ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว – ตอนที่ 204 กลอุบายของฉางโซ่ว (2)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 204 กลอุบายของฉางโซ่ว (2)

จากที่เขาเคยแลกหมัดประมือกับผู้บำเพ็ญเหวินจิงมาสองสามครั้ง ก็รู้ว่านางเป็นคนอย่างไร และยังถือว่า นางค่อนข้างเจ้าเล่ห์พอตัว บำเพ็ญเหวินจิงเป็นตัวอันตรายที่ซ่อนเร้นที่สุด และยามนี้สิ่งสำคัญอันดับแรกของเขาคือ ป้องกันไม่ให้ยุงออกไปข้างนอก

ในฐานะที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกัน หลี่ฉางโซ่วจึงพอรู้เกี่ยวกับรูปแบบ แนวทางและวิธีการทำงานของผู้บำเพ็ญเหวินจิง

แม้ในขณะนี้ เขาจะไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ที่ผู้บำเพ็ญเหวินจิงจะจงใจกระทำ แต่ตามคำชี้แนะนำของจอมปราชญ์ ก็เป็นไปได้มากที่ผู้บำเพ็ญเหวินจิงจะไม่ได้แสดงละคร แต่จากที่ดูแล้ว เมื่อถูกหลอกลวง นางน่าจะรู้สึกเจ็บใจมากจนท้อแท้ จึงอยากออกไปจากโลกบรรพกาลเพื่อหลบเลี่ยงไปจากสามอาณาจักรจริงๆ ก็ได้ …

มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?!

ความตั้งใจของจอมปราชญ์ไท่ชิง คือการปล่อยให้ผู้บำเพ็ญเหวินจิงอยู่ในสภาพเดิมของนาง ไม่ว่า ผู้บำเพ็ญเหวินจิงจะวางแผนทำร้ายสำนักบำเพ็ญเต๋า หรือเผ่ามังกรอย่างไรก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อนางที่จะทำลายดอกบัวทองระดับสิบสองของสำนักบำเพ็ญประจิม!

แล้วท่านอาจารย์ลุงจ้าวไปทำอะไรกับยุงตัวนี้?

หลี่ฉางโซ่วผุดความคิดหลากหลายขึ้นมาในใจอย่างรวดเร็ว แม้เขาจะรีบร้อน แต่เขาก็มีทางเลือกสองสามทางเอาไว้ในใจอยู่แล้ว…

ทางเลือกที่หนึ่งคือ ฉวยประโยชน์จากสถานการณ์นี้เพื่อยั่วยุให้ผู้บำเพ็ญเหวินจิงบังเกิดโทสะและเกลียดชังบรรดาเซียนของสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย ซึ่งจะกระตุ้นให้นางกระตือรือร้นสร้างปัญหาอย่างบ้าคลั่งต่อไปในโลกบรรพกาล

ทางเลือกที่สองคือ พูดคุยกับผู้บำเพ็ญเหวินจิง ผู้เลือดร้อน โดยเราจะเปิดเผยตัวตนของผู้บำเพ็ญเหวินจิงและบอกว่าเราให้ความสำคัญกับนางมาก และจะสนับสนุนผู้บำเพ็ญเหวินจิงเพื่อชดเชยความเสียหายในเรื่องที่นางถูกแกล้งและหลอกลวงในครั้งนี้

ทางเลือกที่สามคือ หลอกให้ผู้บำเพ็ญเหวินจิงเข้าสู่สำนักบำเพ็ญเต๋า

ทางเลือกที่สี่คือ ข้าจะสอนวิธีพลิกสถานการณ์ให้ผู้บำเพ็ญเหวินจิงและให้นางกลับไปต่อสู้กับคณะต้มตุ๋นของท่านอาจารย์ลุงจ้าว

และหลี่ฉางโซ่วก็ตัดสินใจได้ในทันที

ทางเลือกที่หนึ่งนั้น อันตรายเกินไป หากผู้บำเพ็ญเหวินจิงที่บ้าคลั่งไปที่การประชุมแหล่งกำเนิดสามสำนักบำเพ็ญเต๋าเพื่อทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็จะทำให้อันตรายและไม่ปลอดภัยมากเกินไป

ทางเลือกที่สองนั้น อาจสร้างความเป็นไปได้ของ “เพื่อนสนิทหญิง ผู้บำเพ็ญเหวินจิง” ซึ่งจะทำให้เกิดกรรมตามมาได้ง่าย และง่ายที่จะทำให้คนทั่วไปได้ดูเรื่องสนุกๆ จากเขา คงไม่ปลอดภัยที่จะปล่อยให้หลี่ฉางโซ่วถูกป้ายสีว่าเป็นพวกคลั่งขา [1]

ข้าเป็นคนปกตินะ ชัดเจนว่า ข้าชื่นชอบทุกๆ ส่วน!

แค่กๆๆ ไปที่หัวข้อหลักกันเถิด… หากเขาเลือกทางเลือกที่สาม ปรมาจารย์จอมปราชญ์ก็คงไม่ยอมรับนาง ผู้บำเพ็ญเหวินจิงได้วางแผนทำร้ายต่อต้านสำนักบำเพ็ญประจิมมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว จึงไม่จำเป็นที่ปรมาจารย์ซันชิงทั้งสามจะยอมรับคนชั่วร้ายเช่นนี้ มันไม่ปลอดภัย

สำหรับทางเลือกที่สี่ แม้มันจะค่อนข้างเยี่ยมกว่า แต่ ก็ยังมีอันตรายที่ซ่อนอยู่มากมาย หากเขาไม่ระวังและจัดการไม่ดีพอจนเกิดข้อผิดพลาด หลี่ฉางโซ่วย่อมจะถูกสำนักบำเพ็ญประจิม สำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยและปรมาจารย์ซันชิงทั้งสามขึ้นบัญชีดำอย่างแน่นอน…

ยังมีระยะห่างระหว่างพวกเขาอีกร้อยจั้ง ในขณะนั้น ผู้บำเพ็ญเหวินจิงกำลังจะหันหลังกลับและจากไป หลี่ฉางโซ่วจึงรีบตัดสินใจทันที

เขาเลือก… ทางเลือกที่ห้า!

ทางเลือกที่ห้า!

‘ฝ่าบาทองค์เง็กเซียน ด้วยประสงค์ของจอมปราชญ์ที่ออกบัญชามา และสถานการณ์ได้บังคับข้าในเรื่องนี้ ดังนั้นครั้งนี้ คงต้องให้ฝ่าบาทเป็นแพะรับบาปแล้ว!

“ช้าก่อน สหายเต๋า โปรดรอก่อนเถิด!” หลี่ฉางโซ่วซึ่งปลอมตัวเป็นเซียนชราผู้หนึ่ง ยกแซ่หางม้าขึ้นแล้วยังคงร้องตะโกนต่อไป

ผู้บำเพ็ญเหวินจิงดูเร่งร้อน นางหันศีรษะไปจ้องมองร่างที่กำลังบินตรงมาหานาง นางอยากจะลงมือโจมตีจริงๆ แต่ก็ยังกลัว

ผู้บำเพ็ญเหวินจิงมองอย่างระมัดระวังอีกครั้งและพบว่านักพรตเต๋าชราผู้นี้เป็นเพียงร่างจำแลง…

ยิ่งไปกว่านั้น นางยังพบว่าค่อนข้างคุ้นเคยกับนักพรตเต๋าชราผู้นี้อยู่บ้าง

หลี่ฉางโซ่วรีบวิ่งออกไปข้างหน้าผู้บำเพ็ญเหวินจิงแล้วยิ้มให้นางก่อนจะกล่าวอย่างอบอุ่นว่า “สหายเต๋า เจ้าเคยได้ยินเรื่องเทพแห่งท้องทะเลทักษิณหรือไม่”

สำนักเทพทะเล?

ผู้บำเพ็ญเหวินจิงหรี่ดวงตาหงส์ของนางลงแล้วกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “เจ้าไม่ได้มาจากสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยหรือ?”

“สหายเต๋า ข้าจะเป็นศิษย์ของสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยได้อย่างไร?”

ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์นักพรตเต๋าของหลี่ฉางโซ่วสะบัดแซ่หางม้าและเผยให้เห็นรอยยิ้มค่อนข้างเฉยเมยเมื่อเข้าไปใกล้ผู้บำเพ็ญเหวินจิงสิบฉื่อ

“สหายเต๋า อย่าเข้าใจผิด เบื้องหลังลัทธิเทพสมุทรของเราคือลัทธิมนุษย์ แม้ว่าผู้นำคนที่สองจะเป็นศิษย์ของลัทธิสกัดกั้น เราก็มีธุรกิจเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับลัทธิสกัดกั้น”

“สหายเต๋า โปรดอย่าเข้าใจผิด เทพแห่งท้องทะเลได้รับการสนับสนุนจากสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน แม้รองเจ้าสำนักจะเป็นศิษย์ของสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย แต่เราก็มีความสัมพันธ์เรื่องงานกับสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

ผู้บำเพ็ญเหวินจิงมีความคิดในใจผุดขึ้นมามากมายแล้วกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “สหายเต๋า เจ้ารู้หรือไม่ว่า ข้าเป็นผู้ใด?”

“โปรดอภัยให้ข้าที่ด้อยความรู้ด้วยเถิด สหายเต๋า”

หลี่ฉางโซ่วโค้งคำนับและสะบัดแขนเสื้อพลางกระแอมไอลำคอแล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า “ขอกล่าวตามตรง ข้าคือเทพแห่งท้องทะเลทักษิณ ซึ่งมีวิหารมากกว่าหมื่นแห่ง ข้าเป็นมิตรที่ดีกับเผ่ามังกรโบราณ วันนี้เมื่อได้เห็นความโดดเด่นของเจ้า ข้าก็รู้สึกว่า… สหายเต๋า เจ้ามีชะตาต้องกับสำนักเทพทะเล สหายเต๋า โปรดช่วยฟังข้ากล่าวถึงคำสอนของสำนักเทพทะเล และไปยังวิถีในแดนมนุษย์นี้กับข้าเพื่อพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ได้หรือไม่?”

ผู้บำเพ็ญเหวินจิงงุนงงในทันทีขณะที่จ้องมองนักพรตเต๋าชราที่อยู่ตรงหน้านางอย่างระแวดระวัง

จู่ๆ เทพแห่งท้องทะเลทักษิณที่นางค้นหามานานแสนนาน กลับมาปรากฏตัวขึ้นและหยุดนางเอาไว้ที่นี่จริงๆ…

ไฉนวันนี้ถึงมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นมากมาย?

“ทางที่ดี ข้าไม่ควรเกี่ยวข้องใดๆ กับเจ้า” ผู้บำเพ็ญเหวินจิงกล่าวอย่างสงบ “ข้าเป็นเพียงผู้บำเพ็ญไร้นามในโลกบรรพกาล แล้วจะไปมีวาสนาต้องชะตากับสำนักมีชื่อได้อย่างไรกัน และข้าเองก็ไม่ประสงค์จะมีความสัมพันธ์ใดๆ กับสำนักของเจ้า”

“อ่า สหายเต๋ากล่าวหนักเกินไปหรือไม่?”

หลี่ฉางโซ่วยิ้ม เขารู้ว่าในขณะนี้ ต้องขอให้ผู้บำเพ็ญเหวินจิงอยู่และให้นางฟังเขากล่าวต่อไป ซึ่งเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่เขาจะหลอกนาง

หลี่ฉางโซ่วกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “สหายเต๋า เจ้าคงยังมีความสัมพันธ์เล็กน้อยกับสำนักเทพทะเลทักษิณไม่ใช่หรือ?”

ผู้บำเพ็ญเหวินจิงตื่นตระหนกขึ้นมาทันที นางจ้องมองไปที่นักพรตเต๋าชราที่ดูใจดีมีเมตตาต่อหน้านางแล้วถามว่า “สหายเต๋า เจ้าหมายความอันใดกัน? ข้าไม่เข้าใจ”

เมื่อเห็นว่า ผู้บำเพ็ญเหวินจิงยังคงยังคงสงบนิ่ง หลี่ฉางโซ่วจึงยังคงโหม “พลังไฟกระตุ้น” ของเขาต่อไปให้มากขึ้น “โอ้? สหายเต๋าไม่เข้าใจหรือ?”

หลี่ฉางโซ่วหรี่ตาและยิ้มพลางกล่าวว่า “เช่นนั้น ขอให้ข้าเตือนสหายเต๋าสักหน่อยได้หรือไม่? สหายเต๋า ลองนึกดูสิ เจ้าลืมเรื่องที่เจ้ายุยงปลุกปั่นสำนักเทพสองสามสำนักให้ทุบทำลายรูปปั้นของข้าบางส่วนไปแล้วหรือ?”

ดวงตาหงส์ของผู้บำเพ็ญเหวินจิงจ้องมองไปที่ร่างจำแลงซึ่งอยู่ตรงหน้านางอย่างเย็นชา

ในขณะนั้น นางได้ครุ่นคิดถึงหลายสิ่งหลายอย่างและเข้าใจแล้ว แต่ก็กล่าวออกมาเพียงว่า “สหายเต๋า เจ้าอย่ามาใส่ร้ายโทษข้า เห็นว่าข้าดูบริสุทธิ์และใจดี จึงคิดมาหลอกทำร้ายข้าหรือ?”

บริสุทธิ์และใจดี…

นางช่างไร้ยางอาย และรับมือ ได้ยากจริงๆ

หลี่ฉางโซ่วระงับรอยยิ้มพลางมองไปที่ผู้บำเพ็ญเหวินจิง แล้วกล่างอย่างเฉยเมยว่า “สหายเต๋า คงไม่ดีนักที่จะเผยแพร่เรื่องนี้ออกไป ข้าไม่ได้บอกบรรดาสหายถึงเบื้องหลังและเรื่องที่เจ้าทำเลย เพราะไม่อยากให้คนพวกนั้นมาสังหารเจ้า ข้าจึงตั้งใจมารอพบเจ้าที่นี่เป็นพิเศษเพื่อชี้ทางให้เจ้า แต่หากเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะเชิญไข่มุกเทพทะเลยี่สิบสี่เม็ดและกรรไกรทองคำมา แล้วปล่อยให้พวกเขากระอักเลือดออกมาอีกครั้งก็ได้”

ผู้บำเพ็ญเหวินจิงก้าวถอยหลังไปครึ่งก้าวอย่างระวังตัวเต็มที่ในทันที “เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่?”

หลี่ฉางโซ่วยิ้มและยังคงนิ่งเงียบ

“สหายเต๋า ขอคุยด้วยสักหน่อยได้หรือไม่?”

ผู้บำเพ็ญเหวินจิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่นางก็พยักหน้ารับช้าๆ แล้วกล่าวเย้ยหยันว่า “ข้าอยากจะดูว่าเจ้าคิดจะทำอะไรแน่!”

จากนั้น นางก็ทำท่าทางเชิญ แล้วหลี่ฉางโซ่วสะบัดแซ่หางม้าของเขาก่อนจะขี่เมฆบินไปที่ชายฝั่ง

ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วซึ่งใช้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ปลอมตัวเป็นเซียนชรา ก็พึมพำออกมาว่า “ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ จู่ๆ ก็มียุงดำตัวใหญ่ในทะเลทักษิณมากขึ้น สหายเต๋า ไยเจ้าไม่สร้างข่ายอาคมเพื่อปกปิดร่องรอยที่อยู่ของเราด้วยเล่า? สหายเต๋า เจ้าช่างบริสุทธิ์ ใจดี และงดงามยิ่งนัก หากเจ้าถูกยุงกัด ย่อมจะไม่ดีแน่”

ดำใหญ่…

ในที่สุด ผู้บำเพ็ญเหวินจิงก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป ดวงตาหงส์ทั้งคู่จ้องไปที่ด้านหลังของนักพรตเต๋าชราเซียนเทียนที่อยู่ตรงหน้านาง และทันใดนั้น ลำแสงเย็นเฉียบก็พุ่งออกมาจากปลายนิ้วของนางแล้ว

แต่นางก็ตระหนักได้ในทันทีว่า วันนี้นางถูกคนผู้นี้เล่นงานเข้าให้อย่างเต็มที่เสียแล้ว

คนที่อยู่ตรงหน้านางผู้นี้เป็นเพียงร่างจำแลงของอีกฝ่ายเท่านั้น ดังนั้นจ้าวกงหมิงและฉยงเซียวก็อาจปรากฏกายขึ้นมาได้ทุกเมื่อ…

นางกำลังถูกอีกฝ่ายควบคุมแล้ว

…………………………………………………………………………………………………………………………

[1] คนที่ชื่นชอบ หลงขาสวย ๆ และบังเอิญว่ายุงก็มีขาเยอะ คือ หกขา

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

Status: Ongoing
เพื่อให้มีอายุยืนยาวในยุคบรรพกาลอันโหดร้าย จงหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันฝึกวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!หลี่ฉางโซ่วที่ไปเกิดใหม่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนตัวน้อยๆ ในโลกบรรพกาลอันน่าสะพรึงกลัวเขาถูกอาจารย์ผู้นำยอดเขาสุดแสนอัตคัดในสำนักเซียนมนุษย์เล็กๆ พาตัวมาดูแล เพื่อฝึกฝนให้บรรลุวิถีเซียนตั้งแต่ยังเยาว์เป้าหมายของเขาคือ ‘อายุยืนยาว’ ในยุคบรรพกาลอันโหดร้ายนี้จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการเก็บงำความสามารถ ขยันหมั่นเพียรฝึกฝนเคล็ดวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!เดิมทีในแผนการของหลี่ฉางโซ่ว เขาตั้งใจว่าจะซ่อนตัวอยู่ในเขาฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิตจนกระทั่งปีหนึ่ง อาจารย์ของเขาคงมีชีวิตที่สงบเงียบเกินไปจนเบื่อขึ้นมา ถึงได้รับศิษย์น้องหญิงคนหนึ่งมาให้เขา…เพื่อไม่ให้ศิษย์น้องนำผลกรรมมาแปดเปื้อนตน เขาจะต้องสอนหลักการการใช้ชีวิตให้ศิษย์น้องดีๆ เสียหน่อยแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท