เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 489 เบญนอนอยู่บนเตียงเขา
น้ำเสียงของญาณีไม่ได้ดังมากนัก เย็นชาและแฝงไว้ด้วยความตำหนิ “ถ้าปล่อยคนเข้ามาทุกคน งั้นจะตั้งประตูนิรภัยทำไมกัน?”
“คุณญาณี คุณสูญเสียข้าวของอะไรไปบ้างครับ?” นิติบุคคลตกตะลึง
“พวกคุณไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดเอาเถอะ ทางที่ดีก็เอาพวกเขาไปไว้ในบัญชีดำด้วย ถ้าในชุมชนมีของหายอีกละก็ นิติบุคคลอย่างพวกคุณรับผิดชอบไม่ไหวแน่ อย่าหวังว่าจะได้เงินอีกแม้แต่บาทเดียวเลย!”
พูดจบ เธอก็วางสายไปอย่างโกรธเคือง นี่เป็นเพียงแค่การระบายอารมณ์อย่างหนึ่งเท่านั้น
นุชวราจ้องมองเธอด้วยใบหน้าขาวซีด “……”
“คืนนี้เธอนอนบ้านฉันเถอะ” ญาณีเงยหน้าไป น้ำเสียงอ่อนโยนลงเล็กน้อย “ไม่ต้องกลับไปแล้ว” รู้สึกว่าเธอควรจะต้องผ่อนคลายสักหน่อย
“ขอโทษนะคะ พี่ญาณี” เด็กสาวใกล้จะร้องไห้แล้ว และรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก “ฉันไม่ควรเปิดประตูโดยที่ไม่ดูตาแมวเลยค่ะ ฉันนึกว่าเป็นพี่ซะอีก”
“นี่ไม่ใช่ปัญหาที่มากเธอ ไม่ต้องโทษตัวเองหรอกนะ” ญาณีมีสติเป็นอย่างมาก “ในเมื่อพวกเขาอยากทำแบบนี้ ยังไงก็ต้องมาแน่ ๆ เป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็วแหละ”
“พวกเขาเป็นคนจากบริษัทอะไรคะ? ให้สวัสดิการอะไรกับพี่บ้าง?” นุชวรายังคงอายุน้อยจริง ๆ
น้ำเสียงของญาณีเรียบเฉย “คนของR-Alan กรุ๊ป”
“R-Alan กรุ๊ปเหรอคะ?” หน้าอกของนุชวราบีบรัดเข้ามากะทันหัน และเบิกตากว้างขึ้นมา “เป็นคู่ปรับตัวฉกาจของทีเอ็ม กรุ๊ปนี่! งั้นถ้าคุณไปทำงานที่บริษัทพวกเขา…… งั้น……คุณภีมจะคิดยังไงคะ?”
ญาณีลุกขึ้นมา “นี่ก็ดึกมากแล้ว เธอไปอาบน้ำนอนเถอะ ฉันเองก็รู้สึกเหนื่อยมากแล้ว” พูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินเข้าห้องนอนไป
นุชวรารู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก……ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?
ที่ลานจอดรถใต้ดิน ในรถออฟโรดสีดำที่ขับออกไป ผู้ชายเอาเอกสารเก็บเข้าไปในซองเอกสาร แล้วโทรหาท่านประธานใหญ่ “คุณชัย จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ”
“เธอจะมาทำงานเมื่อไหร่?” ชัยเดชถามขึ้นมา
“ในสัญญาเขียนไว้ว่าพรุ่งนี้ครับ แล้วผมก็เตือนเธอแล้ว ถ้าไม่มา ก็จะต้องจ่ายค่าชดเชยมหาศาลครับ”
“ดี” อีกฝ่ายดีใจมาก คิดว่าคืนนี้คงจะได้นอนหลับฝันดีแล้ว
พอจบการสนทนา รถก็ขับฝ่าสายฝนจากไป……
ที่อพาร์ทเม้นอีกแห่งหนึ่ง
วริศนั่งตอบอีเมลอยู่บนโซฟาข้างหน้าต่าง นิ้วมือเรียวยาวเคาะแป้นพิมพ์ไปเรื่อย ๆ พอตอบอีเมลเสร็จก็วางโน้ตบุ๊คลง แล้วหยิบหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่ง
เบญญาที่อยู่ข้าง ๆ บิดขี้เกียจขึ้นมาทีหนึ่ง จนเธอเกือบจะโผล่ออกไปหมดแล้ว
จากนั้นสีหน้าก็มองไปที่ชายหนุ่มที่ไม่ง่วงนอนเลยด้วยใบหน้าเหนื่อยล้าเต็มหน้า “พี่ใหญ่ ที่บ้านคุณไม่มีห้องนอนแขก วันนี้จะนอนกันยังไงล่ะ?”
วริศเงยหน้าขึ้นมา “อย่าเรียกว่าพี่ใหญ่ ผมรู้สึกไม่ชิน ทำอย่างกับพวกยากูซ่าไปได้”
เด็กสาวครุ่นคิดเล็กเล็กน้อย แล้วเปลี่ยนคำถามเป็น “พี่ชาย วันนี้จะนอนกันยังไงคะ?”
เลี่ยนจริง ๆ!
วริศไม่อยากว่าอะไรเธอแล้วจริง ๆ “เดี๋ยวผมไปนอนโซฟา” ปิดหนังสือแล้วก็ลุกขึ้นมา และจ้องมองเธออย่างเรียบเฉยทีหนึ่ง จากนั้นก็ก้าวเดินออกไปข้างนอก
จ้องมองแผ่นหลังนั่น เบญญานึกว่าตัวเองฟังผิดไป นี่เขาจะยกเตียงให้เลยเหรอ?
ผู้ชายที่รักสะอาดแบบนี้ แล้วก็มีสไตล์การใช้ชีวิตที่ละเอียดลออขนาดนี้ ทำไมถึงให้ผู้หญิงแปลกหน้ามานอนบนเตียงเขาได้นะ?
วริศนอนลงไปบนโซฟาในห้องรับแขก แล้วปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม บนตัวห่มเสื้อคลุมตัวหนึ่งไว้
เพราะว่าที่บ้านเขานี้ไม่เคยมีแขกมาก่อน ไม่มีห้องนอนแขก ก็เลยไม่มีผ้าห่มที่เกินมาอยู่แล้ว
ช่วงกลางคืน ค่อย ๆ ดึกไปเรื่อย ๆ
ฝนด้านนอกหน้าต่างยังคงตกอย่างหนักหน่วง
เบญญาต้านทานความง่วงนอนไม่ไหว พอปิดประตูและล็อกประตูแล้ว ก็มุดตัวเข้าไปในผ้าห่มของเขาเลย
มันกลับมีกลิ่นหอมจาง ๆ อยู่ด้วย
ค่ำคืนนี้ ญาณีพิงอยู่บนหมอน จิตใจของเธอหนักหน่วงมาก ถือโทรศัพท์ไว้แล้วค้นหาคนรับซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ จากนั้นก็ขายอพาร์ทเม้นห้องนี้ในราคาต่ำให้กับบริษัทตัวแทนไป
นอกจากเรื่องความรักแล้ว เธอก็เป็นคนที่รับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างแข็งแกร่งคนหนึ่ง
เช้าวันรุ่งขึ้น
ที่อพาร์ทเม้นของวริศ
เบญญานอนกางแขนกางขาคว่ำอยู่บนที่นอนอ่อนนุ่ม มีเพียงศีรษะเล็ก ๆ โผล่ออกมาเท่านั้น อย่างกับกบตัวใหญ่ที่น่ารักตัวหนึ่ง
และกำลังอยู่ในความฝัน
ด้านนอกประตู วริศได้ล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยแล้ว เขาบิดลูกบิดประตูเล็กน้อย ตอนแรกกะว่าจะเข้าไปเอากุญแจรถ และรวดปลุกเธอตื่นด้วย แต่กลับพบว่าประตูห้องถูกล็อกเอาไว้
เขาเคาะประตูอย่างมีมารยาท จากนั้นก็ฟังเสียงความเคลื่อนไหวในห้องไป
ไม่มีการตอบสนองอะไรเลย
แล้วก็เคาะใหม่อีกครั้ง
เคาะซ้ำ ๆ ไปหลายครั้ง ในที่สุดก็ทำให้เด็กสาวที่กำลังหลับฟันอยู่สะดุ้งตื่น
“เฮ้อ……” เบญญาพลิกตัวไปบนเตียงทีหนึ่ง ในช่วงสะลึมสะลือก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาอีกครั้ง เธอลืมตาขึ้นมาอย่างหงุดหงิด สิ่งแวดล้อมที่แปลกตารอบข้าง ทำให้สมองของเธอว่างเปล่าไปหลายวินาที
เสียงเคาะประตูยังคงดังอย่างต่อเนื่อง
เธอรู้สึกตัวขึ้นมาทันที ที่นี่เป็นบ้านของวริศนี่!
