เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 226 นภาตัวปลอม
ผู้ติดตามต่างพากันโศกเศร้า ทุกคนก้มหน้าลงและไม่กล้าพูดความจริง
สิ่งนี้ทำให้คะนึงนิตย์โกรธจัด “พูดมา!” เธออยากรู้ว่ามันเกี่ยวอะไรกับนภาลัย!
หลังจากนั้นประมาณห้าวินาที ชายในชุดดำก็ตอบอย่างเศร้าๆ ว่า…
“ครับคุณนาย คุณภีมตรวจเจอโรงแรมที่คุณนายนภาพักอยู่ครับ”
“ตอนที่เราไปถึง เธอได้เช็คเอาท์ไปออกไปแล้วหนึ่งนาทีก่อน คุณภีมจึงไล่ตามเธอไป”
“ในตอนนั้นคุณนายนภาเพิ่งจะข้ามถนนและกำลังจะขึ้นแท็กซี่ แต่ไฟแดงติด คุณภีมไม่ได้สังเกตหรือบางที… เขาอาจไม่ได้ใส่ใจมากนัก ”
“เขาพุ่งตรงเข้าไปจน… ถูกรถปิกอัพพุ่งชน”
“สุดท้าย… สุดท้ายก็ล้มลงที่ริมถนน ศีรษะกระทบกระเทือนอย่างแรง”
ทุกคนตะลึง หัวใจเริ่มบีบรัดแน่น
“นภาลัย…” คะนึงนิตย์กำหมัดแน่น น้ำเสียงของเธอแทบล่องลอยหายไปในอากาศ “มันเป็นเพราะนภาลัย…” แววตาของเธอเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เธออยู่ที่ไหน?”
“ไปแล้วครับ เธอไม่ทราบว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เธอออกไปพร้อมกับแท็กซี่คันนั้น”
“ชนรพ!” ดวงตาของคะนึงนิตย์ลุกโชนด้วยความโกรธ เธอกัดฟันและสั่ง “หาเธอให้เจอ! ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชาย ฉันจะให้มันตายเพื่อชดใช้!”
ชนรพเงียบไป
“รีบจัดการเดี๋ยวนี้!” คะนึงนิตย์ออกคำสั่งอย่างจริงจัง
ชนรพอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “คุณนาย ตอนนั้นคุณเป็นคนขอให้เธอไป แล้วตอนนี้คุณต้องการอยากให้เธออยู่หรือไปดีครับ?”
“นี่นาย…” เธออ้าปากค้าง
ในเวลานั้นเอง ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก หมอในชุดเปื้อนเลือดเดินก็ออกมา
“หมอ ลูกฉันเป็นไงยังไงบ้าง!”
เมื่อเห็นความหวัง ทุกคนก็รวมตัวกันและจ้องไปที่หมอเป็นตาเดียว
คะนึงนิตย์คว้าแขนเขา “หมอ ช่วยเขาด้วยนะคะ เขาต้องไม่ตาย! เขาจะตายไม่ได้เด็ดขาด! เขาเป็นประธานของ ทีเอ็ม กรุ๊ป บริษัทใหญ่กำลังรอเขาอยู่!” เธอตะโกนเป็นภาษาอังกฤษอย่างบ้าคลั่ง
“ผมทราบครับ ผมทราบดีว่าเขาเป็นใคร” หมอแนะนำ “ใจเย็นๆนะครับ เราจะทำให้ดีที่สุด”
“แล้วคุณหมอออกมาทำไมเหรอคะ? เขาเป็นยังไงบ้าง? อาการดีขึ้นแล้วใช่ไหม? พ้นขีดอันตรายแล้วใช่ไหมคะ?” คะนึงนิตย์อธิษฐานพลางมองไปข้างหน้า
“นภาคือใครครับ?” หมอมองคนเหล่านี้ข้างนอก
อากาศดูเหมือนจะหยุดนิ่งทันที
หมอกล่าวเสริมว่า “คุณภีมตะโกนชื่อนี้ตลอด การรับรู้ถึงการเอาตัวรอดของเขาเริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มความหวังในการช่วยชีวิตเขา เราต้องให้คนคนนี้เข้าไปหาเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้เขาครับ”
มีสัมผัสของความซับซ้อนในดวงตาที่น้ำตาไหลของคะนึงนิตย์
หมอเน้นย้ำ “คนชื่อนภาเป็นความเชื่อเดียวที่จะทำให้เขามีชีวิตรอดครับ”
ญาณีทำให้จิตใจของเธอมั่นคง และในความเงียบนั้น เธอยกมือขึ้นเพื่อแสดงตัว “ฉันเองค่ะ ฉันคือนภา” เธอตอบเป็นภาษาอังกฤษ
ทุกคนมองเธอโดยพร้อมเพรียงกัน เธอต้านทานอาการปวดท้อง ก้าวไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว และพูดกับหมออย่างเศร้าใจว่า “ฉันคือนภา ฉันยินดีที่จะเข้าไปหาเขาข้างในค่ะ”
“งั้นก็มากับผมเถอะ เร็วเข้า!” หมอหันหลังเดินออกไป
ญาณีเดินตามไปติดๆ
ไม่มีใครหยุดเธอ รวมทั้งคะนึงนิตย์ด้วยเช่นกัน
ตอนนี้จะหานภาได้จากที่ไหน?
ถ้ามีคนเข้าไปให้กำลังใจและจับมือ บางทีเขาอาจบาดเจ็บสาหัสจนจำเสียงของนภาลัยไม่ได้
“คุณนายคะ…”
ผ้าไหมพยุงเธออย่างสุดกำลัง พบว่าเธอไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง เธอเศร้าใจ “คุณต้องดูแลร่างกายให้ดีนะคะ ไม่งั้นคุณภีมจะเป็นห่วงได้”
ชนรพเองก็ช่วยพยุงเธอเอาไว้ และไม่ยอมโทรไปหานภาลัย
ในขณะนั้นเอง กรินทร์เดินออกจากลิฟต์
เขารีบมาทางด้านนี้พร้อมกับชุดเครื่องมือแพทย์ในมือ
เขาสแกนลายนิ้วมือและกรอกรหัสผ่านที่ประตูห้องฉุกเฉินโดยไม่ทักทายใคร หลังจากเปิดประตู เขาก็เข้าไปอย่างรวดเร็วราวกับแสงแห่งความหวังในความมืด
ลูกน้องของภีมพลเป็นคนโทรหาเขานั่นเอง
“นั่นหมอกรินทร์หรือเปล่า?”
“ใช่ครับ”
หลังจากได้ยิน คะนึงนิตย์ก็มีความหวังริบหรี่อยู่ในใจ
ในห้องฉุกเฉิน ญาณีเดินตามหมอผ่านประตูสามบาน สวมเสื้อผ้าปลอดเชื้อ และมาถึงห้องผ่าตัดที่อยู่ด้านในสุด
โคมไฟไร้เงาส่องสว่างบนโต๊ะปฏิบัติการ
หมอเจ็ดหรือแปดกำลังคนล้อมรอบโต๊ะผ่าตัด ทุกคนสวมถุงมือและถือมีดผ่าตัด… ญาณีรู้สึกหวาดกลัว
“นภามาแล้ว” หมอพูด