เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 130 ทุกคนล้วนเกลี้ยกล่อม
“คุณนายนิตย์” กรินทร์มาพร้อมกับภารกิจ เขามีแบบแผนในการโน้มน้าวที่ดูเป็นธรรมชาติอยู่หลายวิธี “ท่านอย่าคิดว่ารมิตายังสาวก็เลยปฏิเสธเธอนะ ผมบอกคุณอย่างไม่ปิดบังเลย เธอเป็นอาจารย์ของผมเอง”
ใบหน้าของคะนึงนิตย์ภายใต้หน้ากากปรากฏความประหลาดใจขึ้น เธอมองเขาด้วยสมาธิตั้งมั่นและทั้งคู่ก็สบตากัน
“ผมพูดเรื่องจริงนะ” กรินทร์เน้นย้ำอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นจึงพูดอย่างสัตย์จริง “ยาที่เธอค้นคว้าพัฒนาได้ผลดีมากๆ ท่านให้เธอลองมารักษาดูหน่อยดีไหมครับ มันไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตในปกติของท่านแน่ๆ เธอเก่งมากๆ เลยนะครับในด้านแพทย์แผนจีน จะต้องรักษาท่านโดยที่ไม่เจ็บปวดอะไรเลยแน่ๆ”
จริงๆ แล้ว ผ้าไหมอยากให้คุณนายรับการรักษามาก ถึงแม้ว่าจะมีความหวังเพียงแค่น้อยนิดก็ตาม
หลังจากที่ฟังคุณหมอกรินทร์พูดมานาน เธอก็เริ่มหวั่นไหว
ดังนั้น ผ้าไหมเลยช่วยเกลี้ยกล่อม “คุณนาย เราลองดูกันสักตั้งเถอะนะคะ?”
สายตาของคะนึงนิตย์เหลือบมองที่ร่างกายของตัวเอง นึกไม่ถึงว่าเธอเองก็ยังแอบมีความหวัง
ผ้าไหมจับแขนของเธอด้วยความสนิทสนม “ยังไงพวกเราก็ไม่ขาดทุน แล้วบางทีก็อาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นจริงก็ได้นะคะ?”
“……” ในใจคะนึงนิตย์เกิดความซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย
“หนูว่าคนที่คุณหมอกรินทร์แนะนำมาจะต้องน่าเชื่อถือมากแน่ๆ ถึงแม้ว่าจะรู้บาดแผลที่แท้จริงว่าเป็นยังไงก็จะต้องไม่เปิดเผยออกไปแน่ๆ แต่ถ้าท่านยังกังวล พวกเราก็ให้เธอเซ็นสัญญารักษาความลับก็ได้นะคะ”
ผ้าไหมคิดพิจารณาอย่างรอบคอบ
คะนึงนิตย์ยังไม่รีบปฏิเสธ เธอกำลังคิดพิจารณาหาคำตอบ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้กรินทร์มองเห็นความหวัง
“คุณนาย ชั้นบนมีห้องว่างเต็มไปหมด ท่านจัดให้เราสักสองห้องเถอะครับ” กรินทร์รีบฉวยโอกาสตีเหล็กตอนกำลังร้อน “ผมกับรมิตาจะช่วยกันรักษาท่านจนกว่าจะหายดี แล้วพวกเราก็จะเอาอุปกรณ์ย้ายมาศึกษาค้นคว้ายาที่ชั้นบนเลย ท่านคิดว่ายังไงบ้างครับ?”
“นี่คือความคิดของภีมพลหรือเปล่า?” คะนึงนิตย์ถามเขา “ภีมพลไปหาพวกคุณ?”
กรินทร์ไม่กล้าบอกว่าไม่ใช่ ยังไงพวกเขาก็ไม่ได้ทำไปโดยไม่มีเหตุผลและไม่อยากจะถูกปฏิเสธ
เขาคิดแล้วคิดอีกและคิดว่าเรื่องนี้พูดได้ “คุณภีมหวังว่าคุณจะแข็งแรงและมีความสุข”
“งั้นคุณก็กลับไปบอกเขาว่าฉันไม่สนว่าตัวเองจะแข็งแรงไหม แค่มีชีวิตอยู่ก็พอแล้ว” คะนึงนิตย์เปลี่ยนสายตา จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ส่วนเรื่องความสุขของฉันก็ง่ายมากๆ แค่เขาหย่าและไปแต่งงานกับญาณี แค่นั้นก็ทำให้ฉันมีความสุขแล้ว”
“……” กรินทร์ได้ฟังแล้วทำตัวไม่ถูก
พระเจ้าเหมือนไม่ได้ฟังว่าเราคุยอะไรกัน
ขณะนั้น ผ้าไหมก็รีบพูด “คุณนายคะ ให้คุณภีมจัดการเรื่องของความรู้สึกเองเถอะค่ะ เรื่องของคุณภีม มีแต่ตัวคุณภีมเองเท่านั้น ที่จะรู้ดี”
เธอรีบพูดต่อโดยไม่รอให้คะนึงนิตย์ทันได้โมโห “แต่ว่าตอนนี้ พวกเรายอมรับการรักษาจากคุณหมอกรินทร์กับคุณหมอรมิตาเถอะค่ะ แค่ไม่ยอมแพ้ก็เท่ากับมีความหวังนะคะ”
“ฉันเหนื่อยแล้วค่ะ ส่งแขก” คะนึงนิตย์หมดความอดทน “กรินทร์ คุณช่วยไปบอกภีมพลให้ฉันทีว่าชีวิตนี้ เขาต้องขอญาณีแต่งงาน ถ้าเขาทำไม่ได้ในตอนที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ นี่ก็จะกลายเป็นความปรารถนาสุดท้ายของคนตาย!และมันก็จะวนเวียนหลอกหลอนเขาไปชั่วชีวิต !”
สุดขีด!
นี่มันสุดขีดเลยจริงๆ!
พูดจบ เธอก็เดินไปทางบันได ผ้าไหมจึงรีบตามไป “คุณนาย……”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันอยากอยู่เงียบๆ”
“……”
แชมป์กับขวัญข้าวที่หลบอยู่ด้านหลังประตูไม่ไกลนักตกใจ แม้แต่คุณย่าก็อยากให้พ่อกับแม่หย่ากัน!!
ลูกโตขนาดนี้แล้วยังไม่คิดจะให้เด็กๆ ได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์หรอ?
พวกเขามองดูเงาของคุณย่าและพี่ผ้าไหมหายไปจากมุมบันได และเสียงฝีเท้าก็หายไปแล้ว
แชมป์จูงมือขวัญข้าวและค่อยๆ ย่องไปที่หน้าประตูห้องรับแขก
กรินทร์เห็นพวกเขาที่นี่ก็ประหลาดใจมาก “แชมป์ ขวัญข้าว?” และรีบทำมือเป็นท่าห้ามส่งเสียง!
เขานั่งยองๆ ลงด้านหน้าเด็กๆ และกระซิบอะไรบางอย่างกับพวกเขา เด็กๆ ทั้งสองคนตั้งใจฟังมากและพยักหน้าเป็นครั้งคราว
จากนั้น ขวัญข้าวก็ถามขึ้น “แล้วแม่จะมาเมื่อไหร่คะ?”