ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘] – บทที่ 470 น้ำแกงปลา

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

บทที่ 470 น้ำแกงปลา

บทที่ 470 น้ำแกงปลา

แสงสายัณห์ปกคลุมไปทั่วสารทิศ ในที่สุดวันแรกของการเปิดร้านหยกอวี้ฝูก็สิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์!

หลินซือ ไป๋หรูปิง และคนอื่นอยู่ในห้องถัดไปของร้านหยกอวี้ฝู รายได้จากการเปิดร้านที่นักบัญชีคำนวณออกมาก็ได้สร้างความประหลาดใจให้ทุกคน เมื่อพบว่าวันแรกของการเปิดร้านสามารถหาเงินได้เทียบเท่ากับค่าเช่าตั้งครึ่งเดือน

หลินซือเงยหน้าขึ้นทันใด จากนั้นก็มองไปทางไป๋หรูปิงด้วยท่าทางตื่นตกใจ

ไป๋หรูปิงเองก็คาดไม่ถึง ทั้งสองคนมองหน้ากัน ความรู้สึกประหลาดใจนี้ไม่มีทีท่าจะลดน้อยลงแต่อย่างใด

เหยาเอ้อหลางเห็นทั้งสองคนมีอาการเช่นเดียวกันก็คิดว่าขาดทุน จึงได้ยื่นหน้าเข้าไปมองสมุดบัญชีในมือของน้องสาวแวบหนึ่งด้วยความอยากรู้ ครั้นเห็นตัวเลขใบหน้าก็ฉายความดีใจ ปรบมือพลางเอ่ยว่า “โห ไม่เลวเลยนี่”

เปิดร้านวันแรก หาเงินได้มากเพียงนี้ ไม่เลวเลยจริง ๆ

เจี่ยงเถิงหยิบสมุดบัญชีจากในมือของอาซือมาวิเคราะห์หนึ่งรอบ ก็ไม่พบสิ่งใดที่ผิดแปลกไป “ไม่เพียงแต่จะไม่เลวแล้ว เอ้อเป่าและแม่นางไป๋ยังทำออกมาได้ดีมากอีกด้วย”

“หึ ร้านหยกอวี้ฝูเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เอ้อเป่าต้องเลี้ยงฉลองเสียแล้วล่ะ”

เหยาเอ้อหลางเลิกคิ้วสูง ก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างชั่วร้าย

หลินซือได้สติกลับมา พร้อมกับโบกมือด้วยความลำพองใจ “เลี้ยง เลี้ยงแน่นอน”

“ไปกันเถอะ เจี่ยงเถิง”

เหยาเอ้อหลางโอบไหล่ของเจี่ยงเถิงเดินออกไปข้างนอก “ต้องเอาคืนเอ้อเป่าเสียให้เข็ด โทษฐานที่ใช้งานข้าเหนื่อยสายตัวแทบขาดตั้งแต่ตอนแรก”

วันนี้หลินซืออารมณ์ดีมาก ไม่คล้อยตามกับเรื่องที่เหยาเอ้อหลางคิดเล็กคิดน้อยว่าวันไหนที่ตนไม่เลี้ยงข้าวเขาบ้าง ฝ่ามือใหญ่กวักมือเรียกแล้วพาตรงไปยังหอหรูอี้

ไม่ว่ายามใดหอหรูอี้ก็มักจะมีผู้คนจอแจเสมอ

โชคดีที่หลินซือชอบอาหาร ที่หอหรูอี้สามารถเหมาห้องพิเศษระยะยาวได้ จึงไม่ถึงขนาดทำให้ทั้งสามคนหมดอารมณ์

“เอ้อเป่า”

เจี่ยงเถิงเดินมาข้างกายของหลินซือ แล้วพูดเสียงเบา “เมื่อครู่ข้าส่งคนไปแจ้งพี่ใหญ่ของเจ้าแล้ว รออีกสักพักอย่าเพิ่งรีบร้อนสั่งอาหาร”

“อ่อ!” หลินซือตบศีรษะหนึ่งครั้ง “เรื่องสำคัญเช่นนี้ข้าเกือบลืมไปเสียสนิท เรื่องเปิดร้านอย่างยิ่งใหญ่นี้ พี่ไป๋คงต้องอยากเล่าให้พี่ใหญ่ของข้าฟังแน่นอน”

หลินซือแอบยกนิ้วโป้งให้กับเจี่ยงเถิง “พี่อาเถิง พี่รอบคอบมาก”

เจี่ยงเถิงยิ้มโดยไม่กล่าวสิ่งใด ในตอนที่หลินซือเดินไปข้างหน้าเพื่อคุยกับไป๋หรูปิง เหยาเอ้อหลางก็ค่อย ๆ เอียงตัวไปหาเขา “หึ หึ หึ เจ้าก็รอบคอบเกินไป แยกตัวคุณหนูไป๋ออกไปเช่นนี้ พวกเจ้าจะอยู่ในโลกสองคนใช่หรือไม่? ที่ของข้าตรงนี้ยังเหลือเฟือมาก หรือจะให้ข้ากลับก็ย่อมได้ ข้าอยู่คนเดียวก็คงอึดอัด”

“เช่นนั้นเจ้ากลับเถอะ”

เจี่ยงเถิงรีบยกมือทำท่าผายมือ

เหยาเอ้อหลางจึงรีบปัดมือของเขาทิ้ง เลิกคิ้วสูง “ข้ามันคนหน้าหนาอยู่แล้ว ข้าไม่ได้อึดอัด คนที่อึดอัดใจคือพวกเจ้าต่างหาก”

“อีกทั้งเอ้อเป่าก็เป็นญาติผู้น้องของข้า ข้าทนเห็นนางได้รับการชูหางจากเจ้าจนเหลิงไม่เหลือชิ้นดีไม่ได้”

สองนิ้วของเหยาเอ้อหลางชี้มาทางตัวเอง จากนั้นก็ใช้สองนิ้วนั้นชี้ไปทางเจี่ยงเถิง “ข้าจับตาดูเจ้าอยู่”

“เฮ้ พวกท่านสองคนทำอะไรกัน?”

หลินซือเดินเข้ามา ครั้นหันกลับไปไม่เจอใคร เลยยื่นหน้าออกไปก็เห็นทั้งสองยังอยู่ไกล ๆ และเห็นญาติผู้พี่ที่เชื่อถือไม่ได้ของนางกำลังชี้นิ้วมาทางเจี่ยงเถิง

หลินซือรีบเตือนทั้งสองคนให้เข้ามา เพราะกลัวว่าเจี่ยงเถิงจะถูกเหยาเอ้อหลางรังแกยามตนเองไม่เห็น

ถ้าเหยาเอ้อหลางรู้ความคิดในใจของหลินซือ จะต้องร้องแรกแหกกระเชอกับพ่อแม่ถึงความไม่เป็นธรรมนี้แน่นอน ใครจะกล้ารังแกเจี่ยงเถิงจิ้งจอกเฒ่าผู้นี้ คงจะตายสถานเดียวกระมัง?!

ทั้งสี่คนมาถึงห้องพิเศษ หลินซือหยิบรายการอาหารขึ้นมา จากนั้นก็เอ่ยถามว่าพวกเขาอยากกินอะไร

ทั้งสามคนเอ่ยอย่างพร้อมเพรียงด้วยคำตอบเดียวคือ “แล้วแต่”

“ข้าไม่ได้มาหอหรูอี้ตั้งสองปี ลืมไปแล้วว่าที่นี่อาหารรสชาติเป็นอย่างไร จะว่าไปแล้วพวกเราก็มีญาติผู้น้องอย่างเจ้านี่แหละที่ศึกษาเรื่องของกินอย่างจริงจัง แน่นอนว่าเจ้ากินอะไรพวกเราก็กินสิ่งนั้นตามเจ้า” เหยาเอ้อหลางยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาพร้อมพูดอย่างจนปัญญา

“เหตุใดพวกเจ้าถึงเป็นเช่นนี้”

เดิมทีหลินซือก็ปวดหัวอยู่แล้ว จู่ ๆ ก็นึกได้ว่าเจี่ยงเถิงอยากให้นางถ่วงเวลา ในสมองจึงบังเกิดแสงสว่างสุกใส ผุดความคิดหนึ่งได้ฉับพลัน “ไม่สู้ให้ข้าแนะนำอาหารจานพิเศษของที่นี่ให้พวกเจ้าเสียหน่อย”

คนอื่นได้แต่จนปัญญา หลินซือกระแอมเบา ๆ จากนั้นก็เริ่มพูดอาหารจานแรกจากรายการ

แรกเริ่มเหยาเอ้อหลางคิดว่าหลินซือแค่พูดถึงประเภทของรสชาติและศิลปะของอาหารเท่านั้น แต่ยิ่งหลินซือพูดเหยาเอ้อหลางก็ยิ่งประหลาดใจ ในตอนที่หลินซือพูดถึงอาหารกลุ่มที่สาม เหยาเอ้อหลางก็ตัดบทอย่างอดไม่ได้ “เอ้อเป่า เจ้าเป็นคนเปิดหอหรูอี้แห่งนี้หรือไร?”

“จะเป็นไปได้อย่างไร?”

หลินซือกลอกตาไปมา “พี่รองหิวแล้วใช่หรือไม่ เช่นนั้นก็กินเหลียงเกา[1] ไปก่อนสิ หากข้าเป็นคนเปิดหอหรูอี้เอง ข้าจะโยกย้ายไปเปิดร้านหยกทำไมเล่า?”

“แต่ข้าได้ยินเจ้าพูดปร๋อเชียว ประวัติความเป็นมาและวิธีการทำอาหารเหล่านี้เจ้าก็รู้ชัดเจน หรือต่อให้เป็นเถ้าแก่หอหรูอี้ไม่มีทางพูดออกมาหมดแน่นอน”

“ข้าแค่ชอบศึกษาของกิน มาหลายครั้งก็ย่อมรู้เยอะเป็นธรรมดา”

เหยาเอ้อหลางกลั้วหัวเราะอย่างประหลาดใจ “เอ้อเป่า ข้าคิดว่าเจ้าเปิดร้านอาหารสักแห่งเถอะ แค่ความชอบที่เจ้ามีต่ออาหาร ร้านอาหารจะต้องไปได้ดียิ่งกว่าร้านหยกอวี้ฝูแน่นอน”

“ไม่เอา” หลินซือปฏิเสธกลับไป “ข้าชอบศึกษาอาหารเท่านั้น ถ้าจะเปิดร้านอาหาร แล้วต้องมานั่งพูดถึงพวกมันทุกวัน ข้าไม่ชอบ”

เหยาเอ้อหลางส่งเสียง ‘หึ’ หนึ่งเสียง จู่ ๆ ก็หันไปมองเจี่ยงเถิง

จู่ ๆ เจี่ยงเถิงก็เกิดอยากห้ามไม่ให้เหยาเอ้อหลางพูดจามั่วซั่ว กระทั่งเห็นเขากำหมัดทำความเคารพมาทางตัวเอง “เจี่ยงเถิง ก่อนหน้านั้นเป็นข้าเองที่มีตาหามีแววไม่ ข้าขอชื่นชมจริง ๆ”

มุมปากของเจี่ยงเถิงกระตุกขึ้นเล็กน้อย รู้ว่าเรื่องในอดีตของตัวเองกำลังจะถูกขุดคุ้ยออกมา

“ทำไม มีอะไร?” หลินซือสนใจขึ้นมาอย่างที่คิดไว้จริง ๆ พร้อมกับมองไปยังเหยาเอ้อหลางด้วยสายตาเปล่งประกาย “พี่อาเถิงมีอะไรที่ข้ายังไม่รู้ใช่หรือไม่?”

สิ่งที่เจ้าไม่รู้ยังมีอีกมากมายนัก

เหยาเอ้อหลางพูดแขวะอยู่ในใจ แต่เขาไม่สามารถขุดคุ้ยเรื่องในอดีตของพี่น้องออกมา ถึงอย่างไรก็เป็นพี่น้อง ‘จอมเจ้าเล่ห์และร้ายกาจ’ พอกัน จึงได้แต่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “แค่คิดเรื่องที่น่าสนใจได้เรื่องหนึ่ง”

“เอ้อเป่า ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านั้นเจ้าชอบน้ำแกงปลาในหอหรูอี้เป็นพิเศษ ถึงขนาดไปหาพ่อครัวเพื่อให้เขาสอนเจ้าว่าต้องทำอย่างไรโดยเฉพาะ”

“อย่างนี้นี่เอง” หลินซือพยักหน้า “แต่ต่อมาพี่อาเถิงทำให้ข้ากิน ข้าเลยรู้สึกว่ารสชาติมันอร่อยกว่าหอหรูอี้ ข้าเลยไม่สั่งมาอีก”

“รสชาติต้องอร่อยแน่นอน เพราะนั่นคืออาหารที่พี่อาเถิงของเจ้าซุ่มฝึกฝนมานานสองเดือนเชียวนะ ตอนนี้บนมือของเขายังพุพองเพราะโดนลวกอยู่เลย”

เหยาเอ้อหลางโยนระเบิดลูกใหญ่ใส่หลินซือ

หลินซือถึงกับตะลึงงันไปจริง ๆ จากนั้นก็ลุกพรวดขึ้นแล้วตรงไปคว้ามือของเจี่ยงเถิงทันที

“ข้าไม่เป็นไร แค่ลวกนิดหน่อยเท่านั้น”

เจี่ยงเถิงเอี้ยวตัวหลบไปตรงเหยาเอ้อหลางที่อยู่ข้างกายอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้หลินซือ ก่อนไพล่มือไปด้านหลัง

“ให้ข้าดูหน่อย!”

หลินซือเค้นเสียง

เจี่ยงเถิงยื่นมือออกมาอย่างจำยอม ด้านล่างของนิ้วโป้งข้างซ้ายมีรอยสีขาวจาง ๆ ครั้นได้สัมผัสก็รู้สึกถึงรอยแผลที่เว้านูนไม่สม่ำเสมอ

ปกติแล้วเจี่ยงเถิงจะไม่ค่อยใช้มือซ้ายสักเท่าไร อีกทั้งรอยแผลนี้ก็จางลงไปมากแล้ว ที่ผ่านมาหลินซือจึงไม่เคยสังเกตเห็น

ครั้นเห็นหลินซือจ้องเขม็งไปยังรอยแผลนั้นอยู่นาน จึงได้แต่ก้มหน้าลงโดยไม่ให้เห็นความรู้สึก

เจี่ยงเถิงกระวนกระวายใจอยู่ภายใน ก่อนจะใช้มือของตัวเองเกาะกุมมือของหลินซือไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่เป็นไรจริง ๆ”

“กลับไปจะต้องทำน้ำแกงปลาให้ข้า” หลินซือพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้

เจี่ยงเถิงนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาคิดว่าหลินซือจะไม่ให้ตัวเองทำอีกแล้วเสียอีก

“มองอะไรนักหนาเล่า” หลินซือถลึงตาใส่เถิงเอ๋อ “เรียนก็เรียนแล้ว เพราะบาดเจ็บแบบนี้ข้าถึงยิ่งต้องดื่มเยอะขึ้น”

เจี่ยงเถิงยิ้ม “ได้สิ คืนนี้ข้าจะกลับไปทำให้”

หลินซือส่งเสียงฮึดฮัดออกมา ก่อนจะพูดเสียงเบาว่า “ดึกเกินไป พรุ่งนี้ก็ได้”

คืนนี้เขากลับไปก็เหนื่อยมากอยู่แล้ว ยังต้องทำน้ำแกงปลาอีก นางเลยปวดใจ

[1] เหลียงเกา เป็นขนมชนิดหนึ่ง ขนมลักษณะเหมือนวุ้นเย็น เพียงแต่ทำจากแป้ง มีทั้งทำจากแป้งมันสำปะหลังและแป้งมันเทศ

สารจากผู้แปล

ฮั่นแน่ ทำเป็นงอน ที่แท้ก็ปลื้มใจที่พี่เถิงทำน้ำแกงปลาเพื่อตัวเองใช่ไหมคะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

Status: Ongoing
เหยาซูเสียชีวิตเนื่องจากเครื่องบินตก ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตนเองได้มาอยู่ในร่างตัวละครหนึ่งในนิยายที่ตัวเองกำลังอ่าน!หญิงสาวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกและมาเกิดใหม่ในนิยายยุคโบราณที่ตนเองกำลังอ่าน หลังฟื้นขึ้นมาจึงพบว่าตนเองอยู่ในร่างของ เหยาซู มารดาของวายร้ายทั้งสามในเรื่อง กลายเป็นแม่ม่ายลูกติดโฉมสะคราญที่ผู้คนต่างชี้หน้าบอกว่าเป็นตัวซวยทำให้สามีต้องตาย เมื่อได้ทราบว่าชีวิตของลูก ๆ ต้องเผชิญกับการดูถูก นางจึงทนไม่ไหวเก็บข้าวของหอบลูกกลับบ้านเก่า เริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกและครอบครัวทางแม่ของตน ด้วยคิดว่าหากสั่งสอนลูกดี ๆ พวกเขาคงไม่กลายเป็นตัวร้าย จนกระทั่งวันหนึ่งสามีของนางได้กลับมา พวกเขาจึงได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง แต่แล้วนางก็นึกขึ้นมาได้ว่าตามนิยายต้นฉบับสามีของตนจะตกหลุมรักสตรีอื่น จึงคิดหาวิธีที่จะหย่าขาดกับเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน