เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน – ตอนที่ 267 หินหุนหยวนหนึ่งล้านก้อน

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

ตอนที่​ 267 หิน​หุน​หยวน​หนึ่ง​ล้าน​ก้อน​

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ชะงัก​ฝีเท้า​ลง​ทันที​

ขณะเดียวกัน​ก็​กวาดตา​มอง​ไป​รอบ​ ๆ มิหยุด​

หลังจาก​เข้ามา​ใน​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​

เขา​สัมผัส​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ถึงไอ​พลัง​เต๋า​ที่​มิธรรมดา​ และ​แผ่​ไป​ทั่ว​ทั้งเมือง​เล็ก​ ๆ แห่ง​นี้​

ไอ​พลัง​เต๋า​ที่​แผ่​ไป​ทั่ว​แม้จะซับซ้อน​เหลือคณา​ ทว่า​ไอ​พลัง​เต๋า​แต่ละ​ชนิด​กลับ​บริสุทธิ์​อย่าง​หาที่เปรียบมิได้​

จึงทำให้​เมื่อ​มาอยู่​รวมกัน​แล้ว​ไอ​พลัง​เต๋า​มากมาย​แม้จะดู​ซับซ้อน​ ทว่า​กลับ​มิได้​ถูก​ไอ​พลัง​เต๋า​ต่าง​ชนิด​ดูด​กลืนกัน​แต่อย่างใด​

ถือว่า​เป็น​สิ่งที่​หา​ได้​ยาก​ยิ่งนัก​

เพราะ​นับตั้งแต่​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​บำเพ็ญ​เพียร​มาจนถึง​บัดนี้​ เป็น​ระยะเวลา​ยาวนาน​นับ​หมื่น​ปี​

แต่​ที่ผ่านมา​เขา​ได้​ออก​สำรวจ​แดน​ลับ​ที่​หลงเหลือ​ไว้​ตั้งแต่​สมัย​บรรพกาล​มาหลาย​ต่อ​หลาย​ที่​ แม้แต่​ที่​ที่​เต็มไปด้วย​ซากปรักหักพัง​โบราณ​หรือ​สถานที่​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​ผู้​แข็งแกร่ง​สมัย​บรรพกาล​บางคน​ เขา​ก็​ไปมา​แล้ว​

แต่​สำหรับ​เขา​แล้ว​การ​ได้มา​ยืน​อยู่​ใน​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​แห่ง​นี้​ต่างหาก​ จึงจะนับว่า​เป็นแดน​วาสนา​อย่าง​แท้จริง​

มิเพียง​เท่านั้น​มิว่า​จะเป็น​ชาวเมือง​แห่ง​นี้​ หรือว่า​จะเป็น​สิ่งของธรรมดา​ทั่วไป​ ล้วนแต่​อบอวล​ไป​ด้วย​ไอ​พลัง​เต๋า​ที่​แตก​ต่างกัน​ไป​ทั้งสิ้น​

แม้แต่​ภายใน​สุรา​เอง​ก็​ยัง​อบอวล​ไป​ด้วย​ไอ​พลังน้ำ​อัน​บริสุทธิ์​

แต่​สิ่งที่​สะดุดตา​เขา​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​ภาพ​เทพ​อารักษ์​ประตู​ ที่​ถูก​ติด​อยู่​ตรงหน้า​ประตู​ของ​ทุก​บ้าน​

ดวง​ตาวาว​โรจน์​ !

พลัง​อัน​น่าเกรงขาม​ !

อีก​ทั้ง​ภาพ​เทพ​อารักษ์​ทุก​ภาพ​ยัง​ดู​ราวกับ​มีชีวิต​ แม้แต่​พลัง​ที่​แผ่​ ๆ ออกมา​จาง ๆ ยัง​น่า​เกรงกลัว​เป็นอย่างมาก​

โดยเฉพาะ​ผู้​แข็งแกร่ง​ที่​ไร้​เทียมทาน​ระดับ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ เมื่อ​สัมผัส​ได้​ถึงพลัง​ลมปราณ​ ที่​แม้แต่​เขา​เอง​ยัง​อด​มิได้​ที่เกิด​ความกลัว​ขึ้น​มาจับใจ​

“น่า​เหลือเชื่อ​ ! ”

“ช่างน่า​เหลือเชื่อ​จริง ๆ​ ! ”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​จ้องเขม็ง​ไป​ยัง​ภาพ​เทพ​อารักษ์​ประตู​ ที่​ติด​อยู่​หน้า​ประตู​ของ​บ้าน​หลัง​หนึ่ง​ที่อยู่​มิไกล​นัก​ พลาง​เอ่ย​ด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​

‘พลัง​ลมปราณ​ที่​แฝงอยู่​ใน​ภาพ​เทพ​อารักษ์​ประตู​นี้​ช่างดุดัน​ จน​ข้า​เอง​ยัง​อด​ที่จะ​ใจสั่นสะท้าน​ขึ้น​มามิได้​ หรือว่า​พลัง​ลมปราณ​เหล่านี้​จะมาจาก​สุดยอด​ผู้​แข็งแกร่ง​ท่าน​นั้น​ ? ’

‘แต่​ฝีมือ​ระดับ​นี้​กลับมา​ทำ​ภาพ​เทพ​อารักษ์​ประตู​ ช่างเสีย​ของ​จริง ๆ​ ! ’

‘อีก​อย่าง​ท่าน​ผู้อาวุโส​เย่​ท่าน​นี้​เก่งกาจ​เพียงใด​กัน​แน่​ จึงปฏิบัติ​กับ​มนุษย์​ราวกับ​เป็นเรื่อง​ขำขัน​เช่นนี้​…’

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​คิด​แล้วก็​อด​ที่จะ​เสียวสันหลัง​จน​เย็นวาบ​ และ​ชาไป​ทั้ง​ร่าง​มิได้​

ใน​ตอนนั้น​เอง​หนาน​กง​เสวียน​จีและ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ ที่​เดิน​อยู่​ด้านหน้า​ก็ได้​หยุด​ฝีเท้า​ลง​ พลาง​หันไป​มอง​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ที่​มีสีหน้า​ซีดเผือด​

“ผู้อาวุโส​ซีเห​มิน​ ทะลุ​ถนน​เส้น​นี้​ไป​ก็​จะเป็น​ที่พำนัก​ของ​ผู้อาวุโส​เย่​แล้ว​ขอรับ​”

หนาน​กง​เสวียน​จีและ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​สบตา​กัน​เล็กน้อย​ ก่อน​จะเอ่ย​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​เม้มริมฝีปาก​เล็กน้อย​ ก่อน​จะขมวดคิ้ว​มุ่น​ “ท่าน​ทั้งสอง​ ผู้อาวุโส​เย่​แท้จริง​แล้ว​เป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​ระดับ​ใด​กัน​เยี่ยง​นั้น​หรือ​ พวก​ท่าน​ช่วย​บอก​ข้า​หน่อย​ได้​หรือไม่​ ? ”

“ผู้อาวุโส​ซีเห​มิน​ ขอ​เรียน​ตามตรง​ว่า​ผู้อาวุโส​เย่​แท้จริง​แล้ว​มีตบะ​บารมี​เช่นไร​นั้น​ ผู้น้อย​ทั้งสอง​เอง​ก็​มิทราบ​เช่นกัน​ขอรับ​”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​หัวเราะ​ออกมา​ “แต่ว่า​แม้ผู้อาวุโส​เย่​จะมีตบะ​บารมี​ที่​ลึกล้ำ​ ทว่า​เขา​กลับเป็น​คน​ที่​มักจะ​สุภาพอ่อนโยน​ต่อ​ผู้อื่น​เสมอ​ ยิ่ง​ระดับ​จิตใจ​ของ​เขา​นั้น​มิใช่สิ่งที่​คน​เช่น​พวกเรา​จะสามารถ​เทียบเคียง​ได้​เลย​ขอรับ​”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ถึงกับ​ตะลึงงัน​ ก่อน​จะพยักหน้า​น้อย​ ๆ

“ใช่แล้ว​ ผู้อาวุโส​ซีเห​มิน​ ท่าน​ต้อง​จำเอาไว้​อย่างหนึ่ง​นะ​ขอรับ​”

หนาน​กง​เสวียน​จีดวงตา​เป็นประกาย​แล้ว​เอ่ย​ต่อว่า​ “เมื่อ​ได้​พบ​ผู้อาวุโส​เย่​แล้ว​ อย่า​ได้​เรียก​ผู้อาวุโส​เย่​ว่า​ผู้อาวุโส​เป็นอันขาด​ เรียก​เขา​ว่า​ท่าน​เย่​ก็​พอแล้ว​”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ลังเล​เล็กน้อย​ ก่อน​จะพยักหน้า​รับ​แรง​ ๆ

“พวกเรา​ไป​พบ​ผู้อาวุโส​เย่​กัน​เถอะ​ ! ”

จากนั้น​หนาน​กง​เสวียน​จีและ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ก็ได้​เดิน​นำ​ไป​ทันที​

ใช้เวลา​ประมาณ​ครึ่ง​ก้านธูป​ ทั้ง​สามคน​ก็ได้​มาถึงหน้า​ประตู​เล็ก​ ๆ ข้าง​ร้านขายของชำ​แล้ว​

ขณะเดียวกัน​เย่​ฉางชิงที่​กำลัง​นอน​พักผ่อน​อยู่​บน​เก้าอี้​ ก็​ถูก​เสียง​อัน​คุ้นเคย​เสียง​หนึ่ง​ปลุก​ขึ้น​

“ท่าน​เย่​ หนาน​กง​เสวียน​จีมาขอ​เข้าพบ​ขอรับ​”

เย่​ฉางชิงได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​เม้มริมฝีปาก​เล็กน้อย​ ก่อนที่​ดวงตา​เรียว​ยาว​คู่​นั้น​จะค่อย ๆ​ ลืม​ขึ้น​ เห็นได้ชัด​ถึงความเหนื่อยหน่าย​

‘ตา​เฒ่าผู้​นี้​มาทำ​อะไร​อีก​ล่ะ​เนี่ย​ ? ’

‘แม้พลัง​ของ​พวกเขา​จะแข็งแกร่ง​เพียงใด​ ทว่า​ความ​แตกฉาน​ใน​วิถี​หมาก​อันน้อย​นิด​เช่นนั้น​ การ​จะมาเดินหมาก​กับ​ข้า​เย่​ฉางชิงก็​เท่ากับ​เป็นการ​แกว่งเท้าหาเสี้ยน​ชัด​ ๆ ’

เย่​ฉางชิงพ่น​ลมหายใจ​ออกมา​ ก่อน​จะลุกขึ้น​เดิน​ไป​เปิด​ประตู​

ทว่า​เมื่อ​เขา​เปิด​ประตูออก​

กลับ​พบ​ว่า​ผู้​ที่มา​พบ​ใน​ครั้งนี้​มิได้​มีเพียงแค่​หนาน​กง​เสวียน​จีมิ แต่​ยังมี​ผู้บำเพ็ญเพียร​วิถี​กระบี่​อย่าง​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ รวมทั้ง​ผู้เฒ่า​สวม​เสื้อ​ผ้าป่าน​ที่​มิคุ้นหน้า​มาด้วย​อีก​หนึ่ง​คน​

เห็นได้ชัด​ว่า​ผู้เฒ่า​สวม​เสื้อ​ผ้าป่าน​ผู้​นี้​แม้ดู​ธรรมดา​กว่า​หนาน​กง​เสวียน​จีและ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​

แต่​ยิ่ง​ธรรมดา​ ก็​ยิ่ง​สามารถ​อธิบาย​ข้อสงสัย​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​

ยิ่งไปกว่านั้น​คน​ผู้​นี้​ยัง​มาพร้อมกับ​หนาน​กง​เสวียน​จีและ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​เช่นนี้​

มิผิด​แน่​ !

คน​ผู้​นี้​จะต้อง​เป็นยอด​ฝีมือ​ใน​การ​บำเพ็ญ​เพียร​อีก​หนึ่ง​ท่าน​อย่าง​แน่นอน​ !

เย่​ฉางชิงแม้พอ​จะเดา​ตัวตน​ของ​อีก​ฝ่าย​ได้​ตั้งแต่​แวบ​แรก​ ทว่า​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​ยังคง​เรียบ​นิ่ง​มิบ่งบอก​อารมณ์​ใด​ ๆ ดังเดิม​

“พวกเรา​เหมือน​มิได้​พบกัน​มาสักพัก​แล้ว​นะ​ ! ”

เย่​ฉางชิงเอ่ย​หยอกล้อ​ขึ้น​ พร้อม​รอยยิ้ม​เรียบ ๆ​

หนาน​กง​เสวียน​จีและ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ทันที​ และ​รู้สึก​ตื้นตัน​อย่าง​มาก​ที่​ได้รับ​ความเมตตา​

“เรียน​ท่าน​เย่​ พวกเรา​มิได้​พบกัน​มาพัก​หนึ่ง​แล้ว​จริง ๆ​ ขอรับ​”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​เอ่ย​กับ​เย่​ฉางชิง พร้อม​รอยยิ้ม​เต็ม​ใบหน้า​

เย่​ฉางชิงจึงพยักหน้า​ให้​ยิ้ม​ ๆ

ขณะเดียวกัน​เขา​ก็​สังเกตเห็น​ว่า​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ผู้​นี้​ บัดนี้​กลับ​แขน​หาย​ไป​หนึ่ง​ข้าง​

ซึ่งเขา​มองว่า​หาก​มิมีสิ่งใด​ผิดพลาด​

ยอด​ฝีมือ​เช่น​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​คงจะ​ไป​ปะทะ​ฝีมือ​กับ​สุดยอด​ผู้​แข็งแกร่ง​สัก​คน​มา จึงได้เสีย​แขน​ไป​ข้าง​หนึ่ง​เช่นนี้​

และ​การ​ที่​เขา​ยัง​สามารถ​มาปรากฏตัว​อยู่​ที่นี่​ได้​ แสดงว่า​อีก​ฝ่าย​เอง​ก็​คง​ได้รับบาดเจ็บ​หนัก​เช่นกัน​ เขา​จึงสามารถ​รอด​มาได้​

แต่​เย่​ฉางชิงนั้น​ก็​ยังคง​แปลกใจ​เป็นอย่างมาก​

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ได้​ปะทะ​ฝีมือ​กับ​ผู้​แข็งแกร่ง​คน​ไหน​ รวมทั้ง​การต่อสู้​และ​ผลลัพธ์​เป็น​เช่นไร​กัน​แน่​ !

อีก​ทั้ง​การต่อสู้​เช่นนี้​จะต้อง​น่าตื่นตาตื่นใจ​อย่าง​มาก​เป็นแน่​

แต่ว่า​เขา​ก็​มิกล้า​เอ่ยปาก​ถาม

เพราะ​ด้วย​ตบะ​บารมี​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​ การ​พบปะ​พูดคุย​กับ​ยอด​ฝีมือ​เหล่านี้​ ห้าม​พูดถึง​เรื่อง​ใด​ ๆ ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​บำเพ็ญ​เพียร​เป็นอันขาด​

มิเช่นนั้น​ด้วย​ตบะ​บารมี​และ​มุมมอง​อัน​คับแคบ​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​ จะต้อง​เผย​พิรุธ​ออกมา​อย่าง​ง่ายดาย​เป็นแน่​

เช่นนั้น​แล้ว​เขา​เอง​จะต้อง​ตกอยู่ในอันตราย​ไป​ด้วย​

หลังจาก​ชั่งใจเล็กน้อย​ เย่​ฉางชิงจึงเบน​สายตา​ไป​มอง​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ ที่​ยืน​หน้า​นิ่ง​อยู่​ด้านหลัง​คน​ทั้งสอง​

“ท่าน​นี้​คือ​ ? ”

เย่​ฉางชิงเอ่ย​ถามพร้อม​รอยยิ้ม​

วินาที​ต่อมา​ ยัง​มิทัน​ที่​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​และ​หนาน​กง​เสวียน​จีจะทัน​ได้​เอ่ย​สิ่งใด​

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ที่​ได้สติ​ขึ้น​มา ก็​รีบ​โค้ง​คำนับ​พร้อม​เอ่ย​อย่าง​นอบน้อม​ว่า​ “ผู้น้อย​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​คา​รา​วะ​ผู้​… ท่าน​เย่​ขอรับ​”

วินาที​ที่​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ได้​เห็น​เย่​ฉางชิงนั้น​

เพียงแค่​ท่าทาง​สง่างามราวกับ​เซียน​ของ​เย่​ฉางชิงก็​ทำให้​เขา​มั่นใจ​แล้ว​

อีก​ทั้ง​ตบะ​บารมี​ของ​เขา​มิสามารถ​สัมผัส​ได้​ถึงไอ​พลัง​บำเพ็ญ​เพียร​ใด​ ๆ บน​ร่าง​ของ​เย่​ฉางชิง ทว่า​กลับ​สัมผัส​ได้​ถึงจิต​แท้​แห่ง​เต๋า​อัน​บริสุทธิ์​มากมาย​

มิใช่สิ !

พูด​ให้​ถูก​ก็​คือ​ไอ​พลัง​กำเนิด​เต๋า​ !

แค่​คิด​ก็​รู้​ว่า​เวลานี้​ภายในใจ​ของ​เขา​จะตื่นตระหนก​เพียงใด​ !

ทว่า​เมื่อ​เย่​ฉางชิงเห็น​ท่าทาง​นอบน้อม​ของ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ ร่าง​ทั้ง​ร่าง​กลับ​นิ่งงัน​ไป​ทันที​

ดูท่าทาง​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ผู้​นี้​คง​ถูก​หนาน​กง​เสวียน​จีและ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​เป่าหู​มาเรียบร้อย​แล้ว​

แต่ว่า​พวกเขา​พูด​อะไร​กัน​ ถึงทำให้​ยอด​ฝีมือ​ใน​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ผู้​นี้​เคารพ​นอบน้อม​ต่อ​เขา​ได้​ถึงเพียงนี้​ ?

หลังจาก​ได้สติ​

“ผู้​ที่มา​ล้วน​เป็น​แขก​”

เย่​ฉางชิงยก​ยิ้ม​เล็กน้อย​ “ทั้ง​สามท่าน​ใน​เมื่อ​มาแล้ว​ ก็​เชิญเข้ามา​ดื่ม​ชาด้านใน​กัน​ก่อน​เถอะ​ ! ”

“รบกวน​ท่าน​เย่​แล้ว​ ! ”

หนาน​กง​เสวียน​จีเอ่ย​ขึ้น​พร้อมกับ​โค้ง​คำนับ​เล็กน้อย​

จากนั้น​เย่​ฉางชิงก็ได้​เชิญทั้ง​สามคน​ไป​นั่งลง​ที่​หน้า​โต๊ะ​ชา

ระหว่าง​ที่​กำลัง​รอ​น้ำ​เดือด​อยู่​นั้น​

เย่​ฉางชิงก็​เอ่ย​ถามหยั่งเชิง​คน​ทั้ง​สาม พร้อม​รอยยิ้ม​ที่​ดู​สบาย​ ๆ ว่า​ “มิทราบ​ว่าที่​ทั้ง​สามท่าน​มาวันนี้​ มีเรื่อง​อัน​ใด​เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ? ”

หนาน​กง​เสวียน​จีและ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​ส่งสายตา​สื่อสาร​กัน​เล็กน้อย​ จากนั้น​จึงได้​หยิบ​แหวน​เก็บ​สมบัติ​วง​หนึ่ง​ออก​มาจาก​อก​เสื้อ​ ก่อน​จะวาง​ลง​ตรงหน้า​ของ​เย่​ฉางชิง

“ท่าน​เย่​ ก่อนหน้านี้​พวกเรา​ได้มา​รบกวน​ท่าน​หลาย​ครา​ ข้า​และ​พี่​ซือ​ถูจึงได้​เตรียม​ของขวัญ​ชิ้น​หนึ่ง​มาให้​เพื่อ​เป็น​การตอบแทน​ ขอ​ท่าน​เย่​ได้​โปรด​รับ​เอาไว้​ด้วย​ขอรับ​”

หนาน​กง​เสวียน​จีเอ่ย​ขึ้น​

“ของขวัญ​ ? ”

เย่​ฉางชิงนิ่งอึ้ง​ไป​เล็กน้อย​

‘มาครา​นี้​สอง​คน​นี้​เตรียม​ของขวัญ​มาด้วย​เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ? ’

‘พวกเขา​เป็น​ถึงยอด​ฝีมือ​ใน​การ​บำเพ็ญ​เพียร​เชียว​นะ​ ! ’

‘ของขวัญ​ชิ้น​นี้​จะต้อง​มิธรรมดา​อย่าง​แน่นอน​ ! ’

เย่​ฉางชิงลอบ​คิด​อยู่​คนเดียว​ภายในใจ​ จากนั้น​ก็​ชำเลือง​มอง​แหวน​เก็บ​สมบัติ​โบราณ​ตรงหน้า​เล็กน้อย​ แต่​มิได้​หยิบ​ขึ้น​มาดู​ในทันที​

“ข้า​สงสัย​ยิ่งนัก​ว่า​ท่าน​ทั้งสอง​ เตรียม​ของขวัญ​อะไร​มาให้​ข้า​เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ? ”

เย่​ฉางชิงเอ่ย​ถามด้วย​รอยยิ้ม​

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​จึงตอบ​พร้อม​รอยยิ้ม​เจิดจ้า​ว่า​ “หิน​หุน​หยวน​หนึ่ง​ล้าน​ก้อน​ขอรับ​”

‘หิน​หุน​หยวน​หนึ่ง​ล้าน​ก้อน​ ? ’

เย่​ฉางชิงมีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ทันที​ พร้อมกับ​ต้อง​สูด​หายใจ​อัน​เย็นเยียบ​เข้า​ปอด​เฮือก​ใหญ่​

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

Status: Ongoing
นิยายแปลไทยเรื่อง เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน รายละเอียด เทพแห่งกระบี่ : หากผู้อาวุโสเย่มอบภาพอักษรพู่กันให้ข้าอีกสักภาพ พรุ่งนี้ข้าคงสามารถเปิดประตูสวรรค์ได้แล้ว …… …… เย่ฉางชิงรู้สึกเอือมระอายิ่งนัก ทั้งๆ ที่เขาเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง เหตุใดถึงได้มีผู้คนแวะเวียนมาหาไม่แต่ละเว้นวันเช่นนี้นะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท