปีแล้ว เกรงว่าคงไม่มีคนมากราบไหว้เลย!
สวีเทียนเฉิง อย่างน้อยก็เป็นถึงคุณชายของตระกูลสวี
หลังที่ตายไป แม้แต่หลุมฝังศพที่ดีก็ไม่มี แม้กระทั่งเวลาหนึ่งปีก็ไม่มีคนมากราบไหว้
ตระกูลสวี ช่างร้ายกาจเช่นนี้ และไร้ความรู้สึก !
“เทียนเฉิง พี่ใหญ่มาแล้ว!”
“ในสนามรบ นายช่วยพี่บางกระสุน!”
“วันนี้ พี่จะทวงความยุติธรรมกลับมาให้!”
“สิ่งที่นายสูญเสียไป พี่จะช่วยนายเอากลับคืนมา สิ่งที่พวกเขาติดค้างนาย พี่จะให้คืนกลับมาเป็นสิบเท่า!”
“เทียนเฉิง ผ่านวันนี้ไป นายก็จะสงบสุขซะที!”
เย่เทียนหยิบเหล้าออกมาขวดหนึ่ง ดื่มก่อนหนึ่งคำ ส่วนที่เหลือก็ราดบนหลุมศพตรงหน้า
ตามด้วยจุดบุหรี่ให้ติดมวนหนึ่ง วางไว้บนหลุมศพ
“เทียนเฉิง นายมองดูอยู่บนฟ้านะ!ไม่นาน พี่ก็จะให้พวกเขามาสำนึกผิดต่อหน้านาย!”
น้ำเสียงของเย่เทียนค่อยๆเปลี่ยนเป็นเย็นชาลง หลับตาลง ระลึกถึงแต่ละฉากที่ได้อยู่กับสวีเทียนเฉิง!
เมฆดำค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้กัน และเริ่มมีฝนลงมาปรอยๆ
ทั่วพื้นที่ เต็มไปด้วยบรรยากาศที่โศกเศร้า
ตอนนี้ รอบๆภูเขา มีคนไม่น้อยที่รวบรวมอยู่เพื่อมาดูความสนุกสนาน มองอยู่ที่ไกลๆ ไม่กล้าพูดอะไร
จนกระทั่งหยางไห่ซานได้พาคนมาถึงก่อน ถึงได้ทำลายความเงียบสงบไป
“เย่เทียน ไม่นึกว่าคุณจะมาเช้าขนาดนี้ รอความตายอยู่ที่นี่เหรอ?”
จากการเตรียมตัวยี่สิบกว่าวันที่ผ่านมานี้ หยางไห่ซาน กลายเป็นมีความมั่นใจมากและไม่มีความกลัวเหมือนมีอะไรหนุนหลังอยู่!
บรรยากาศก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที
ตระกูลหยางเพิ่งถึงที่เกิดเหตุ กลิ่นดินปืนก็แรงมากขนาดนี้ ถ้าหากตระกูลสวีมาถึง จะไม่ระเบิดทันทีเลยเหรอ?
เมื่อหยางไห่ซานเห็นหลุมศพของสวีเทียนเฉิง ร่างกายรู้สึกเย็นขึ้น แววตาเขกลับดุร้ายขึ้น
ถ้าไม่ใช่ไอ้คนที่ตายแล้วนี่ แล้วจะเกิดเรื่องเยอะขนาดขึ้นได้ยังไง?
“เย่เทียน ทำไมไม่พูดล่ะ ? เรียกคนของคุณออกมาให้หมดเลย วันนี้ ถ้าไม่ใช่คุณตาย ก็ฉันนี่แหละที่ตาย!”
หยางไห่ซานมีความมั่นใจมาก อยากมีพลังที่เหนือกว่า!
ในที่สุด เย่เทียนเริ่มค่อยๆลืมตาอย่างช้าๆ ตามด้วยมองไปที่หยางไห่ซาน อุณหภูมิรอบๆ ลดต่ำลงทันที
“นอกเหนือจากหยางไห่ซาน ฆ่า!”
เย่เทียนคายคำพูดที่เย็นชาออกมาไม่กี่คำ
ทันใดนั้น หลินขุยก็ขยับ เหมือนดั่งเสือที่ดุร้าย พุ่งไปที่คนของตระกูลหยาง
ด้านหลังหยางไห่ซาน พวกเขาทั้งหมดมาจากตระกูลหยางโดยตรง เดิมแค่มาเสริมพลังกันเท่านั้น กลับคิดไม่ถึงว่า เย่เทียน จะฆ่าแกงกัน!
“เย่เทียน คุณกล้าเหรอ!”
หยางไห่ซานตะโกนด้วยความโกรธ แต่ร่างของหลินขุย กลับมาถึงทันที!
ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องก็ตามๆกัน แค่ลมหายใจไม่กี่อึดใจ
คนของตระกูลหยาง นอกจากหยางไห่ซาน ก็ล้มลงอยู่ที่พื้นทั้งหมด กลายเป็นศพที่เยือกเย็น
กลิ่นคาวเลือดที่แรง เต็มไปทั่วทิศทันที ทำให้คนรู้สึกขยะแขยง!
ผู้คนที่ล้อมรอบนั้น ต่างก็อยู่ในความตกตะลึงที่หนาวเย็น!
เย่เทียนนี้ ฆ่าได้เด็ดขาดเช่นนี้ ใครแพ้ใครชนะ ยังตัดสินกันไม่ได้!
แต่ว่า ฆ่าผู้บริสุทธิ์ไปเรื่อยอย่างนี้ มันดีจริงๆแล้วเหรอ?
“เย่เทียน คุณกล้ามาก!ฆ่าผู้บริสุทธิ์ไปเรื่อยอย่างนี้ คุณต้องไม่ตายดีแน่!”
หยางไห่ซานโกรธจนสั่นไปทั้งตัว พวกเหล่านี้ เป็นถึงผู้ระดับสูงของตระกูลหยางเลยนะ!
เย่เทียนไม่ได้ตอบ แต่เป็นหลินขุยที่ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ตะโกนเสียงดังว่า!
“ภายในหกคนที่ฆ่าไปเมื่อกี้ มีอยู่สามคน เคยเมาแล้วขับแล้วชนคู่แม่ลูกตายไปแล้วหนึ่งคู่ แล้วขับรถหนีไป หลังเกิดเรื่อง ได้หาไอ้หนุ่มคนจนไปรับโทษแทน! เดิมทีตกลงจะให้เงินคนที่บ้านเขาหนึ่งล้าน แต่หลังเกิดเรื่องกลับไม่เป็นอย่างที่พูดไว้!ทำให้เขาถูกทำลายและตายไป!”
“ส่วนสามคนที่เหลือ เคยมีส่วนร่วมในการรื้อถอนอย่างรุนแรงที่เขาเฉิงเป่ย แอบยักยอกเงินรื้อถอนกว่าสามล้าน และยังมีชีวิตคนอีกสี่ชีวิตที่ตายอยู่ในมือพวกเขา!”
ว่าไป มองไปที่หยางไห่ซานด้วยสายตาที่เย็นชา
“ผู้นำหยาง สิ่งที่ผมพูด ถูกไหม?”
เมื่อคำนี้ออกมา ทุกคนต่างมองหน้ากันอย่างกะทันหัน ตามด้วยความขุ่นเคือง
ไม่นึกเลยว่า คนพวกนี้ ภายใต้จะร้ายกาจขนาดนี้ สมควรตายจริงๆ!
หยางไห่ซานยิ่งตกใจ ความมั่นใจเดิมทีได้หายไปทันที!
เสียใจในใจ ทำไมไม่ยืนกรานว่าจะมาพร้อมกับน้องเมีย
ความจริงแล้ว ไม่เพียงแต่พวกเขานั้นที่เตรียมจะจัดการกับเย่เทียน
เย่เทียน ได้นำรายละเอียดของทุกคน รู้ยังชัดๆเจนๆแล้วนานแล้ว!
เย่เทียนหันหลังมา ใบหน้าที่ไม่มีท่าทีอะไรมองไปที่หยางไห่ซาน
“ฉันเคยพูดในตอนแรกแล้ว วันครบรอบวันตายของเทียนเฉิง ก็จะเป็นวันตายของตระกูลหยาง!”
“นับแต่วันนี้เป็นต้นไป จะไม่มีตระกูลหยางอีก!”

เทพสงครามอันดับหนึ่ง

เทพสงครามอันดับหนึ่ง

Status: Ongoing

เขตชายแดนประเทศหลงประสบกับการรุกราน ผู้รุกรานมีมหาอำนาจตะวันตกคอยหนุนหลังอยู่ผ่านการฟันฝ่าสู้รบมา10ปี ความวุ่นวายในเขตชายแดนถูกกวาดล้างเย่เทียนกลายเป็นจอมพลสี่ดาวที่มีอายุน้อยที่สุดแห่งประเทศหลงถูกองค์กรกลยุทธ์การรบโลกพิจารณาและคัดเลือกเป็นหนึ่งในสิบมหาเทพสงครามของยุคใหม่ในขณะเดียวกัน กลับสู่บ้านเกิด ล้างอธรรมให้เพื่อน ตามหาพื้นเพประสบการณ์ในชีวิตของตน เรียกความยุติธรรมคืนให้กับแม่!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท