เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 65 พ่อบ้านปวิธรู้สึกเศร้าเสียใจ
นภาลัยรู้สึกว่าเขาขยะแขยงมาก บ้าอำนาจเอาแต่ใจจนทำให้เธอหงุดหงิด!
เห็นๆอยู่ว่าทิ้งเธอเอาไว้แท้ๆ แล้วก็วิ่งแจ้นมารับเธออีก เขา……ชอบเธอเข้าแล้วใช่ไหม?
ไม่ๆๆๆ เป็นไปไม่ได้!
นภาลัยคิดในใจ เขาก็แค่อยากจะให้เธอรักษาแผลไฟไหม้ให้กับแม่ของเขาก็เท่านั้น
ตลอดทั้งทางทั้งสองคนไม่มีปฏิสัมพันธ์กันเลย แล้วก็ไม่รู้ความคิดของอีกฝ่ายเช่นกัน
นภาลัยเปิดเพลงขึ้นมาตามอำเภอใจตัวเอง……
“เธอคือเจ้าหญิงจากในเทพนิยายเรื่องนั้น ยืนอยู่ท่ามกลางแสงสว่างไสว ฉันสวมใส่หน้ากากที่แสนหรูหรา หมุนตัวหลบเข้าไปในชุดสีดำ ขอเชิญมาเต้นรำร่วมกันกับฉัน ก่อนที่เทพนิยายเรื่องนี้จะจบลง……”
เขาไม่ชอบฟังเพลง แต่ก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้เธอฟังเช่นกัน
คนที่กล้ามาทำตัววุ่นวายในรถของเขา เธอก็คือคนแรก
ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไร ที่ความรู้สึกที่มีต่อผู้หญิงของเขาเริ่มไม่เหมือนเดิม
ลัมโบร์กินี่เข้ามาจอดในลานบ้านของเอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่า นภาลัยหันไปมองเขา ดูเหมือนว่าเขาไม่มีทีท่าว่าจะปลดเข็มขัดนิรภัยออก
นภาลัยลงจากรถมาอย่างรู้งาน ปิดประตูของรถไปดีงปึง!ก้าวเท้าเดินตรงไปยังห้องรับแขก
ภีมพลเหลือบมองเธอ สายตานิ่งลึก
สตาร์ทรถอีกครั้ง สีหน้าท่าทางเยือกเย็นโหดร้าย เขาจะต้องตรวจสอบความสัมพันธ์ของเธอกับตระกูลรุจิพรต่อไป นี่เป็นเรื่องที่เขาเป็นกังวลใจมากที่สุดในตอนนี้
ต้องรู้ไส้รู้พุงคนที่อยู่รอบตัว
หลังจากที่นภาลัยเข้าไปในห้องรับแขกแล้วก็ขึ้นไปชั้นบน เธอกลับไปที่ห้องหยิบโทรศัพท์นั่งลงบนโซฟา เปิดไฟล์ออกทำการร่างข้อตกลง
เหอะ อยากจะให้ช่วยรักษาแม่ของเขา เขาก็ต้องตกลงยอมรับเงื่อนไขของเธอเสียก่อน!
ข้อแรก:ต่อไปห้ามไม่ให้เขาส่งคนสะกดรอยตามเธออีก!
ข้อสอง:ต่อหน้าของลูกจะต้องสวมบทบาทพ่อเป็นอย่างดี โดยเฉพาะต่อหน้าของขวัญข้าว เด็กผู้หญิงคนนี้หลังจากที่เติบโตแล้วจะได้ไม่เจอกับผู้ชายเลวๆ
ข้อสาม:แยกห้องนั้นกันตั้งแต่วันนี้ จัดเตรียมเตียงใหม่ห้องใหม่ให้เรียบร้อย ให้ฉันได้มีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง
……
หลังจากที่เขียนเสร็จแล้ว นภาลัยก็ตรวจสอบหนึ่งรอบ จากนั้นก็ลงไปชั้นล่าง
“พ่อบ้านปวิธ ในบ้านมีเครื่องปริ้นเตอร์ไหม?”
พ่อบ้านปวิธที่กำลังเก็บกวาดโต๊ะกาแฟอยู่ในห้องรับแขกพอได้ยินแบบนั้นก็หันมองมา“คุณนายต้องการปริ้นเหรอครับ? ผมช่วยได้นะครับ”
นภาลัยมุมปากยกขึ้น“ถ้าอย่างนั้นเพิ่มไลน์สิ เดี๋ยวฉันจะส่งไฟล์ไปให้”
พ่อบ้านปวิธหยิบโทรศัพท์ออกมา ทั้งสองคนสแกนเพิ่มเพื่อนในไลน์กัน
นภาลัยส่งไฟล์เสร็จก็พูดเตือนไปอย่างยิ้มแย้มเล็กน้อย“สองฉบับนะ ขอบคุณค่ะ”จากนั้นก็นั่งลงบนโซฟา หยิบรีโมทออกมาเปิดโทรทัศน์ ช่องรายการเศรษฐกิจการเงินปรากฏภีมพลขึ้นมา
เขาในโทรทัศน์ไม่หล่อเหมือนตัวจริง พวกนักข่าวเหล่านั้นต่างพากันท่าทางเหมือนกับบ้าผู้ชาย
พ่อบ้านปวิธมาถึงยังห้องปริ้น ตอนที่เขาปริ้นออกมาเห็นเนื้อหาในข้อตกลงนั้น ใจก็สั่นกระตุกอย่างแรง!
มือที่จับข้อตกลงเอาไว้ก็แข็งทื่อ!
ข้อตกลงกับคุณภีมอย่างนั้นเหรอ??
ทำไมเธอถึงต้องเซ็นข้อตกลงกับคุณภีมด้วย??
ทะเลาะกัน??
เธอร้องขออะไรจากคุณภีมกันนะ?
ความต้องการแต่ละข้อมันไม่ใช่ง่ายๆเลย แถมท่าทีแข็งกระด้างขนาดนี้ น้ำเสียงไม่เหมือนกำลังปรึกษาพูดคุยกันเลยด้วย
สิ่งที่ทำให้พ่อบ้านปวิธรับไม่ได้ที่สุดก็คือ……คุณนายจะแยกห้องนอนกับคุณภีม
เดิมทีทั้งสองคนกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาความสัมพันธ์กัน แยกห้องนอนแบบนี้มันได้ที่ไหนกันล่ะ?
“คุณนาย……”พ่อบ้านปวิธถือข้อตกลงตรงไปอยู่ด้านหน้าของเธออย่างรีบร้อนลนลาน“ท่าน……ท่านกับคุณภีมเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”
“ไม่มีอะไร”นภาลัยเงยขึ้นมองเขา มุมปากยกขึ้น“ขอบคุณค่ะ”รับมาจากมือของเขา“ไปทำงานของตัวเองได้แล้วล่ะ”
“……”พ่อบ้านสีหน้าเศร้าเสียใจ ลังเลอยู่นานสองนานสุดท้ายก็เปิดปากพูดขึ้น“คุณนายครับ คุณภีมไม่เก่งเรื่องปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิง ถ้ามีตรงไหนที่เขาทำให้คุณนายรู้สึกโมโห ท่านให้อภัยเขาได้ไหมครับ?”
นภาลัยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอส่ายหน้า“เปล่าๆ คุณพ่อบ้านเข้าใจผิดแล้ว เขาไม่ได้มายุแหย่ให้ฉันโมโห ฉันก็แค่คว้าโอกาสที่จะได้เจรจาแลกเปลี่ยนข้อตกลงกับเขาเท่านั้น ก่อนหน้านี้เขาบังคับให้ฉันเซ็นสัญญาที่ไม่ค่อยยุติธรรมน่ะ”
พ่อบ้านปวิธเห็นเธอพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้ม ท่าทางดูไม่โศกเศร้าเลยแม้แต่นิดเดียว ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
แต่พ่อบ้านปวิธรู้สึกเป็นห่วงอนาคตของพวกเขาทั้งสองคนจริงๆ
ณ ทีเอ็ม กรุ๊ป อาคารที่สูงตระหง่านส่องแสงเจิดจรัสท่ามกลางแสงยามเช้า
ภีมพลเดินเข้าไปในตัวอาคาร เขารูปร่างสูงใหญ่ รังสีออร่าเยือกเย็น สองมือล้วงกระเป๋าก้าวเดินขึ้นไปบนลิฟต์
“สวัสดีครับคุณภีม”
“สวัสดีค่ะคุณภีม”
คำกล่าวทักทายที่แตกต่างกันมากมายดังขึ้นมา น้ำเสียงเคารพนอบน้อมเหมือนกัน เหล่าบรรดาพนักงานอดไม่ได้ที่จะมองดูเขาอยู่สักพัก หัวใจเอาแต่เต้นตึกตักอย่างอดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่
ชั้น22 ตอนที่ภีมพลเดินออกจากลิฟต์ก็เจอกับญาณีที่เดินตรงมาพอดี