เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 172 ถ้าคนจะนอกใจจะพาเด็กไปด้วยเหรอ?
ความจริงแล้ว คะนึงนิตย์ยืนอยู่ตรงหน้าต่างห้องนอนชั้นบน เฝ้ามองนภาลัยจากไป คะนึงนิตย์ไม่คิดจะขัดขวางเธอ เพราะเธอกลับมาอย่างแน่นอน
หลังจากออกไปจากรีพัลส์เบย์ วิลล่าแล้ว นภาลัยรู้สึกผ่อนคลายมากและอารมณ์ก็ดีขึ้นมาทันที
เธอนั่งแท็กซี่ไปที่หมู่บ้านซันไลต์ ไม่นานเธอก็มาถึงใจกลางเมือง
เธออยากซื้อชานมสักแก้ว แล้วหามุมเงียบ ๆ เพื่อคิดไตร่ตรอง
หลังจากเธอลงรถแล้ว เธอเห็นเบญญากำลังเดินออกมาจากห้างสรรพสินค้า เบญญามองเห็นเธอเช่นกัน
“นภา! กรี๊ด ๆ ๆ ๆ!!”
อีกฝ่ายกระโดดเข้าหาเธอราวกับพบสมบัติล้ำค่า!
นภาลัยตกใจจนถอยหลังไปสองก้าว เบญญารีบหยุดอย่างรวดเร็ว “เธออยู่ที่นี่ได้อย่างไร? พวกเราไม่ได้พบกันตั้ง!” แล้วสายตาของเธอหยุดอยู่ที่แก้มขวาของนภาลัย จากนั้นเบญญาหุบยิ้มทันที “หน้าเธอเป็นอะไร?” สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความเป็นห่วง
“อ้อ?” นภาลัยรู้สึกตกใจ มันชัดเจนขนาดนั้นเชียวเหรอ? แค่มองแวบเดียวก็สามารถมองออกเลยเหรอ?
“บอกมาสิ ภีมพลทำร้ายเธอหรือเปล่า?” เบญญารู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และกล่าวว่า “เขาทำร้ายเธอเหรอ? ทำไมเธอถึงได้เหนื่อยล้าขนาดนี้? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“ไม่ ๆ ไม่ใช่!” นภาลัยคว้าแขนของเธอเอาไว้ “เธอพูดเบา ๆ!” มีคนเดินสัญจรไปมา
ขณะนี้ เมื่อโฆษณาที่อยู่บนหน้าจอละเอียดขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านนอกของห้างสรรพสินค้าสิ้นสุดลง ภาพพิธีก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่ของคุณหนูอลิซ ซึ่งเป็นลูกสาวของเอ็ด นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ถูกเปิดเผยครั้งแรก!
เสียงหวานของผู้ประกาศข่าวสาวดังขึ้น สามารถดึงดูดความสนใจของคนที่อยู่รอบ ๆ ได้ แล้วทุกคนก็หยุดฝีเท้าและมองหน้าจอขนาดใหญ่
รวมถึงนภาลัยและเบญญาด้วย
เป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ปราสาทหลังใหญ่สวยงามราวกับเทพนิยาย ที่ถ่ายจากกลางอากาศ ทำให้คนรู้สึกตกตะลึง
หลังจากนั้น ผู้ประกาศข่าวสาวกล่าวว่า——
“ภีมพล ประธานทีเอ็ม กรุ๊ปได้พาญาณีมาร่วมงานพิธีก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่ด้วย และพวกเขากลายเป็นจุดเด่น นอกจากนี้เขายังพาลูกที่น่ารักมาด้วยอีกสองคน และนี่คือคู่ค้าที่มีมูลค่าทางธุรกิจสูงมาก คุณภีมเคยบอกว่าญาณีเป็นคนที่มีความสามารถทางด้านธุรกิจมาก และเป็นผู้ช่วยที่เขาขาดไม่ได้ เพียงแค่ช่างภาพถ่ายสุ่มก็สามารถถ่ายภาพที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นได้ แต่น่าเสียดายที่เธอไม่ใช่แม่ของลูก และภาพถ่ายต่อไปนั้นเป็นเหมือนรูปครอบครัวสี่คน ได้กลายเป็นประเด็นร้อนในสื่อต่างประเทศแล้ว”
จากนั้นหน้าจอก็เริ่มฉายภาพเรื่อย ๆ
นภาลัยมองภาพแต่ละภาพที่ฉายออกมา ดูเหมือนครอบครัวสี่คนเหรอ? เห็นได้ชัดว่าเป็นครอบครัวสี่คนที่เต็มไปด้วยความสุข สีหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แม้แต่เด็ก ๆ ก็มีความสุขมากเช่นกัน
“เขาหมายความว่ายังไง?!” เบญญารู้สึกหงุดหงิด ดวงตาที่สวยงามของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ “เขานอกใจใช่ไหม?” หลังจากนั้นเธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า “ผู้ชายสารเลว ฉันต้องถามเรื่องนี้ให้ชัดเจน!”
“เบญ!” นภาลัยจับข้อมือของเธออย่างสงบ “เธอเข้าใจผิดแล้ว พวกนักข่าวรายงานข่าวไปเรื่อยเท่านั้น เพื่อจะทำให้กลายเป็นข่าวดัง นักข่าวพวกนี้มักจะชอบยุให้รำ ตำให้รั่ว”
“มีรูปประกอบขนาดนี้ แล้วยังเป็นการยุให้รำ ตำให้รั่วอีกเหรอ?” เบญญาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ “ภาพที่ถ่ายได้ยังขนาดนี้ แล้วภาพที่ถ่ายไม่ได้จะขนาดไหนล่ะ? แล้วใครจะไปรู้ว่าตอนกลางคืน พวกเขานอนด้วยกันสี่คนหรือเปล่า!”
นภาลัยวิเคราะห์ให้เธอฟังว่า “ถ้าเขานอกใจจะพาเด็กไปด้วยเหรอ? เขาไปขอลาหยุดกับโรงเรียนอนุบาล เขาอยากจะพาเด็ก ๆ ไปด้วย ถ้าเขาชอบญาณีจริง ๆ ทำไมเขาอายุ 38 ปีแล้วก็ยังไม่แต่งงานกับเธออีก?”
“……” ก็มีเหตุผลอยู่
นภาลัยกล่าวเสริมอีกประโยคว่า “ถ้าพวกเขามีความคิดแบบนั้นจริง ๆ พวกเขาคงอยู่ด้วยกันนานแล้ว ไม่ถึงคิวฉันเหรอ?”
“……” ก็มีเหตุผลเช่นกัน
“แล้วหน้าเธอเป็นอะไร?” แค่มองแวบเดียวเบญญาก็สามารถมองออกทันที เธอรู้สึกปวดใจมาก “รอยฟกช้ำที่มุมปากของคุณด้วย ถึงแม้จะทาคอนซีลเลอร์ก็ไม่สามารถปกปิดได้หมด”
“ชัดเจนขนาดนั้นเชียวเหรอ?” นภาลัยรู้สึกกังวล เพราะวันพรุ่งนี้ภีมพลก็กลับมาแล้ว
“รีบบอกมาสิ!” เธอถามด้วยความร้อนใจ “รอยฟกช้ำเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างไร? เกี่ยวกับเขาหรือเปล่า? บอกมาสิว่าใครเป็นคนที่รังแกคุณ! ฉันจะไปจัดการเขา!”