เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 116 เจอกันอีกครั้ง
นภาลัยมองเขา “แม่คุณ! ทำไมต้องให้ฉันรับ?”
เสียงโทรศัพท์ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง
ภีมพลถาม “คุณดุแลคนป่วยแบบนี้หรอ?” เขายกมือที่มีสายน้ำเกลือขึ้น “ผมไม่สะดวก คุณดูไม่ออกหรือไง?”
เธอขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับเขาจึงกดรับโทรศัพท์ จากนั้นก็ถือไว้หน้าเขาและเปิดลำโพง
“ภีม วันเสาร์ให้แชมป์กับขวัญข้าวมาที่รีพัลส์เบย์ วิลล่านะ” คะนึงนิตย์เข้าประเด็น “เด็กสองคนนี้น่ารักน่าเอ็นดูมากๆ ฉันคิดถึงพวกเขาแล้ว”
นภาลัยอึ้ง!
ภีมพลเงยหน้าขึ้นมาสบตากับนภาลัย
และเขาก็เงียบไปสักพักหนึ่ง คะนึงนิตย์นึกว่าเขากำลังลังเล
“ทำไม? เธอกลัวฉันกินพวกเขาหรือไง?” เธอไม่พอใจ
นภาลัยรีบหลบสายตาเขาและปล่อยให้เขาตัดสินใจด้วยตัวเอง
ภีมพลคิดแล้วคิดอีกจากนั้นก็พูดนิ่งๆ “แม่คิดมากไปแล้ว ทำไมผมถึงต้องห่วงเรื่องนี้? ถ้าแม่ไม่ได้รำคาญเด็กๆ ให้พวกเขาไปอยู่เป็นเพื่อนก็สมควรแล้ว”
“งั้นตกลงตามนี้ วันเสาร์ฉันจะรอพวกเขามากินข้าวกลางวันด้วยกัน” คะนึงนิตย์กล่าว “ไม่ต้องพานภาลัยมานะ ฉันไม่ชอบเธอ!”
พูดจบคะนึงนิตย์ก็วางสายไป
นภาลัยทำตัวไม่ถูก สีหน้าเธอดูอึดอัดมาก
ไม่ชอบฉัน? เหอะๆ!
ทำเหมือนว่าฉันชอบคุณงั้นแหละ!
ภีมพลซาบซึ้งที่เธอไม่แสดงอาการโกรธแม่ของเขาออกมาและถามว่า “ที่คุณตกลงว่าจะช่วยรักษาแม่ของผม เมื่อไหร่จะเริ่มล่ะ?”
“ฉันอ่านเวชระเบียนมาหลายรอบแล้ว” เธอตอบอย่างจริงจัง “ฉันยังคงยืนยันคำเดิมนะ ฉันว่าอาการป่วยทางใจหนักกว่าอาการป่วยทางร่างกาย และตอนนี้ ฉันก็กำลังวางแผนการรักษาอยู่ ฉันบอกคุณโดยไม่ปิดบังเลยว่า ฉันกำลังค้นหาสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ในอินเตอร์เน็ต แต่มันกลับถูกลบออกไปหมดไม่เหลืออะไรเลย ฉันว่า สาเหตุของมันคงไม่ธรรมดาใช่ไหม?”
“คืนนี้ ผมจะบอกสาเหตุที่แท้จริงกับคุณ” ภีมพลเสียงลึกดั่งเหล้า
นภาลัยแปลกใจ สายตาของเขาดูไม่น่าเชื่อถือ
แต่ท่าทางของเขาดูเหมือนจะไม่ได้ล้อเล่น บางทีเขาอาจจะคิดพิจารณามาดีแล้วก็ได้มั้ง?
“แปลกใจหรอ?” เขาถาม “งั้นก็ปรนนิบัติผมให้ดีสิ อย่างแรกเลยนะ เทน้ำให้ผมแก้วหนึ่งก่อน!”
นี่มันตรรกะอะไรกันเนี่ย?
5 วินาทีต่อมานภาลัยถึงจะเพิ่งหมุนตัวไป
“คุณเทน้ำมาร้อนเกินไป ผมต้องการ 40 องศา” เขาจงใจแกล้งให้เธอลำบาก
“จะกินไม่กิน?” นภาลัยไม่ยอมทน “อันนี้ 50 องศา!”
ที่หน้าประตู วริศอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา จากนั้นจึงเคาะประตูและเดินเข้าไปข้างใน
“ในที่สุดคุณก็มาสักที งั้นฉันไปก่อนนะ” นภาลัยหันหลังเดินจากไป
ภีมพลถือแก้วน้ำ เขารั้งเธอไว้ไม่ทัน เธอคงจะไม่ได้ไปหาไวศิษฎ์อีกใช่ไหมนะ?
แน่นอนว่านภาลัยไม่ได้ไป เธอกลับไปที่เอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่า
เธอขึ้นลิฟต์เพื่อลงไปชั้นล่างและเดินออกจากล็อบบี้โรงพยาบาล ในใจก็รู้สึกว่าภีมพลทำตัวเป็นเด็กจริงๆ
ขณะที่กำลังลงบันได ด้านข้างเธอก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเหยียบอากาศโดยไม่ทันระวังและทิ้งตัวล้มลงมาทางเธอ
“ระวัง!”
นภาลัยพยุงเขาไว้โดยสัญชาตญาณ ร่างกายเล็กๆ ของเธอเกือบจะโดนทับแบน
มนุษินทร์ยืนขึ้น สายตาแสดงออกถึงความเสียใจและยิ้มอย่างอ่อนโยน “ขอบคุณครับ สาวน้อย”
สายตาของทั้งคู่ประสานกัน นภาลัยรู้สึกประหลาดใจพร้อมทั้งมีความรู้สึกแปลกๆ เกิดขึ้นในใจของเธอ
ในตอนนั้นเอง เขมินทราที่เพิ่งลงมาจากรถก็เหยียบรองเท้าส้นสูงเดินมาอย่างรวดเร็วและพยุงมนุษินทร์ไว้อีกด้านหนึ่ง “ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะคุณพ่อ?” เธอเห็นฉากนี้จากในรถ
“โชคดีที่เมื่อกี้ได้สาวน้อยคนนี้ช่วยไว้ ไม่งั้นวันนี้จะต้องเท้าแพลงแน่ๆ” มนุษินทร์มองนภาลัยอีกครั้ง “ขอบคุณหนูนะจ๊ะ”
นภาลัยค่อยๆ ปล่อยมือ “ไม่เป็นไรค่ะ” เธอพยายามควบคุมความรู้สึกในใจ
เขมินทรามองมาที่นภาลัยและขมวดคิ้วเล็กน้อย เธออีกแล้วหรอ?
คุณนายนภาที่เมื่อวานก็เป็นข่าว……
“คุณพ่อคะ พวกเราไปกันเถอะค่ะ” เขมินทรารีบดึงสติกลับมาและพยุงพ่อจากไป จากนั้นจึงหันกลับมามองนภาลัยแวบหนึ่ง
นภาลัยยังคงยืนอยู่ตรงนั้น
ทำไมถึงรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาคุณนายนภาคนนี้ราวกับว่าเคยเจอกันที่ไหนมาก่อน ทุกครั้งที่เจอเธอก็มักจะมีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีเลย