ตอนที่ 1024 แทงหนานหนานหนึ่งครั้ง
ตอนที่ 1024 แทงหนานหนานหนึ่งครั้ง
ชายชุดดำได้ยินก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เข้าใจ
ว่ากันตามตรง เขาไม่เชื่อตั้งแต่ต้นแล้วว่าเย่หลานเฉิงจะไม่พูดอะไรเลยแล้วหลอกพาหนานหนานออกมาได้ง่ายๆ
เด็กคนนี้ฉลาดมากจริงๆ บอกครึ่งหนึ่งและเก็บอีกครึ่งหนึ่งไว้ ทำให้คำโกหกเหล่านี้น่าเชื่อถือมากขึ้น
หนานหนานยังคงก่นด่าเขาด้วยเสียงแหบแห้ง “เย่หลานเฉิง ข้ามองเจ้าผิดไปจริงๆ ข้าดีกับเจ้าถึงเพียงนั้น เจ้ากลับทำร้ายข้าเช่นนั้น ข้ามองเจ้าเป็นพี่น้องจริงๆ เจ้า เจ้าทรยศข้า เจ้ารู้หรือไม่ว่าในใจข้ารู้สึกอย่างไร?”
“ขอโทษด้วยหนานหนาน ขอโทษ” เย่หลานเฉิงทำได้เพียงขอโทษ น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด “ข้ารู้ว่าข้าทำผิดต่อเจ้า แต่ท่านแม่ของข้าถูกพวกเขาตัดนิ้วแล้ว เจ้าเข้าใจความเจ็บปวดเช่นนั้นหรือไม่? ชีวิตนี้คนที่ข้าใส่ใจก็มีเพียงท่านแม่ หากไม่มีนาง ข้าเองก็มีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ ขอเพียงช่วยนางได้ ให้ข้าทำอะไรก็ยอมทั้งนั้น”
เขากล่าวจบ เสียงร้องไห้ก็หยุดลง เงยหน้าขึ้นมาจ้องมองหนานหนานเขม็ง “ข้ารู้ว่าเจ้าดีกับข้า ข้าเองก็รู้ว่าทำเช่นนี้มันผิดต่อเจ้า ทั้งยังทำร้ายจิตใจพวกท่านน้าชิง แต่ข้าไม่มีวิธีแล้ว เพียงเห็นนิ้วมือนั้นข้าก็แทบใจสลาย เจ้าบอกว่าเจ้าจะช่วยข้าพาท่านแม่ออกมา แต่เจ้าเองก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ไม่ว่าจะมีฝีมือดีเพียงใดแล้วอย่างไรเล่า? เจ้ารับประกันได้หรือว่าท่านแม่ของข้าจะปลอดภัยไม่บาดเจ็บ เจ้ารับประกันได้หรือว่าเพียงเจ้าคนเดียวจะช่วยพ่อแม่ข้าออกมาได้? ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อเจ้า แต่ข้าไม่อยากเอาชีวิตของพ่อแม่ข้ามาเสี่ยง”
“เช่นนั้นเจ้าเอาชีวิตข้าไปแลกได้หรือ?” หนานหนานโพล่งออกมา ศีรษะเล็กๆ มีเหงื่อผุดขึ้นมาแล้ว ราวกับว่าพยายามอย่างเต็มที่ที่จะต่อต้านอาการวิงเวียนที่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาในร่างกาย
“ถึงแม้เราจะเป็นพี่น้องกัน แต่อย่างไร… ก็ไม่มีใครสำคัญเท่าชีวิตของพ่อแม่ข้าอยู่ดี”
“เฮ้อ เจ้าหักหลังข้าก็หักหลังไปเถิด เหตุใดต้องหาข้ออ้างมาแก้ตัวให้ตนเองด้วย? ถือว่าข้า อวี้ฉิงหนานมองคนผิดไป มองว่าเจ้าเป็นสหายที่ดีที่สุด คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นคนอกตัญญูเลี้ยงไม่เชื่อง พ่อแม่ของข้าดีต่อเจ้าเพียงนั้น มองเจ้าเหมือนเป็นลูกแท้ๆ เจ้ากลับตอบแทนพวกเราเช่นนี้หรือ? หากไม่ใช่เพราะข้า ตอนนี้เจ้าคงยังอยู่ที่วังหลวง ถูกคนวางยาให้ตายไปอย่างช้าๆ แล้ว จะยังมีโอกาสมาทำร้ายข้าได้อีกหรือ? ข้ารังเกียจเจ้านัก ต่อให้ตายเป็นผีข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไป”
ชายชุดดำฟังเสียงทะเลาะเบาะแว้งจากด้านหลังก็หัวเราะคิกคักออกมา ขับรถม้าอย่างมีความสุขขึ้นเรื่อยๆ
ได้ยินเสียงโกรธเกรี้ยวของหนานหนานเช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวแทรก “วางใจเถิด เจ้ายังตายไม่ได้ เจ้ายังมีประโยชน์อีกมาก จะปล่อยให้เจ้าตายไปเสียเปล่าโดยไม่ให้เจ้าทำคุณอะไรสักนิดได้อย่างไร?”
“เฮอะ ต้องตกอยู่ในมือของพวกเจ้า จะมีจุดจบดีๆ ได้อย่างไร แต่ข้าไม่กังวลเลยสักนิด พ่อแม่ข้าจะต้องมาช่วยข้าแน่ พวกเขาจะต้องฉีกพวกเจ้าเป็นชิ้นๆ”
ชายชุดดำส่งเสียงจิ๊ๆ ทันใดนั้นรถม้าก็หยุดลงอย่างช้าๆ หันหน้าไปมองหนานหนาน
เมื่อเห็นเด็กชายทำได้เพียงใช้มือข้างหนึ่งค้ำหมอนนุ่มเอาไว้ บนหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ ริมฝีปากซีดเผือด ทั้งร่างสั่นเทิ้ม ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ใช่ พ่อแม่ของเจ้าจะมาช่วยเจ้าแน่ แต่พวกเขาจะต้องช่วยเจ้าออกมาด้วยชีวิตของตน ถึงตอนนั้น องค์ชายเจ็ดย่อมส่งพวกเจ้าทั้งครอบครัวไปเจอกันอีกครั้งที่ยมโลก แต่ตอนนี้…”
น้ำเสียงของเขาหยุดชะงักไป ทันใดนั้นก็เผยรอยยิ้มร้ายออกมา พลางชักมีดสั้นออกมาเล่มหนึ่ง
เพียงเย่หลานเฉิงเห็นมีดสั้นแหลมคมกระทบแสงนั้น ทั้งหัวใจก็เต้นรัวขึ้นมา “เจ้าจะทำอะไรน่ะ?”
ชายชุดดำมองเขาแวบหนึ่ง ยิ้มแล้วมองหนานหนานอย่างพิจารณา กล่าวทีละคำๆ “ถึงแม้จะไม่ได้ต้องการชีวิตเจ้า แต่จะปล่อยให้เจ้าไปอย่างไร้รอยขีดข่วนเช่นนี้คงไม่ดีนัก จะควบคุมได้ยาก ใครจะรู้ว่าจู่ๆ เจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นมาตอนไหน?”
กล่าวจบก็มองเย่หลานเฉิงแวบหนึ่ง
เย่หลานเฉิงหน้าซีด นี่ไม่เชื่อว่าเขาวางยาหนานหนานอย่างนั้นหรือ?
เขารีบไปขวางหนานหนานเอาไว้ “ไม่ได้ ข้ารับปากพวกเจ้าแล้วว่าจะพาเขามา ตอนนี้เขาก็ขยับตัวไม่ได้แล้ว หากเจ้า หากเจ้ากลัวว่าเขาจะเคลื่อนไหวขึ้นมาจริงๆ ก็เอาเชือกมามัดเขาไว้เป็นใช้ได้แล้ว เหตุใดต้องทำร้ายเขาด้วย?”
คนชุดดำเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “เจ้ามาขวางข้า เป็นเพราะกินปูนร้อนท้องอย่างนั้นหรือ?”
“ข้าไม่สน เขา… อย่างไรเขาก็มีบุญคุณต่อข้า ข้าหลอกเขามาก็ไม่สบายใจมากอยู่แล้ว เขาผู้นี้กลัวเจ็บเป็นที่สุด หากเจ้าแทงเขาแผลหนึ่ง เขาจะต้องทนไม่ไหวเป็นแน่ ไม่แน่ว่า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีสติขึ้นมาเพราะความเจ็บก็ได้ เจ้าก็รู้ว่าเขามีฝีมือดี หากเขาทำร้ายเราเพียงลมหายใจเดียว เราก็จะตกม้าตายกันหมด เจ้าเองก็ไม่สามารถรายงานเจ้านายของเจ้าได้ กว่าข้าจะมาถึงจุดนี้ได้ช่างยากเย็น กลับต้องมาถูกเจ้าทำพังเสียอย่างนั้น”
ชายชุดดำขมวดคิ้ว ได้ยินเขากล่าวเช่นนี้ก็ลังเลขึ้นมาเล็กน้อย
แต่ว่านายท่านสั่งไว้ว่าจะต้องทำร้ายเด็กคนนี้ แต่จะร้ายแรงเกินไปไม่ได้ อย่างไรนายท่านก็ไม่เชื่อใจเย่หลานเฉิงนัก ทั้งยังไม่ได้บอกเขาว่ายานั้นหากกินไปแล้วไม่ว่าจะทำอะไรก็ขยับไม่ได้หรือไม่ หากเขาแทงไปครั้งหนึ่งแล้วกลับทำให้เด็กนี่ควบคุมผลข้างเคียงของยาได้แล้วจัดการกับพวกเขาจริงๆ มันจะได้ไม่คุ้มเสียหรือไม่?
เขาเชื่อว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเด็กคนนี้
หนานหนานกลับหรี่ตา ทันใดนั้นก็พยายามยื่นมือไปนวดขาของตนเองอย่างเงียบๆ
ชายชุดดำสายตาเฉียบคม ทันใดนั้นก็ปัดมือของเขาออก จากนั้นก็มองดูตรงจุดที่เขาเอื้อมไปเมื่อครู่ เห็นว่าที่ขาเล็กๆ ของเขามีมีดสั้นอยู่จริงๆ
เขารีบชักมันออกมาวางไว้ในมือแล้วมองอย่างละเอียด
หนานหนานโกรธมาก “เจ้าเอาคืนมานะ เอาคืนมาให้ข้า”
“คืนให้เจ้าทำไมกัน? เจ้าขยับไม่ได้ คิดว่าใช้มีดสั้นนี้แล้วจะฆ่าพวกข้าได้หรือ?”
“เจ้า เจ้าเก่งนักก็แทงข้าเสีย ข้าจะบอกให้นะ ข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไปแน่ เจ้าเก่งนักก็แทงข้าเลย หากเจ้าเป็นลูกผู้ชายก็แทงข้าเสีย”
เพียงชายชุดดำผู้นั้นได้ยินที่หนานหนานกล่าวก็เริ่มลังเลขึ้นมาจริงๆ หรี่ตามองหนานหนานแวบหนึ่ง เห็นว่าแววตาของเขาจ้องมองที่มีดสั้นสองเล่มในมือของเขามาโดยตลอด ราวกับว่ามันเป็นความหวังทั้งหมดของเขา
ชายชุดดำเก็บมีดสั้นในทันทีแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าจะปล่อยเจ้าไปชั่วคราวแล้วกัน แต่ว่า…”
เขากล่าวจบก็หมุนกายกลับไปอย่างมีเลศนัย ขยับบังเหียนอีกครั้งแล้วตะโกนเร่งม้า
แค่รอไปถึงตรงหน้านายท่านแล้วค่อยแทงเขาสักแผลก็ได้ ถึงตอนนั้นต่อให้เขาจะเจ็บจนได้สติกลับคืนมาจริงๆ รอบกายนายท่านก็มีคนมากมายเพียงนั้น คงไม่ปล่อยให้เจ้าเด็กเวรนี่ทำร้ายตนได้
เย่หลานเฉิงและหนานหนานกลับสบตากันแล้วลอบถอนหายใจ
โชคดีที่ชายชุดดำยังมีความกังวลอยู่ในใจ อย่างไรก็ยังมีความรักตัวกลัวตายอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นเกรงว่าจะแทงมีดเล่มนี้เข้ามาจริงๆ
เย่หลานเฉิงยกมุมปากให้หนานหนาน จากนั้นก็หันหน้าหนีไป เพียงแต่มองออกไปก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
“เส้น เส้นทางนี้… ไม่ได้ไปที่เรือนอีกหลังนี่ เจ้าจะพาพวกข้าไปไหนกัน?” เย่หลานเฉิงแทบจะเด้งตัวออกมาจากรถม้า มองดูสถานที่ที่ไม่คุ้นตาอย่างประหลาดใจ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ลุ้นกันว่าชายชุดดำจะหลงกลเด็กสองคนนี้หรือไม่ จะซื้อเวลาให้พวกชิงลั่วได้หรือเปล่า
ไหหม่า(海馬)