เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 150 รู้สึกถึงอันตราย
สุขภาพดีขึ้นและความสัมพันธ์ของเธอกับลูกชายก็ดีขึ้นด้วย
เมื่อเธออาบน้ำเสร็จ สวมชุดนอนเนื้อนุ่มนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งพลางจ้องมองตัวเอง
เธอไม่ได้สวมถุงมือหรือหน้ากาก
เห็นรอยย่นครึ่งใบหน้าและความน่าเกลียดที่คอของเธอ หัวใจของเธอก็นิ่งสงบเหมือนน้ำ
ผิวมือขวาของเธอดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆทำให้เธอรู้สึกตะลึง
ในขณะนั้นเอง คะนึงนิตย์มองเห็นความหวังที่ลุกโชนอยู่ข้างหน้า
“หมอรมิตาเก่งจริงๆ เลยนะคะ” ผ้าไหมที่กำลังยืนหวีผมให้อยู่ข้างหลังอดไม่ได้ที่จะชมเชย “เธอเพิ่งมาที่นี่ได้ไม่กี่วัน ก็ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนขนาดนี้แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอจะสามารถช่วยให้คุณฟื้นตัวได้อย่างแน่นอนค่ะ”
“นั่นสิ” คะนึงนิตย์ยอมรับเธอจากก้นบึ้งของหัวใจ มีรอยยิ้มที่จริงใจฉายขึ้นบนใบหน้าของเธอ
ห้องนอนของรมิตา
เพื่อความปลอดภัย ภีมพลกล่าวกับเด็ก ๆ ว่า “แชมป์ ขวัญข้าว คืนนี้ลูกกลับไปที่ห้องของตัวเองก่อน อย่าอยู่ที่นี่นาน”
จากนั้นเด็กๆ ก็โบกมือลาแม่อย่างไม่เต็มใจ “ราตรีสวัสดิ์ แม่ที่น่ารักที่สุดของหนู”
ภีมพลจับมือเด็ก ๆ แล้วพาพวกเขาไป
หลังจากที่ประตูปิดลง นภาลัยก็ยืดเส้นยืดสาย หลังจากยืนอยู่ในห้องวิจัยยาเป็นเวลาหนึ่งวันเต็มๆ มันเหนื่อยมาก!
เมื่อเตรียมเสื้อผ้าเสร็จพร้อมที่จะอาบน้ำ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
เธอชะงักไปครู่หนึ่ง ใครกัน?
เธอสวมหน้ากากและเปิดประตู เจอเข้ากับภีมพลปรากฏตัวที่ประตู เขาก้าวไปด้านในโดยไม่รอให้เธอถามอะไร นภาลัยจึงถอยกลับไปสองก้าว
เธอไม่ได้เชิญเขาเข้ามาสักหน่อย
ภีมพลพิงประตู ปิดเบาๆ และล็อกกลอน
“นี่คุณ” เธอถอดหน้ากากแล้วถามอย่างไม่เชื่อ “คืนนี้คุณคงจะไม่นอนที่นี่หรอกใช่ไหม? มันอันตรายนะ”
ภีมพลจ้องไปที่เธออย่างลึกซึ้งและก้าวเข้าไปหาเธอ
หน้าอกของนภาลัยสั่นกระเพื่อมเล็กน้อย เขาก้าวเข้าไปทีละก้าว ทำให้เธอถอยหลังตาม “คุณ…คุณจะทำอะไรน่ะ?”
จนกระทั่งเธอถอยกลับชนกำแพง ไม่มีทางที่จะถอยได้อีกแล้ว
ภีมพลใช้แขนรอบเอวของเธอ หันกลับมาแล้วผลักเธอลงบนเตียงที่ใหญ่และนุ่ม
“นี่!” เธอลดเสียงลงและเบิกตากว้าง “คุณ…”
แต่เขาจุมพิตริมฝีปากเธออีกครั้ง… เขาคิดถึงเธอมากขึ้น… เป็นความคิดที่เขาไม่อาจยับยั้งได้เลย
ในคืนเดียวกัน…
ยิ่งญาณีคิดเกี่ยวกับมันมากเท่าไร เธอก็ยิ่งหดหู่มากขึ้นเท่านั้น รถของเธอขับออกจากบริษัทและไม่กลับบ้าน แต่ขับตรงไปยังเอเมอรัลด์ เบย์แทน
ใช้เวลาสิบนาทีกว่าจะมาถึง แต่รถไม่สามารถเข้าไปได้
แทนที่จะบ่นกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เธอกลับเปิดไฟคู่และลงจากรถด้วยตัวเอง
ผ่านไปครู่หนึ่ง คนใช้ก็เห็นแสงไฟจึงเดินมา
ญาณีมองไม่ชัดเจนจึงปิดไฟหน้าทันที
“คุณญาณีเหรอคะ?” สาวใช้หยุดที่ประตู รู้สึกงงงวยกับการมาถึงของเธอ “คุณมาหาใครเหรอคะ?”
ญาณีถามกลับ “ฉันมานภาลัย เธออยู่หรือเปล่า?”
“คุณนายนภาไม่อยู่ค่ะ” สาวใช้ตอบ
“เธอไปไหน?” ญาณีถามโดยสัญชาตญาณและจ้องไปที่อีกฝ่าย
สาวใช้ส่ายหัว “ไม่ทราบค่ะ”
ญาณียิ้มตอบ “แล้วจะกลับมาเมื่อไร?”
“ดิฉันไม่ทราบเหมือนกันค่ะ”
แม้ว่าจะได้รับคำตอบเดียวกัน แต่ญาณีมั่นใจว่าสาวใช้ไม่ได้โกหก
ระหว่างทางกลับเธอไม่สามารถทำความเข้าใจเรื่องนี้ได้เลย
นภาลัยกลับไปที่หมู่บ้านซันไลต์งั้นเหรอ?
เมื่อกลับถึงบ้าน ญาณีอาบน้ำและยืนอยู่ริมหน้าต่างสูงพร้อมกับไวน์แดงหนึ่งแก้ว
มองออกไปนอกหน้าต่างในยามค่ำคืนที่มืดมิด อารมณ์ของเธอค่อยๆ หนักขึ้นทีละน้อย และรู้สึกถึงวิกฤตที่ล้อมรอบเธอไว้แน่น
ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนไหนก็ตามที่อยู่รอบตัวสามารถแย่งภีมพลไปได้ทั้งสิ้น
ไม่ใช่แค่นภาลัยแต่ยังรวมถึงรมิตา หรือใครก็ตามในอนาคต…
หลังจากดื่มไวน์หนึ่งแก้ว ญาณีหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอขึ้นมาและกดหมายเลขต่างประเทศ เธอพูดดัดเสียงหวาน “สวัสดีค่ะ คุณเอ็ด”
“ญาณี?” อีกฝ่ายรู้สึกดีใจมาก
“ใช่ ฉันเองค่ะ”