ไหงดาวโรงเรียนถึงชอบมาห้องของผมละเนี่ย – ตอนที่ 12 เทพธิดามาแบบกระทันหัน

ไหงดาวโรงเรียนถึงชอบมาห้องของผมละเนี่ย

แสงแดดยามเช้าที่เล็ดรอดเข้ามาในห้องผมทำให้จากห้องที่มืดสลัวได้สว่างขึ้นมานิดหน่อย

หลังจากที่ผมได้ยินเสียงของเหล่านกน้อยจากนอกหน้าต่างผมก็ได้ตื่นขึ้นมาด้วยท่าทางที่งัวเงีย

“โอ๊ยยย”

ผมที่กำลังเดินไปล้างหน้าแปรงฟันดันถูกขอบโต๊ะโจมตีเข้าที่นิ้วเท้าซึ่งนั่นก็ได้สร้างดาเมจอันมหาศาลถึงขั้นทำให้ผมนอนดิ้นได้เลยทีเดียว

นี่เป็นครั้งแรกเลยละที่ผมต้องเจ็บปวดกับเรื่องแบบนี้…เพราะที่ผ่านมาห้องของผมมันรกรุงรังมันจึงมีเสื้อผ้ากระจัดกระจายเต็มพื้นซึ่งมันก็ทำหน้าที่เหมือนเกราะป้องกันขอบโต๊ะให้กับผม

จากนั้นผมก็เดินไปเปิดสวิตซ์ไฟอย่างทุลักทุเล

“มองกี่ครั้งก็ไม่ชินเลยแฮะ…”

จากห้องที่เหมือนรังโจรกลับดูสะอาดงามตา พอลองนึกดูก็ทำเอาผมสะเทือนใจอยู่ไม่น้อย

มีสาวสวยมาห้องของผมและมาช่วยผมทำความสะอาดอีกทั้งเธอยังสอนหนังสือผมอีก

ซึ่งเรื่องแบบนี้มันโคตรจะเหลือเชื่อ หรือนี่ผมกำลังฝันอยู่งั้นเหรอ?

ผมลองหยิกหน้าตัวเองอย่างแรง

“คิย๊าาา~~เจ็บอาาา”

ต่อมาผมก็เดินไปดูกระจกซึ่งมันก็ได้แสดงใบหน้าที่เขร่งขึมของผมโดยที่มีรอยสีแดงตรงแก้ม พอดูๆแล้วหน้าของผมในตอนนี้ก็เหมือนพวกติดยาที่ไม่มีเรี่ยวไม่มีแรงเลย

หลังจากนั้นผมก็ล้างหน้าและหยิบผ้าขนหนูที่พับเอาไว้อย่างเป็นระเบียบขึ้นมาเช็ดหน้าของตัวเอง

“เธอชักผ้าให้ด้วยงั้นเหรอ….ทำตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย”

โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่แทบจะไม่อยากแตะเสื้อผ้าที่สกปรกของคนอื่นเลยด้วยซ้ำแต่วาคามิยะดันทำทุกอย่างได้อย่างกับว่ามันเป็นเรื่องปกติธรรมดาในตอนนี้ผมรู้สึกเคารพเธอเป็นอย่างมากไม่แปลกเลยที่เธอจะเป็นที่นิยม

ถ้าจะให้เรียกเธอว่าเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไรเพราะไม่ว่าจะเป็นบุคลิก จิตใจ หรือกระทั่งความสามารถก็อยู่ในขั้นดีเยี่ยม

“ถ้าเจอกันครั้งหน้าต้องขอบคุณหน่อยแล้วสิ..”

ผมบิดขี้เกียจไปมาก่อนที่จะหันมามองอุปกรณ์การเรียนบนโต๊ะ

“ถึงฉันจะไม่อยากทำก็เถอะ แต่….”

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ผมที่กำลังจะนั่งลงก็ดันมีเสียงเคาะประตูดังขั้นมาขัดจังหวะจากนั้นผมก็เหลือบไปมองที่นาฬิกา

…9 โมงเช้า น่าจะเป็นคนส่งหนังสือพิมพ์ละมั้ง

ผมเดินไปเปิดประตูพร้อมกับเกาหัวของตัวเอง

“ไม่เอาครับ—“

“อรุณสวัสดิ์ค่ะโทคิวากิซัง วันนี้อากาศดีจังเนอะ”

ห๊ะ..

ผมขยี้ตาของตัวเองจากนั้นก็หรี่ตามอง

“ดูเหมือนกริ่งมันจะพังอะฉันเลยมาเคาะประตูแทน ฉันขอเข้าไปได้มั้ยคะ?”

ชั่วขณะนั้นผมก็รู้สึกประทับใจในรอยยิ้มของวาคามิยะ แต่…

“ไหงเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ละ..”

ผมเบี่ยงสายตาหนีจากเธอก่อนที่จะถามแบบนั้นออกไป

บ้าจริง ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นเธอในชุดลำลองสองวันติด

แค่นี้ผมก็ตายตาหลับแล้วละครับ…ไม่สิ ตั้งสติก่อน

“ก็ฉันบอกไปแล้วนิคะว่าจะมาอีก”

“ปกติเขาไม่มากันติดๆแบบนี้หรอกเฟ้ย”

“แต่มันปกติสำหรับฉันค่ะ”

วาคามิยะตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ก็จริงของเธอเพราะคำว่า ปกติ ของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน เพราะงั้นการที่จะมายืนเถียงกับเธอมันก็จะเปลืองพลังงานเอาเปล่าๆ

“แล้วคุณว่างมั้ยคะ?”

“ถ้าว่างมันก็ว่างอยู่นะ”

“แสดงว่า ว่าง สินะคะ”

“แต่ว่านะ โทคิวากิซัง ที่แก้มของคุณโดนอะไรมาเหรอคะหรือว่าจะเป็นแมลง?”

“เออนี่มัน….ไม่มีอะไร ไม่ต้องไปใส่ใจหรอก”

จ้างให้ก็ไม่บอกหรอกเฟ้ยมันน่าอายจะตาย

“ได้ค่ะ งั้นฉันขอถามอย่างอื่นแทนนะคะ ถึงมันจะดูเหมือนยุ่งไม่เข้าเรื่องก็เถอะ โทคิวากิซัง คุณกินข้าวเช้ารึยังคะ?”

“ยังไม่ได้กิน ฉันไม่จำเป็นต้องกินข้าวเช้าอยู่แล้ว”

ปกติผมกินแค่เยลลี่ก็เพียงพอแล้ว ใช้เวลาแค่10วิเองอีกทั้งยังชาร์จพลังงานได้อีก สดวกสุดๆไปเลยใช่มั้ยละ

“คุณต้องกินอาหารเช้านะคะ มันเป็นพลังงานสำหรับทั้งวันเลยแล้วก็การงดอาหารเช้าก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย”

“อ่าๆ ไว้ฉันค่อยไปกินทีหลัง”

“นี่มันก็ 9โมงแล้วนะคะ ถ้าเอาแต่พูดแบบนั้นจากข้าวเช้าได้กลายเป็นข้างเที่ยงแทนแน่”

“ก็ได้ๆ ฉันจะกินตอนนี้เลย”

ผมหยิบขนมปังกรอบออกมาจากที่เก็บเสบียงฉุกเฉินของผม

นี่แหละทั้งกรอบทั้งอร่อยเหมาะที่จะเป็นมื้อเช้าของผม

“โทคิวากิ…ซัง?”

“อ-อะไรเหรอ?”

วาคามิยะจ้องมาที่ผมด้วยความโมโห ผมถึงกับสะดุ้งเมื่อหันมองไปที่เธอ

แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงงดงาม ในขณะที่ผมคิดเรื่องแบบนีั วาตามิยะก็หรี่ตามองมาที่ผมและจ้องด้วยสายตาที่เสียดแทง

“แค่นั้นเหรอคะที่เรียกว่าข้าวเช้า”

“ก็ฉันไม่มีอะไรให้กินแล้วนี่นา”

หลังจากที่ทำความสะอาดเมื่อวานของกินส่วนใหญ่ของผมก็ถูกเธอโยนทิ้งหมดเหลือไว้เพียงแค่ขนมปังอันนี้

“เฮ้ออ ว่าแล้วเชียว”

วาคามิยะถอนหายใจและหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าสะพาย

“อะไรอ่ะ?”

“แซนวิชค่ะ พอดีว่าฉันทำมันเยอะไปหน่อยเพราะงั้นฉันเลยเอามาให้คุณ”

“….ให้ฉันจริงๆเหรอ?”

“ค่ะ ตามสบายเลย”

ผมกลืนน้ำลายของตัวเองจากนั้นท้องของผมก็ดังออกมาราวกับว่ามันกำลังเรียกร้องสิ่งนั้นอยู่

“ขอบคุณนะ ช่วยได้เยอะเลย”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทำไปก็เพื่อสนองนีทของตัวเองล้วนๆค่ะ”

“คร้าบๆ”

จากนั้นผมก็เขมือบแซนวิชเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งมันก็อร่อยเพลิดเพลินเป็นอย่างมากจนผมหยุดมือของตัวเองไม่ได้เลยรู้ตัวอีกทีก็กินหมดไปซะแล้ว

********

#Sarabao หนีเที่ยว

เจอกันอีกทีอาทิตย์หน้าครับ

ไหงดาวโรงเรียนถึงชอบมาห้องของผมละเนี่ย

ไหงดาวโรงเรียนถึงชอบมาห้องของผมละเนี่ย

Status: Ongoing
โทคิวากิ โทวะ ที่อุทิศตัว​ถวายพลังชีวิตให้กับงานพาร์ทไทม์​แต่แล้ววันนึงเขาดันบังเอิญไปพับกบพบกับสาวสวยที่ถูกขนาดนามว่าเทพธิดาหรือชื่อของเธอคนนั้นคือ วาคามิยะ ริน เพราะความบังเอิญ​ในครั้งนั้นก็ทำให้ชีวิตประจำวันของทั้งสองได้เข้ามาพัวพัน​ซึ่งกันและกัน และนี่ก็คือเลิฟคอมระหว่างคนสองคนที่ไม่เคยรู้จักกันที่จะ[ค่อยๆ]​พัฒนา​ความสัมพันธ์​ละมั้ง และนี่ก็คือเรื่องราวของพ่อหนุ่มคลั่งพาร์ทไทม์​กับเทพธิดาสุดรั่ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท