เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 495 สายโทรศัพท์จากป้าโสน
เมื่อเห็นน้ำตาของเธอไหลลงมา ภีมพลก็เชื่อทั้งหมดที่เธอได้กล่าว
ดวงตาดั่งรอยหมึกอันมีเสน่ห์หรี่ลงเล็กน้อย ภีมพลไม่ได้แสดงท่าทีใด ๆ ต่อคำร้องขอของนุชวรา เขาหันหลังและจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
นุชวรามองดูแผ่นหลังที่จากไปด้วยดวงตาพร่ามัวเอ่อล้นด้วยน้ำตา เธอไม่แน่ใจว่าคุณภีมจะจัดการอย่างไร
เธอเป็นเพียงผู้ช่วยตัวเล็กๆ จะไปเดาใจท่านประธานได้อย่างไร?
แต่สุดท้ายเธอก็รวบรวมความกล้าที่จะเอ่ยออกไป
นุชวรานั่งลงบนเก้าอี้ทำงานอย่างหดหู่ใจ เธอได้แต่ภาวนาว่าพี่ญาณีจะปลอดภัยอย่างเงียบ ๆ
กลับมายังห้องทำงานของท่านประธาน
ภีมพลนำข้อมูลที่ตนเองได้รู้จากนุชวราบอกแก่วริศ
หลังจากที่วริศได้ฟัง ดวงตาของเขาก็ยิ่งอ่านไม่ออกมากขึ้น “ชัยเดชใช้กลวิธีข่มขู่อย่างนั้นเหรอ?เกรงว่าจะไม่ใช่เพราะเขาอยากได้ตัวเธอหรอก?เพราะอยากได้ความลับของทีเอ็ม กรุ๊ปหรือเปล่าครับ?”
ภีมพลหยิบแก้วน้ำขึ้นมาแล้วจิบน้ำอุ่นอย่างสุขุม “ญาณีจะรู้ความลับของบริษัทเท่าไหร่กันเชียว?”
ภีมพลไม่ได้ใส่ใจประเด็นนี้เลยตั้งแต่แรก “พวกเขาคิดว่าเธอมีค่าสำหรับR-Alan กรุ๊ป”
แต่สำหรับภีมพล ญาณีเป็นคนที่จะมีหรือไม่มีก็ได้
วริศวิเคราะห์ “บางทีอาจจะถูกใจพรสวรรค์ของเธอก็ได้ แต่ถ้าเธอไม่มีแรงจูงใจ ความกระตือรือร้นในการทำงานของเธอก็จะลดลงไปครึ่งหนึ่ง ไม่มีทางที่จะทุ่มเทเอาเป็นเอาตายได้อีก ”
“คุณไปสืบดูว่าเธออยู่ที่ไหน” ภีมพลไม่ได้กล่าวอะไรมาก เขาหยิบกุญแจรถบนโต๊ะ “ฉันไปทำงานก่อนล่ะ”
วริศไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ท่านประธานให้เขาสืบดูก็ไปสืบแล้วกัน
บางทีอาจจะเป็นเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอก็ได้
หลังจากได้ตรวจสอบแล้ว วริศสืบรู้มาว่าเธอขายบ้านและแน่ใจได้ว่าญาณียังอยู่ที่เมืองไนร์ก้า
แต่การตามหาใครสักคนในเมืองใหญ่ก็เหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทร
วริศมีความสามารถในการจัดการเรื่องต่าง ๆ อย่างสูง เขาจะคิดพิจารณาปัญหาต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วน ดังนั้นไม่เพียงแต่เขาจะหาคนไปสืบหาเบาะแสที่อยู่ของญาณี แต่เขายังจัดหาคนไปสืบเรื่องชัยเดช เพื่อดูเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวของเขาในช่วงนี้ด้วย
ภีมพลเดินออกจากห้องโถงบริษัท และขับรถแลมบูกินีออกไปอย่างรวดเร็ว
ช่วงนี้เขากับนายหญิงน้อยอยู่ด้วยกันจึงไม่ค่อยได้มีคนขับรถมาด้วย
คนสองคนพูดคุยกันในรถมีก้างขวางคอด้วยก็คงจะน่าอึดอัดมาก
ไปรับนายหญิงน้อยและผ้าไหมที่ห้องอัด
นายหญิงน้อยนั่งที่นั่งข้างคนขับ ส่วนผ้าไหมนั่งที่เบาะหลังและสวมหูฟังเพื่อตามดูละคร เธอยังเป็นเด็กสาววัยรุ่นที่ปกติแล้วก็ไม่มีงานอดิเรกอะไรเป็นพิเศษ
ก้างขวางคออย่างเธอแทบจะไม่มีตัวตนอยู่แล้ว
ภีมพลขับรถพลางเล่าเรื่องที่R-Alan กรุ๊ปข่มขู่ญาณีและบีบให้เธอเซ็นสัญญาให้นภาลัยฟัง
นภาลัยตกใจมากเมื่อได้ยิน เธอหันไปมองเขา “……” สายตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“ผมให้วริศตามหาเธออยู่” ภีมพลบอกกับเธอตรงๆ เพราะไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิด
จริงๆ แล้วนภาลัยเองก็เป็นคนจิตใจดี เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แน่นอนว่าเธอก็กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของญาณีเช่นกัน
ถ้าตกอยู่ในมือของ R-Alan เกรงว่าคงจะชีวิตไม่ได้ง่ายนัก ถ้าไม่ได้ดั่งใจเขาเพียงนิด ก็อาจจะใช้มีดมาจี้ที่คอเพื่อข่มขู่ก็ได้
กลวิธีสกปรกของR-Alan กรุ๊ป พวกเขาเคยได้รู้ได้เห็นกันมาแล้ว
ขณะนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของภีมพลก็ดังขึ้น
“คุณรับสายให้ผมหน่อยสิ” เขาจับพวงมาลัยด้วยมือทั้งสอง สายตามองตรงไปข้างหน้า
นภาลัยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เหลือบสายตามองที่หน้าจอแล้วกดรับ “ฮัลโหล”
“คุณนายคะ คุณนายนิตย์มาแล้วค่ะ คุณกับคุณภีมจะกลับมาเมื่อไหร่คะ?” เสียงของป้าโสนดังขึ้นมา “คุณนายนิตย์ว่าจะทานอาหารเย็นที่นี่ ท่านรอพวกคุณมาเกือบจะชั่วโมงแล้วค่ะ”
“……” นภาลัยหันสายตาไปมองชายที่ขับรถอยู่ แล้วตอบเสียงเบา “พวกเรากำลังเดินทางกลับ อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้วล่ะ”
เมื่อวางสาย นภาลัยก็เล่าเรื่องที่ป้าโสนบอกมาแก่ภีมพลให้ได้รู้
ภีมพลเองก็ค่อนข้างแปลกใจ เขากับนายหญิงน้อยก็เช่นเดียวกัน ทั้งสองคนต่างก็รู้สึกประหลาดใจ