ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว – ตอนที่ 273 ภัยพิบัติในทะเลทักษิณ นกขมิ้นยังไม่ตัดสินใจ! (1)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 273 ภัยพิบัติในทะเลทักษิณ นกขมิ้นยังไม่ตัดสินใจ! (1)

ในครั้งนี้ สหายผู้นี้จะรับมือไหวหรือไม่? ผู้บำเพ็ญเหวินจิงยืนเงียบๆ ในน้ำทะเล ร่างของนางถูกล้อมรอบไปด้วยชั้นหมอก แยกการมองเห็นและสัมผัสเซียนรับรู้ของนาง

นั่นเป็นการเตรียมตัวที่จำเป็นก่อนที่นางจะทำอะไรเลวร้ายทุกครั้ง

ในสายตาของขนเผ่าของนาง หุ่นเชิดยุง รวมถึงปีศาจและสัตว์ร้ายจำนวนมากที่อยู่ในสำนักบำเพ็ญประจิม ราชินีผู้นี้เป็นสตรีลึกลับ… เย็นชา เย่อหยิ่ง ดุร้าย และเจ้าเล่ห์

นอกจากจอมปราชญ์เทพและรองเจ้าสำนักบำเพ็ญประจิมแล้ว นางไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตาของนางอย่างจริงจัง

แต่ความจริงแล้ว สัตว์ดุร้ายเหล่านั้นไม่อาจมองเห็นสิ่งที่อยู่ในหัวใจของผู้บำเพ็ญเหวินจิงได้…

ฮึ่ย!

จินฉานหน้าเหม็นผู้นี้มาแข่งชิงผลงานกับราชินีเช่นข้าอีกแล้ว!

เหอะ เขาคิดจะประจบและทำให้ท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักใหญ่พอใจเพื่อจะได้เป็นศิษย์สายตรงของจอมปราชญ์เทพหรือ?

ฝันไปเถิด เจ้าก็ถูกหลอกใช้เช่นกัน!

ยังคงเป็นราชินีเช่นข้าผู้นี้มองการณ์ไกล บัดนี้ ข้าได้พบผู้สนับสนุนต่อไปแล้ว เหอะๆ! ’

ผู้บำเพ็ญเหวินจิงเหลือบมองนักพรตเต๋าหนุ่มที่อยู่ไม่ไกล ก่อนจะถอนสายตาออกมาอย่างสงบ แล้วเผยรอยยิ้มมีเสน่ห์ออกมา

หลังจากนี้ ผู้บำเพ็ญเหวินจิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยอีกครั้งและเริ่มวิตกว่า คราวนี้จะทำพลาดและไม่มี “ผู้สนับสนุนต่อไป” อีกหรือไม่

นางไม่อยากเห็นผู้ที่นางจะภักดีต่อไปในอนาคตพ่ายแพ้ ซึ่งจะทำให้นางรู้สึกว่าหันไปพึ่งพาคนผิดแล้ว

ปรมาจารย์ลึกลับที่ซ่อนเร้นอยู่ในสำนักบำเพ็ญประจิมนั้น ทรงพลังมากกว่าที่ผู้บำเพ็ญเหวินจิงคิดหลายเท่านัก

ระหว่างทาง นางเป็นหนึ่งในหกกองกำลังที่โจมตีวังมังกรทะเลทักษิณ นางรวบรวมคนในเผ่าสองหมื่นคน หุ่นเชิดหกพันคน ทหารปีศาจใต้ทะเลลึกหกพันคน และกองทัพพลทหารเล็กๆ อีกสองหมื่นคน

ในการต่อสู้เช่นนี้ หากศิษย์ของจอมปราชญ์เทพแห่งสำนักบำเพ็ญประจิม ลอบโจมตีอีกครั้ง คาดว่าวังมังกรทะเลทักษิณจะได้รับบาดเจ็บสาหัส

แม้วังมังกรทะเลทักษิณจะมีความแข็งแกร่งเป็นอันดับสองในวังมังกรทะเลทั้งสี่ แต่ก็มีปรมาจารย์มากมายหลายคน

อย่างไรก็ตาม… ผู้บำเพ็ญเหวินจิงเหลือบไปข้างหลังของนางจากหางตาและขมวดคิ้ว สำนักบำเพ็ญประจิม ได้นำปรมาจารย์จำนวนมากออกมาในการต่อสู้ครั้งนี้

คราวนี้ปรมาจารย์จากสำนักบำเพ็ญประจิม ก็มีไม่น้อย ผู้บำเพ็ญเหวินจิงก็เหมือนกับจินฉานที่ถูกจับได้ก่อนที่จอมปราชญ์แห่งสำนักบำเพ็ญประจิมทั้งสองจะกลายเป็นปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพ

นางรู้มากในเรื่องกองกำลังลึกลับแห่งสำนักบำเพ็ญประจิมและปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ภายใต้แผนการของนางซึ่งตกอยู่ในการควบคุมของสำนักบำเพ็ญประจิม

ในตอนท้ายของมหาสงครามจอมเวท-ปีศาจ มีปีศาจจำนวนมากถูกจอมปราชญ์ทั้งสองคนแห่งสำนักบำเพ็ญประจิมจับกุมเอาไว้อย่างลับๆ พวกเขาถูกส่งไปยังมหาตรีสหัสโลกธาตุเพื่อทำการฝึกฝนให้พวกเขากลายเป็นกองกำลังรบ

เผ่าปีศาจใต้ทะเลลึกก็อยู่ในช่วงปลายยุคโบราณเช่นกัน หลังจากที่ผู้บำเพ็ญเหวินจิงและพวกของนางคนอื่นๆ ได้ปิดล้อมและปราบปรามพวกเขาอย่างลับๆ ในที่สุดพวกเขาก็ยอมจำนนต่อสำนักบำเพ็ญประจิม

ในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา สำนักบำเพ็ญประจิมได้แอบรวบรวมปรมาจารย์ที่ชั่วร้ายจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นสัตว์ร้ายแห่งโลกบรรพกาลเช่นเดียวกับนาง

ไม่มีทางอื่น

เนื่องจากจอมปราชญ์เทพทั้งหกที่รับผิดชอบดูแลสวรรค์และปฐพี สำนักบำเพ็ญเต๋าจึงทรงพลังยิ่งใหญ่มาก เผ่ามนุษย์เพิ่มขึ้น และได้รับการคุ้มครองจากเต๋าสวรรค์

สิ่งมีชีวิตอื่นที่ไม่ใช่เผ่าพันธุ์มนุษย์ เริ่มมีพื้นที่ในการอยู่รอดลดน้อยลงเรื่อยๆ และสัตว์ร้ายอย่างผู้บำเพ็ญเหวินจิงก็ตกเป็นเป้าหมายสังหารของทุกคน

สำนักบำเพ็ญเต๋าไม่ได้คิดถึงกองกำลังต่อสู้นั้นมากนัก เมื่อใดก็ตามศิษย์ของสำนักบำเพ็ญเต๋าพบกับสัตว์ดุร้าย พวกเขาก็จะกระทำการ “ผดุงความยุติธรรม” และกำจัดสัตว์ร้ายเหล่านั้นทันที จากนั้น เต๋าสวรรค์ก็มักจะประทานบุญแก่พวกเขา

ดังนั้น จึงเป็นเรื่องง่ายมากที่สำนักบำเพ็ญประจิมจะรวมสัตว์ร้าย สัตว์ปีศาจ หรือปรมาจารย์ที่มีกรรมร้ายเหล่านั้น

ทุกอย่างล้วนย่อมมีข้อดีข้อเสีย

และด้วยเหตุนี้เองที่ดอกบัวทองคำระดับสิบสองนั้น “ไม่อาจแบกรับภาระได้” มานานแล้ว และผลของการยับยั้งชะตากรรมก็ยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ…

หึ ไม่คิดว่าจะมีผู้ใดเชื่อว่า ในสมัยโบราณ ราชินีเช่นข้าผู้นี้ ได้รับบุญคุ้มครองตัวเองในทะเลเลือด

ดวงตาของผู้บำเพ็ญเหวินจิงเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและเศร้าใจ

ราชินียังคงมีน้ำตาแห่งความเศร้าโศกคลออยู่ในดวงตา บางครั้งนางก็รู้สึกอับจนหนทางเช่นกัน

นางเดินไปในความมืดและแอบเห็นจุดสิ้นสุดของหลายยุคหลายสมัย ในขณะที่ เต๋าสวรรค์ได้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนนางค่อยๆ สูญเสียสถานะของนางในโลกไป

ในช่วงปลายยุคโบราณ ส่วนใหญ่สัตว์ร้ายอย่างนางจะหนีหายเข้าไปในทะเลโกลาหลแล้ว…

แต่ผู้บำเพ็ญเหวินจิงไม่เต็มใจ และไม่พอใจ เมื่อนางออกจากทะเลเลือดพร้อมกับเผ่าของนางแล้ว นางอยากหาที่พำนักอยู่ในดินแดนเทวะประจิม

จากนั้น…นางก็เริ่มเพาะพันธุ์ยุง

เดิมทีผู้บำเพ็ญเหวินจิงคิดว่าจะสามารถเดินไปจนสุดทางได้ อย่างไรก็ตาม คำว่า “มนุษยธรรม” บังเอิญจู่โจมเข้ามาในชีวิตที่น่าเบื่อของนางอย่างไม่คาดฝัน

ชายนิรนามผู้นั้นแข็งแกร่งและน่ากลัวอย่างยิ่ง…

เมื่อนางพบเขาผ่านม่านน้ำในดินแดนลึกลับ ผู้บำเพ็ญเหวินจิงก็รู้สึกถึงความกลัวที่ทำให้นางนึกถึงความทรงจำในวัยเยาว์ที่นางยังคงเป็นยุงน้อยที่แสนโง่งมและไร้เดียงสา

ในสมัยโบราณ นางเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นมาทีละขั้นในทะเลเลือดแม้จะหวาดกลัวก็ตาม

นางนึกไม่ออกจริงๆ ว่า นางจะรู้สึกกังวลมากเพียงใด หากได้อยู่เคียงข้างบุรุษผู้ทรงอำนาจเช่นนี้…

น่าตื่นเต้นยิ่ง! นางแทบรอไม่ไหวแล้ว!

นางหวังว่านางจะออกจากสำนักบำเพ็ญประจิม และไปรับใช้ผู้อื่นได้เพื่อจะได้พบกับบุรุษผู้นั้นอย่างเป็นทางการ!

ยิ่งไปกว่านั้น ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวในสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน แต่ยังมีปรมาจารย์เต๋าน้อยที่น่าสนใจมากเช่นกัน…

ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่อาศัยขอบเขตเต๋าและความแข็งแกร่งที่ทำให้นางหวาดกลัวโดยตรง

ส่วนปรมาจารย์เต๋าน้อยก็อาศัยการวางอุบายและความลึกลับเพื่อให้นางทำตามขั้นตอน และในขณะเดียวกัน นางก็รู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อย…

“เหอะๆ…”

จู่ๆ ผู้บำเพ็ญเหวินจิงก็หัวเราะเย็นชาออกมา ทำให้จั๊กจั่นสีทองหกปีก และปรมาจารย์ที่อยู่ในทะเลทางด้านหลังต่างก็สั่นสะท้าน

ทันใดนั้น ก็มีลำแสงสีทองสาดส่องลงมาที่ผู้บำเพ็ญเหวินจิง และอักขระเต๋าภายในของนางก็สั่นไหวแล้วหายไปในชั่วพริบตา

ผู้บำเพ็ญเหวินจิงมองไปที่จั๊กจั่นสีทองหกปีกอย่างเยาะหยัน หลังจากได้รับเพิ่มพรพลังเวท เสียงที่ถูกลืมไปแล้วหลังจากที่ได้ยิน ก็แผ่กระจายออกไปยังที่ต่างๆ ข้างหลังนาง

“ไปกันเถิด วันนี้ข้าจะล้างวังมังกรทะเลทักษิณด้วยเลือด”

หลังจากนั้น นางก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปข้างหน้าและเริ่มเร่งความเร็วขึ้นทีละน้อยโดยใช้พลังเวทของนางเพื่อปกปิดตัวตนของนางและกองทัพที่อยู่เบื้องหลังนาง

เงาดำมืดที่อยู่ข้างหลังนางก็ตามนางไปอย่างรวดเร็ว…

หลังจากนั้นไม่นาน กองทัพนี้ก็กลายเป็นกระแสน้ำปั่นป่วน และพุ่งเข้าโจมตีวังมังกรทะเลทักษิณ!

ครึ่งชั่วยามหลังจากนั้น บริเวณรอบวังมังกรทะเลทักษิณ ในบริเวณรอบนอกของวังมังกรทะเลทักษิณ ศัตรูที่ทรงพลังจำนวนมากกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้จากสามทิศทาง ทั้งตะวันตก เหนือ และใต้! วังมังกรก็ตอบโต้กลับอย่างรวดเร็วยิ่ง กลองศึกดังกึกก้องไปทั่วท้องทะเล และกองทหารเซียนมังกรวารีและกลุ่มชนชั้นยอดของเผ่าทะเลก็รีบถอนค่ายกลป้องกัน แล้วถอยกลับไปป้องกันที่วังมังกรทะเลทักษิณอย่างรวดเร็ว!

คลื่นยักษ์ที่สูงหลายร้อยจั้งเคลื่อนตัวออกมาจากส่วนลึกของทะเลทักษิณ!

เมฆดำเข้าครอบคลุมพื้นที่รัศมีนับพันลี้ และสิ่งมีชีวิตนับล้านที่ก้นทะเลกำลังจะเริ่มเข้าร่วมการต่อสู้!

และที่ไม่ไกลจากวังมังกรทะเลทักษิณ มีตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์สองสามตัวโผล่ศีรษะออกมาจากร่องหินต่างๆ ที่ก้นทะเลแล้วถอยกลับไปยังที่ซ่อน

“มันกำลังมา!”

ในอีกมุมหนึ่งของวังมังกรทะเลบูรพา หลี่ฉางโซ่วก็ลืมตาขึ้นมาในห้องโถงด้านข้างที่ไร้ผู้คนอีกแห่งหนึ่ง

ในขณะที่นักพรตเต๋าหนุ่มที่กำลังหลับใหลอยู่ข้างๆ ก็ลืมตาขึ้นทันที

…………………………………………………………………………

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

Status: Ongoing
เพื่อให้มีอายุยืนยาวในยุคบรรพกาลอันโหดร้าย จงหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันฝึกวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!หลี่ฉางโซ่วที่ไปเกิดใหม่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนตัวน้อยๆ ในโลกบรรพกาลอันน่าสะพรึงกลัวเขาถูกอาจารย์ผู้นำยอดเขาสุดแสนอัตคัดในสำนักเซียนมนุษย์เล็กๆ พาตัวมาดูแล เพื่อฝึกฝนให้บรรลุวิถีเซียนตั้งแต่ยังเยาว์เป้าหมายของเขาคือ ‘อายุยืนยาว’ ในยุคบรรพกาลอันโหดร้ายนี้จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการเก็บงำความสามารถ ขยันหมั่นเพียรฝึกฝนเคล็ดวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!เดิมทีในแผนการของหลี่ฉางโซ่ว เขาตั้งใจว่าจะซ่อนตัวอยู่ในเขาฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิตจนกระทั่งปีหนึ่ง อาจารย์ของเขาคงมีชีวิตที่สงบเงียบเกินไปจนเบื่อขึ้นมา ถึงได้รับศิษย์น้องหญิงคนหนึ่งมาให้เขา…เพื่อไม่ให้ศิษย์น้องนำผลกรรมมาแปดเปื้อนตน เขาจะต้องสอนหลักการการใช้ชีวิตให้ศิษย์น้องดีๆ เสียหน่อยแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท