พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า – บทที่ 2158 ใต้หล้าสั่นสะเทือน

บทที่ 2158 ใต้หล้าสั่นสะเทือน

เมื่อกล่าวเช่นนี้ พวกอู๋ฉวี่ก็แอบปาดเหงื่อแทนโพ่จวิน เป็นคำพูดที่แฝงความหมายเหน็บแนมอย่างแท้จริง ให้ความรู้สึกเหมือนเจ็บใจที่ไม่สามารถหลอมเหล็กให้กลายเป็นเหล็กกล้าได้อยู่หลายส่วนด้วย คำพูดแบบนี้เกรงว่าคงมีแค่โพ่จวินที่กล้าพูดออกมา

ประมุขชิงเห็นเสียงออกมาจากซอกฟัน  นี่คือความจงรักภักดีที่เจ้ามีต่อข้าเหรอ ? 

โพ่จวินดันทุรังเถียง  นี่คือแผนการระดับสูง ฝ่าบาทถอยจากตำแหน่งเพื่อสนับสนุนให้องค์ชายขึ้ตำแหน่งแล้วจะเป็นอะไรไป ? อำนาจมหาศาลยังคงอยู่ในมือฝ่าบาท ทั้งยังทำให้ราชินีสวรรค์พอใจด้วย ตระกูลเซี่ยโห้วก็ยินดีจะเห็นเช่นกัน มีอะไรไม่ดีตรงไหน ? 

ประมุขชิงทาหน้านิ่ง จ้องเขาไม่รับสายตา

โพ่จวินกุมหมัดคารวะ  ข้าน้อยขอร้องให้ฝ่าบาทประหารจ้านหรูอี้! 

ประมุขชิงกาหมัดที่อยู่ในกระบอกแขนเสื้อไว้แน่น ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันถามว่า  ถ้าข้าไม่ตอบตกลงแล้วจะทำไม ? 

  เช่นั้นนข้าน้อยก็จะตัดสินใจแทนฝ่าบาท ศีรษะของจ้านหรูอี้ ข้าน้อยจะช่วยฝ่าบาทเด็ดให้เอง ฝ่าบาทจะได้ไม่ต้องแข็งใจทาสิ่งนี้!  พอโพ่จวินพูดจบ ก็พลันหันตัว เดินก้าวยาวออกไปนอกตาหนัก

 โจรเฒ่า! เจ้ากล้าเหรอ!  ประมุขชิงชี้โพ่จวินพลางคาราม  ทหาร! 

ด้านนอกกกตาหนักมีคนกลุ่มหนึ่งโผล่มาขวางตรงประตูทันที่ล้วนี้เป็นคนของกองทัพองครักษ์ คนพวกนี้เห็นโพ่จวินแล้วก็ลำบากใจเช่นกัน!

ชวิ้ง! โพ่จวินควาด้ามกระบี่ ชักกระบี่ออกมาไว้ในมือชี้กระบี่ไปบนพื้น หันหลังพูดกับประมุขชิงว่า  วันนี้ฝ่าบาที่ต้องตัดสินใจเรื่องนี้ หากไม่ใช้จ่านหรูอี้ตาย ก็เป็นข้าน้อยที่ตาย ฝ่าบาทเต็มใจเลือกสิ่งใดก็เชิญตามสะดวก!  เขาโบกกระบี่ชี้ไปยังกำลังพลกองทัพองครักษ์ที่อยู่ตรงหน้า แล้วตะคอกว่า  ข้าจะไปสังหารนางปีศาจตัวก่อหายนะ หากเต็มใจไปกับข้าก็ไปด้วยกัน หากไม่เต็มใจไปกับข้า…หลีกไป!  เขาตะโกนดังมาก

ประมุขชิงโมโหจนตัวสั่น เขาแค้นจนอยากจะฆ่าสุนัขเฒ่าตัวนี้จริง ๆ แต่สติสัมปชัญญะที่ยังไม่หายไปบอกเขาว่า ฆ่าไม่ได้ ถ้าฆ่าโพ่จวินเพื่อปกป้องจ้านหรูอี้จริง ๆ เช่นั้นนก็ปกป้องจ้านหรูอี้ไม่ได้เช่นกัน ถึงตอนั้นนเกรงว่าคงไม่ใช้โพ่จวินคนเดียวที่จะขอร้องให้ฆ่าจ้านหรูอี้แล้ว ทุกคนจะต้องขอร้องให้ฆ่า แล้วถ้าฆ่าโพ่จวิน ใจคนที่

เขาเอาไว้ใช้ผู้กัมดอำนาจก็จะกระจัดกระจายไปโดยสิ้นเชิง ดีไม่ดีแม้แต่บัลลังก์ของตัวเองก็อาจจะต้องฝังลงหลุมไปด้วย!

พวกอู๋ฉวี่หน้าปากทางพูดไม่ออก มองโพ่จวินด้วยสีหน้าด้วยความเคารพอย่างสูง

สมาชิกกองทัพองครักษ์ที่ดักตรงประตูมองหน้ากันเลิกลั่ก เมื่อเห็นโพ่จวินชักกระบี่เดินประชิดเข้ามา พวกเขาก็จาต้องหยิบอาวุธมาเผชิญหน้าเช่นกัน

ทว่า แม้อู๋ฉวี่ไม่ได้พูดอะไร แต่กลับส่าย่อหน้าให้คนพวกนี้เบา ๆ แม้แต่ซ่างกวนชิงก็ส่าย่อหน้าให้คนพวกนี้เช่นกัน

ดังนั้นสมาชิกกองทัพองครักษ์ที่ดักตรงประตูจึงถูกโพ่จวินประชิดเข้ามาจนถอยหลังทีละก้าว ไม่มีใครกล้าลงมือกับโพ่จวิน

เมื่อเห็นโพ่จวินกำลังจะออกจากตาหนักดาราจักรไปฆ่าคนที่ตาหนักเย็น แต่เบื้องล่างกลับไม่มีใครขัดขวาง ประมุขชิงที่กาหมัดแน่นก็กล่าวเสียงต่าว่า  จ้านหรูอี้ตั้งครรภ์เลือดเนื้อเชื่อไขของข้าแล้ว เจ้าจะสังหารแม้กระทั่งเลือดเนื้อเชื่อไขของข้าเหรอ ? 

โพ่จวินเดินไปถึงประตูและกำลังจะข้ามผ่านธรณีประตูไป เงาร่างนิ่งชะงักทันที่ก้าวขาไม่ออกแล้ว หันตัวกลับมาช้า ๆ กล้ามเนื้อบนใบหน้ากระตุกอย่างรุนแรง เดินลากกระบี่กลับเข้ามาช้า ๆ เดินผ่านพวกเกาก้วนไป อู๋ฉวี่เตือนเสียงต่าว่า  โพ่จวิน อย่าทาซี้ซั้ว! 

 เจ้า…  โพ่จวินพลันโบกกระบี่ชี้ประมุขชิง ส่าย่อหน้าพูดอย่างคับแค้นใจ  เจ้านั่งอยู่ตำแหน่งนี้ได้ ในปีนั้นมีพี่น้องมากมายเท่าไหร่ยอมสละชีวิตลืมตาย โยนหัวหลั่งเลือดเพื่อผลักดันให้เจ้าขึ้นสู่ตำแหน่ง เจ้าเคยรับปากอะไรไว้ ? เจ้ารับปากว่าจะปกป้องปากท้องครอบครัวของพวกเขาไปทั้งชีวิต แต่ดูเจ้าตอนนี้สิ! เจ้าตอนนี้…ไม่น่าเชื่อว่าจะยอมให้อำนาจของตัวเองสั่นคลอนเพื่อผู้หญิงคนเดียว ถ้าไม่มีอำนาจแล้ว เจ้าจะเอาอะไรมาปกป้องปากท้องครอบครัวของคนพวกนั้นไปทั้งชีวิตล่ะ ? คนพวกนั้นที่ผลักดันให้เจ้าขึ้นสู่ตำแหน่งตายอย่างไม่ยุติธรรม แล้วเจ้าจะให้คนเก่าคนแก่ที่ยังมีชีวิตอยู่ของกองทัพองครักษ์มองเจ้ายังไง! ยังจะถวายชีวิตรับใช้เจ้ายังไงได้อีก ? เจ้าเรียนรู้จักใครก็ไม่เอา ดันไปเรียนรู้จากเจ้าสามไป๋ บนตัวเจ้าแบกบุญคุณความแค้นไว้เยอะขนาดนั้น มีสิทธิ์อะไรไปเล่นบทคนเหงาโหยหาความรัก ? หึ… เขาปักกระบี่ลงบนพื้น ก้มีหน้าเงียบ ๆ นานมาก ก่อนจะหันตัวช้า ๆ เดินจากไป  ตามใจเจ้าเถอะ ใต้หล้าของเจ้าก็คือใต้หล้าของเจ้า เจ้าเป็นราชา ข้าเป็นขุนนาง เจ้าอยากจะเล่นยังไงก็เล่นไปเถอะ ตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์ซ้ายนี้ ถ้าข้าน้อยเป็นต่อไป ก็ไม่มีหน้าไปเจอพี่น้องที่ตายไปพวกนั้นหรอก จะเลือกคนใหม่ที่เหมาะสมกับตำแหน่งเถอะ! 

สองแขนีออนยวบลง ทั้งตัวหลังค่อมลงไป ราวกับแก่ชราลงแล้วไม่น้อยภายในชั่วพริบตาเดียว

 พี่โพ่จวิน!  อู๋ฉวี่ก้าวมาขวาง ยื่นมือดึงแขนเขาเอาไว้ ส่าย่อหน้าให้เขา

โพ่จวินมองเขา แล้วกล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า  หลีกไป! 

 …  อู๋ฉวี่ทาสีหน้าสับสน เมื่อสบกับสายตาที่หมดอาลัยตายอยากของเขา นิ้วทั้งห้าที่คว้าไว้ก็ขยับเล็กน้อย สุดท้ายก็ค่อย ๆ ปล่อยมือออกจากแขนของเขา

โพ่จวินเดินลากเท้าช้า ๆ ไปยังประตูใหญ่ของตาหนัก เกราะรบหนักอึ้งบนตัวที่เมื่อก่อนทำให้คนรู้สึกว่าเผด็จการน่าเกรงขาม ตอนนี้กลายเป็นภาระที่หนักอึ้ง

กองทัพองครักษ์ที่ดักอยู่ตรงประตูไม่ได้รับคำสั่ง ไม่รู้ว่าควรจะปล่อยให้โพ่จวินจากไปหรือไม่

อู๋ฉวี่พลันสองตาลุกเป็นไฟ ตะโกนอย่างเดือดดาลว่า  ใครกล้าแตะต้องเขา ข้าจะเอาชีวิตของมัน หลีกไป!  เสียงดังราวกับฟ้าผ่า ดังก้องอยู่ในตาหนักดาราจักร

หลายคนที่อยู่ในตาหนักตกใจ อู๋ฉวี่ที่มีลักษณะเป็นแม่ทัพผู้สง่าสุขุม ตั้งแต่ออกจากสนามรบมากยังไม่เคยแสดงความเดือดดาลต่อใคร ไม่น่าเชื่อว่าในตอนนี้จะโมโหแล้ว อีกทั้งตอนนี้ก็อยู่ในตาหนักดาราจักร อยู่ต่อหน้าฝ่าบาท แม้จะหันหลังให้แต่ก็ไม่เคยมเรื่องอย่างนี้มาก่อนเลย

เสียงตะโกนี้นทำให้ประมุขชิงตกใจจนตัวสั่นเล็กน้อย ขยับปากเหมือนอยากพูดอะไรเอ่ยู่ครูหนึ่ง ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่กล้าตาหนิอู๋ฉวี่ที่ขัดคำสั่งของเขา

ที่จริงก็ไม่ต้องให้เขาพูดอะไรเช่นกัน พอเสียงตะโกนของอู๋ฉวี่ดังขึ้น กองทัพองครักษ์ที่ขวางประตูก็ปฏิบัติตามคำสั่งของเขาแล้ว พลันแยกเป็นสองทาง หลีกทางให้โพ่จวินแล้ว แต่ละคนเม้มริมฝีปากแน่นขณะมองตามโพ่จวินเดินจากไป

ซือหม่ำเวิ่นเทียนกับเกาก้วนเห็นอู๋ฉวี่ตาแดงก่าแล้ว ขณะที่เขามองโพ่จวินจากไปอย่าง เปล่าเปลี่ยว ในดวงตาก็มีประกายน้าตาแล้วเช่นกัน

ซือหม่ำเวิ่นเทียนก้มีหน้าถอนหายใจเบา ๆ เกาก้วันที่มีสีหน้าเดิมมาตลอด ตอนนี้ดูสะเทือนใจเล็กน้อย ได้เห็นความจงรักภักดีบนตัวขุนศึกมากประสบการณ์เหล่านี้แล้ว

ในตาหนักตกอยู่ในความเงียบ อู๋ฉวี่เงย่อหน้าเล็กน้อยมองเพดาน ไม่ให้น้าตาไหลออกมาจากเบ้าตา หันหลังให้ประมุขชิงอยู่ตลอด

สายตาของหลายคนในนนจ้องบนกระบี่วิเศษที่ปักอยู่บนพื้นในตาหนัก ตัวโพ่จวินไปแล้ว ทิ้งกระบี่ไว้ที่นี่ ปักตรงแด่วอยู่บนพื้นไม่ล้มลงมา

ประมุขชิงขบกรามแน่น จ้องกระบี่วิเศษที่ตั้งตระหง่านด้ามนั้น แววตาเลื่อนลอยเล็กน้อย ไม่รู้ว่านึกอะไรขึ้นได้ ในปีนั้นเขาเป็นคนประทานกระบี่วิเศษด้ามนี้ให้โพ่จวิน ในปีนั้นเขาพูดว่าอะไรนะ…

 องค์ชาย ปราบกบฏในพื้นที่ต่าง ๆ ของแดนรัตติกาลได้แล้ว! 

ในจวนผู้สำเร็จราชการแดนรัตติกาล ฉินฟ่างสรุปรายงานการกวาดล้างผู้เห็นต่างในทัพใหญ่ครั้งสุดท้ายให้ฟัง

 ดี่  ชิงหยวนจุนที่นั่งอยู่ในศาลาตบต้นขาแล้วลุกขึ้นยืน เขาถูไม้ถูมือเดินไปเดินมา ตื่นเต้นดีใจไม่หยุด ในที่สุดก็ทาสำเร็จแล้ว อำนาจทางทหารของทัพใหญ่แดนรัตติกาลตกอยู่ในมือตัวเองแล้ว สุดท้ายทุกคนก็เชื่อฟังตัวเองแม้ตัวเองจะยังเป็นผู้สำเร็จราชการแดนรัตติกาล แต่ความหมายแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน สุดท้ายก็ได้ทาลายพันธนาการที่ผูกมัดตัวเองมีาหลายปีแล้ว สามารถแสดงหมัดเท้าได้เต็มที่แล้ว

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ที่อยู่ข้าง ๆ ยิ้มอย่างเป็นกันเอง ในที่สุดก็วางรากฐานที่แข็งแรงก้าวแรกเรียบร้อยแล้ว มองเห็นอนาคตแล้ว สว่างสดใสไร้ที่สิ้นสุด!

หยางชิ่งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ถามฉินฟ่างว่า  อย่าเลือกพูดแต่สิ่งที่น่าฟัง สมาชิกเสียหายไปเท่าไหร่ ? 

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ได้ยินแล้วทาสีหน้าจริงจัง ตะคอกเสียงต่าว่า  จุนเอ๋อร์ ทาไใดใจจนออกนอกหน้า ? 

ชิงหยวนจุนเก้อเขินเล็กน้อย กลับไปนั่งที่เดิม รอคำตอบของฉินฟ่างเช่นกัน

ฉินฟ่างบอกว่า  หลังจากคิดรวมความเสียหายของหน่วยต่าง ๆแล้ว ปราบทัพกบฏไปได้ประมาณสองล้านห้าแสน ทหารขององค์ชายรบตายไปประมาณสี่แสนขอรับ 

หยางชิ่งกล่าวอย่างลังเลว่า  หรือพูดได้อีกอย่างว่า ทั้งทัพใหญ่แดนรัตติกาลเสียหายไปเกือบสามล้าน ล้วนี้เป็นกำลังพลเกรียงไกร น่าเสียดายแล้ว! 

สำหรับสิ่งนี้ สองแม่ลูกเริ่มทาสีหน้าจริงจัง แต่ที่จริงแล้วในใจไม่ค่อยแยแสเท่าไหร่ เสียกำลังพลไปไม่กี่ล้านแล้วทาเรื่องนี้สำเร็จ ก็ถือว่าไม่เสียหายมากนัก มีการทำศึกที่ไหนบ้างที่ไม่มีคนตาย

ตอนนี้เซี่ยโห้วเฉิงอวี่สีหน้าเปลื่ยนเล็กน้อย หยิบระฆังดาราอันหนึ่งมาไว้ในมือแล้วแสยะยิ้มไม่หยุด

 เสด็จแม่ ท่านแสยะยิ้มทำไมเหรอ ?  ชิงหยวนจุนถาม

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่แสยะยิ้มตอบ  ฝ่าบาทส่งข่าวมา คงเป็นไปไม่ได้ที่จะชมข้า คงอยากด่าข้าสักยกน่ะสิ! 

หยางชิ่งที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวว่า  ไม่ต้องสนใจ! 

ตรงกับสิ่งที่เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ต้องการพอดี แม้จะทาเรื่องนี้สำเร็จแล้ว แต่ที่จริงนางก็ยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับการติเตียนของประมุขชิง รวดเร็วมาก เก็บระฆังดาราเอาไว้เสียเลย

อุทยาน ตาหนักเย็น ประมุขชิงที่ยืนอยู่บนบันไดใตชายคาหน้าตึง เก็บระฆังดาราเงียบ ๆ ก่อนจะหันตัวเดินกลับเข้าห้องอย่างเงียบงัน

ภายในห้อง หยินซวงกับไป๋เสวี่ยเดินอ้อมมาหัวเราะคิกคักข้างกายจ้านหรูอี้ ไม่รู้ว่าได้ของเล่นหายากอะไรมากำลังเอามาอวดจ้านหรูอี้

ประมุขชิงเดินเข้ามา แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มบาง ๆ  พวกเจ้าถอยออกไปก่อน 

 เพคะ!  หยินซวง ไป๋เสวี่ยย่อเข้าคานับแล้วถอยออกไป้

ประมุขชิงค่อย ๆ นั่งลงข้างกายจ้านหรูอี้วางสองมือบนเขา จ้องใบหน้าด้านข้างของจ้านหรูอี้ครูหนึ่ง ยกมือลูบผมงามบนแผ่นหลังของจ้านหรูอี้ช้า ๆ และกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า  หรูอี้ มีลูกชายให้ข้าสักคนเถอะ! 

 …  จ้านหรูอี้หันกลับไปมองเขาอย่างงุนงง ยังนึกว่าตัวเองฟังผิดไป

 มีลูกให้ข้าสักคน!  ประมุขชิงเน้นย้าด้วยรอยยิ้ม

บนใบหนามิรอยยิ้ม แต่ความขมขื่นในใจมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ชัดที่สุด ต่อให้คำพูดของเขาจะหยุดยั้งโพ่จวินได้แล้ว แต่คาโกหก็กคือคาโกหก ถ้าโดนเปิดโปงขึ้นมา ถ้าคนอื่นที่อยู่ในเหตุการณ์รู้ว่าเขาไม่สนใจชะตากรรมของใต้หล้า หลอกลวงโพ่จวินเพื่อปกป้องจ้านหรูอี้อย่าว่าแต่ไม่มีทางชี้แจงต่อโพ่จวินเลย ไม่มีทางชี้แจงตอบรรดา

ลูกนองค์นสนิทเหล่านั้นด้วยเช่นกัน ทำได้เพียงเปลื่ยนคาโกหกให้เป็นความจริง…

แดนรัตติกาล แม้จะมีคนมาซื้อขายสินค้าที่ตลาดผีไม่น้อย แต่การที่ทัพใหญ่แดนรัตติกาลเกิดความเคลื่อนไหวใหญ่โตกะทันหัน กอปรกับมีเหมียวอี้ดำเนินการอยู่เบื้องหลัง จงใจปล่อยข่าวจริงออกไป้ว่าแดนรัตติกาลมีทหารก่อกบฏ ถูกราชันสวรรค์ปลดอำนาจทางทหาร เรียกได้ว่าสะเทือนทั้งใต้หล้าจริง ๆ!

โอกาสดีขนาดนี้ เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะทำให้หัวใจทหารของประมุขชิงสั่นคลอน เหมียวอี้ที่ดำเนินการมาถึงตอนนี้มีหรือจะพลาด ในปีนั้นที่หยางชิ่งวางแผน เป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดก็อยู่ตรงนี้!

 ชิงหยวนจุนกบฏแล้วเหรอ ? 

ในจวนอ๋องสวรรค์โค่ว โค่วหลิงซวีที่อยู่ในศาลาได้รับข่าวกะทันหันเรยกได้ว่าตกใจจริง ๆ

ถังเฮ่อเหนียนตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด  ไม่ได้ชูธงก่อกบฏขอรับ แต่ฝืนยึดอำนาจทางทหารของแดนรัตติกาล ก่อนหน้านี้เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ก่อเรื่องที่พระตาหันกอุทยาน ตอนหลังมาปรากฏตัวที่จวนผู้สำเร็จราชการแดนรัตติกาล แค่นี้ก็ทำให้คนรู้สึกว่าไม่ชอบมาพากลแล้ว ตอนนี้พอมีข่าวนี้ออกมา สอดคล้องกันแบบนี้ ก็คลายปริศนาได้แล้วขอรับ 

โค่วหลิงซวีลูบเคราพลางส่าย่อหน้า  ถ้าจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตระกูลเซี่ยโห้ว ข้าก็ไม่เชื่อหรอก ไม่ใช้ว่าข้าดูถูกพวกเขา แต่อาศัยพลังของสองแม่ลูกันน่ก็ยังโหมคลื่นไม่ไหว ประมุขชิงลำบากแล้ว! 

ในจวนอ๋องสวรรค์ก่วง ก่วงลิ่งกงที่เดินเล่นช้า ๆ อยู่ในป่าพลันหันตัวมา ถามอย่างตกตะลึงไม่เบา  เป็นข่าวจริงเหรอ ? 

โกวเยว่พยักหน้า  ยืนยันแล้วขอรับ การก่อกบฏสงบแล้ว อำนาจทางทหารของแดนรัตติกาลอยู่ในมือชิงหยวนจุนแล้ว! 

 หึหึ!  ก่วงลิ่งกงแสยะยิ้ม แล้วเดาะลิ้นส่าย่อหน้า  พ่อลูกกลายเป็นศัตรูกันแล้ว ก็น่าสนุกนะ ข้าอยากจะเห็นว่าประมุขชิงจะยุติเรื่องนี้ยังไง! 

 

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

เหมียวอี้ เด็กหนุ่มธรรมดาแต่มีโชคชะตาที่ไม่ธรรมดา!

เขาคือเด็กกำพร้าที่ถูกเพื่อนบ้านตราหน้าว่าเป็น ‘ตัวหายนะ’

เพราะพ่อแม่บุญธรรมที่รับเลี้ยงเขาล้วนมีจุดจบอยู่ในกองเพลิงทั้งสิ้น

เขาจึงต้องเติบโตมากับน้องๆ ต่างสายเลือดอีกสองคนตามลำพัง

ไร้เงิน ไร้อำนาจ ไร้ความสามารถ ซ้ำยังเป็นตัวซวย โลกนี้มันช่างอยู่ยากเสียจริง!

หนทางที่จะลบคำครหาของชาวบ้านและก้าวพ้นชีวิตที่ยากไร้ไปได้ก็คือการสำเร็จเป็นเซียน

แม้ความปรารถนาจะอยู่สูงเกินเอื้อม แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น

ถึงจะลำบากและอันตรายเพียงใด

ก็ขอทะยานไปให้สุดขอบฟ้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน