เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 15 คุณนายนภาที่ไม่ยอมเปิดเผยตัวตน
ภีมพลแพร่กระจายลมหายใจที่สุดแสนจะเย็นชาออกมาทั่วตัว เขาไม่สนใจผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น ยกเว้นเพียงแต่ตอนที่เขามองหญิงสาวข้างกาย สายตาของเขาก็กลับมีความละมุนละไมขึ้นมา
ไม่ไกลนัก ญาณีที่สวมชุดที่ดูเป็นผู้ใหญ่และมีความสามารถมองเห็นเหตุการณ์นี้ก็ประหลาดใจ ในใจของเธอรู้สึกทุกข์เป็นอย่างมาก
เพราะถูกบังคับให้แต่งงานหรือเปล่า เขาถึงได้สร้างเรื่องล้อเล่นใหญ่โตขนาดนี้?
แสงแฟลชยิงมาไม่หยุด นักข่าวต่างรุมถ่ายรูปจากทุกๆ มุม นี่เป็นครั้งแรกที่ภีมพลไม่รู้สึกรังเกียจเลย
สายตาของแขกเหรื่อต่างถูกพวกเขาดึงดูด ทุกคนต่างพากันกระซิบวิพากษ์วิจารณ์ บางคนก็อิจฉาอยากจะมีบ้าง ส่วนบางคนก็อิจฉาริษยา
จนกระทั่ง เบญญา นางเอกของงานเลี้ยงประท้วงขึ้น “พอแล้ว พอแล้ว! ไม่ให้ถ่ายแล้ว! ถ่ายฉันนี่! ฉันต่างหากที่เป็นนางเอกของงานนี้!”
เหล่านักข่าวหันกลับไปถ่ายรูปเธอ เพราะถึงยังไงก็รับเงินเธอมาแล้ว!
“เบญญา สร้อยคอของคุณสวยจังเลย สั่งทำมาโดยเฉพาะใช่หรือเปล่า?” คุณนายสูงศักดิ์คนหนึ่งที่สายตาดีและมีใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มถามขึ้น
คุณนายอีกคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “ฉันคุ้นๆ ว่าเห็นสร้อยคอเส้นนี้ที่งานแสดงเครื่องประดับที่มิลานนะ รู้สึกว่าจะเป็น……เป็นผลงานชิ้นใหม่ล่าสุดของเอ็มม่าล่ะมั้ง? ไม่ใช่แค่มีเงินก็ซื้อได้นะ”
เบญญายิ้มและมองที่นภาลัยด้วยความภูมิใจ
นภาลัยจงใจตอบรับสายตาของเธอ จากนั้นจึงหันกลับมาทางภีมพลแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ อย่ามาแย่งซีนเธอที่นี่เลย”
จริงๆ แล้วภีมพลมีข้อสงสัย หญิงสาวที่คอยช่วยเหลือคนจนอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งมาเป็นระยะเวลายาวนาน ทำไมถึงรู้จักกับลูกสาวนายกเทศมนตรีได้นะ?
อีกทั้งยังดูสนิทสนมกันดีอีกด้วย
ทางฝั่งนี้ เบญญากำลังไขความสงสัยให้กับแขก “ใช่ค่ะ มันคือสร้อยที่เอ็มม่าเป็นคนออกแบบ ตอนนี้กำลังนิยมความหรูหราที่แฝงไว้ซึ่งความเรียบง่ายและรูปแบบค่อนข้างจะสง่างาม คิดไม่ถึงเลยว่าพวกคุณจะชอบเหมือนกัน”
นภาลัยที่กำลังก้าวเดินไปด้านหน้าบังเอิญเห็นชายหนุ่มวัยกลางคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่และมีบุคคลิกสง่างามอยู่ไม่ไกลนัก โครงร่างที่คุ้นตาทำให้เธอตกใจเล็กน้อย
ไม่ได้เจอกันมา 21 ปีแล้ว……
แต่เขาก็ยังเป็นเหมือนเดิมกับในภาพความทรงจำ เว้นเสียแต่ริ้วรอยต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นมาบนใบหน้าของเขา
เธอมองด้วยความตกตะลึง มองเขาชนแก้วกับเพื่อน มองเขาพูดคุยอย่างสนุกสนานกับเพื่อน มองเขาเงยหน้าเล็กน้อยและดื่มเหล้าในแก้วจนหมด
สภาพร่างกายของเขาดูเหมือนว่าจะยังดีอยู่เลย
ชายผู้นี้สะกิดความอ่อนโยนที่อยู่ในส่วนลึกที่สุดในใจของเธอ และทำให้เธอขาดสติไปครู่หนึ่ง
ภีมพลมองตามสายตาเธอไปและพบว่า สายตาของเธอหยุดอยู่ที่มนุษินทร์
ทีเอ็ม กรุ๊ปและบีเจดี กรุ๊ปมีความร่วมมือกันอยู่ ดังนั้น ภีมพลจึงรู้สจักผู้ชายคนนี้อยู่บ้าง
หรือว่าพวกเขาก็รู้จักกันอีก?
นภาลัยเห็นเขมินทรา นักแสดงภาพยนตร์ที่กำลังดังอยู่ตอนนี้ยื่นแก้วเหล้าให้มนุษินทร์พร้อมทั้งจับแขนเขาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ชนแก้วกับเหล่าผู้อาวุโสเป็นเพื่อนเขา
ลักษณะท่าทางที่ดูน่าเอ็นดูนี้ ดูคล้ายกับว่าเป็นลูกสาวที่รู้เรื่องที่สุดของตระกูลรุจิพร
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หัวใจของนภาลัยรู้สึกหวงเล็กน้อย ในสายตาบ่งบอกถึงความเหงาและความเกลียดชัง
“คุณภีมคะ ขอถามหน่อยค่ะ คุณภีมกับคุณผู้หญิงท่านนี้มีความสัมพันธ์อะไรกันหรอคะ?” อยู่ๆ ก็มีนักข่าวปรากฏตัวขึ้น “ช่วยเปิดเผยสถานะความสัมพันธ์ของคุณให้หน่อยได้ไหมคะ?”
ภีมพลตอบอย่างไม่ขัดขืน “ผมแต่งงานเงียบๆ มา 7 ปีแล้ว มีลูกอายุ 6 ขวบ และคนนี้ก็คือภรรยาของผม”
นภาลัยได้สติ เธอเห็นสายตาของเขาดูจริงจังเหมือนกับคนที่มีความรับผิดชอบ
ภีมพลจูบเบาๆ ที่หน้าผากของเธอและทำให้เธออกสั่นขวัญหาย นอกจากนั้นยังทำให้หญิงงามนับไม่ถ้วนต้องอกหักและเสียใจ
จริงๆ แล้ว คนโสดที่ดูไม่สนใจผู้อื่นมากที่สุดกลับแต่งงานอย่างเงียบๆ แล้ว!
แม้แต่ลูกก็ยังโตขนาดนี้แล้ว
คนที่รับไม่ได้มากที่สุดก็คือญาณี เธอนึกถึงท่าทีของเขาในสายโทรศัพท์วันนี้ เธอไม่อยากรู้สึกกดดันต่อหน้าผู้คนมากมายจึงมาหลบซ่อนตัวอยู่ไกลๆ และดื่มเหล้าไปเยอะมาก
เบญญาเดินเข้ามาอย่างมีความสุข “นภา เมื่อวานเธอปฏิเสธฉันแต่วันนี้กลับมากับสามี เธอได้นึกถึงความรู้สึกฉันบ้างไหมเนี่ย?” บทสัมภาษณ์เมื่อสักครู่นี้ เธอก็ได้ยินแล้ว
“หุบปากไปเลย” นภาลัยไม่อยากสนใจเธอ “เธอกวนฉันเหมือนเป็นปีศาจมาครึ่งปีแล้ว ให้ฉันหลบเธอหน่อยไม่ได้หรอไง?
“ได้ ได้ ได้ ตราบใดที่เธอไม่ทิ้งฉัน! เธอจะว่ายังไงก็ได้หมดเลย!”
ความสัมพันธ์นี้ทำให้ภีมพลรู้สึกสับสนว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่
ระยะนี้ ทีเอ็ม กรุ๊ปมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมอัญมณี เขามองเพียงแวบเดียวก็รู้แล้วว่าสร้อยคอที่เบญญาสวมคือสร้อยคอที่ออกแบบโดยเอ็มม่า
ช่วงนี้ ทีเอ็ม กรุ๊ปจึงวางแผนที่จะร่วมงานกับเอ็มม่า แต่เอ็มม่าเป็นคนที่คาดเดาได้ยากนัก
“คุณรู้จักกับเอ็มม่าหรอ?” ชายหนุ่มเอ่ยปากถาม
“ไม่รู้จัก” นภาลัยตอบด้วยความรวดเร็ว
“ผมไม่ได้ถามคุณ” ภีมพลมองเธอแล้วจึงมองไปที่ลูกสาวนายกเทศมนตรีเพื่อรอคอยคำตอบ
เบญญาหัวเราะแหะ แหะ “ฉันไม่เข้าใจความหมายของคุณ เอ็มม่าทำไมหรอ?”
เขาคิดแล้วคิดอีก “ไม่มีอะไร” งานอย่างเช่นวันนี้คงจะไม่สะดวกนักที่จะมาคุยเรื่องงาน
เบญญารีบจับมือนภาลัย “ไปกันเถอะ ฉันพาเธอไปกินเค้กที่อร่อยที่สุด!”
หลังจากนภาลัยถูกเธอลากไป ภีมพลก็ยังคงได้ยินเสียงกระซับประโยคนั้น ——
“ขอบคุณสำหรับสร้อยที่เธอให้ฉันนะ ดีไซน์สวยมากๆ ฉันชอบที่สุดเลยล่ะ!”
ของปลอม?
นี่คือคำแรกที่ออกมาจากความคิดของภีมพล! นภาลัยเป็นคนทำสร้อยคอด้วยตัวเอง?