ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว – ตอนที่ 615 เทพธิดาริมสระ (1)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

บทที่ 615 เทพธิดาริมสระ (1)

หมู่เมฆสี[1] คือ เสื้อผ้า ส่วนก้อนเมฆคือ รองเท้าหุ้มข้อ และแสงมงคลที่มาพร้อมกับความโชคดี

แม้ร่างสมบัติ[2]จะทรงพลังยิ่ง แต่ก็มีจอมปราชญ์มาเสริมสร้างจักรวาล

หลี่ฉางโซ่วยังไม่ทันตั้งตัวเมื่อเพิ่งเห็นรูปลักษณ์ของจอมปราชญ์ เทพีหนี่วาที่ปรากฏเช่นนั้น

จะกล่าวเช่นไรดี?

มันไม่อาจพรรณนาได้

ทว่าการใช้คำเช่น ‘งดงาม’ และ ‘ประทับจับใจ’ นั้น ก็เป็นการไม่เคารพจอมปราชญ์

นางเพียบพร้อมไร้ที่ติเหมือนระดับสมบูรณ์แบบที่สิ่งมีชีวิตเซียนเทียนแห่งโลกบรรพกาลจะบรรลุไปถึงได้ เพียงแค่มองแวบเดียว นางก็สามารถทำให้จิตใจผู้คนสงบลงได้มาก

ท่ามกลางแสงสีทองที่สาดส่องนั้น หลี่ฉางโซ่วไม่อาจมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า จอมปราชญ์ ได้เดินไปสองสามก้าวและกลับไปยังที่นั่งของนางได้อย่างไร

ดูเหมือนว่า เขาจะรู้สึกเหม่อลอย สติไม่รับรู้สิ่งรอบตัวแล้ว

ครั้นเมื่อเขาได้สติ เทพีหนี่วาก็นั่งอยู่ใต้รูปปั้นทองคำขนาดใหญ่ที่มีร่างเป็นมนุษย์และมีหางเป็นงู มือซ้ายของนางโบกไปมาเบาๆ และแขนเสื้อหลวมๆ ของนางก็พลิ้วไหวเล็กน้อยเมื่อกล่าวว่า “นั่งลงสิ”

หลี่ฉางโซ่วและปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูทำการโค้งคารวะเต่าและกล่าวขอบคุณนางอย่างพร้อมเพรียงกัน แล้วนั่งลงอย่างเรียบร้อย

ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ยิ้มและกล่าวว่า “ท่านอาจารย์อา ตอนนี้ฉางเกิงยังไม่ได้เป็นศิษย์ของท่านอาจารย์อย่างเป็นทางการขอรับ ทว่าเขาก็ได้รับการสั่งสอนจากท่านอาจารย์แล้ว และมีส่วนช่วยสร้างคุณประโยชน์ให้กับสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินเป็นอย่างมาก

หากแผนการต่อต้านปีศาจของฉางเกิงในครั้งนี้ ทำให้ท่านไม่พอใจ ศิษย์ก็ยินดีที่จะรับโทษร่วมกับฉางเกิงด้วยขอรับ”

“การเติบโตและการลดลงของแต่ละเผ่าพันธุ์ ล้วนมีจำนวนที่กำหนดแน่นอนของมันเอง และการต่อสู้ระหว่างเผ่าปีศาจก็มีหลักการของมันเอง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงมัน”

ขณะที่เทพีหนี่วาเอ่ยปากกล่าวช้าๆ แม้หลี่ฉางโซ่วจะเคยได้ยินเสียงนั้นมาก่อน แต่เขาก็ยังรู้สึกว่า…

มันอธิบายไม่ได้ เต๋าใหญ่เที่ยเหอ[3]

เทพีหนี่วายังกล่าวต่อไปว่า “เทพวารี ดูเหมือนว่า องค์เง็กเซียนจะค่อนข้างกลัวเจ้าลูกกำพร้าเผ่าอีกาทองคำนะ”

“นี่…” หลี่ฉางโซ่วยืนขึ้นและประสานมือคารวะพลางก้มศีรษะลงและกล่าวว่า “น้อมตอบท่านปรมาจารย์จอมปราชญ์ ลู่หยาแห่งเผ่าอีกาทองคำได้เคยขึ้นฝั่งที่ทะเลประจิมเพื่อรุกรานล่วงเกินองค์เง็กเซียนมาก่อน กระทั่งเขายังขัดขวางการสังหารปีศาจของศาลสวรรค์อีกด้วย นั่นจึงเป็นเหตุให้องค์เง็กเซียนขุ่นพระทัยนัก”

เทพีหนี่วากล่าวว่า “ไม่ว่าจะเป็นเพราะลู่หยาล่วงเกินองค์เง็กเซียนให้ขุ่นพระทัยมาก่อน หรือเป็นเพราะองค์เง็กเซียนจะรู้สึกว่าองค์รัชทายาทแห่งศาลปีศาจไม่สมควรมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ข้าก็เคยสัญญากับสหายเก่าของข้าเอาไว้ว่าจะปกป้องลู่หยาอย่างเต็มที่”

หลี่ฉางโซ่วขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวว่า “เทพน้อยจะส่งต่อวัจนะบัญชาของท่านจอมปราชญ์ไปยังองค์เง็กเซียนโดยไม่ให้พลาดแม้แต่คำเดียวขอรับ เพียงแต่… หากด้วยเพราะวาจาของท่าน ชักพาให้ลู่หยาผู้นี้ กระทำการล่วงเกินอย่างร้ายแรง และกลับเป็นการลบหลู่หยามเกียรติของศาลสวรรค์…”

เทพีหนี่วากล่าวอย่างสงบว่า “หากเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งและขัดขวางศาลสวรรค์ ต่อให้เจ้าจะสังหารเขา ก็หาได้เป็นอันใดไม่”

“เทพน้อยเข้าใจแล้ว ขอบคุณที่ท่านราชินีจอมปราชญ์เข้าใจถึงความยากลำบากของศาลสวรรค์ขอรับ” หลี่ฉางโซ่วโค้งคำนับพร้อมกับยกชายเสื้อคลุมในมือแล้วนั่งลงอีกครั้ง

“ฮะ…”

ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะเบาๆ ทำให้หลี่ฉางโซ่วและปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่มองไปที่บัลลังก์ใต้รูปปั้นโดยไม่รู้ตัว

นับประสาอะไรกับหลี่ฉางโซ่ว เพราะแม้แต่ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์เฉพาะที่แท้จริงของจอมปราชญ์หนี่วาอย่างชัดเจนได้ เขาเห็นได้เพียงบางส่วนท่ามกลางแสงและเงาที่พร่ามัวเท่านั้น

ราชินีจอมปราชญ์หนี่วาเอนกายไปด้านข้างและพยุงกายเอาไว้ด้วยแขนเนียนราวหยกข้างหนึ่งบนที่วางแขนของบัลลังก์ และกดนิ้วเรียวอยู่ที่หางตาของนาง

นางเอ่ยด้วยเสียงหยอกล้อและสบายๆ เล็กน้อยว่า “เทพวารีอย่างเจ้า ช่างลื่นไหลได้ละเอียดถี่ถ้วนไม่มีตกหล่นสมชื่อเสียจริงๆ เมื่อครู่เจ้าเพิ่งเรียกตัวแทนเองว่าเป็นศิษย์ และครั้นเปลี่ยนตำแหน่งแล้ว ก็เรียกแทนตัวเองว่าเทพน้อยเมื่อพูดถึงศาลสวรรค์

หากเผ่าพันธุ์มนุษย์สามารถมีแม่ทัพกุนซือผู้เก่งกาจเช่นเจ้าได้อีกสักสองสามคน พวกเขาย่อมช่วยให้ศาลสวรรค์ให้เจริญรุ่งเรืองได้อย่างรวดเร็วที่สุดเช่นกัน”

หลี่ฉางโซ่วยังคงสงวนท่าทีพลางยิ้ม และกล่าวว่า “ท่านปรมาจารย์ชมเกินไปแล้วขอรับ”

“ทว่าเทพวารี…” ทันใดนั้น ก็ดูเหมือนว่า จะมีสายตาเฉียบคมพุ่งจากบัลลังก์ ตรงมาทันที ทำให้หลี่ฉางโซ่วตัวแข็งทื่อกะทันหัน

นิ้วของเขาสั่นเทาเล็กน้อยและคิ้วของเขาก็กระตุกเบาๆ พร้อมด้วยดวงตาของเขาที่ฉายแววกังวลใจออกมา

จู่ๆ เขาก็รู้สึกได้ว่ามีร่างหนึ่งที่เคลื่อนกายพลิ้วไหวไปมาอยู่ข้างๆ ตัวเขาพร้อมกับหมู่เมฆหมอกและทิ้งประโยคหนึ่งไว้ในหูของเขาในทันที

“ละเอียดถี่ถ้วนเกินไป ก็เป็นข้อบกพร่องในตัวเองได้เช่นกัน เจ้าจะกลัวอันใดกัน?”

จากนั้น สายตาจ้องมองนั้นก็หายไป และสภาพแวดล้อมรอบกายของหลี่ฉางโซ่วก็กลับเป็นปกติ แต่จิตใจของเขาได้บิดเบี้ยวไปแล้ว

นี่คือจอมปราชญ์?

พวกเขาอยู่ในระดับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!

เพียงแค่ช่วงเวลานี้ เกราะป้องกันหัวใจของเขาแทบแหลกสลาย…

ก่อนหน้านี้ ที่ด้านหน้าห้องใต้หลังคา หลี่ฉางโซ่วรู้สึกได้ว่า จอมปราชญ์หนี่วาหาได้สอบสวนเขาไม่ แต่เพียงแค่พูดคุยกับเขาเท่านั้น

หลี่ฉางโซ่วยังพิจารณาใคร่ครวญมาก่อนด้วยว่า เขามิอาจซ่อนเร้นอดีตได้ ทว่าตราบใดที่เขามั่นคงไม่หวั่นไหวและยืนกรานได้หนักแน่นเพียงพอที่จะปฏิเสธยอมรับมัน แล้วใช้พลังของปรมาจารย์ไท่ชิงเพื่อต้านทานแรงกดดันจากราชินีจอมปราชญ์ เขาก็จะสามารถผ่านมันไปได้เสมอ

แต่เขาก็ไม่คาดคิดว่า หลังจากจอมปราชญ์หนี่วาปรากฏตัว นางจะเพียงมองเขาและกล่าวถ้อยคำบางคำที่แฝงความหมายบางอย่างในประโยคเท่านั้น…

เขาแทบจะทรุดกายคุกเข่าลงแล้ว

ผู้ดำรงอยู่อย่างจอมปราชญ์นั้น ทรงพลังมากเกินไปจริงๆ

หลี่ฉางโซ่วแอบชำเลืองมองไปที่ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่และเห็นว่า ในขณะนั้น ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่กำลังศึกษาวัสดุและลวดลายพื้นผิวของโต๊ะเตี้ยตรงหน้าเขาพร้อมกับเผยรอยยิ้มอบอุ่นอ่อนโยนออกมาบนใบหน้าของเขา และไม่ได้ยินสิ่งที่จอมปราชญ์หนี่วากล่าวออกมาเมื่อครู่ก่อนนี้เลย

แต่แน่นอนว่า บางทีเขาอาจจะได้ยินสิ่งที่จอมปราชญ์หนี่วากล่าวออกมาแล้ว แต่กำลังแสร้งทำเป็นไม่รับรู้ ไม่ได้ยินอะไรเลย…

ในขณะนั้น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้น และเทพธิดาสองสามคนก็ล่องลอยมาพร้อมกับถาด แล้วพวกนางก็เสนอบริการแตงโมและชาผลไม้ รวมถึงมอบกล่องผ้าสองกล่องให้แก่หลี่ฉางโซ่วและปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่

ในยามนั้น ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่รู้สึกผ่อนคลายมาก เขายิ้มและกล่าวว่า “ท่านอาจารย์อา ท่านยังต้องการจะมอบสมบัติให้แก่ข้าอีกหรือขอรับ?”

จอมปราชญ์หนี่วากล่าวเบาๆ ว่า “พวกเจ้าทั้งสองคนล้วนเป็นศิษย์ของศิษย์พี่ไท่ชิงของข้า ศิษย์พี่ไท่ชิงเคยช่วยข้ามาแล้วหลายครั้งในอดีต แล้วไยข้าถึงจะมอบผลประโยชน์บางอย่างให้แก่พวกเจ้าทั้งสองคนบ้างไม่ได้?”

“ขอบคุณท่านอาจารย์อาขอรับ” ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่หยิบกล่องผ้าขึ้นมาและเปิดออกทันที และพบว่ามีไข่มุกล้ำค่าที่แผดลำแสงเจิดจ้าระยิบระยับอยู่ข้างในนั้น

หลี่ฉางโซ่วหยิบกล่องผ้าที่อยู่ข้างหน้าเขาและร้องเรียกปู่เจดีย์สองครั้งอยู่ในใจ จากนั้น เขาก็เปิดกล่องผ้าขึ้นเล็กน้อย…

ปึ้ง!

หลี่ฉางโซ่วกระแทกกล่องผ้าปิดทันที เขามีใบหน้าซีดเซียวและหายใจหยุดชะงัก ทั่วทั้งร่างกายของเขา…

ไม่ถูกต้อง ข้าถูกหลอกแล้ว!

หลี่ฉางโซ่วโต้ตอบทันที และเพียงขณะที่เขากำลังจะฟื้นคืนสีหน้าของเขา และเปิดกล่องผ้าออกทั้งหมด เขาก็ได้ยินราชินีจอมปราชญ์หนี่วาหัวเราะเบาๆ อีกครั้ง!

มีรอยขี้เล่นสนุกสนานเล็กน้อย และเยาะเย้ยหน่อยๆ ราวกับว่านางกำลังจะบอกว่า “ข้าจับเจ้าได้แล้ว!”

ทันใดนั้น หลี่ฉางโซ่วก็เงยหน้าขึ้นและเห็นจอมปราชญ์หนี่วากำลังสะบัดนิ้วของนางอยู่บนบัลลังก์นั้น

………………………………………………………………..

[1] เมฆสี หรือหมอกสีคือ เมฆที่สะท้อนแสงพระอาทิตย์จนมีสีสันหลากหลายเป็นแสงเงินแสงทองบนท้องฟ้ายามอาทิตย์ขึ้นหรือตก มักเปรียบกับความงดงาม

[2] ร่างสมบัติ หรือรูปสมบัติมักหมายถึง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์

[3] คือ ผิวสัมผัสแข็ง

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

Status: Ongoing
เพื่อให้มีอายุยืนยาวในยุคบรรพกาลอันโหดร้าย จงหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันฝึกวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!หลี่ฉางโซ่วที่ไปเกิดใหม่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนตัวน้อยๆ ในโลกบรรพกาลอันน่าสะพรึงกลัวเขาถูกอาจารย์ผู้นำยอดเขาสุดแสนอัตคัดในสำนักเซียนมนุษย์เล็กๆ พาตัวมาดูแล เพื่อฝึกฝนให้บรรลุวิถีเซียนตั้งแต่ยังเยาว์เป้าหมายของเขาคือ ‘อายุยืนยาว’ ในยุคบรรพกาลอันโหดร้ายนี้จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการเก็บงำความสามารถ ขยันหมั่นเพียรฝึกฝนเคล็ดวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!เดิมทีในแผนการของหลี่ฉางโซ่ว เขาตั้งใจว่าจะซ่อนตัวอยู่ในเขาฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิตจนกระทั่งปีหนึ่ง อาจารย์ของเขาคงมีชีวิตที่สงบเงียบเกินไปจนเบื่อขึ้นมา ถึงได้รับศิษย์น้องหญิงคนหนึ่งมาให้เขา…เพื่อไม่ให้ศิษย์น้องนำผลกรรมมาแปดเปื้อนตน เขาจะต้องสอนหลักการการใช้ชีวิตให้ศิษย์น้องดีๆ เสียหน่อยแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท