เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 54 ป่าปี๊โกรธแล้ว
“ป่าปี๊ไม่อยู่บ้าน ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะทำความเข้าใจกับโปรเจกต์นี้”
หลังจากที่เข้ามาในห้องหนังสือแล้ว แชมป์กับขวัญข้าวก็ล็อกประตูห้องหนังสือ ก่อนจะมาเปิดคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าโต๊ะหนังสือ
“จะมีคนเข้ามาไหม?”ถึงยังไงขวัญข้าวก็เป็นเด็กผู้หญิง เวลาทำอะไรก็จะรู้สึกขี้ขลาดขี้กลัวเป็นธรรมดา
แชมป์ส่ายหัว“ห้องหนังสือเป็นสถานที่ต้องห้าม ไม่มีใครกล้าเข้ามาหรอก”
“แล้วถ้าป่าปี๊กลับมากะทันหันล่ะ?”
“น้องไปเฝ้าเอาไว้ที่หน้าต่างก็แล้วกัน”
“ได้”
ขวัญข้าวนั่งยองอยู่ข้างหลังผ้าม่านอย่างเชื่อฟัง สองตาจ้องมองข้างล่าง
แชมป์จัดการดำเนินการกับเมาส์และแป้นพิมพ์ ไม่นานก็ถอดรหัสเข้าไปในระบบได้สำเร็จ
ภายในลัมโบร์กินี่ ภีมพลเพิ่งจะโทรศัพท์ไปหาญาณี เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“คุณพาศิษฎ์ไปให้กรินทร์ตรวจดูหน่อย เขามียาชนิดพิเศษ”
“ได้ค่ะ”
ญาณีเดิมทีอยากที่จะพูดคุยกับเขาให้มากสักหน่อย แต่เขากลับวางสายไปแล้ว ภายในใจของเธอรู้สึกสิ้นหวัง
จิตใจที่ร้อนแรงกระตือรือร้นก็เย็นยะเยือกลงทันที ญาณีอารมณ์ยุ่งยากซับซ้อน……ถ้าไม่ใช่เพราะว่าศิษฎ์ แค่จะเจอหน้ากันสักครั้งก็ยังยากเลย
โทรศัพท์ของภีมพลมีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมา พอเขาเปิดออกดู สีหน้าก็ดูไม่ดีอยู่ไม่น้อย
คอมพิวเตอร์ของห้องหนังสือถูกถอดรหัสออกแล้ว
เปิดกล้องวงจรปิด เห็นแชมป์กำลังปีนอยู่ตรงหน้าโต๊ะอย่างที่คิดเอาไว้ เขามือข้างหนึ่งจับเมาส์เอาไว้ มืออีกข้างวางอยู่บนแป้นพิมพ์
ส่วนขวัญข้าวกำลังนั่งยองดูต้นทางอยู่ตรงหน้ากระจกหน้าต่าง……
ภีมพลขมวดคิ้วเล็กน้อย ใช้โทรศัพท์เปิดระบบหนึ่งออกดู สะกดรอยติดตามไปจนเจอร่องรอยการเคลื่อนไหวในระบบของลูกชาย
เห็นเด็กน้อยเข้าไปตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบในครั้งนี้……
เขามีความสนใจในการออกแบบ?
ภีมพลกำลังวิเคราะห์ สะกดรอยอยู่ จู่ๆก็คิดไปถึงนภาลัยแล้วก็คิดถึงเอ็มม่าขึ้นมา
เธออยากจะออกแบบอย่างนั้นเหรอ?
-ภายในห้องหนังสือชั้นบน ของเอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่า
แชมป์ปิดคอมพิวเตอร์ลง ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว“รุ่นลิมิเต็ดเฉพาะช่วงปีใหม่ของราชวงศ์อังกฤษ ไม่ใช่แค่ต้องออกแบบเสื้อผ้าเท่านั้น ยังต้องออกแบบเครื่องประดับอัญมณีทั้งเซ็ตอีกด้วย แถมมีเวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น หม่ามี๊จะทำได้ไหม?”
“หม่ามี๊เต็มใจทำไหม?”ขวัญข้าวพูดถามขึ้น
“……”แชมป์นิ่งเงียบ
ภีมพลไม่ได้รีบกลับมา แล้วเขาก็ไม่ได้ไปบริษัทเหมือนกัน แต่ให้คนขับรถมาจอดรถอยู่ริมทะเลสาบแทน เขาลงจากรถมายืนอยู่ริมทะเลสาบ รับลมทะเลสาบ
ช่วงเวลาบ่ายสาม
ลัมโบร์กินี่ขับเข้ามาในลานบ้านเอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่า คนขับรถเปิดประตูรถให้กับภีมพล
หลังจากที่เขาลงจากรถก็เข้าไปในห้องโถงอย่างสงบเยือกเย็น พ่อบ้านปวิธรู้สึกได้ถึงความกดดันอันแรงกล้า“สวัสดีครับคุณภีม”
“แชมป์ล่ะ?”
“คุณชายแชมป์อยู่ชั้นบนครับ”
ภีมพลก้าวเท้าเดินขึ้นไปชั้นบน เขามาถึงประตูของห้องสนุกเกอร์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ป้าโสนพาแชมป์กับขวัญข้าวมาเล่นสนุกเกอร์ เหล่าเด็กน้อยเล่นอย่างสนุกสุดเหวี่ยงมาก ตอนที่เห็นภีมพล ป้าโสนก็รีบกล่าวทักทายทันที“คุณภีมกลับมาแล้วเหรอคะ?”
แชมป์กับขวัญข้าวหันมองไป“ป่าปี๊!รีบมาเล่นสนุกเกอร์ด้วยกันสิ!”
“แชมป์มานี่หน่อย”ภีมพลสายตามองจับจ้องที่เขา ไร้ซึ่งความอบอุ่นเหมือนแต่ก่อน
ขวัญข้าวหันมองไปหาพี่ชายด้วยความเป็นห่วง แชมป์เดินตรงไปที่ประตูอย่างยิ้มแย้ม“ป่าปี๊”
ภีมพลหันตัวก้าวเดินตรงไปยังห้องหนังสือ
แชมป์ตามอยู่ข้างหลังของเขา…….ภายในใจเริ่มตื่นตระหนกกระวนกระวาย
ขวัญข้าวไล่ตามไปตรงประตู รีบโทรศัพท์ไปหานภาลัยอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดขึ้นเบาๆ“หม่ามี๊ อยู่ที่ไหน?”
ไม่นาน นภาลัยที่กำลังเพลิดเพลินเชยชมอยู่กับวิวทิวทัศน์กลางลานบ้านบนชั้นบนสุดก็ลงมาเรียบร้อยแล้ว เธอพาขวัญข้าวมาแนบหูฟังเสียงอยู่ข้างนอกห้องหนังสือ……
“แชมป์!ลูกทำอะไรลูกเองก็รู้ดีอยู่แกใจใช่ไหม?”ภีมพลพูดถามขึ้นมาอย่างเย็นชา
แชมป์พูดตอบกลับด้วยท่าทางน่าสงสาร“ป่าปี๊ อย่าโกรธไปเลยนะฮะ”
“แล้วลูกทำอะไรที่ทำให้พ่อโกรธล่ะ?”
“ป่าปี๊……”
“นึกว่าพ่อตามใจลูก ยอมลูก แล้วลูกจะทำอะไรล้ำเส้นแบบนี้ได้เหรอ?”โทนเสียงของเขาเบาสบาย แรงกดขี่ข่มเหงน่าเกรงขามของเขาทำให้ไม่อาจเพิกเฉยได้
นภาลัยที่อยู่ข้างนอกพอได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ เป็นเพราะว่าพวกลูกๆเป็นคนกลางเชื่อมระหว่างเขากับเธอ เขาก็เลยโมโหใส่ลูกเนี่ยนะ?
นภาลัยผลักประตูออก“คุณจะตะคอกใส่ลูกทำไม?!”