ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘] – บทที่ 705 งดงามไปตลอดชีวิต

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

บทที่ 705 งดงามไปตลอดชีวิต

บทที่ 705 งดงามไปตลอดชีวิต

ตั้งแต่ตั้งครรภ์ ฝูโหรวกลายเป็นจุดศูนย์กลางในความสนใจและการดูแลเอาใจใส่ของทุกคนในจวนไปโดยปริยาย งานที่เหนื่อยนิดเหนื่อยหน่อย นางก็ทำไม่ได้อีก

หรือต่อให้มี แต่ฝูโหรวก็ยังรู้สึกเบื่อ อยากจะออกไปทำอะไรบ้าง ไม่ใช่ถูกพ่อเหยาแม่เหยาขัดขวาง ถูกเหยาต้าหลางสั่งห้ามด้วยสีหน้าถมึงทึงไปเสียทุกอย่าง

ดังนั้นฝูโหรวจึงทำได้แค่อยู่แต่ในจวน เดินไปเดินมาอยู่ในลานกว้าง หรือไม่ก็กวาดพื้นแก้เซ็งเป็นครั้งคราว

จนเวลาล่วงเลย อายุครรภ์ของนางค่อย ๆ มากขึ้น ท้องค่อย ๆ ขยายยืดออก หลังจากที่ประสบกับอาการแพ้ท้องในช่วงแรก ตอนนี้ความอยากอาหารฟื้นฟูกลับมาแล้ว ดังนั้นฝูโหรวจึงได้ดูมีน้ำมีนวลเพิ่มมากขึ้น

เวลานี้ฝูโหรวนั่งอยู่ในห้องอย่างเบื่อหน่าย

นางเตรียมจะไปหยิบจอกน้ำจากโต๊ะด้านข้าง ตอนที่โค้งตัวลงก็พลันได้ยินเสียง ‘แผละ’

มือของฝูโหรวที่ถือจอกน้ำใบนั้นก็พลันแข็งทื่อไป นางหมุนตัวอย่างช้า ๆ เสื้อผ้าบริเวณเอวด้านข้างของนางได้ปริแตกออก

ก่อนหน้านั้นเสื้อผ้าชุดนี้มีขนาดกว้าง ตอนนี้เพิ่งพบว่าตัวนางนั้นขยายใหญ่เกินครึ่งไปแล้ว

ฝูโหรววางจอกน้ำลง แล้วรีบเดินตรงไปหน้ากระจกที่อยู่ถัดไป

หลายวันมานี้นางเฝ้าสังเกตการณ์อย่างละเอียด ตอนนี้เพิ่งพบว่านางอ้วนขึ้นมากแล้ว

ฝูโหรวก้มมองดูกระจกตรงหน้าอย่างละเอียด ใบหน้าของนางกลมกิ๊ก มือที่กำเข้าหากันก็ล้วนเต็มไปด้วยก้อนเนื้อ

“ทำไมข้าอ้วนเพียงนี้!”

ฝูโหรวโง่เขลาไป นางทรุดตัวลงข้างโต๊ะอย่างไม่สบอารมณ์

ตอนนี้รูปร่างของนางพังหมดแล้ว รูปร่างของนางน่าเกลียดยิ่งกว่าเดิม

นางอ้วนขึ้น รูปร่างก็อ้วนตุ๊ะต๊ะอย่างไม่น่าดู ไม่น่าเกลียดไปหน่อยหรือ แบบนี้ไม่น่าเกลียดไปแล้วหรือ?

ความจริงแล้ว ยิ่งอายุครรภ์มาก น้ำหนักตัวก็จะยิ่งมาก อีกทั้งนางก็ไม่ได้อ้วนมากเพียงนั้น เพียงแต่ตัวเองเห็นแล้วรู้สึกอ้วนอารมณ์ที่ยับยั้งไว้ของฝูโหรวดำเนินต่อมาจนถึงกลางคืน

หลังจากที่เหยาต้าหลางกลับมา นางก็ไม่ได้พูดสิ่งใดนัก

รอจนกระทั่งเหยาต้าหลางขึ้นเตียง แล้วกอดนางเฉกเช่นทุกครั้ง ดวงตาของฝูโหรวก็เริ่มแดงก่ำ

ตอนนี้นางเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้แล้ว ยามกอดนางคงรู้สึกแปลกมากกระมัง

ยามราตรีที่มืดสนิท ดวงตาของฝูโหรวเปล่างประกายระยิบระยับ

นางตัดสินใจแล้วว่าต้องเปลี่ยนรูปร่างในตอนนี้

นางจะอ้วนแบบนี้ไม่ได้ ต้องผอมลงกว่านี้ถึงจะถูกต้อง

ฝูโหรวหอบการตัดสินใจนั้นหลับไปพร้อมกัน

วันที่สองตอนกินอาหารมื้อเช้า ฝูโหรวคีบอาหารใส่ชาม “ข้าอยากกลับไปกินข้าวในห้อง”

นางยังจำแผนการของตัวเองได้ ยามพูดก็เบาบาง น้ำเสียงเล็กจนแทบไร้น้ำหนัก

“เอาไปกินในห้องจะกินพอหรือ เอาไปเพิ่มอีกหน่อยสิ”

แม่เหยาได้ยินดังนั้นก็อึ้งงันก่อน หากแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ตอนนี้การทำให้ฝูโหรวเบิกบานใจเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า

แม่แหยาลุกขึ้นยืนพร้อมกับยกอาหารจานหนึ่ง และน้ำแกงอีกถ้วยหนึ่ง แล้วเดินไปส่งให้ถึงในห้องของฝูโหรว

“เอาล่ะ แค่นี้พอแล้ว”

ฝูโหรวรีบเรียกดักไว้ นางรู้สึกละอายแก่ใจ

อาหารถูกวางไว้เรียบร้อย ภายในห้องเหลือนางเพียงลำพัง ฝูโหรวแอบเทข้าวออกครึ่งหนึ่งจากนั้นก็ค่อย ๆ กินอาหารทีละนิดทีละหน่อย

แม้ว่าหลังจากกินข้าวแล้วท้องจะยังว่างอยู่ แต่ถ้ายังยืนหยัดต่อไปเช่นนี้อีกสักสองสามวัน นางต้องผอมลงกว่าเดิมแน่นอน

ฝูโหรวลูบท้องของตัวเอง มองดูอาหารบนโต๊ะ และยับยั้งชั่งใจในความอยากอาหารของตัวเอง

หลังจากที่เหยาต้าหลางกลับมา เขาก็ไม่เห็นฝูโหรวแล้ว

ครั้นถามพ่อกับแม่ถึงได้รู้ว่าฝูโหรวกินอาหารอยู่ในห้องเพียงลำพัง

เหยาต้าหลางไม่ได้คิดมากนัก เปิดประตูเข้าไปอย่างรวดเร็ว ใครเลยจะรู้ว่าจะได้เห็นฝูโหรวยังไม่ทันได้จัดการอาหารเมื่อครู่

อาหารเหล่านั้นถูกเลื่อนออกมาวางไว้ด้านข้างอย่างเปล่าวเปลี่ยว

สีหน้าของเหยาต้าหลางได้เปลี่ยนไป ฝูโหรวเป็นอะไรไป? เหตุใดถึงได้ลดปริมาณอาหารของตัวเองลง?

เขารุดหน้าเข้าไป นั่งลงข้างกายของฝูโหรว

“เจ้ากลับมาแล้วหรือ?” ฝูโหรวกังวลใจ

“ข้ากลับมาแล้ว เหตุใดเจ้าถึงได้เขี่ยอาหารเหล่านั้น แล้วแอบกินข้าวน้อยลงเช่นนี้?”

ฝูโหรวไม่คิดว่าจะถูกจับได้จึงหมดกำลังใจลง

นางก้มหน้าลงอย่างอึดอัดใจโดยไม่พูดสิ่งใด แต่เหยาต้าหลางกลับโกรธเคือง และเป็นห่วงร่างกายของนางมาก

“บอกข้ามา เกิดอะไรขึ้น?” เหยาต้าหลางเค้นถาม

ฝูโหรวไม่อยากพูด แต่ท่าทางของเหยาต้าหลางนั้นขึงขัง แววตาก็เคร่งขรึม นัยน์ตาเช่นนี้ ฝูโหรวค่อนข้างหวาดกลัว กลัวจนต้องพูดออกมาอย่างไม่อาจปิดบังได้

“ข้ายอมบอกเจ้าแล้วนี่อย่างไร? เจ้าอย่าโกรธข้าสิ เมื่อวานข้าพบว่าตัวเองอ้วนขึ้นมาก ข้าจึงตั้งใจกินน้อยลง เพื่อให้ตัวเองผอมลง”

ครั้นได้ยินเช่นนี้ เหยาต้าหลางก็ทั้งโกรธทั้งหัวเราะในทันใด

“เจ้าท้องนะ จะอ้วนขึ้นชั่วคราวมันก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากเจ้าคลอดลูกเจ้าก็ไม่อ้วนแล้ว ทำเช่นนี้เจ้ากำลังทำร้ายตัวเข้าเอง”

เหยาต้าหลางทิ้งท้ายด้วยประโยคอันเย็นชา แล้วหมุนตัวเดินออกไป ฝูโหรวนั่งอยู่บนเก้าอี้ อย่างทำอะไรไม่ถูก

ครานี้นางทำพลาดไป ทั้งยังยั่วโมโหเหยาต้าหลางอีกด้วย ทำอย่างไรดี?

ฝูโหรวนั่งไม่เป็นสุข อยากจะลุกไปหาเขา แต่ครั้นนึกถึงท่าทีเมื่อครู่ของเหยาต้าหลางได้ก็รู้สึกกลัวขึ้นมา

นางได้แต่กระวนกระวายอยู่ในห้อง ร้อนใจอย่างบอกไม่ถูก

ทันใดนั้น ฝูโหรวก็ได้กลิ่นหอมบางอย่าง

เดิมทีนางไม่ได้กินข้าวอิ่มมากนัก ครั้นได้กลิ่นหอมนี้ก็รู้สึกหิวขึ้นมาอีกครั้ง

“ยังไม่อิ่มใช่หรือไม่ รีบมากินเพิ่มสิ”

เหยาต้าหลางยกจานเข้ามา จานสองใบนั้นคือผัดผักและผัดเนื้อ หน้าตาอาหารช่างน่ากินยิ่งนัก จากนั้นเขาก็ยกอาหารอีกสองสามอย่างเข้ามา วางเรียงรายจนเต็มโต๊ะนับคร่าว ๆ แล้วก็ประมาณหกถึงเจ็ดอย่างเห็นจะได้

“เหตุใดเจ้าถึงทำมากมายเพียงนี้?” ฝูโหรวอึ้งงันยิ่งกว่าเดิม นางมองเหยาต้าหลางอย่างไม่เข้าใจ

“กินดี ๆ ต่อไปถ้าอยากกินอะไร ข้าจะทำให้เจ้า แต่เจ้าห้ามให้ตัวเองทนหิวอีก”

เหยาต้าหลางน่าจะไม่โกรธแล้ว ฝูโหรงจึงผ่อนคลายลง

อาหารเหล่านี้ค่อนข้างพิเศษ บางอย่างก็นุ่มละมุนลิ้น เมื่อก่อนไม่ยักจะเคยเห็น ไม่รู้ว่าเหยาต้าหลางไปถามมาจากไหน ถึงได้ทำมันออกมาได้ เพื่อให้นางได้กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่

ฝูโหรวหยิบตะเกียบ นางมองเหยาต้าหลาง แล้วอดไม่ได้ที่จะพูดความในใจของตัวเองออกมา

“ข้าไม่ได้ตั้งใจจะไม่กินอาหารนะ แต่วันนั้นที่ข้าส่องกระจกแล้วเห็นตัวเองน่าเกลียด ร่างก็อ้วนตุ๊ต๊ะ เสื้อผ้าก็ขยายออก หน้าก็อ้วน เต็มไปด้วยเนื้อ”

ฝูโหรวพูดด้วยความเศร้าใจ นางมองเหยาต้าหลางด้วยสีหน้าน่าสงสาร

“ตอนนี้ข้าดูแย่มาก” ฝูโหรวก้มหน้าอย่างตื่นตะลึง เหยาต้าหลางเห็นแล้วก็อดปวดใจไม่ได้ เขารีบเดินรุดขึ้นหน้า คว้ามือของฝูโหรวไว้ จากนั้นก็ดึงนางเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง ปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและแผ่วเบาอยู่ข้างหู

“ใครบอกว่าเจ้าดูแย่ ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอย่างไร เจ้าจะงดงามไปตลอดชีวิต อีกทั้งเจ้างดงามที่สุดในใจข้าเสมอ แค่เจ้าและลูกอยู่อย่างสงบสุข”

ฝูโหรวได้ยินดังนั้นก็ยิ่งรู้สึกแย่ นางซบหน้าเข้ากับแผงอกของเหยาต้าหลาง แล้วออกแรงพยักหน้า

ในเมื่อหมดหนทางลดความอ้วนต่อก็ทำได้แค่ต้องกินดี ๆ อาหารที่อยู่บนโต๊ะล้วนเป็นสิ่งที่เหยาต้าหลางยอมออกไปเสียเวลาหลายชั่วยาม ตั้งอกตั้งใจรังสรรค์มันออกมา

ฝูโหรวหยิบตะเกียบให้เหยาต้าหลาง “เราสองคนกินด้วยกันเถอะ”

เหยาต้าหลางพยักหน้า นั่งลงข้างกายของนาง ทั้งสองคนเห็นรอบยื้มของกันและกันเป็นครั้งคราว พาให้หัวใจของฝูโหรวสงบมากขึ้น

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

อารมณ์แปรป่วนของหญิงท้องนี่ไม่ธรรมดาเลยนะคะเนี่ย

ไหหม่า (海馬)

——————————————–

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

Status: Ongoing
เหยาซูเสียชีวิตเนื่องจากเครื่องบินตก ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตนเองได้มาอยู่ในร่างตัวละครหนึ่งในนิยายที่ตัวเองกำลังอ่าน!หญิงสาวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกและมาเกิดใหม่ในนิยายยุคโบราณที่ตนเองกำลังอ่าน หลังฟื้นขึ้นมาจึงพบว่าตนเองอยู่ในร่างของ เหยาซู มารดาของวายร้ายทั้งสามในเรื่อง กลายเป็นแม่ม่ายลูกติดโฉมสะคราญที่ผู้คนต่างชี้หน้าบอกว่าเป็นตัวซวยทำให้สามีต้องตาย เมื่อได้ทราบว่าชีวิตของลูก ๆ ต้องเผชิญกับการดูถูก นางจึงทนไม่ไหวเก็บข้าวของหอบลูกกลับบ้านเก่า เริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกและครอบครัวทางแม่ของตน ด้วยคิดว่าหากสั่งสอนลูกดี ๆ พวกเขาคงไม่กลายเป็นตัวร้าย จนกระทั่งวันหนึ่งสามีของนางได้กลับมา พวกเขาจึงได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง แต่แล้วนางก็นึกขึ้นมาได้ว่าตามนิยายต้นฉบับสามีของตนจะตกหลุมรักสตรีอื่น จึงคิดหาวิธีที่จะหย่าขาดกับเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท