ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘] – บทที่ 529 อบรมสั่งสอน

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

บทที่ 529 อบรมสั่งสอน

บทที่ 529 อบรมสั่งสอน

หลินซือเดินตามเหยาซูออกไป

เหยาซูไม่ได้ไปร้านของตัวเอง แต่กลับเดินทางไกลออกไปเรื่อย ๆ

“ท่านแม่ ท่านจะพาข้าไปที่ใดเจ้าคะ?”

เหยาซูกลับไม่ตอบคำถามของลูกสาว ทั้งยังปิดบังไว้ “เจ้าไปกับข้าเดี๋ยวก็รู้เอง”

ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันนั้น จู่ ๆ ก็รถม้าก็หยุดชะงักลง

อาซือลุกขึ้นยืนตามผู้เป็นแม่ กระทั่งเห็นหญิงสาวสวมชุดผู้ดูแลเรือนคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู

นางคือหญิงผู้ยากไร้คนหนึ่ง

เดิมทีนางเป็นหญิงม่ายที่ถูกยึดทรัพย์หลังสามีตาย ระหว่างที่กำลังจะฆ่าตัวตายก็ได้รับการช่วยเหลือจากเหยาซู จนได้มาเป็นผู้ดูแลที่นี่

“คนที่นี่ล้วนแต่เป็นเด็กสาวที่มีครอบครัวยากจนทั้งสิ้น ส่วนใหญ่เป็นคนที่ข้าช่วยไว้”

เหยาซูมองไปทางหน้าต่างเหล่านี้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “เด็กสาวที่โตแล้วพากันออกเรือนและออกไปจากที่นี่กันไม่น้อย ตอนนี้ข้าส่งพวกนางหลายคนไปทำกิจการขนาดเล็กภายใต้ชื่อร้านของข้า”

“ท่านแม่?” หลินซือมองเรื่องนี้อย่างเหนือความคาดหมาย

ในตอนที่นางเตรียมจะเปิดเรือนพักพิงผู้ยากไร้นั้น นางได้คำนวณบัญชีไว้แล้ว เพราะรู้ว่าการจะแบกรับทั้งหมดนี้จะต้องใช้เงินมากน้อยเพียงใด

“เจ้าอยากรู้อะไรก็ไปดูเองเถอะ”

เหยาซูไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ให้แก่หลินซือ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ช่วย

เหยาซูรู้จักคนในชนบท สำหรับครอบครัวผู้ยากไร้จำนวนมากแล้ว มันคือช่วงเวลาที่ดีที่สุด

ถ้าอาซือไปแล้ว คนเหล่านั้นจะต้องไม่พูดความจริงกับนาง เพราะคิดว่านางเป็นเจ้านายแน่นอน

หลินซือพอจะเข้าใจเหตุผลได้ หลังจากที่พยักหน้ากับผู้เป็นแม่แล้วก็เดินตามผู้ดูแลที่รออยู่เข้าไปด้านใน

เรือนแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก ทุกห้องล้วนมีคนอาศัยอยู่ ซึ่งได้รับการทำความสะอาดอย่างหมดจดเสมอ

“เด็กบางคนที่อยู่ในเรือนแห่งนี้ได้รับการอุปการะจากนายหญิงตลอดหลายปีที่ผ่านมาเจ้าค่ะ”

แม้ว่าภายนอกของผู้ดูแลจะเหมือนคนพูดน้อย แต่ก็ยังพยายามอธิบายสภาพโดยรวมแห่งนี้ให้หลินซือได้เข้าใจ “ก่อนหน้านั้นเด็ก ๆ ที่โตหน่อยต่างพากันออกไปอยู่ชนบทอีกแห่ง ไม่ก็ทำงานอยู่ในร้านเจ้าค่ะ”

หลินซือพยักหน้า จากนั้นก็ถามผู้ดูแลตรงหน้าว่า “ข้าเข้าไปได้หรือไม่?”

“เชิญคุณหนูตามสบายเจ้าค่ะ”

หลินซือเดินเข้าไปในห้องหนึ่งตามใจตัวเอง กระทั่งเห็นเด็ก ๆ ที่อยู่รอบตัวพากันหันกลับมา มีแค่เด็กที่นอนคว่ำหน้าใส่ยาอยู่บนเตียงเพียงคนเดียวที่ไม่ขยับเขยื้อน

หลินซือมองรอยฟกช้ำดำเขียวที่ปรากฏอยู่บนร่างกายของเด็กสาวก็อดสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ไม่ได้ เด็กสาวคนนั้นดูร่างกายอ่อนแอไร้กำลัง แผ่นหลังก็ล้วนเต็มไปด้วยบาดแผล

“ใครตีเจ้า?” หลินซือปวดใจ นึกถึงวัยเยาว์ของตัวเองยามถูกท่านย่าตีหลังครั้งแล้วครั้งเล่า

เด็กสาวมองหลินซือแวบหนึ่งโดยไม่เอ่ยเอื้อนสิ่งใด แต่กลับเป็นเด็กข้างกายที่ดูโตแล้วคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “บิดานางตีเจ้าค่ะ”

เห็นได้ชัดว่าหลินซือเองก็ไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบเช่นนี้ ครั้นเห็นบาดแผลทั่วทั้งร่างกายของเด็กสาวก็อดสงสัยไม่ได้ทำไมถึงตีจนแทบปางตายเช่นนี้

“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้?”

หลินซือไม่ค่อยอยากเชื่อเรื่องแบบนี้ แม่ของนางใจดี รอบตัวนางก็ไม่มีพ่อที่ใจร้ายแต่อย่างใด

หญิงสาวผู้นั้นแค่นยิ้มเย็นชา “นางมีพี่ชายที่กำลังจะแต่งสะใภ้เข้ามา แต่ครอบครัวของนางไม่มีเงินสินสอด ทำได้แค่แลกลูกสาวให้ไปเป็นลูกสะใภ้”

หลินซือมองไปทางเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า “แลกลูกสาวให้ไปเป็นลูกสะใภ้?”

ในตอนที่ทั้งสองตระกูลแต่งงานกัน ต่างก็ไม่มีเงินสินสอดกันทั้งคู่ บังเอิญว่าทั้งสองตระกูลมีลูกชายและลูกสาว การแต่งงานในครานี้จึงต้องใช้ลูกสาวของตัวเองมาแลกเปลี่ยนเป็นสินสอดให้กับอีกฝ่าย

“พ่อของนางต้องการยกนางให้กับคนพิการ ซึ่งคนพิการผู้นั้นแก่พอจะเป็นบิดานางได้แล้ว ไม่รู้เหตุใดถึงได้ใจดำเพียงนี้”

หลินซือไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน

ใบหน้าของหญิงสาวผู้นั้นแสดงออกถึงความโกรธเคือง “ถ้าไม่ใช่เพราะฮูหยินบังเอิญมาที่นี่ เกรงว่านางคงสิ้นลมหายใจไปนานแล้ว จริงสิ เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”

แม้วันนี้หลินซือจะไม่ได้แต่งกายดูดีมีราศีนัก แต่กลิ่นอายที่แสดงออกมารอบตัวกลับขับให้นางดูโดดเด่นจากคนเหล่านี้อย่างง่ายดาย

“เดิมทีข้าอยากเปิดเรือนพักพิงผู้ยากไร้ในเร็ววันนี้ ฮูหยินต้องการให้ข้ามาดูสถานการณ์” หลินซือคิดไว้แล้วว่าจะไม่บอกความสัมพันธ์ของตัวเองและเหยาซู

เด็กสาวตรงหน้ากลับดูใจกว้างอย่างมาก “ข้าชื่อหวังจาวตี้ เจ้า…อยากให้เราช่วยเจ้าอย่างไรบ้าง?”

“ไม่ต้องหรอก ข้าแค่อยากถามว่าพวกเจ้าขาดเหลืออะไรบ้าง ข้าจะได้หามาเติมให้”

หลินซือรีบปฏิเสธเรื่องนี้ทันที ครั้งแรกที่นางมาถึง เด็กสาวได้ยินผู้ดูแลคนนี้เล่าให้ฟังแล้ว โดยพื้นฐานเด็กสาวเหล่านี้ล้วนมีคนอบรมสั่งสอน

หวังจาวตี้ยิ้ม “ไม่ต้องหรอก เราทุกคนที่นี่ไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้ เรามีมือมีเท้าทำงานเองได้ ไม่สู้เจ้าไปช่วยคนที่ทำงานไม่ได้ดีกว่า”

หลินซือได้ยินคำพูดของหวังจาวตี้ก็ถึงกับคาดไม่ถึง

……………………………………………………………………………………………………………………….

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

Status: Ongoing
เหยาซูเสียชีวิตเนื่องจากเครื่องบินตก ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตนเองได้มาอยู่ในร่างตัวละครหนึ่งในนิยายที่ตัวเองกำลังอ่าน!หญิงสาวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกและมาเกิดใหม่ในนิยายยุคโบราณที่ตนเองกำลังอ่าน หลังฟื้นขึ้นมาจึงพบว่าตนเองอยู่ในร่างของ เหยาซู มารดาของวายร้ายทั้งสามในเรื่อง กลายเป็นแม่ม่ายลูกติดโฉมสะคราญที่ผู้คนต่างชี้หน้าบอกว่าเป็นตัวซวยทำให้สามีต้องตาย เมื่อได้ทราบว่าชีวิตของลูก ๆ ต้องเผชิญกับการดูถูก นางจึงทนไม่ไหวเก็บข้าวของหอบลูกกลับบ้านเก่า เริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกและครอบครัวทางแม่ของตน ด้วยคิดว่าหากสั่งสอนลูกดี ๆ พวกเขาคงไม่กลายเป็นตัวร้าย จนกระทั่งวันหนึ่งสามีของนางได้กลับมา พวกเขาจึงได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง แต่แล้วนางก็นึกขึ้นมาได้ว่าตามนิยายต้นฉบับสามีของตนจะตกหลุมรักสตรีอื่น จึงคิดหาวิธีที่จะหย่าขาดกับเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท