ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว – ตอนที่ 178 วิถีของกรงฟาราเดย์สู่ชื่อเสียงในโลกบรรพกาล (2)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 178 วิถีของกรงฟาราเดย์สู่ชื่อเสียงในโลกบรรพกาล (2)

หลี่ฉางโซ่วกล่าวผ่านส่งข้อความเสียง

“เจ้านำของที่ข้าเคยมอบให้เมื่อก่อนหน้านี้ติดตัวมาด้วยหรือไม่? หากนำมาด้วย ก็แค่ใช้มันเท่านั้น ไม่ต้องวิตกเรื่องใดอีก จงจำไว้ว่าชีวิตของเจ้าสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด การข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์เกิดขึ้นจากคุณสมบัติและความแข็งแกร่งของเจ้า รากฐานของเจ้าในยามนี้…ค่อนข้างแข็งแกร่งนัก เพียงต้องกระจายพลังเวทของเจ้าให้เหมาะสมเท่านั้น อย่าใช้พลังมากเกินไปในตอนเริ่มต้น เช่นนั้นแล้ว เจ้าย่อมข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ได้อย่างไม่เป็นปัญหานัก”

โหย่วฉินเสวียนหย่าพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะมองเมฆที่รวมตัวกันบนท้องฟ้า แล้วรีบหยิบกรงฟาราเดย์ออกมาสองชุดอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงวางไว้ทั้งสองข้างโดยให้อยู่ห่างกันยี่สิบจั้ง

หลังจากนั้น นางจึงหยิบขวดโอสถวิญญาณสองสามขวดที่หลี่ฉางโซ่วให้ไว้ออกมาแล้วนำโอสถสลายเซียนกลับคืนไปด้วยรู้สึกว่านางย่อมไม่ต้องใช้มัน…

โอสถอีกสามชนิดคือ… ส่วนเล็กๆ ของ ‘ชุดข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์’ ที่หลี่ฉางโซ่วเตรียมเอาไว้ให้หลิงเอ๋อร์

โอสถชนิดแรกคือการเพิ่มความต้านทานสายฟ้า โอสถชนิดที่สองจะคงฤทธิ์การรักษาและฟื้นฟูพลังเวทอย่างต่อเนื่อง โอสถชนิดที่สามใช้รักษาบาดแผลและฟื้นฟูแก่นโลหิตได้… โอสถที่กลั่นสกัดได้ยากที่สุดคือโอสถชนิดแรก ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อเทียบกับอีกสองโอสถนั้นจะธรรมดากว่า ในยามนั้น บนท้องฟ้า หมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์กำลังรวมตัวกันอย่างรวดเร็วแล้ว ชั่วขณะนั้นเมฆสีเทาขนาดใหญ่กำลังหมุนไปช้าๆ… ทันใดนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ขับไล่กลุ่มเมฆที่อยู่รายรอบและล่าถอยไปทันที ในขณะนั้นฝักกระบี่เกล็ดอัคคีที่สะพายอยู่บนหลังของโหย่วฉินเสวียนหย่าสั่นเล็กน้อย จากนั้นกระบี่ก็พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและแตกกระจายออกไปในอากาศ กลายเป็นกระบี่บินรวมสามสิบหกเล่มที่ลุกโชนไปด้วยเพลิงแท้เสวียนชิง

เหนือร่างของเขา บัดนี้จุดกำเนิดสายฟ้าใต้หมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์แลบแปลบปลาบ แล้วทัณฑ์สวรรค์แรกก็กำลังจะฟาดลงมาแล้ว!

ทันใดนั้น โหย่วฉินเสวียนหย่าก็ชูกระบี่ของนางขึ้นพร้อมกับร้องกู่ก้องว่า “จงกระจายไป!”

ฉับพลันนั้นกระบี่บินทั้งสามสิบหกเล่มก็กระจายออกไปพร้อมๆ กันในขณะที่ร่างของโหย่วฉินเสวียนหย่าค่อยๆ ลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า นางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเผยใบหน้างดงามเย็นชาที่ไร้รอยหวาดหวั่นใดๆ มีเพียงความมุ่งมั่นและแน่วแน่เท่านั้น

เปรี้ยง!

สายฟ้าฟาดลงมาทันที พลังแห่งทัณฑ์สวรรค์ก็ยังครองอำนาจเหนือแม้แต่ในโลกใบเล็กๆ แห่งนี้!

ชั่วขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วพยักหน้าช้าๆ ขณะอยู่ห่างออกไปได้สิบลี้แล้ว คำแนะนำที่เขาให้โหย่วฉินเสวียนหย่าเมื่อก่อนหน้านี้ได้ผล…

ในเวลานั้น ภายนอกภาพแผนที่ บรรดาเซียนจากสามสำนักที่อยู่บนเกาะอมตะทั้งสองแห่งและตามจุดต่างๆ ตามริมทะเลสาบล้วนเพ่งความสนใจไปที่หมู่เมฆสีเทาขนาดเล็กที่ปรากฏขึ้นบนภาพแผนที่สมบัติ

ช่างบังเอิญเสียจริงที่มีรายการเล็กๆ เช่นนี้เกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึง… สัมผัสเซียนรับรู้ของพวกเขาไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ในขณะที่ส่วนใหญ่รวมตัวกันพุ่งไปยังตำแหน่งสถานที่อยู่ของโหย่วฉินเสวียนหย่า…

ตามประเพณีของสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย ผู้อาวุโสเซียนเทียนคนหนึ่งจะก้าวออกไปทันทีเมื่อพบค่ายกลเช่นนี้ ในขณะนั้น เขาสูดลมหายใจเข้าลึก และกล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “มันคือแปดสายฟ้าสามสิบสองทัณฑ์สวรรค์ซึ่งอยู่ในขั้นที่หกของการทะยานขึ้นสู่เซียน!

บัดนี้ บนพื้นเหนือก้อนเมฆ ยังมีเสียงหัวเราะและพูดคุยกันว่า “ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้ที่สามารถเรียกทัณฑ์สวรรค์เข้าไปในภาพได้” “ข้าหยั่งรู้ได้ว่านางเป็นศิษย์ของสำนักตู้เซียนดูเหมือนว่า จะมีนามว่า เสวียนหย่า คุณสมบัติของนางไม่เลวเลย”

“สำนักบำเพ็ญเต๋าหยินได้รับพร ช่างมีโชควาสนาจริงๆ”

ในขณะนั้น ทั้งบรรดาเซียนและศิษย์ของสำนักตู้เซียนล้วนรู้สึกวิตกกังวลมากที่สุด

จิ่วจิ่วถือน้ำเต้าสุราไว้ในมือเล็กๆ ของนางและจิบเป็นครั้งคราวเมื่อรู้สึกกังวลมาก ในขณะนั้น นางแผ่สัมผัสเซียนรับรู้ออกไปดูเหตุการณ์ในภาพวาดที่ทัณฑ์สวรรค์กำลังโจมตีโหย่วฉินเสวียนหย่าอย่างต่อเนื่อง เวลานี้อาจารย์อาน้อยรู้สึกวิตกกังวลอย่างยิ่ง

ในขณะนั้น เจ้าสำนักจี้อู๋โหย่วเผยรอยยิ้มออกมาที่มุมปาก เขารู้ว่า อย่างน้อยๆ โหย่วฉินเสวียนหย่าย่อมสามารถอยู่รอดได้จนถึงทัณฑ์สวรรค์ที่แปด

นางมีโอกาสรอดห้าในสิบส่วนสำหรับทัณฑ์สวรรค์ที่แปด

นั่นนับเป็นอัตราความสำเร็จที่ค่อนข้างดีอยู่แล้ว

ความจริงแล้ว ทัณฑ์สวรรค์ขึ้นสู่เซียนนั้นเกิดขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว และจะสิ้นสุดในเวลาเพียงไม่นานหลังจากนั้น

เพราะเต๋าสวรรค์โบราณนั้นยุ่งมากและมีผู้บำเพ็ญจำนวนมากเกินไปในโลกบรรพกาล

สำหรับคนทั่วไปแล้ว การกลายเป็นเซียนถือเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ แต่ในโลกนี้ มันเป็นเพียงดุจมดที่กำลังมีปีก เหมือนลูกกบที่กลายพันธุ์เท่านั้น หาใช่เรื่องใหญ่โตไม่ แต่ในไม่ช้า จี้อู๋โหย่วก็ขมวดคิ้ว และรอยยิ้มของเขาก็เลือนหายไป โหย่วฉินเสวียนหย่าจัดการกับทัณฑ์สวรรค์ที่หกได้ดีแล้ว แต่บัดนี้ ทัณฑ์สวรรค์ได้ทำลายเครื่องมือเวทของนาง ฝักกระบี่เกล็ดอัคคี และทำร้ายปราณวิญญาณของนางจนได้รับบาดเจ็บ…

ในขณะนั้น โหย่วฉินเสวียนหย่าได้ใช้ทุกวิถีทางเพื่อจัดการกับทัณฑ์สวรรค์

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีร่องรอยของสีดำไหม้เกรียมทั่วร่างของนางจนอยู่ในสภาพค่อนข้างน่าอนาถ

ทันใดนั้น ทัณฑ์สวรรค์ที่เจ็ดได้ก่อตัวขึ้นแล้ว และมีภาพวิหคสีเทานับร้อยกำลังเหินบินอยู่เหนือเมฆทัณฑ์สวรรค์ แล้วจู่ๆ ลมปราณของโหย่วฉินเสวียนหย่าก็… ติดขัดเล็กน้อย .. “แย่แล้ว” จี้อู๋โหย่วกล่าวออกมาช้าๆ ในขณะนั้น บรรดาเซียนหกสิบคนและศิษย์ของสำนักตู้เซียนที่อยู่ด้านหลังของเขา ล้วนวิตกกังวลมากขึ้นในทันที

เวลานี้ หลี่ฉางโซ่วพลันขมวดคิ้วในขณะที่จับจ้องไปที่ร่างงดงามที่ยืนอยู่กลางอากาศ นางน่าจะรอดพ้นจากทัณฑ์สวรรค์ที่เจ็ดได้ แต่ทัณฑ์สวรรค์ที่แปด…

เป็นไปตามคาด การก้าวหน้าเร็วมากเกินไปในขณะที่รากฐานยังไม่มั่นคง ทำให้ยากมากขึ้นในการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์

หลี่ฉางโซ่ว ยังไม่ได้กลายเป็นเซียนจิน แต่เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ต่อให้เขากลายเป็นเซียนต้าหลัวจิน ก็ยังไม่อาจปกป้องโหย่วฉินเสวียนหย่าได้

หากเขากระทำการเร่งรีบ ไม่เพียงแค่ไร้ประโยชน์เท่านั้น แต่เขายังต้องได้รับการลงทัณฑ์จากสวรรค์อีกด้วย

ในการบรรลุเซียน นางต้องต้านทานทัณฑ์สวรรค์บรรลุเซียนได้ด้วยตัวเองเท่านั้น หากมีคุณสมบัติโดดเด่น นางจะต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยากมากขึ้นกว่าเดิม นี่คือ ความเท่าเทียมกันของเต๋าสวรรค์

หลี่ฉางโซ่วค่อยๆ หลับตาลง เพราะท้ายที่สุด เขาก็มีมิตรภาพกับโหย่วฉินเสวียนหย่าและได้ร่วมกันทำสิ่งต่างๆ กับนางมามากมาย จึงอดจะลังเลใจไม่ได้…

ในขณะนั้น โหย่วฉินเสวียนหย่าก็ระเบิดเสียงตะโกนก้องออกมา!

ทันใดนั้นร่างของนางก็พุ่งดิ่งลงไปข้างล่างและเข้าไปในกรงฟาราเดย์ทันที จากนั้นพลังเวทก็แผ่พุ่งออกมาจากร่างของนาง และพร้อมที่จะต้านทานทัณฑ์สวรรค์ที่เจ็ด! ในขณะนั้น จู่ๆ บรรดาเซียนล้วนงุนงง อันใดกันนั่น… เครื่องมือเวทนั้นคืออันใดกัน?

สามารถต้านทานทัณฑ์สวรรค์ได้หรือ?

ทันใดนั้น หลี่ฉางโซ่วก็เข้าใจในทันทีว่า โหย่วฉินเสวียนหย่ากำลังคิดทำอันใด! เกือบจะทันทีที่นางหลบสายฟ้าสีเขียวได้ นางก็ตกลงมาจากท้องฟ้า ราวกับว่ามีวิหคกำลังร้องโหยหวนอยู่ภายในนั้น แล้วในพริบตาก็กระแทกกับกรงขนาดใหญ่! ในขณะนั้น สายฟ้าฟาดเปรี้ยงลงมา และกรงก็กลายเป็นดั่งลูกสายฟ้า จากนั้นสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งผ่านไปทั่วทุกทิศทาง และป่าโดยรอบภายในรัศมีร้อยจั้งก็ถูกทำลายราบไปในพริบตา!

บัดนั้น พลังแห่งทัณฑ์สวรรค์ได้ปะทุขึ้นและกรงฟาราเดย์ก็ถูกทำลายแตกออกเป็นชิ้นๆ ทันที กรงฟาราเดย์ที่ไม่ได้ใช้อีกกรงซึ่งอยู่ห่างออกไปยี่สิบจั้งก็ถูกทำลายด้วยพลังแห่งทัณฑ์สวรรค์เช่นกัน! หลี่ฉางโซ่วพยักหน้าในใจ… ความจริงแล้ว ทุกคนสามารถใช้สิ่งนี้ได้เพียงครั้งเดียวในช่วงข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ซึ่งเต๋าสวรรค์ยอมรับกลวิธีเช่นนี้!

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง แสงสายฟ้าที่แลบแปลบแปลบนั้นพลันสลายไป แล้วจู่ๆ โหย่วฉินเสวียนหย่าก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้งในขณะที่กระบี่บินพุ่งออกมาจากที่ต่างๆ แล้วล้อมรอบกายนางเอาไว้

ในขณะนั้น ลมปราณและบาดแผลของนางแทบจะเหมือนกับผลกระทบที่เกิดขึ้นก่อนทัณฑ์สวรรค์ที่เจ็ดจะถล่มลงมา! ซึ่งเป็นเพียงการสูญเสียพลังเวทไปบางส่วนเท่านั้น! ชั่วเวลานั้น บรรดาเซียนของทั้งสามสำนักล้วนกำลังสับสน…

หลี่ฉางโซ่วเผยรอยยิ้มและยกนิ้วหัวแม่มือให้โหย่วฉินเสวียนหย่า นางจงใจไม่รับสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ที่เจ็ด เพื่อจะเก็บกักพลังของตนเองไว้และใช้สถานะที่แข็งแกร่งที่สุดของนางต้านรับสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ที่แปด ทำให้นางมีความมั่นใจมากขึ้นและทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อรับผลประโยชน์จากทัณฑ์สวรรค์ ศิษย์น้องหญิงไม่ดื้อรั้น ทั้งที่ปกติแล้ว นางมักจะขาดความฉลาดทางอารมณ์

ข้าไม่เสียกรงสองกรงนี้ไปเปล่าเลย มาเถิด ศิษย์น้องหญิงตัวอันตราย ข้าหวังว่าความอันตรายของเจ้าจะค่อยๆ หายไปเมื่อกลายเป็นเซียนแล้ว

ทว่า… ขณะที่หลี่ฉางโซ่วหยุดคิด หงส์สายฟ้าก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับกางปีกออกแล้วพุ่งเข้าหาโหย่วฉินเสวียนหย่า! “กระบี่ทะยาน!”

โหย่วฉินเสวียนหย่าร้องตะโกนออกมาขณะที่ชูกระบี่ในมือขวาขึ้นไปบนท้องฟ้า และกระบี่บินก็รายล้อมรอบร่างของนาง กระโปรงของนางขาดรุ่งริ่ง เส้นผมยาวปลิวไสวไปในอากาศ บัดนี้ ร่างบอบบางของนางกำลังเผชิญหน้ากับหงส์สายฟ้า!

ในขณะนี้ ลำแสงสาดสายเต็มกำลังพร้อมด้วยท่าทางสมบูรณ์แบบของนาง! หากไม่เป็นเพราะถ้อยคำที่โหย่วฉินเสวียนหย่าตะโกนออกมา ย่อมทำให้หลี่ฉางโซ่วรู้สึกพอใจที่ได้ประจักษ์ตาการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ในครั้งนี้

“ศิษย์พี่ฉางโซ่ว วิถีเซียนไร้ที่สิ้นสุด เสวียนหย่าจะรอท่านอยู่ข้างหน้าเจ้าค่ะ…” ทันทีที่กล่าวจบ สายฟ้าก็เข้าปะทะร่างนาง ชั่วเวลานั้น สายฟ้าฟาดไปทั่วทุกหนแห่ง และจักรวาลเล็กๆ นี้ก็เต็มไปด้วยสายฟ้าสีเขียว…

…………………………………………………………………..

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

Status: Ongoing
เพื่อให้มีอายุยืนยาวในยุคบรรพกาลอันโหดร้าย จงหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันฝึกวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!หลี่ฉางโซ่วที่ไปเกิดใหม่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนตัวน้อยๆ ในโลกบรรพกาลอันน่าสะพรึงกลัวเขาถูกอาจารย์ผู้นำยอดเขาสุดแสนอัตคัดในสำนักเซียนมนุษย์เล็กๆ พาตัวมาดูแล เพื่อฝึกฝนให้บรรลุวิถีเซียนตั้งแต่ยังเยาว์เป้าหมายของเขาคือ ‘อายุยืนยาว’ ในยุคบรรพกาลอันโหดร้ายนี้จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการเก็บงำความสามารถ ขยันหมั่นเพียรฝึกฝนเคล็ดวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!เดิมทีในแผนการของหลี่ฉางโซ่ว เขาตั้งใจว่าจะซ่อนตัวอยู่ในเขาฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิตจนกระทั่งปีหนึ่ง อาจารย์ของเขาคงมีชีวิตที่สงบเงียบเกินไปจนเบื่อขึ้นมา ถึงได้รับศิษย์น้องหญิงคนหนึ่งมาให้เขา…เพื่อไม่ให้ศิษย์น้องนำผลกรรมมาแปดเปื้อนตน เขาจะต้องสอนหลักการการใช้ชีวิตให้ศิษย์น้องดีๆ เสียหน่อยแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน