พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า – บทที่ 2172 ตัวการสำคัญ

บทที่ 2172 ตัวการสำคัญ
พอได้ยินว่าเขาจะหนี เถิงเฟยก็ร้อนใจทันที่”ถ่ายทอดคำสั่งข้า เคลื่อนทัพตามแผนเดิม!”
“ขอรับ!” บรรดาแม่ทัพกุมหมัดคารวะเอ่ยรับคำสั่ง ขณะกำลังจะออกไป้ใครจะคิดว่าเถิงเฟยจะกล่าวเสริมอีก “เดียวก่อน ต้องระวังให้ดี ระวังจะมีอุบาย!”
บรรดาแม่ทัพผันตัวมาเอ่ยัรบอีกครั้ง “รับทราบ!”
รอจนกระทั่งพวกแม่ทพออกไปแล้ว เถิงเฟยก็รีบขอความช่วยเหลือจากกองหนุนของทัพตะวันตกและทัพเหนือทางฝั่งนี้ก็กำลังรีบจัดระเบียบกำลังพลเดิมเช่นกัน จากนั้นก็นาทัพอารักขาเร่งไปข้างหน้าด้วยตัวเอง…
กำลังพลของอ๋องสวรรค์เถิงออกโจมตีทุกเส้นทาง
ทว่าทุกที่ที่ไปถึง ก็ปลอดโปร่งไร้อุปสรรค มุ่งตรงเข้าสู่อาณาเขตของเฉิงไที่เจ๋อโดยตรง ไม่มีการต่อต้านใด ๆ
ขณะยืนอยู่หน้าประตูใหญ่จวนอ๋องสวรรค์เฉิงและจ้องป้ายบนประตูอยู่นานมาก เถิงเฟยก็กัดฟันพูดว่า “ค้นหาอีก! ติดต่อทัพใต้ ทัพเหนือและทัพตะวันตกให้รีบปิดล้อมชายแดน!”
“ขอรับ!” ผู้ติดตามเอ่ยรับ เถิงเฟยนาคนเข้าไปในจวนอ๋องสวรรค์เฉิง
เขาเดินทั่วจวนอ๋องสวรรค์เฉิงรอบหนึ่ง กำลังพลเบื้องล่างก็ค้นหาจนทั่วเช่นกัน แต่ไม่เห็นเงาคนเลย
สุดท้ายเถิงเฟยที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ในตาหนักประชุมก็ตกอยู่ในความเงียบ ภายนอกไม่ได้แสดงอะไรให้คนเบื้องล่างเห็น แต่ในใจรู้สึกนึกเสียใจทีหลังแทบแย่นึกเสียใจที่ไม่ควรลังเล ควรจะเคลื่อนทัพมาจับตาดูไว้ตั้งแต่แรก ถ้าปล่อยให้เฉิงไที่เจ๋อนากำลังพลมากขึ้นาดนั้นหนี้ไปจริง ๆ เช่นั้นนในภายหลังเขาก็เลิกคิดที่จะอยู่อย่างอิสระได้เลย พออีกฝ่ายว่าง ๆ ก็จะออกมาปล้นเขาจะได้เป็นอ๋องสวรรค์คุมทัพตะวันออกอย่างอิสระเสรีก็แปลกแล้ว
เถิงจงที่อยู่นอกประตูรีบก้าวเข้ามาข้างใน รายงานว่า “ท่านอ๋อง เจอเบาะแสทิศทางของเฉิงไที่เจ๋อแล้ว แต่เหมือนจะนำกำลังพลหนีเข้าไปในอาณาเขตดาวนิรนาม!”
เถิงเฟยลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ สุดท้ายเรื่องที่กังวลกเกิดขึ้นแล้ว ตามหลักแล้ว ถ้าเฉิงไที่เจ๋อต้องการจะหนี้ไปก็ไม่น่าจะนำกำลังพลไปมากขึ้นาดนั้น ทำแบบนี้เกรงว่าจะมเป้าหมายเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือเตรียมตัวจะหวนคืนสู่อำนาจอีกครั้ง เขาถามอย่างหน้าดาคร่าเครียด “ติดต่อสายลับที่แทรกไว้ฝั่งนั้นได้หรือเปล่า ?”
” ติดต่อไม่ได้ขอรับ คงจะควบคุมการใช้ระฆังดาราอย่างเข้มงวด” เถิงจงตอบ
“สำรวจต่อไป!” เถิงเฟยตะคอกด้วยใบหน้านิ่งตึง…
จวนอ๋องสวรรค์โค่ว โค่วหลิงซวีที่อยู่ในป่าไผ่ยืนอยู่ตรงหน้าแผนที่ดาว เงย่อหน้าถามอย่างงุนงงว่า “หนี้ไปแล้วเหรอ ? นากำลังพลหลายพันล้านหนี้ไปด้วย ?”
ถังเฮ่อเหนียนพยักหน้า “เหมือนจะเป็นอย่างนั้นขอรับ ข่าวที่ทำงนั้นส่งมาบอกว่า เฉิงไที่เจ๋อร่วมทั้งกำลังพลที่สามารถรบได้หายไปหมดแล้ว”
โค่วหลิงซวีขมวดคิ้ว “ทำไมเป็นอย่างนี้ได้ ?”
จวนอ๋องสวรรค์ก่วง ก่วงลิ่งกงที่เดินไปเดินมาอยู่ในตาหันก็กมคำถามเดียวกัน
โกวเยว่ตอบว่า “ท่านอ๋อง หนี้ไปหมดแล้วจริง ๆ”
ก่วงลิ่งกงโบกมือ”เป็นไปไม่ได้ ถ้าจะหนีก็ไม่ควรนาคนไปเยอะขนาดนั้น อย่าบอกน่ะว่าคิดจะหวนคืนสู่อำนาจอีกครั้ง ? ไม่ว่าจะเป็นทัพตะวันตกของข้า หรือจะเป็นทัพใต้ของหนิวโหย่วเต๋อหรือทัพเหนือของโค่วหลิงซวี ล้วนทุ่มเทความพยายามไปมากเพื่อร่วมทัพตะวันออก ทุกคนไม่อยากให้ทัพตะวันออกที่สงบแล้วเกิดความวุ่นวายอะไรอีก เขาไม่มีความเป็นไปได้ที่จะพลิกสถานการณ์ได้เลย นอกจากนี้ เขาพากำลังพลไปเยอะขนาดนั้น ขาดทรัพยากรบนอาณาเขตคอยเลี้ยงดูแล้วจะเลี้ยงยังไง ? ช้าเร็วก็ต้องเกิดความ
วุ่นวายภายใน เฉิงไที่เจ๋อไม่มีทางที่จะไม่เข้าใจหลักการนี้ ถ้าจะหนีก็หนี้ไปคนเดียวสิ ไม่มีทางพากำลังพลไปด้วยเยอะขนาดนั้นแน่นอน!”
“หรือว่าประมุขชิงจะก่อกวนอยู่เบื้องหลัง ?” โกวเยว่สงสัย
ก่วงลิ่งกงหรี่ตา แล้วพยักหน้าเบา ๆ “มีความเป็นไปได้นี้จริง ๆ มีแค่เหตุผลนี้ที่อธิบายได้ พอเปืนแบบนี้ ในเมือเขาสามารถรักษาสัญญาได้ พอทัพกบฏถูกปราบแล้ว เขาก็สามารถสนับสนุนให้เฉิงไที่เจ๋อออกมาสู้กับเถิงเฟยได้ทุกเมื่อ ช่างเป็นโจรเฒ่าจอมเจ้าเล่ห์ …”
ดาราจักรกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา แวววาวลึกลับ
บนดาวเคราะห์ที่รกร้างดวงหนึ่ง พวกิจนม่าน พวกอวิ๋นอ้าวเทียน บุคคลระดับสูงของหกลัทธินับร้อยปรากฏตัว กำลังหันมองรอบ ๆ
มีคนหยิบแผนที่ดาวขึ้นมาเทียบตำแหน่งที่อยู่ จากนั้นก็มองหน้ากันไปมองหน้ากันมา ต่างก็พบว่าตรงจุดที่อยู่ไม่ได้ทาสัญลักษณ์ไว้ในแผนที่ดาวหรือพูดได้อีกอย่างว่าตอนนี้มาอยู่ในอาณาเขตดาวนิรนามแล้ว
สายตาทุกคนทยอยมองไปทางเหยียนซิวที่ยืน เงียบอยู่ไม่ไกล
พอเก็บแผนที่ดาวแล้ว จินม่านร่ายอิทธิฤทธิ์ถามว่า “เหยียนซิว ที่นี่ที่ไหน ?”
” ถึงเวลาก็ย่อมรู้เอง” เหยียนซิวตอบด้วยใบหน้านิ่งเฉยเหมือนคนตาย
มู่ฝานจวินกล่าวเสียงต่าว่า “กำลังพลแดนอเวจีเทรังออกมา บอกว่าจะทาศึกใหญ่ไม่ใช้หรอ ? ทำไมพาพวกเรามาที่อาณาเขตดาวนิรนาม ?”
” ถึงเวลาก็ย่อมรู้เอง” เหยียนซิวตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“จะให้พวกเราทายังไงกันแน่ ต้องบอกกันบ้างสิ ?” อวิ๋นอ้าวเทียนถาม
เหยียนซิวยังตอบเหมือนเดิมว่า “ถึงเวลาก็ย่อมรู้เอง”
ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก พูดไม่ออกแล้ว ไม่ว่าจะพูดจากมุมไหน ก็มีคนไม่น้อยที่รู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ ไม่ว่าที่นี่จะเป็นที่ไหน แต่อย่างน้อยกออกจากแดนอเวจีที่ถูกขังมาหลายปีแล้ว ออกมาแล้ว ในที่สุดกออกมาแล้ว…
ในอาณาเขตทัพใต้ บนดาวเคราะห์ที่รกร้างดวงหนึ่ง กลุ่มแม่ทัพกำลังมองไปรอบ ๆ แต่ละคนทาสีหน้าระแวงสงสัย เหมือนคิดไม่ตก ว่าท่านอ๋องพาพวกเขาเข้ามาในทัพใต้ทำไม ?
เฉิงไที่เจ๋อเอามือไขว้หลังเงย่อหน้ามองทองฟ้า ก่อนหน้านี้ตอนแอบมากยังวิตกกังวลวาจะมีอุบาย ตอนนี้พอเข้าใจแล้วในใจก็เต็มไปด้วยความกังวล ตระหนักได้อย่างแท้จริงว่าตั้งแต่เริ่มก้าวเข้ามาที่นี่ ตำแหน่งอ๋องสวรรค์คุมทัพตะวันออกก็จากเขาไปไกลแล้ว!
ที่บอกว่ายิ่งแพ้ยิ่งกล้าหาญนั้นพูดง่าย ในโลกนี้จะมีสักกี่คนที่ยิ่งแพ้ยิ่งกล้าหาญได้จริง ๆ ความห่วงหลายปีดับสูญในชั่วพริบตาเดียว มีเพียงคนที่สัมผัสเองเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด
“เหยียนเสี้ยว ?” จู่ ๆ ก็มีแม่ทัพคนหนึ่งอุทานอย่างตกใจ
ทุกคนได้ยินแล้วหันมองตามสายตาเขา เป็นอดีตผู้ตรวจการซ้ายัทพอารักขาของฮ่าวเต๋อฟางจริง ๆ ด้วย ตอนนี้เป็นจอมพลสายเถาะของทัพใต้ เขานากำลังพลมาด้วยหลายสิบคน
บรรดาแม่ทัพกำลังจะเตรียมจัดกระบวนทัพป้องกัน เฉิงไที่เจ๋อยกมือบอกใบ้ว่าไม่ต้องกังวลเกินไป คนที่นากำลังพลมาปิดล้อมตรงชายแดนระหว่างทัพใต้กับทัพตะวันออกก็คือเหยียนเสี้ยว ครั้งนี้เหยียนเสี้ยวก็ทำหน้าที่มารับพวกเขาเช่นกัน
เหยียนเสี้ยวนาคนเหยียบลงพื้น แล้วกุมหมัดคารวะต่อเฉิงไที่เจ๋อ”คารวะท่านอ๋องเฉิง” จากนั้นก็กุมหมัดคารวะบรรดาแม่ทัพเล็กน้อย บรรดาแม่ทัพคารวะกลับ
เฉิงไที่เจ๋อถามพร้อมรอยยิ้มว่า “ไม่ทราบว่าจอมพลเหยียนมาด้วยตัวเองเพราะมีอะไรจะกาชับ ?”
เหยียนเสี้ยวกล่าวด้วยสีหน้าทาทางจริงจัง “มิับงอาจ ท่านอ๋องให้ข้ามาเป็นเพื่อนจอมพลเฉิงไปยังดาวอ๋องสวรรค์หนิว!”
“ท่านอ๋อง…” ข้างกายเฉิงไที่เจ๋อมีคนเตือน กำลังบอกใบ้ว่าไปที่นั่นไม่ได้ เพราะนั่นคือรังของหนิวโหย่วเต๋อ
เหยียนเสี้ยวรู้ว่าพวกเขาระแวงอะไร “ทัพใหญ่สามารถติดตามไปด้วยกันได้อย่าบอกน่ะว่าท่านอ๋องเฉิงยังกลัวอะไรอีก ?”
พอพูดอย่างนี้ ทุกคนก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เฉิงไที่เจ๋อพยักหน้าบอกว่า “ได้!”
วังสวรรค์ ตาหนักดาราจักร
ประมุขชิงที่นั่งอยู่หลังโต๊ะยาวยืนขึ้นถาม “เฉิงไที่เจ๋อนาทัพใหญ่หนี้ไปแล้วเหรอ ?”
ซือหม่ำเวิ่นเทียนพยักหน้า “ใช้ขอรับ ยืนยันแล้วว่าหนี้ไปที่อาณาเขตดาวนิรนาม เถิงเฟยได้ครอบครองอาณาเขตของเฉิงไที่เจ๋อโดยไม่เปลืองแรงสักนิด ตอนนี้เถิงเฟยกำลังสั่งให้ทัพใหญ่ค้นหาตามเส้นทางที่เฉิงไที่เจ๋อหนี้ไป” พูดจบก็สังเกตปฏิกิริยาของประมุขชิงเงียบ ๆ
เรื่องบางเรื่องเขาก็รู้เช่นกัน ว่าจุดประสงค์การทำศึกบางอย่างของกองทัพองครักษ์ต้องขอความร่วมมือจากสายลับหน่วยตรวจการซ้าย ดังนั้นเขาก็ศึกษาเจตนาของประมุขชิงเช่นกัน คาดว่าการที่เฉิงไที่เจ๋อหนี้ไปครั้งนี้คงทำให้แผนการของประมุขชิงผิดพลาดไป
อู๋ฉวี่ขมวดคิ้ว ซ่างกวนชิงเงียบงัน เกาก้วนไม่อยู่ ไม่ใช้ว่าไม่เชื่อใจเกาก้วน แต่แผนการสำคัญขนาดนี้ยิ่งให้คนรู้น้อยก็ยิ่งดี
“นากำลังพลหนี้ไปแล้ว จะเป็นไปได้ยังไง ?” ประมุขชิงพึมพาขณะเดินไปเดินมา จู่ ๆ ก็หยุดเดินแล้วถามว่า “แน่ใจน่ะว่าไปอาณาเขตดาวนิรนาม ไม่ได้ไปอาณาเขตอื่น ?”
ซือหม่ำเวิ่นเทียนตอบว่า “น่าจะไม่ผิดพลาด สายลับหน่วยตรวจการซ้ายทางฝั่งเถิงเฟยล้วนได้ข่าวมาเหมือนกัน ถ้าเขาไม่ไปอาณาเขตดาวนิรนาม ก็ไม่มีที่อื่นให้ไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่คนอื่นจะรับเขาไว้ ทางเข้าออกรอบด้านล้วนปิดไว้สนิท”
“ยืนยันให้ละเอียดอีกครั้ง!” ประมุขชิงโบกมือ
“ขอรับ!” ซือหม่ำเวิ่นเทียนเลยรับคำสั่งแล้วออกไป้
พอเดินลงบันไดประมุขชิงก็เดินไปเดินมาอยู่ในตาหนักไม่หยุด รู้สึกว้าวุ่นใจนิดหน่อย จู่ ๆ เฉิงไที่เจ๋อก็ทาอย่างนี้ ทาเอาเขารับมือไม่ทัน พ่อเปืนแบบนี้แผนการที่เขาจะกดทัพตะวันออกเอาไว้ก็ล้มเหลวแล้ว กำลังพลกลุ่มนั้นของเถิงเฟยเท่ากับว่างงานแล้ว ถ้าเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น ทัพใหญ่หลายพันล้านของเถิงเฟยจะต้องเข้าร่วมแน่นอน
“กำลังพลไปถึงตำแหน่งไหนแล้ว ?” ประมุขชิงหยุดเดินแล้วหันกลับมาถาม
อู๋ฉวี่ตอบว่า “นอกจากกำลังพลหนึ่งล้านที่ปักหลักอยู่ในพื้นที่ชั่วคราวเพื่อทำให้คนอื่นสับสน ทัพใหญ่ก็ไปรออยู่นอกอาณาเขต
ทัพใต้อย่างเงียบ ๆ แล้ว เรื่องรายละเอียดความคืบหน้า ก็ต้องดูความเร็วในการนำผ่านด่านของสายลับหน่วยตรวจการซ้าย”
“ผ่านด่านไม่น่าจะเป็นปัญหา ซือหม่ำรับประกันแล้ว สายลับบางคนที่แทรกไว้ที่นั่นหลายปี เกรงว่าครั้งนี้คงต้องทิ้งไปไม่น้อย” ประมุขชิงถอนหายใจเบา ๆ แล้วก็ส่าย่อหน้ากล่าวอย่างลังเลอกว่า “เฉิงไที่เจ๋อนี่ก็ไม่รู้ว่าคิดยังไง อย่าบอกน่ะว่าตัดใจไม่ลง ? ตอนนี้กำลังพลหลายพันล้านของเถิงเฟยอาจจะลงมือได้ทุกเมื่อ…แบบนี้ พอเกิดเรื่องขน หลังจากไม่จำเป็นต้องปิดบังอีก ก็สามารถดึงกำลังพลสี่ร้อยล้านในวังสวรรค์เข้าอาณาเขตทัพตะวันออกได้โดยตรง ไปควบคุมเถิงเฟยเอาไว้ ช่วงชิงเวลาโจมตีให้ทัพใหญ่ หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดัฝนอะไร”
“ฝ่าบาท กำลังทหารที่คุ้มครองวังสวรรค์เหลือแค่สี่ร้อยล้าน ถ้าเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เกรงว่าแรงต้านของวังสวรรค์ก็คงมีไม่พอ!” อู๋ฉวี่กล่าว
ประมุขชิงบอกว่า “ประเด็นสำคัญก็อยู่ที่หนิวโหย่วเต๋อขอเพียงแก้ปัญหาฟฝั่งหนิวโหย่วเต๋อได้ คนอื่นก็ไม่กล้าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า นอกจากนี้ จำนวนกำลังพลที่ย้ายไปทัพตะวันออกก็ป่าวประกาศได้เลย แล้วก็ปิดเป็นความลับไว้ด้วย ทำให้อีกฝ่ายไม่รู้ชัดว่ามีคนเท่าไหร่กันแน่ ถ้าหากจำเป็น ข้าจะนำทัพใหญ่ทาศึกด้วยตัวเองแล้วจะเป็นไรไป ?”
ดาวอ๋องสวรรค์หนิว ในหุบเขาที่ลับตาคนแห่งหนึ่ง พวกเฉิงไที่เจ๋อที่ปลอมตัวแล้วเหาะลงมาจากฟ้า เหมียวอี้มารออยู่นานแล้ว
เมื่อทั้งสองพบกันก็กุมหมัดคารวะทักทายตามมารยาท เหมียวอี้บอกแล้วว่าเพื่อที่จะปิดบังเรื่องนี้ ก็มีแต่ต้องให้พวกเฉิงไที่เจ๋อลำบากอยู่ที่นี่สักหน่อย และเฉิงไที่เจ๋อก็บอกว่าสามารถเข้าใจได้
ในหุบเขามีลาธารไหลจ๊อก ๆ ทั้งสองส่งสัญญาณกันนิดหน่อย แล้วกำลังพลของทั้งสองฝ่ายก็ถอยไปไกล ทั้งสองเริ่มพูดคุยกันอยู่ริมลาธาร โดยที่กำลังพลของแต่ละฝ่ายคอยระแวดระวังอยู่ตลอด โดยเฉพาะเฉิงไที่เจ๋อที่กลัวว่าจะมีกับดักอะไร
หลังจากคุยกับเพเหระกันพักหนึ่ง เฉิงไที่เจ๋อก็พาเข้าประเด็นหลัก “น้องชาย ไม่ต้องคุยเรื่องไร้สาระกันแล้ว ข้ามาถึงแล้ว เจ้าน่าจะเปิดเผยความจริงได้แล้วมั้ง ?”
พอเหมียวอี้เอ่ยปาก็กทำให้คนตกใจทัน “ประมุขชิงวางกำลังดักซุ่มเอาไว้สิบล้านที่แดนมรณะดึกดำบรรพ์ ต้องการจะลอบสังหารข้า!”
เฉิงไที่เจ๋อตกใจไม่เบา ในบรรดาอำนาจแต่ละฝ่าย เกรงว่าเขาเป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลยมากที่สุด แต่ก็แปลกใจอกว่าอีกฝ่ายจะบอกเรื่องนี้ทำไม ภายนอกยังเสแสร้งถามอย่างโมโห”มเรื่องนี้อยู่ด้วยเหรอ ?”
” แต่ข้าส่งกำลังพลไปกำจัดทหารดักซุ่มพวกนั้นหมดแล้ว!” เหมียวอี้ก่ล่าว
“เอ่อ…” เฉิงไที่เจ๋อสงสัย “น้องชาย นี่เจ้าอยากจะพูดอะไรกันแน่ ?”
เหมียวอี้จ้องเขาพลางกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ที่จริงการที่ท่านอ๋องมาที่นี่ได้ ก็เพราะข้าวางแผนบีบให้มา สถานการณ์วุ่นวายที่ทัพตะวันออกครั้ง ข้าเป็นคนปลุกปั่นขึ้นมาเอง…” เขาเล่าว่าตัวเองหลอกใช้ประโยชน์ความทะเยอทะยานของเถิงเฟยอย่างไร ยืมมือเถิงเฟยเสี้ยมให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเซี่ยโห้วเฉิงอวี่กับจ้านหรูอี้อย่างไร บัอกว่าใช้ประโยชน์เรื่องกำลังพลดักซุ่มแดนมรณะดึกดำบรรพ์เพื่อกระตุ้นให้อำนาจแต่ละฝ่ายบีบให้ประมุขชิงเลิกสนับสนุนเฉิงไที่เจ๋อด้วย
เฉิงไที่เจ๋อหน้าดาเหมือนก้นหม้อทันที่สงสัยเจ้าเวรที่ยืนอยู่ตรงหน้าตนี้นต่างหาก ที่เป็นตัวการสำคัญที่บีบให้ตนกลายเป็นหมาข้างถนน
พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

เหมียวอี้ เด็กหนุ่มธรรมดาแต่มีโชคชะตาที่ไม่ธรรมดา!

เขาคือเด็กกำพร้าที่ถูกเพื่อนบ้านตราหน้าว่าเป็น ‘ตัวหายนะ’

เพราะพ่อแม่บุญธรรมที่รับเลี้ยงเขาล้วนมีจุดจบอยู่ในกองเพลิงทั้งสิ้น

เขาจึงต้องเติบโตมากับน้องๆ ต่างสายเลือดอีกสองคนตามลำพัง

ไร้เงิน ไร้อำนาจ ไร้ความสามารถ ซ้ำยังเป็นตัวซวย โลกนี้มันช่างอยู่ยากเสียจริง!

หนทางที่จะลบคำครหาของชาวบ้านและก้าวพ้นชีวิตที่ยากไร้ไปได้ก็คือการสำเร็จเป็นเซียน

แม้ความปรารถนาจะอยู่สูงเกินเอื้อม แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น

ถึงจะลำบากและอันตรายเพียงใด

ก็ขอทะยานไปให้สุดขอบฟ้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท