ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 719 คมดาบ (ปลาย)

ตอนที่ 719 คมดาบ (ปลาย)

บรรยากาศ​ใน​ห้อง​เงียบสงัด​ ​ได้ยิน​เสียง​ถ้วย​กระเบื้อง​กระทบ​กัน​เมื่อ​ฮ่องเต้​ดื่ม​ชา​เป็นครั้งคราว​ ​แล้วยัง​มีเสียง​พลิก​ฎีกา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เบา​ๆ​

เฉินปั​๋​วจือ​ยืน​ก้มหน้าก้มตา​ด้วย​ท่าที​อ่อนน้อม​ถ่อมตน​ ​แต่​ใน​ใจ​กลับ​กำลัง​นึกถึง​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​วันนี้

เขา​เข้ามา​รับ​ตำแหน่ง​ใน​เมืองหลวง​ตาม​พระราช​โองการ​ ​พูด​เรื่อง​กรม​ขนส่ง​เสบียงอาหาร​เสร็จ​ ​ฮ่องเต้​ก็​พูดคุย​กับ​เขา​ใน​ห้อง​ทรงพระ​อักษร​ ​เดิมที​มัน​คือ​ความเมตตา​ที่​ยิ่งใหญ่​ของ​ฮ่องเต้​อยู่​แล้ว​ ​แน่นอน​ว่า​เขา​ต้อง​อ่อนน้อม​ถ่อมตน​ ​แต่​เขา​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​เจอ​หย่ง​ผิง​โหว​ที่​กำลัง​รอ​อยู่​หน้า​ประตู​ห้อง​ทรงพระ​อักษร​ ​แล้ว​ยิ่ง​คิดไม่ถึง​ว่า​ฮ่องเต้​จะ​เรียกชื่อ​ทางการ​ของ​หย่ง​ผิง​โหว​อย่างสนิทสนม​เช่นนี้​…​ตอนนั้น​ก็​ทำให้​ตน​เริ่ม​ตื่นตระหนก​แล้ว

เคย​ได้ยิน​มานาน​แล้ว​ว่า​เมื่อก่อน​หยิ่ง​ผิง​โหว​เป็น​คน​เย่อหยิ่ง​ ​ฮ่องเต้​ไม่เพียงแต่​ไม่พอ​พระทัย​ ​แม้แต่​ไท่​จื่อ​ก็​ยัง​ไม่​ให้​ใกล้ชิด​กับ​เขา​ ​แต่​โชคดี​ที่​หย่ง​ผิง​โหว​เฉลียวฉลาด​ ​รู้จัก​พลิกแพลง​สถานการณ์​ ​สอง​สาม​ปี​ที่ผ่านมา​เขา​ไม่กล้า​ทำ​เกินหน้า​ที่​ของ​ตัวเอง​ ​แม้แต่​ราชสำนัก​ก็​ไม่​มา​ ​อ้างว่า​ไม่สบาย​ ​จึง​ไม่เคย​ทำ​อะไร​ผิดพลาด​ ​หลังจากนั้น​ก็​มี​แม่ทัพ​ที่​มีชื่อเสียง​อย่าง​ฟั่น​กัง​เหวย​ ​เจี่ย​งอ​วิ​๋น​เฟย​ ​เฉิง​ปี้​เฉิง​ ​และ​หลี​่​จี้​ปรากฏตัว​ขึ้น​มา​ ​ชื่อเสียง​ของ​หย่ง​ผิง​โหวก​็​ค่อยๆ​ ​จางหาย​ไป​ ​จึง​ทำให้​ความคับ​ข้องใจ​ของ​ฮ่องเต้​ที่​มีต​่อ​เขา​ค่อยๆ​ ​ลดลง

พวกเขา​สอง​คน​ ​คน​หนึ่ง​เป็น​ขุนนาง​ราชสำนัก​ ​อีก​คน​หนึ่ง​เป็น​ขุนนาง​นอก​ ​คน​หนึ่ง​อยู่​ตอนเหนือ​ ​คน​หนึ่ง​อยู่​ตอน​ใต้​ ​ไม่​ค่อย​ได้​ไปมาหาสู่​กัน​อยู่​แล้ว​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​บุตรชาย​ตัวเอง​ที่พึ่ง​จะเข้า​มา​ใน​เมืองหลวง​กลับ​ถูก​บุตรชาย​ของ​หย่ง​ผิง​โหวต​่อย​ ​ไม่​เพียง​เท่านั้น​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ไม่มี​ความปรานี​ ​ผู้ติดตาม​กว่า​สามสิบ​คน​ ​บาดเจ็บสาหัส​ยี่สิบ​กว่า​คน​ ​อย่างน้อย​ก็​ต้อง​รักษาตัว​หนึ่ง​ถึง​สอง​ปี​ ​เขา​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ฉุนเฉียว​เป็นอย่างมาก​ ​บุตรชาย​ตัวเอง​ยิ่ง​ตกใจ​ ​กลับมา​ก็​ล้ม​ป่วย​ ​จนถึง​ทุกวันนี้​ก็​ยัง​ฝันร้าย​ตกใจ​ตื่น​ตลอด​…

แต่​พอนึก​ถึง​ไท่​จื่อ​ ​ตน​ก็​ทำได้​เพียง​ทุบ​จานรอง​หมึก​ระบาย​ความโกรธ​และ​ตัดสินใจ​กลืน​ความโมโห​นี้​ลง​ไป​ ​เชิญ​กู่​เหยี​ยน​ ​สหาย​ที่​สำนัก​ศึกษา​ฮั่น​หลิน​ไป​ช่วย​พูด​ ​ขอ​แค่​สกุล​สวี​ยอม​ขอโทษ​ ​เขา​ก็​จะ​ให้อภัย​ ​เรื่อง​นี้​ก็​ถือว่า​จบ​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​หย่ง​ผิง​โหว​แสร้งทำ​เป็น​หูหนวก​ตาบอด​ ​ทำเป็น​ไม่รู้​เรื่อง​ ​นอกจากนั้น​สวี​ซื่อ​จิ​่​นก​็​กลายเป็น​คน​มีชื่อเสียง​ ​ลูกศิษย์​ใน​เยี​่​ยน​จิง​ล้วนแต่​อยาก​เป็น​สหาย​กับ​เขา​ ​ช่วง​ปีใหม่​ก็​มี​คน​ไปหา​มาสู่​ตลอด​ไม่ขาดสาย​

ยอด​แม่ทัพ​หยัดยืน​บน​หมื่น​กระดูก

สวี​ซื่อ​จิ​่น​จะ​ให้​ใคร​เสียสละ​เพื่อ​เขา​มัน​เป็นเรื่อง​ของ​เขา​ ​แต่​เขา​ไม่​ควร​ดึง​บุตรชาย​ตัวเอง​เข้าไป​เกี่ยว​…​ ​ครั้งนี้​หาก​ไม่มีเหตุผล​ที่​ฟังขึ้น​ ​ต่อไป​บุตรชาย​ของ​เขา​ยัง​จะ​มีหน้า​เดินไปเดินมา​ใน​เยี​่​ยน​จิง​ได้​เช่นไร​!

เมื่อ​กู่​เหยี​ยน​เขียนจดหมาย​ตำหนิ​เขา​ ​เขา​จึง​รู้​ว่า​หาก​จะ​เอาเรื่อง​หย่ง​ผิง​โหว​ ​ต้อง​ได้รับ​ความ​สนับสนุน​จาก​ฮ่องเต้

คิด​เช่นนี้​ ​เขา​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เหลือบมอง​ฮ่องเต้​อย่างรวดเร็ว

ฮ่องเต้​สีหน้า​เรียบ​นิ่ง​ ​มอง​อารมณ์​ไม่​ออก​

หัวใจ​ของ​เขา​พลัน​ห่อเหี่ยว​

เรียกชื่อ​ทางการ​ของ​หย่ง​ผิง​โหว​อย่างสนิทสนม​ ​จากนั้น​ก็​ให้​หย่ง​ผิง​โหว​อ่าน​ฎีกา​…​อย่าง​แรก​ไม่ใช่​เรื่องสำคัญ​ ​เพราะ​หย่ง​ผิง​โหว​คือ​พี่ชาย​ของ​ฮองเฮา​ ​พวกเขา​สอง​คนสนิท​สนม​กัน​อยู่​แล้ว​ ​อาจ​เป็น​เพราะ​ความเคยชิน​ ​แต่​ให้​เขา​อ่าน​ฎีกา​ ​เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​ให้​หย่ง​ผิง​โหวดู​ว่า​ใคร​เป็น​คน​กล่าวโทษ​เขา​…

ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา​ ​เขา​ก็​รู้สึก​ราวกับว่า​มี​เหงื่อ​ไหล​ซึม​ออกมา​บน​หน้าผาก​ตัวเอง

หรือว่า​ฮ่องเต้​อยาก​ให้​พวกเขา​คืนดีกัน​?

เฉินปั​๋​วจือ​หัวหมุน​อย่างรวดเร็ว

หาก​ฮ่องเต้​คิด​เช่นนั้น​จริงๆ​ ​แต่​คืนดีกัน​ด้วย​วิธี​เช่นนี้​ ​มัน​คง​เป็นปัญหา​ใหญ่

เงิน​ค่ายา​ไม่ใช่​เรื่องสำคัญ​…​แต่​หย่ง​ผิง​โหวต​้​อง​ไป​เยี่ยม​บุตรชาย​เขา​ด้วยตัวเอง​ ​แล้วยัง​มีส​วี​ซื่อ​จิ​่น​ ​ต้อง​มา​ขอโทษ​บุตรชาย​เขา​…​จากนั้น​เขา​ถึง​สามารถ​ส่ง​ของขวัญ​ชิ้น​ใหญ่​ไป​ขอบคุณ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​…​แต่​ไม่จำเป็น​ต้อง​สนิทสนม​กัน​ ​แต่​ใคร​จะ​รู้​ว่า​เรื่อง​นี้​กลับ​ทำให้​ฮ่องเต้​ลำบาก​พระทัย​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​สามารถ​จัดการ​ได้​อย่าง​ช้าๆ​…​อย่างเช่น​ดู​ว่า​ไท่​จื่อ​คิด​กับ​ท่าน​ลุง​คน​นี้​ของ​ตัวเอง​เช่นไร​…

ในขณะที่​เฉินปั​๋​วจื​อกำ​ลัง​ครุ่นคิด​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​อ่าน​ฎีกา​เสร็จ​แล้ว​

ฮ่องเต้​ตรัส​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​มี​อะไร​จะ​พูด​หรือไม่​”

“​กระหม่อม​ตื่นตระหนก​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​คุกเข่า​ลง​ทันที​ ​“​เรื่อง​ฎีกา​ ​กระหม่อม​ก็​เคย​ได้ยิน​แล้ว​ ​ตอนนั้น​กระหม่อม​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​เรียก​สวี​ซื่อ​จิ​่​นมา​ถาม​ ​จิ​่น​เกอ​บอกว่า​ตอนนั้น​เขา​นั่ง​ฟัง​เล่า​หนังสือ​ที่​โรงน้ำชา​ ​เห็น​คน​กำลัง​รังแก​สอง​พ่อ​ลูก​ที่ทำการ​แสดง​ ​จึง​เกิด​การทะเลาะ​กัน​ ​เขา​ไม่รู้​จัก​คน​เหล่านั้น​ ​กระหม่อม​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รีบ​บอก​ให้​คน​ไป​สืบ​ ​ได้ยิน​ว่า​บุตรชาย​ของ​ใต้เท้า​เฉิน​นอน​ป่วย​อยู่​ ​ไม่​เหมือน​ที่​ฎีกา​เขียน​ไว้​ว่า​บาดเจ็บสาหัส​ ​เดิมที​กระหม่อม​ยัง​อยาก​จะ​ส่ง​ผู้ดูแล​ไป​เยี่ยมเยียน​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​มี​กฏ​เกณฑ์​ของ​บรรพบุรุษ​ว่า​ขุนนาง​นอก​ไม่​ควร​ไปมาหาสู่​กับ​ขุนนาง​ใน​ ​จึง​ล้มเลิก​ความคิด​นั้น​ไป​แล้ว​แค่​ส่ง​คน​ไป​สืบ​ดู​ว่า​องครักษ์​ที่อยู่​เยี​่​ยน​จิง​ของ​ใต้เท้า​เฉิน​มี​ใคร​ถูก​ต่อย​จนได้​รับ​บาดเจ็บ​หรือไม่​ ​เพื่อนบ้าน​ล้วนแต่​ไม่รู้​เรื่อง​นี้​ ​ต่อมา​ใต้เท้า​เฉิน​ก็​ไม่ได้​ส่ง​คน​มาหา​กระหม่อม​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​พูด​เบา​ลง​ ​“​สิบ​กว่า​ปี​มานี​้​กระหม่อม​ลาออก​จาก​ตำแหน่ง​มา​อยู่​ที่​จวน​ ​มักจะ​มี​ข่าวลือ​เช่นนี้​อยู่​บ่อยๆ​ ​ทุกครั้ง​ฝ่า​บาท​ก็​คอย​ช่วย​จัดการ​ให้​กระหม่อม​ ​ครั้งนี้​กระหม่อม​จึง​ไม่ได้​คิด​อะไร​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​…​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ฟัง​ดู​โศกเศร้า​

แต่งเรื่อง​เก่ง​เสีย​จริง

เฉินปั​๋​วจือ​หัวเราะ​ใน​ใจ​ ​จากนั้น​ก็​มอง​ไป​ที่​ฮ่องเต้

ฮ่องเต้​ทำ​สีหน้า​ทน​ไม่ได้

เขา​แอบ​บ่น​ใน​ใจ

“​ฝ่า​บาท​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​เฉินปั​๋​วจื​อพูด​ด้วย​นำ​เสียง​ที่​โอนอ่อน​และ​อ่อนน้อม​ ​“​เรื่อง​นี้​เดิมที​เป็นความ​ผิด​ของ​กระหม่อม​ ​กระหม่อม​คิด​ว่า​หย่ง​ผิง​โหว​โจมตีเ​เคว​้น​เหมียว​เจียง​ ​ทำให้​ซี​เป่ย​สงบสุข​ ​มีคุณ​งาม​ความดี​ ​เกิดเรื่อง​เล็กน้อย​เช่นนี้​ขึ้นกับ​บุตรชาย​ ​กระหม่อม​จึง​ไม่​อยาก​ทำให้​หย่ง​ผิง​โหวตก​ใจ​ขอรับ​…​”

พูดถึง​เรื่อง​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ทำให้​ฮ่องเต้​ไม่พอใจ​ ​เตือน​ความผิด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ให้​ฮ่องเต้​รู้​ ​ตอนนี้​เขา​ดูเหมือน​แมว​ ​แต่​ความจริง​เพราะว่า​มี​ฮ่องเต้​ค่อย​กดดัน​เขา​ ​หาก​ฮ่องเต้​ไม่​กดดัน​เขา​ ​เขา​อาจ​กลายเป็น​เสือก​็​ได้

ฮ่องเต้​ได้ยิน​เช่นนี้​ ​ถึงแม้​อยาก​ช่วย​เขา​แต่​ก็​คง​ต้อง​คิด​ให้​ดี​

เขา​ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​พูดแทรก​ขึ้น​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ต่อย​บุตรชาย​ของ​เจ้า​จริงๆ​ ​น่ะ​หรือ​ ​เป็น​อะไร​มาก​หรือไม่​ ​ใน​ฎีกา​บอกว่า​บาดเจ็บสาหัส​…​”​ ​พูด​จบ​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​ดู​เคร่งเครียด​ ​“​จริง​หรือไม่​?​”

สีหน้า​ของ​เฉินปั​๋​วจื​ออึม​ครึม​

ขุนนาง​คือ​ตัวแทน​ของ​ราชสำนัก​ ​คน​ของ​ราชสำนัก​ ​นอกจาก​ความรู้​ความสามารถ​แล้ว​ ​ยัง​ต้อง​มี​รูปลักษณ์​หน้าตา​ที่​ดี​ ​หาก​บุตรชาย​ของ​เขา​บาดเจ็บสาหัส​ ​เช่นนั้น​ต่อไป​ลูก​ของ​เขา​คง​ไม่ได้​เป็น​ขุนนาง​ง่ายๆ​ ​แม้แต่​ตำแหน่ง​ผู้บัญชาการ​ทหาร​รักษาการณ์​ที่พึ่ง​จะ​ถูก​แต่งตั้ง​ก็​อาจ​ถูก​คนที​่​คิดร้าย​ฉวยโอกาส​นี้​ ​สุดท้าย​ถูก​ยึด​ตำแหน่ง​กลับคืน​ไป​ ​แต่​หาก​บอกว่า​บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​ไม่เป็นอะไร​ ​เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​ฎีกา​พวก​นั้น​ไม่​เป็นความ​จริง​ ​แล้วยัง​ยอมรับ​ว่า​บุตรชาย​ตัวเอง​รังแก​สอง​พ่อ​ลูกคู่​นั้น​…

เขา​ใช้​หาง​ตา​เหลือบมอง​ฮ่องเต้​อย่างรวดเร็ว

ฮ่องเต้​ทำท่า​ที​ตั้งใจฟัง

เฉินปั​๋​วจือ​ไม่กล้า​รอช​้า​ ​เขา​พูด​ ​“​ลูก​ข้า​ไม่ได้​บาดเจ็บสาหัส​…​”

“​เช่นนั้น​ก็ดี​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ขัดจังหวะ​เขา​อีกครั้ง​ ​“​หาก​บาดเจ็บสาหัส​จริงๆ​ ​อนาคต​ของ​เขา​คงจะ​พังทลาย​ ​จิ​่น​เกอ​ของ​เรา​คง​ต้อง​รู้สึก​ผิด​ไป​จนตาย​!​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​ท่าที​ดีใจ

ฮ่องเต้​เอง​ก็​พยักหน้า​ ​“​เช่นนั้น​ก็ดี​!​”

เฉินปั​๋​วจื​อสา​มาถ​เป็น​ถึง​ผู้ว่าการ​กรม​ขนส่ง​เสบียงอาหาร​ ​เขา​ต้อง​ไม่ใช่​คนธรรมดา​อยู่​แล้ว

รู้​ว่า​ไม่​ควร​พูดถึง​เรื่อง​บุตรชาย​ตัวเอง​อีกต่อไป​ ​ถึงแม้​ตอนนี้​บุตรชาย​ยัง​นอน​ป่วย​อยู่​บน​เตียง​ ​แต่​หาก​พูด​ต่อไป​ ​มัน​คง​ทำให้​คนอื่น​คิด​ว่า​บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​ไม่ได้เรื่อง​ ​พลอย​ทำให้​สวี​ซื่อ​จิ​่​นมี​ความดี​ความชอบ​เสียมา​กก​ว่า​

“​กระหม่อม​มีบุ​ตร​ชาย​เพียง​คนเดียว​เลย​คาดหวัง​กับ​เขา​เอาไว้​สูง​ ​สอง​สาม​ปี​ที่​ขยาย​ช่อง​แม่น้ำ​ ​กระหม่อม​ก็​ให้​เขา​อยู่​ด้วย​เสมอ​ ​ผ่าน​อะไร​มามาก​มาย​ ​เขา​ก็​ถือว่า​เป็น​คนที​่​มีประสบการณ์​ไม่น้อย​”​ ​เหตุผล​ที่​ฮ่องเต้​แต่งตั้ง​ให้​บุตรชาย​ตัวเอง​เป็น​ผู้บัญชาการ​ทหาร​รักษาการณ์​ ​ขุนนาง​ระดับ​สี่​ ​เพราะว่า​เฉินปั​๋​วจื​อมี​ความดี​ความชอบ​ใน​การ​ขยาย​ช่อง​แม่น้ำ​ ​เขา​พูด​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​อย่าง​คลุมเครือ​ ​เพราะ​หวัง​ว่า​ฮ่องเต้​จะ​ทรง​จดจำ​ความดี​ความชอบ​ของ​เขา​ได้​ ​และ​ไม่พอใจ​กับ​พฤติกรรม​ของ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ ​ ​“​เกรง​ว่า​องครักษ์​กว่า​สามสิบ​คน​ ​ยี่สิบ​กว่า​คนใน​นั้น​ ​ต่อไป​คง​ดูแลตัวเอง​ไม่ได้​แล้ว​กระมัง​…​”

ฮ่องเต้​ได้​ฟัง​แล้วก็​ตก​พระทัย​ ​ก่อน​จะ​ทอดพระเนตร​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​เอง​ก็​มีท​่า​ทาง​ตกอกตกใจ

“​มีเรื่อง​เช่นนี้​ด้วย​หรือ​!​”​ ​เขามอง​ไป​ที่​ฮ่องเต้​ด้วย​สีหน้า​ที่​สับสน​ ​“​ตอนที่​กระหม่อม​เรียก​บุตรชาย​มาถาม​ ​กระหม่อม​ให้​ผู้ดูแล​ไป​สืบ​ ​ผู้ดูแล​บอกว่า​ ​ตอนนั้น​เขา​พาบ​่า​วรับ​ใช้​สี่​คน​ติดตาม​ไป​ด้วย​ ​แล้วยัง​มี​องครักษ์​อีก​หก​คน​ ​เพราะว่า​เป็นช่วง​ขึ้นปีใหม่​ที่​จวน​กำลัง​วุ่นวาย​ ​ใน​บรรดา​องครักษ์​หก​คนเล​ยมี​องครักษ์​ที่​มีฝีมือ​ดี​แค่​คนเดียว​เท่านั้น​ ​คนอื่น​ล้วนแต่​เป็น​องครักษ์​ฝีมือ​ธรรมดา​ ​สำหรับ​บ่าว​รับใช้​ที่​ติดตาม​ไป​ ​ล้วนแต่​อายุ​สิบ​หกสิบ​เจ็ด​ปี​ ​เพราะ​กระหม่อม​เชิญ​อาจารย์​มาสอน​ศิลปะ​การต่อสู้​ให้​จิ​่น​เกอ​ ​พวกเขา​คอย​รับใช้​จิ​่น​เกอ​อยู่​ตลอด​ ​จึง​ให้​พวกเขา​ฝึกฝน​ไป​ด้วย​…​องครักษ์​สามสิบ​คน​นั้น​…​”​ ​ความหมาย​ก็​คือ​เฉินปั​๋​วจื​อพูด​เกิน​จริง

พูด​ไป​พูด​มา​ ​เฉินปั​๋​วจื​อก​็​รู้​ถึง​ความสามารถ​ใช้​พื้นที่​และ​เวลา​ที่​มีอยู่​ให้​เป็นประโยชน์​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​เขา​เตรียม​แผนการ​รับมือ​ไว้​อยู่​แล้ว​ ​ได้ยิน​เช่นนั้น​เขา​ก็​พูด​อย่าง​นิ่งเฉย​ ​“​กระหม่อม​เอง​ก็​คิด​ว่า​มัน​แปลก​ๆ​ ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​องครักษ์​สามสิบ​คน​มาส​่​งบุ​ตร​ชาย​กระหม่อม​ถึง​เยี​่​ยน​จิง​ ​ไม่เคย​มี​อะไร​ผิดพลาด​…​”​ ​หมายความว่า​ทำไม​สกุล​สวี​ถึง​มี​องครักษ์​ยอด​ฝีมือ​เช่นนั้น​ ​แต่​ใน​ปากของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับเป็น​แค่​องครักษ์​ทั่วไป​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​สิบ​กว่า​ปี​ที่​สกุล​สวี​อยู่​อย่าง​เงียบๆ​ ​แต่​ที่จริง​แล้ว​เขา​มี​เจตนาร้าย

“​ฝ่า​บาท​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​โค้ง​คำนับ​ฮ่องเต้​ ​“​กระหม่อม​คิด​ว่า​ควร​เรียก​คน​ของ​ศาล​ว่าการ​และ​กอง​ปัญจ​ทิศ​รักษา​นคร​มาส​อบ​ถาม​ ​ตอนที่​กระหม่อม​ถาม​จิ​่น​เกอ​ ​จิ​่น​เกอ​และ​บ่าว​รับใช้​สอง​สาม​คน​ไม่มี​บาดแผล​อะไร​บน​ตัว​เลย​แม้แต่น้อย​ ​แล้วยัง​บอกว่า​คนที​่​รังแก​สอง​พ่อ​ลูกคู่​นั้น​พา​องครักษ์​ไป​ด้วย​แค่​สามสี​่​คน​ ​กระหม่อม​เลย​คิด​ว่า​มัน​สมเหตุสมผล​ ​ไม่เช่นนั้น​กระหม่อม​ก็​คง​ไม่เชื่อ​ใน​สิ่ง​ที่​เขา​พูด​ ​ตอนนี้​ใต้เท้า​เฉิน​บอกว่า​บุตรชาย​ของ​เขา​ไม่เป็นอะไร​ ​แต่​องครักษ์​กว่า​สามสิบ​คน​ ​ได้รับบาดเจ็บ​สาหัส​ไป​ยี่สิบ​กว่า​คน​…​อาจ​เป็นการ​เข้าใจผิด​อะไร​หรือไม่​ ​หรือ​เรา​ไม่ได้​พูด​เรื่อง​เดียวกัน​ตั้งแต่แรก​!​”

เฉินปั​๋​วจือ​หัวใจ​เต้น​กระหน่ำ​ ​เขา​เม้มปาก​แน่น​ ​กลัว​ว่า​หาก​โมโห​แล้ว​จะ​เผลอ​พูด​อะไร​ที่​ไม่​ควร​พูด​ออกมา​ต่อหน้า​ฮ่องเต้​ ​ทำให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้เปรียบ​ ​ทันใดนั้น​บรรยากาศ​ก็​เย็นยะเยือก​ ​เขา​พูด​ขึ้น​ ​“​ถึงแม้ว่า​ข้า​จะเข้า​ใจ​ผิด​ ​แต่​สำนัก​ตรวจการณ์​คงจะ​ไม่เข้าใจ​ผิด​ใช่​หรือไม่​ ​หาก​สำนัก​ตรวจการณ์​เข้าใจผิด​ ​เช่นนั้น​ก็​เท่ากับ​หลอกลวง​ฮ่องเต้​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​แข็งทื่อ

ฮ่องเต้​มองดู​เฉินปั​๋​วจือ​ที่​โมโห​จน​ตัวสั่น​ ​เขา​แอบ​ถอนหายใจ​ใน​ใจ

ทุกคน​ล้วนแต่​บอกว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็น​คนซื่อ​ๆ​ ​นั่น​เป็น​เพราะ​เขา​ไม่​ค่อย​พูด​ ​แต่​สมัยก่อน​ตอนที่​อู๋​ฮองเฮา​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ​เขา​เคย​พูด​เยอะ​ซะ​จน​อู๋​ฮองเฮา​พูด​ไม่ทัน​…​คิด​เช่นนี้​ ​เขา​ก็​นึกย้อน​ไป​ตอนที่​ตัวเอง​ยัง​ไม่ได้​ขึ้น​ครองราชย์​…​มี​ช่วง​หนึ่ง​ที่​ตน​ไม่กล้า​ออกจาก​จวน​ ​เรื่อง​ข้างนอก​ล้วน​ปล่อย​ให้​พ่อตา​เป็น​คน​จัดการ​ ​เรื่อง​การ​ส่งข่าว​คราว​ ​ก็​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​อายุ​เพียงแค่​เจ็ด​แปด​ขวบ​เป็น​คน​จัดการ​ ​ดูเหมือน​ตั้งแต่นั้นมา​ ​สวี​ซื่อ​อี๋​ก็​เริ่ม​พูดน้อย​ลง​เรื่อยๆ​…​แต่ว่า​ ​ตน​ก็​ค่อยๆ​ ​คุ้นชิน​กับ​ความสุขุม​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ไม่เช่นนั้น​ตน​คง​ไม่​กลัว​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ถูก​ขุนนาง​เหล่านี้​โจมตี​ไม่รู้​จัก​จบ​จัก​สิ้น​เลย​อยาก​จัดการ​เรื่อง​นี้​ตั้งแต่​ต้นเรื่อง

แต่​ตอนนี้​ดูเหมือนว่า​ตน​ที่​อยาก​โอ้อวด​แสดง​ความ​ชาญฉลาด​แต่กลับ​กลายเป็น​การแสดง​ความ​โง่เขลา​ออกมา​!

“​เฉินปั​๋​วจือ​ ​ในเมื่อ​เด็ก​ทั้งสอง​สกุล​ไม่เป็นอะไร​ ​เรา​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​ก็​จบ​เช่นนี้​เถิด​!​”​ ​ฮ่องเต้​ขมวดคิ้ว​ด้วย​ท่าที​ลำบาก​พระทัย​เป็นอย่างมาก​ ​“​อีก​ไม่​กี่​วัน​เรา​จะ​ออก​พระราช​โองการ​ซ่อมแซม​แม่น้ำ​ไป๋ถ​่า​ ​ตุลาการ​จะ​ได้​ไม่​พูด​อะไร​ไป​ทั่ว​ ​เฉินปั​๋​วจือ​ควร​ให้ความสำคัญ​กับ​สถานการณ์​โดยรวม​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​ขมวดคิ้ว​พลาง​ตรัส​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​อิง​หวา​ชดใช้​ค่ายา​ให้​เฉินปั​๋​วจือ​หนึ่ง​พัน​ตำลึง​เถิด​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท