อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนที่ 939 เจ้าหิวน้ำหรือไม่

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

ตอนที่ 939 เจ้าหิวน้ำหรือไม่

ตอนที่ 939 เจ้าหิวน้ำหรือไม่

หนานหนานยืดนิ้วเล็กๆ แล้วเริ่มนับ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด… สามสิบคน

เขาเบิกตากว้าง เพียงแค่ทหารยามที่ต้องคอยตามหลังเสี่ยวเฉิงเฉิงเพื่อจับตาดูเขาเท่านั้น กลับมีมากถึงสามสิบคน

หนานหนานพองแก้ม องค์ชายสี่จงใจอย่างเห็นได้ชัด

และที่ล้ำเส้นไปมากกว่านั้น ทหารยามเหล่านี้ยังสวมเสื้อผ้าแบบเดียวกันทั้งหมด ทั้งยังปักคำว่า ‘จิ่นเฉิงย่วน’ เอาไว้อย่างกลมกลืนอีกด้วย

การป่าวประกาศให้คนทั่วไปเห็นเช่นนี้ ไม่ใช่การบอกประชาชนทั่วไปว่าเสี่ยวเฉิงเฉิงเป็นบุตรขององค์รัชทายาทที่ถูกปลด เป็นเด็กที่ออกมาจากจิ่นเฉิงย่วน ทำให้ประชาชนทั่วไปชี้นิ้วใส่เขาหรอกหรือ?

องค์ชายสี่ผู้นี้ ช่างเป็นคนชั่วที่เจ้าแผนการ มือถือสากปากถือศีล จิตใจคับแคบเสียจริงๆ

คิ้วของเย่หลานเฉิงขมวดแน่น ฝ่ามือของเขากำแน่นขึ้น เขามีความคิดจะกลับเข้าไปอีกครั้ง หากออกไปเดินถนนเช่นนี้ จะต้องทำให้หนานหนานถูกคนดูถูกไปด้วยเป็นแน่

ทว่าทันใดนั้นก็นึกถึงคำที่ท่านแม่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ จึงทำให้ลังเลกับความคิดนี้ขึ้นมา

เขาหันหน้ามองไปยังหนานหนาน อีกฝ่ายกำลังพึงพอใจและกระตือรือร้นอยากจะลอง

จากนั้นเย่หลานเฉิงก็วางใจลงได้ มองไปยังท่าทางของเขาก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ เหตุใดหนานหนานจึงยังตื่นเต้นกับเรื่องเช่นนี้อยู่ได้นะ

ขณะคิด มือขวาของเขาก็ถูกมือเล็กๆ คู่หนึ่งคว้าไว้ เขาก้มลงไปมองก็เห็นหนานหนานจับมือของเขาอย่างรักใคร่แล้วเริ่มก้าวเดินไปข้างหน้า

ทหารยามเหล่านั้นรีบตามหลังพวกเขาไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ติดตามทุกฝีก้าว

โม่เสียนและเผิงอิงขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่สีหน้าจะแข็งกร้าวขึ้นมาก ผ่านไปครู่หนึ่งก็เดินหน้าไปข้างกายหนานหนาน กล่าวเบาๆ “หนานหนาน เจ้า เฉิงซื่อจื่อ และเป่าเอ๋อร์ขึ้นรถม้าไปด้วยกันเถิด มีม่านรถม้าบังอยู่ คนด้านนอกจะได้มองไม่เห็น”

“ไม่ขอรับ” หนานหนานกลับส่ายหน้าอย่างหนักแน่น น้ำเสียงชัดเจนมาก “ข้าจะพาเสี่ยวเฉิงเฉิงไปเดินเล่น นั่งอยู่ในรถม้าจะถือว่าเดินเล่นได้หรือ”

“แต่ว่า…” โม่เสียนหันหน้าไปมองทหารยามจากจิ่นเฉิงย่วนเหล่านั้นที่ใบหน้าภาคภูมิใจเสียจนลืมเก็บอาการ ใบหน้าของเขาก็ไม่สู้ดีนัก

คนเหล่านี้เองก็เป็นพวกรังแกคนอ่อนแอและหวาดกลัวคนแข็งแกร่งเช่นกัน รังแกเด็กเพียงสองคนเท่านั้น พวกเขากลับภาคภูมิใจเช่นนี้เสียแล้ว เฮอะ

หนานหนานโบกมือ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านลุงโม่ วันนี้อากาศดีเพียงนี้ เป็นวันที่เหมาะแก่การเดินเล่นซื้อของอย่างมาก ข้าเพิ่งกลับมาถึงเมืองหลวง ไม่รู้ว่าตอนนี้ เมืองหลวงเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง ข้าอยากซื้อของให้ท่านแม่บ้าง”

เขานึกได้ว่าครั้งก่อนท่านพ่อพูดว่า ตอนแต่งงานกับท่านแม่ เขาจะให้ของขวัญอันใด เขาก็มีสีหน้าสับสนอย่างมาก

จนถึงตอนนี้เขาก็ยังคิดไม่ออกว่าให้อันใด เหมือนว่าสิ่งไหนๆ ก็ไม่เหมาะทั้งนั้น สิ่งที่เขาคิดได้เหล่านั้นก็ไม่ใช่ของหายากอันใด

ดังนั้นเขาจะใช้โอกาสในช่วงเวลานี้ลองดูว่าร้านในเมืองหลวงนี้มีของใหม่ของหายากอันใดบ้าง

จริงสิ ยังมีเสด็จปู่อีก เมื่อวานท่านแม่บอกว่าสุขภาพของเขาไม่ดีนัก ถ้าหากเขาเข้าวังไปพบเสด็จปู่ ก็ต้องซื้อของบางอย่างไปเอาใจเขาด้วยจึงจะดี

หนานหนานคิดเช่นนั้น ก็ยิ่งรู้สึกว่าการเดินซื้อของเป็นเรื่องเร่งด่วน

โม่เสียนยังคิดจะเกลี้ยกล่อมต่อ แต่เผิงอิงที่อยู่ข้างๆ ก็ค่อยๆ ดึงเขาไว้ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจ้าตามใจเขาเถิด เขาเป็นคนฉลาดพอ ไม่แน่ว่าคงมีแผนการอยู่ตั้งแต่แรก เราคอยปกป้องไม่ให้เขาบาดเจ็บเป็นใช้ได้แล้ว”

โม่เสียนคิดแล้วก็เห็นด้วย ทำได้เพียงถอนหายใจแล้วพยักหน้า ยืนขนาบข้างหนานหนานพร้อมกับเผิงอิงข้างละคน

ส่วนทหารยามของจิ่นเฉิงย่วนเหล่านั้นกลับประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อครู่องค์ชายสี่รับสั่งไว้แล้ว หากพวกเฉิงซื่อจื่อนั้นนั่งรถม้า รอจนกระทั่งถึงเขตตัวเมือง ก็ให้หาโอกาสคว่ำรถม้า ให้พวกเขาเปิดเผยใบหน้าต่อสาธารณะจนเสียหน้าหน่อยก็จะดี

เหตุใดตอนนี้จึงกลายเป็นเรื่องที่ไม่ต้องเปลืองแรงเสียแล้ว

ทุกคนมองหน้ากันอย่างประหลาดใจ แต่ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้กลับเข้าทางพวกเขานัก

หนานหนานลากเย่หลานเฉิงและอวี้เป่าเอ๋อร์ข้างละคนเดินตามถนนไป ไม่เพียงแค่นั้น เขากลับเลือกถนนที่ครึกครื้นที่สุดอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใดเสียด้วย

กลุ่มคนออกจากพื้นที่ของจิ่นเฉิงย่วนอย่างรวดเร็ว สภาพแวดล้อมโดยรอบค่อยๆ มีชีวิตชีวาขึ้นมา ในสภาพอากาศที่สดชื่นเช่นนี้ คนจึงมีจำนวนมากกว่าเวลาปกติเป็นสองเท่า

เมื่อมีทหารยามจากจิ่นเฉิงย่วนสามสิบคน เดินเรียงแถวตัวตรงพร้อมสีหน้าจริงจัง กลุ่มของหนานหนานก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาไม่นานนักก็มีคนมากมายเริ่มชี้นิ้วใส่พวกเขา

เย่หลานเฉิงยังคงประหม่าเล็กน้อย สูดหายใจเข้าลึกๆ มือที่จับหนานหนานชื้นไปด้วยเหงื่อเล็กน้อย

หนานหนานกลับมีรอยยิ้มเต็มใบหน้า รู้สึกได้ถึงอารมณ์ของเขา จึงหยุดฝีเท้าแล้วหันหน้ามาปลอบเขาด้วยความเป็นห่วงอย่างมาก “ไม่ต้องกังวลๆ พวกเราเพียงออกมาเดินซื้อของกันเท่านั้น เจ้าดูสิ ท่าทางของเราเช่นนี้ยิ่งใหญ่อย่างมากไม่ใช่หรือ มีทหารยามมากมายตามมาด้วย ทั้งยังมีคนมากมายมองดูอยู่ รู้สึกเหมือนมีคนสนใจมากเสียยิ่งกว่าตอนเสด็จปู่ออกเดินทางเสียอีก”

เย่หลานเฉิงฟังคำเขาแล้วก็ยิ้มออกมา ท่าทางดูผ่อนคลาย กล่าวอย่างจนปัญญาเล็กน้อย “หนานหนาน จะกล่าวเช่นนี้ส่งเดชไม่ได้นะ พวกเราจะไปเปรียบเทียบกับเสด็จปู่เช่นนั้นไม่ได้ ถือเป็นการดูหมิ่นอย่างมาก หากมีคนมาได้ยินเข้า ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่เอาได้”

หนานหนานกะพริบตา “ให้เป็นเรื่องใหญ่สิยิ่งดี ให้คนรู้ถึงความทะเยอทะยานโฉดชั่วขององค์ชายสี่ ให้คนรู้ว่าองค์ชายสี่ใช้อำนาจข่มเหงรังแก ทำเรื่องเลวร้าย”

เย่หลานเฉิงชะงัก รอยยิ้มของเขาอ่อนลงเล็กน้อย “หนานหนาน นี่เจ้า…”

เขามักจะมองเรื่องที่เลวร้ายกับตัวที่สุดไปในทางที่ดีที่สุดได้เสมอ เขาโชคดีเหลือเกินที่มีสหายเช่นนี้ มีพี่น้องเช่นนี้

“เห็นหรือยังเล่า คนเหล่านี้ล้วนเป็นทหารยามจากจิ่นเฉิงย่วน” ข้างทางเริ่มมีคนวิจารณ์ทางด้านนี้บ้างประปราย ส่วนมากล้วนจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อาจละสายตา แววตาที่สงสัยล้วนจับจ้องมาที่ร่างของหนานหนานและเย่หลานเฉิง

“ตอนนี้จิ่นเฉิงย่วนขังครอบครัวขององค์รัชทายาทที่ถูกปลดอยู่ ข้าได้ยินมาว่าตอนนี้อดีตองค์รัชทายาทออกมาข้างนอกไม่ได้ คนที่ออกมาได้มีเพียงบุตรผู้นั้นของอดีตองค์รัชทายาท ทว่าหากเด็กคนนั้นออกมา ล้วนจะต้องมีทหารยามตามออกมาด้วยจึงจะใช้ได้”

“แต่ตรงหน้านี้มีเด็กสามคน เด็กคนไหนกันแน่ที่เป็นบุตรขององค์รัชทายาทที่ถูกปลด?”

“ข้าว่าเหมือนจะเป็นทางด้านซ้ายนะ แต่คนตรงกลางก็ดูมีรัศมีอย่างมาก จึงไม่ค่อยแน่ใจนัก”

“เฮ้อ พวกเจ้าว่า อดีตองค์รัชทายาทกลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว บุตรชายของเขาจะยังออกมาเดินตามถนนอย่างไม่รู้ความอีกหรือ?”

“นั่นน่ะสิ ด้านหลังยังมีทหารยามมากมายเพียงนั้น ถนนเส้นนี้ก็แออัดจะตายอยู่แล้ว พวกเขายังจะต้องพาคนมามากมายเช่นนี้ จะให้คนมาซื้อของดีๆ ไม่ได้หรือ?”

เสียงอันวุ่นวายรอบๆ ดังเข้ามาในหูของเย่หลานเฉิงทีละน้อยๆ ถึงแม้เขาจะเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ก็ยังรู้สึกว่าหายใจลำบากเล็กน้อย

โดยเฉพาะเมื่อเห็นทหารยามเหล่านั้นมองไปยังประชาชนทั่วไปด้วยใบหน้าหยิ่งยโส ราวกับอยากจะยืนยันว่าเย่หลานเฉิงนั้นเป็นเพียงบุตรขององค์รัชทายาทที่ถูกปลด แต่ก็ยังยโสโอหังสั่งการผู้อื่นอยู่เหมือนเดิม

“เสี่ยวเฉิงเฉิง เจ้าหิวน้ำหรือไม่” ขณะที่ในหัวของเขากำลังครุ่นคิดอย่างว้าวุ่นอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงเฉียบคมของหนานหนานดังขึ้นมาข้างหู

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ทองแท้ไม่กลัวไฟ ไม่ได้ทำอะไรผิดก็อย่าไปแคร์สายตาคนอื่นเลยลูก

ไหหม่า(海馬)

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

Status: Ongoing
จากภรรยาผู้เป็นที่รังเกียจของสามีและถูกใส่ความว่าเป็นชู้กับบุรุษอื่นจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน​ อีกหกปีให้หลังได้เป็นหมอหญิงฉายา​ ‘หมอปีศาจ’​ ผู้ลือนามพร้อมบุตรชายแสนซนที่สรรหาเรื่องราวต่างๆ​ รวมถึงบุรุษที่คาดว่าจะเป็นบิดาตนมาให้ไม่หยุดหย่อน​ อวี้ชิงลั่ว​ แพทย์หญิงมือฉกาจจากยุคปัจจุบันผู้ทะลุมิติ​มาเข้าร่างของหมอปีศาจผู้นี้จะทำอย่างไรต่อไปดี​ ในเมื่อปริศนาเกี่ยวกับตัวเองก็ต้องสืบ​ ส่วนบิดาของลูกติดเจ้าของร่างก็ต้องหา?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท