เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 566 ของขวัญชิ้นใหญ่
ในขณะนี้เองนภาลัยรู้สึกสงบลงมาก แต่เธอก็ยังคงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยอย่างไม่มีเหตุผล
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ รังสีของภีมพลก็อ่อนโยนอบอุ่นขึ้นมาก
สุดท้ายก็มาหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าโต๊ะของเธอ “เดี๋ยวสักพักไปดูคลับของศิษฎ์กันหน่อยนะ วริศบอกว่าสร้างเสร็จแล้ว อุปกรณ์ก็จัดซื้อเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวเรียกให้ศิษฎ์ไปดูด้วยกัน”
ในเมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับไวศิษฎ์ นภาลัยจึงไม่ปฏิเสธ “ค่ะ” ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของงานเช่นกัน
ภีมพลมองเธอ ความจริงแล้วเขายังมีอะไรบางอย่างอยากจะพูดกับเธอ แต่เขาก็ยั้งตัวเองเอาไว้
“งั้นคุณก็เตรียมตัวสักครู่ รอสักพักผมจะมาเรียก” หลังจากนั้นเขาก็หันหลังจากไป ในใจคิดว่าสักพักหนึ่งขึ้นรถแล้วค่อยพูดดีกว่า ในพื้นที่ส่วนตัวน่าจะสื่อสารได้ดีกว่า
นภาลัยมองแผ่นหลังของเขา ในใจเอ่อด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด
ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา ภีมพลก็กลับมาอีกครั้ง
เขายืนอยู่ที่ประตูและเคาะประตูห้องทำงานบานใหญ่ที่เปิดอยู่ “ไปกันเถอะ?”
นภาลัยเงยสายตาขึ้นมองเขา จากนั้นก็จัดโต๊ะ ยืนขึ้นและออกไป “เบญ เดี๋ยวพวกเราไปคลับก่อนนะ”
“รับทราบ”
ในการเดินทางครั้งนี้ ภีมพลจงใจไม่พาคนขับรถไปด้วย เขาเดินออกจากห้องโถงของบริษัท และเปิดประตูห้องโดยสารข้างคนขับรถลัมโบร์กีนี ให้เธอเข้าไปนั่งในรถอย่างสุภาพบุรุษ “ระวังด้วย”เขาโน้มลงเพื่อช่วยเธอคาดเข็มขัดนิรภัย
“ฉันทำเองได้ค่ะ” นภาลัยรู้สึกเคอะเขิน แต่เขากลับช่วยเธอรัดเข็มขัดเสร็จอย่างรวดเร็ว ก่อนผละออกไป เขาจูบแก้มเธอเบา ๆ จากนั้นก็ปิดประตูรถให้เธอ
หลังจากขึ้นรถภีมพลก็สตาร์ทรถอย่างรวดเร็ว
“เรื่องที่ผมแอบไปแคนาดาอย่างลับๆ ผมยังอยากจะขอโทษคุณอย่างจริงจัง” ภีมพลบังคับพวงมาลัยด้วยมือข้างหนึ่ง และอีกมือก็กุมมือของเธอเอาไว้
นภาลัยพยายามสลัดออกตามสัญชาตญาณ แต่เขากลับจับเอาไว้แน่นขึ้น
เมื่อคำนึงถึงความปลอดภัยในการขับรถ เธอจึงยอมประนีประนอม และเลิกดิ้นรนขัดขืน
อุณหภูมิของฝ่ามือของทั้งสองสอดประสานกัน ตลอดทางที่รถเคลื่อนไปข้างหน้า
“ผมไม่ควรไปที่ห้องนอนของเธอ และไม่ได้นึกถึงผลที่ตามมา” น้ำเสียงของเขาแผ่วเบา “ยิ่งไปกว่านั้นผมไม่ควรที่จะสืบเรื่องนั้นลับหลังคุณ และตัดสินใจทำไปโดยพลการ”
“……” ผ่านไปแล้วหนึ่งวันหนึ่งคืน อารมณ์ความรู้สึกของนภาลัยก็สงบนิ่งลง
เธอหันมองหน้าด้านข้างของเขา “ความจริงฉันยกโทษให้คุณแล้ว”
ภีมพลที่กำลังขับรถ ทันทีที่สายตาของคนทั้งสองสบกัน มุมปากของเขาก็ยกขึ้น “ขอบคุณคุณนะ”
“มองทางด้านหน้า” นภาลัยเอ่ยเตือน “ตั้งใจขับรถ” เธอเองก็ถอนสายตา
เมื่อรู้สึกได้ถึงฝ่ามือที่กุมมือเธอเอาไว้แน่นของเขา ภีมพลก็รู้สึกหวงแหนช่วงเวลานี้อย่างมาก ราวกับว่าอากาศอบอวลเต็มไปด้วยความสุข
คลับที่เขาเตรียมเอาไว้ให้ไวศิษฎ์มีขนาดใหญ่มาก ใหญ่กว่าที่นภาลัยจินตนาการเอาไว้เสียอีก
และยิ่งไปกว่านั้นรูปทรงของอาคารนี้ก็มีเอกลักษณ์มาก เมื่อเธอลงจากรถ เธอยืนอยู่นอกอาคารแล้วเงยมองขึ้นไป “……” เธอตกใจมาก
“เหมือนเรือโนอาห์หรือเปล่า?”ภีมพลเอ่ยถามเธอยิ้มๆ
“อืม มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ ฉันว่าทำไมมันถึงได้แปลกขนาดนี้!”
“ศิษฎ์ก็ชอบของอะไรที่มีเอกลักษณ์พวกนี้ เหมือนกับวัยรุ่นทั่วๆ ไป” ภีมพลโอบไหล่ของเธอและพาเธอก้าวเข้าไปด้านใน “ของเล่นที่เขาชอบตอนเด็กๆ ก็จะแปลกเหมือนกัน”
เอาเข้าจริงแล้วเขารู้จักไวศิษฎ์ดี มันเกิดจากความห่วงใยและใส่ใจที่มีต่อเขา
“สวัสดีครับ/ค่ะ คุณภีม” ผู้ใต้บังคับบัญชาหลายคนที่รับผิดชอบงานทางนี้แสดงความเคารพ “สวัสดีครับ/ค่ะ คุณนาย”
ภีมพลพยักหน้าเป็นนัย นภาลัยตอบรับ “สวัสดีค่ะทุกคน ลำบากหน่อยนะคะ”
“ไม่ลำบากครับ เป็นหน้าที่อยู่แล้วครับ”
บนพื้นหลายร้อยตารางเมตรสะอาดสะอ้านหมดจด หุ่นยนต์ทำความสะอาดแบบเก็บเสียงก็กำลังทำความสะอาดอยู่
หลังคาสูงมากเกินกว่า 10 เมตร กว้างขวางมาก ไม่รู้สึกอุดอู้เลยแม้แต่น้อย
บันไดเวียนสีเงินพาดขึ้นไปตามผนัง เมื่อยืนอยู่ในโถง จะสามารถเห็นประตูรูปทรงโค้งเจ็ดหรือแปดบานบนชั้นสอง บานประตูจะมีลายการ์ตูนต่างๆ วาดเอาไว้อยู่
มีกระสอบทรายสีดำใบใหญ่ห้อยลงมา และอุปกรณ์ออกกำลังกายเท่ห์ๆ เจ๋งๆ อยู่จำนวนหนึ่ง
สไลเดอร์ขนาดใหญ่กว้างสองเมตรสะดุดตาเป็นที่สุด มันเชื่อมต่อกับพื้นโดยตรงจากชั้นสาม และลักษณะยังสอดคล้องกับความนิยมของคนหนุ่มสาวอีกด้วย
“โทรหาศิษฎ์ได้แล้วล่ะ”ภีมพลมองผู้หญิงในอ้อมแขนของเขา “คุณโทรเถอะ?”