เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 575 หมู่ดาวล้อมเดือน
ภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาว เธอเงยสายตาขึ้นมองสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่เหมือนเรือโนอาห์แห่งนี้
มันทำให้คนรู้สึกถึงความสะดุดตาเมื่อได้เห็น นักออกแบบคนนี้จะต้องเป็นคนที่เก่งมากแน่ๆ
ในห้องอาหารดวงไฟสว่างไสวที่มีชีวิตชีวา กลิ่นไวน์หอมละมุน และอาหารกับแกล้มหลากหลายรสชาติ ทั้งหอมหวานและอร่อย
ไวศิษฎ์บอกทุกคนอย่างตรงไปตรงมาว่า “ไม่ถ่ายละครแล้ว แต่ยังรับเป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่” เพราะเขาสัญญากับภีมพลไว้แล้ว
ในขณะนี้เอง เขมินทราเข้ามาในประตูคลับบานใหญ่เพียงคนเดียว และต้องตกตะลึงอีกครั้งกับการตกแต่งภายใน มันช่างว่างเปล่า การจัดวางแบบนี้มันจะไม่จัดจ้านเกินไปหน่อยเหรอ?
เขาเลยจะไม่แสดงละครอีกต่อไปแล้วเหรอ?
เขาต้องการที่จะขยายธุรกิจของเขาที่นี่เหรอ?
เมื่อเดินไปเรื่อยๆ เขมินทราก็ได้ยินเสียงหัวเราะ ดังนั้นเธอจึงก้าวไปข้างหน้า
เป็นคนแรกที่สังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังมา ซึ่งอยู่ตรงทางเข้าร้านอาหาร เขาส่งสัญญาณให้สมาชิกในทีมที่อยู่ข้างๆ มองไปที่ตรงนั้น และหลังจากนั้นสายตาของทุกคนก็ค่อยๆ จับจ้องมาที่เขมินทรา
ภายในห้องอาหารที่เดิมทีครื้นเครงก็เงียบลงทันที
ไวศิษฎ์ตกใจเล็กน้อย สายตาของเขามองตามทุกคน
ครั้นเห็นเขมินทราเดินเข้ามาทางนี้ด้วยท่าทีน่าหลงใหล เท้าทั้งสองข้างของเธอสวมรองเท้าส้นสูงประดับเพชร ผมของเธอม้วนงอแบบปล่อยสบาย ๆ และมีรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า ภายใต้แสงไฟอ่อน ๆ เธอช่างงดงามและมีเสน่ห์
ในสายตาของเธอมีเพียงไวศิษฎ์ เมื่อจ้องมองมาที่เขาครู่หนึ่ง แล้วจึงเดินเข้าไปหาเขา
ดวงตาดำสนิทของไวศิษฎ์หรี่ลงเล็กน้อย มันลึกล้ำเสียจนมองไม่เห็นก้นบึ้ง เมื่อเขาเห็นเธอ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เขาถอนสายตาและจิบไวน์ไปอึกหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกอับอาย
“เฮ้ย นั่นใช่เขมินทราหรือเปล่า?”ฟ่างเอ่ยอย่างตื่นเต้น “เทพธิดาของฉัน!” ในที่สุดเขาก็รู้สึกตัวและทำลายความเงียบลง
สมาชิกในทีมกว่าสิบคนรีบลุกขึ้นเพื่อช่วยเธอหาเก้าอี้ “เชิญนั่งครับ เชิญนั่ง!”
“เพื่อนของลูกพี่ก็เป็นเพื่อนของเราด้วย! ผมขอเรียกพี่ว่าพี่เขม์ได้หรือเปล่าครับ?”
“ทำไมอยู่ดีๆ ถึงไปเรียกเธอว่าพี่ล่ะ?เธออาจจะเด็กกว่านายก็ได้ แค่เธอเดบิวต์ก่อนเองนี่!”
“ใช่ๆๆ พี่นี่ปากไม่ดีเลย มาครับ น้องเขม์ มานั่งข้างพี่สิครับ!”
วัยรุ่นกลุ่มนี้มีความกระตือรือร้นขึ้นมาอย่างไม่มีใครเกิน และพวกเขาก็มุ่งความสนใจไปที่เธอทันที
เขมินทรายังคงเงียบอยู่ตลอด ริมฝีปากมียิ้มจาง ๆ ปรากฏอยู่ เธอแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน ดังนั้นเธอจึงสวยงามมากจริงๆ
ส่วนไวศิษฎ์เองก็นั่งบนที่นั่งพลางดื่มอยู่คนเดียว เขาไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยหางตาด้วยซ้ำ
เขาจำท่าทีเอาแต่ใจของเธอในกองถ่ายได้ ดังนั้นบุคลิกเจ้าหญิงแสนบริสุทธิ์ของเธอในตอนนี้ ทำให้เขารู้สึกพะอืดพะอม
“ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณพวกคุณนะคะ” เขมินทรารู้สึกมีความสุขกับการที่เธอถูกรุมล้อม
เธอนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับไวศิษฎ์ บนใบหน้ามีรอยยิ้มอ่อนหวานตลอดเวลา ท่าทีดูเหมือนพี่สาวใจดีคนหนึ่ง
“พี่กุ้ง รบกวนเพิ่มช้อนกับชามด้วยครับ!”ฟ่างหันไปสั่ง
“ได้ค่ะ” พี่กุ้งมองเห็นอยู่นานแล้ว จากที่เขากล่าวจบไม่นาน เธอก็หยิบช้อนชามมาให้
“ขอบคุณค่ะ”
เขมินทราดูเป็นมิตรมาก และเธอรู้สึกยินดีมากที่เห็นว่าไวศิษฎ์ไม่ได้ผลักไสไล่ส่งเธอ
ต่อไปเธอต้องสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเบี้ยหมากเหล่านี้เอาไว้ เธอรู้ดีว่าไวศิษฎ์จะอยู่ที่นี่อย่างถาวร
“น้องเขม์ น้องดื่มได้หรือเปล่า?” มีคนหนึ่งเอ่ยถามและหยิบขวดขึ้นมา
ทว่าเขมินทราอายุเท่าไหร่ ไวศิษฎ์ย่อมรู้ดี เธออายุมากกว่าทุกคนในนี้เสียอีก แน่นอนว่าไม่รวมพี่กุ้ง
“เอิ่ม……ฉันอาจจะยังดูเหมือนเด็ก” เขมินทรารู้สึกผิดนิดๆ เธอยิ้มให้เด็กในทีมพลางกล่าว “ฉันน่าจะอายุมากกว่าพวกเธอ พวกเธอเรียกพี่ว่าพี่เขม์จะดีกว่านะ”
“สวัสดีครับ พี่เขม์!”
ไม่ทันที่ไวศิษฎ์จะได้รู้สึกรังเกียจ สมาชิกในทีมก็ตะโกนอย่างตื่นเต้น
“พี่เขม์มาดื่มกันหน่อยเถอะ! นี่เป็นไวน์ มีแอลกอฮอล์ไม่สูงมากนัก!”
“พี่เขม์ลองชิมดูครับ พี่กุ้งทำอร่อยสุดๆ !คราวหลังถ้าพี่อยากทาน พี่ก็มาที่นี่บ่อย ๆ นะครับ”
ในที่สุดไวศิษฎ์ก็วางแก้วไวน์ลง เขาลุกขึ้นยืนและออกไป “ฉันไปเล่นเกมก่อนล่ะ” น้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย