ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘] – บทที่ 597 ระบายความในใจ

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

บทที่ 597 ระบายความในใจ

บทที่ 597 ระบายความในใจ

“พี่หลินซือ ข้าขอโทษ”

“เป็นอะไรไป?”

หลินซือคาดไม่ถึงว่าสิ่งแรกที่ลู่เหยาทำคือการขอโทษ ซึ่งนั้นทำให้นางงุนงงอย่างมาก

ช่วงนี้ตัวนางคงไม่ได้ไปก่อเรื่องอะไรเข้าใช่หรือไม่? น่าจะไม่กระมัง นับตั้งแต่ที่พี่อาเถิงบอกว่าจะพานางไปออกตรวจด้วย ตัวนางก็อยู่แต่ในจวนอย่างเชื่อฟังมาโดยตลอด แม้แต่เรื่องในร้านหยกอวี้ฝูก็ยังมอบหมายให้พี่ไป๋จัดการ

“ข้าเคยว่าร้ายพี่หลินซือ สมควรต้องขอโทษ”

น้ำเสียงของลู่เหยาเบามาก ดูเหมือนจะรู้สึกผิดอยู่ข้างใน

“เอาอย่างนี้ ถ้าเจ้ามั่นใจว่าควรขอโทษ ข้าก็จะให้อภัยเจ้า ไม่เป็นไร” หลินซือคิดว่าเรื่องใหญ่อะไร ที่แท้ก็เรื่องเล็กแค่นี้เอง

นางเองก็เคยพูดว่าร้ายผู้อื่นเหมือนกัน แต่หลังจากถูกมารดาดุด่าไปก็ไม่พูดอีก เพราะการพูดจาว่าร้ายลับหลังผู้อื่นเป็นเรื่องที่ไร้คุณธรรมมาก ดังนั้นตอนนี้หลินซือจึงเลือกพูดต่อหน้าทุกคน

ต่อมา หลังจากที่เหยาซูรู้ นางถึงกลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ลูกสาวสุดดวงใจคนนี้ของนางคือแหล่งกำเนิดความสุขโดยแท้จริง ไม่ว่าจะทำเรื่องอันใดก็สร้างความประหลาดใจให้นางเสมอ

“จริงหรือ?” คาดไม่ถึงว่าหลินซือจะให้อภัยนางง่ายดายเช่นนี้ ลู่เหยายังไม่อยากจะเชื่อ

“จริงแท้แน่นอน ข้าใจกว้างมากนะ ว่าแต่น้องลู่เหยา เจ้าบอกข้าได้หรือไม่ว่าเจ้าพูดว่าร้ายอะไรข้า? ข้าอยากรู้ข้อบกพร่องของตัวเอง จะได้ปรับปรุงแก้ไข”

“ไม่มีอะไรหรอก แค่รู้สึกว่าพี่หลินซือไม่ชอบองค์รัชทายาท ทำให้องค์รัชทายาททรงเสียพระทัย ดังนั้นข้าจึงต่อว่าพี่หลินซือนิสัยไม่ดี พี่หลินซือ พี่ไม่ได้ชอบองค์รัชทายาทจริง ๆ ใช่หรือไม่?”

“ข้าไม่ได้ชอบ แม้ว่าองค์รัชทายาทจะแสนดีมากเพียงใด แต่พี่อาเถิงที่อยู่ในใจของข้าแสนดีที่สุด เขาซื้อของกินอร่อย ๆ ให้ข้าตั้งมากมาย ทั้งยังพาข้าไปเที่ยวเล่นข้างนอก ได้อยู่กับพี่อาเถิงแล้ว ข้าสบายใจยิ่งนัก ท่านแม่เคยกล่าวไว้ พี่อาเถิงแสนดีกับข้าเสมอ ข้าควรรู้จักทะนุถนอมในสิ่งที่ได้รับเอาไว้”

“เช่นนั้นพี่หลินซือก็รู้น่ะสิว่า เหตุใดองค์รัชทายาทถึงชอบพี่?”

“ข้าเองก็ไม่รู้หรอก อาจเพราะคราวที่แล้วข้าเคยช่วยเหลือองค์รัชทายาทไว้ เจ้าคงไม่รู้ว่าคราวที่แล้วองค์รัชทายาทเกิดพลัดหลงอยู่บนถนน ข้าเลยช่วยองค์รัชทายาทตามหาองครักษ์ของเขาจนเจอ มิเช่นนั้นองค์รัชทายาทคงถูกคนค้ามนุษย์จับตัวไปแล้ว”

ตอนนี้หลินซือก็ยังไม่รู้ว่าองค์รัชทายาทตั้งใจทำให้ตัวเองพลัดหลง เพื่อให้หลินซือไปส่งเขา นางจึงคิดว่าตัวเองได้ช่วยเหลือเขาครั้งใหญ่

เหยาซูและเจี่ยงเถิงไม่อยากให้หลินซือรู้ความในใจขององค์รัชทายาท จึงไม่ได้พูดเรื่องนี้ออกไป ทำให้หลินซือคิดว่าองค์รัชทายาทชอบที่นางช่วยเหลือเขาจวบจนตอนนี้

“ยังมีเรื่องแบบนี้อีกหรือ?”

แม้ว่าลู่เหยาจะค่อนข้างโตก่อนวัยอันควร แต่สำหรับคนค้ามนุษย์นางย่อมหวาดกลัวโดยสัญชาตญาณ

ครั้นได้ยินว่าองค์รัชทายาทเกือบถูกคนค้ามนุษย์ลักพาตัวไป นางก็ตื่นตกใจมาก ความรู้สึกไม่พอใจหลินซือกลับไม่มีเหลือ ทั้งยังขอบคุณในการช่วยเหลือของหลินซืออย่างเงียบ ๆ มิเช่นนั้นนางคงไม่ได้รู้จักกับองค์รัชทายาท

“ใช่น่ะสิ ถ้าเจ้าต้องออกไปกับองค์รัชทายาท พาองครักษ์จำนวนมากไปด้วย”

ยามที่อยู่ต่อหน้าเด็กน้อยอย่างลู่เหยาที่เด็กกว่านางหลายปี หลินซือมักจะแสดงท่าทีจริงจังของเด็กที่โตกว่าเสมอ ทำให้ลู่เหยาตกตะลึงไม่น้อย

ครั้นเหยาซูเข้ามาเห็นภาพแบบนี้ ก็อดส่ายหน้าไม่ได้ เด็กคนนี้ไม่รู้เหมือนใครจริง ๆ

“เอ้อเป่า เจ้าอย่าทำให้น้องกลัว เข้าใจหรือไม่?”

“ท่านแม่!” เมื่อเห็นเหยาซูเดินเข้ามา หลินซือก็วิ่งเข้าไปหาเหยาซูด้วยความเบิกบานใจเป็นพิเศษ

“โต ๆ กันแล้ว ไม่กลัวน้องเจ้าหัวเราะเยาะเอาหรือไร” เหยาซูได้รับข่าวว่าลู่เหยามาเยือน จึงอยากมาดู

แม้ว่าจะไม่ถูกกับตู้เหิงมาตลอด แต่กับลู่เหยา เหยาซูไม่ได้มีอคติแต่อย่างใด แค่ไม่อยากให้ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์กันมากเกินไปเท่านั้น

เหยาซูจูงมือของหลินซือมานั่งบนเก้าอี้ แล้วมองพิจารณาลู่เหยาอย่างเงียบ ๆ

“ขอน้อมทักทายท่านป้าซูเจ้าค่ะ”

“อื้อ เด็กน้อย ว่าง ๆ มาเที่ยวเล่นที่นี่ได้นะ ปกติแล้วเอ้อเป่าของเรามักจะอยู่จวนเพียงลำพัง ข้าเองก็ยุ่งทั้งวัน ไม่มีเวลาอยู่กับนาง ดังนั้นเจ้ามาที่นี่ได้เสมอ เรายินดีต้อนรับ”

“ท่านแม่ ข้าก็ไม่ค่อยว่างนักหรอก ประเดี๋ยวข้าต้องไปกับพี่อาเถิงแล้ว น้องลู่เหยา ถ้าเจ้าอยากมาหาข้า อาจต้องรอเวลาสักหน่อย”

หลินซือครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นัยน์ตาคู่นั้นสะท้อนความสุขอย่างอดไม่ได้

“ก็ได้ ๆ เจ้ามักจะนึกถึงพี่อาเถิงของเจ้าเสมอ ก่อนหน้านั้นปรารถนาให้แม่กลับมา ตอนนี้ แม่กลับหรือไม่กลับก็เหมือนกัน เจ้านะเจ้า ขอแค่มีพี่อาเถิง อะไร ๆ ก็ยอมทั้งนั้น” เหยาซูพูดพลางดีดหน้าผากของหลินซือเบา ๆ มันเป็นการกระทำที่แสนอ่อนโยนเกินคำบรรยาย

ครั้นเห็นการกระทำของเหยาซูและหลินซือ ในใจของลู่เหยาก็อดอิจฉาไม่ได้

นางและมารดาไม่เคยมีช่วงเวลาแบบนี้ด้วยกันมาก่อน นางไม่เคยเห็นสายตาแบบนี้จากมารดาของนางมาก่อน

“เหอะ ข้าก็ต้องการท่านพ่อและท่านแม่เช่นกันเจ้าค่ะ”

“ออกไปครานี้เจ้าต้องเชื่อฟังพี่อาเถิงของเจ้าให้มาก เข้าใจไหม? ห้ามทำตัวเป็นเด็กเอาแต่ใจเด็ดขาด พี่อาเถิงของเจ้าออกไปปฏิบัติงานจริงจัง”

“เข้าใจแล้ว ท่านแม่ช่างจู้จี้ยิ่งนัก”

“ลู่เหยา ไหน ๆ เจ้าก็มาแล้ว อยู่กินข้าวด้วยกันแล้วค่อยกลับสิ ข้าจะไปสั่งให้พวกเขาทำอาหารอร่อย ๆ เจ้าอยากกินอะไรล่ะ?”

“ท่านป้าซู ข้ากินได้ทั้งนั้น ไม่ต้องยุ่งยากหรอกเจ้าค่ะ”

“ไม่ยุ่งยากเลย พวกเจ้าเล่นกันไปก่อน ข้ามีเรื่องต้องไปจัดการ ขอตัวลา”

หลังจากพูดจบ เหยาซูก็เดินออกไป

………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

คงต้องให้เวลาเยียวยาพักใหญ่เลยค่ะ กว่าที่รัชทายาทจะรู้ว่าบางทีหัวใจคนเราก็ไม่ใช่สิ่งที่ต่อให้เป็นจักรพรรดิแล้วจะครอบครองได้

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

Status: Ongoing
เหยาซูเสียชีวิตเนื่องจากเครื่องบินตก ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตนเองได้มาอยู่ในร่างตัวละครหนึ่งในนิยายที่ตัวเองกำลังอ่าน!หญิงสาวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกและมาเกิดใหม่ในนิยายยุคโบราณที่ตนเองกำลังอ่าน หลังฟื้นขึ้นมาจึงพบว่าตนเองอยู่ในร่างของ เหยาซู มารดาของวายร้ายทั้งสามในเรื่อง กลายเป็นแม่ม่ายลูกติดโฉมสะคราญที่ผู้คนต่างชี้หน้าบอกว่าเป็นตัวซวยทำให้สามีต้องตาย เมื่อได้ทราบว่าชีวิตของลูก ๆ ต้องเผชิญกับการดูถูก นางจึงทนไม่ไหวเก็บข้าวของหอบลูกกลับบ้านเก่า เริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกและครอบครัวทางแม่ของตน ด้วยคิดว่าหากสั่งสอนลูกดี ๆ พวกเขาคงไม่กลายเป็นตัวร้าย จนกระทั่งวันหนึ่งสามีของนางได้กลับมา พวกเขาจึงได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง แต่แล้วนางก็นึกขึ้นมาได้ว่าตามนิยายต้นฉบับสามีของตนจะตกหลุมรักสตรีอื่น จึงคิดหาวิธีที่จะหย่าขาดกับเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท