เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 735 ขอโทษก็ไม่มีประโยชน์
วริศได้ยินแบบนี้ เขาก็หันหน้าไปมองจารวี “…” จากนั้นก็ไม่รู้จะตอบเธอยังไง
“นายฟังฉันพูดอยู่รึเปล่า” ภีมพลคิดว่าสัญญาณไม่ดี
“ฟังครับ” เขาได้สติกลับมา “ครับ ผมรู้แล้ว”
“นายรู้อะไร?” ภีมพลฉลาด “นายเป็นอะไร ฉันถามว่าเธอเป็นยังไงบ้าง แผลรุนแรงรึเปล่า”
“ไปพันแผลที่คุณหมอกรินทร์แล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ไหล่หลุดนิดหน่อย คงต้องลางานสองสามวันครับ”
“ลางานไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร” ภีมพลพูด “นายหาเวลาไปอยู่กับเธอเถอะ บริษัทมีฉันอยู่”
“……”
ภีมพลพูดอีกว่า “เอาล่ะ นายยุ่งเถอะ ฉันจะวางสายแล้ว” พูดจบ เขาก็วางสายไป
สายนี้ทำเอาจารวีและป้าจำปีงงงวย ใครได้รับบาดเจ็บ?
วริศเก็บโทรศัพท์ เมื่อเขามองไปที่จารวีอีกครั้ง อารมณ์ของเขาก็เปลี่ยนไป เขารู้สึกผิด และรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
วริศเห็นใบหน้าที่บวมแดงของเธอ เขาถึงตระหนักได้ว่าตัวเองออกแรงตบไม่เบา
เมื่อก้าวเข้าไปหาเธอ ป้าจำปีก็เดินเข้ามาขวางหน้าจารวี และขอร้องว่า “คุณวริศ ถ้าคุณจะตบก็คบฉันเถอะค่ะ อย่าตบคุณหนูเลย คุณหนูอ่อนแอ เธอไม่เคยถูกตบหน้ามาก่อน!”
จารวีน้อยใจและโมโห เธอผลักป้าจำปีออก มองหน้าวริศและขมวดคิ้ว “มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ใครถูกลักพาตัว?”
“…” วริศยืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยสีหน้าที่ผ่อนคลายลง
“ผู้หญิงคนนั้นถูกลักพาตัวใช่ไหม” จารวีมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น “คุณกลัว? คุณเป็นห่วง? คนแรกที่คุณนึกถึงคือฉัน? วริศ ฉันใจร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ”
เธอตะโกนถามเสียงดัง “ในใจของคุณ ฉันเป็นผู้หญิงแบบนั้นอย่างนั้นเหรอ ฉันยอมรับว่าฉันชอบคุณ แต่ฉันจะลักพาตัวเธอไปทำไม ในสังคมที่มีกฎหมายแบบนี้ ฉันฆ่าเธอได้เหรอ หรือถึงแม้ฉันจะฆ่าเธอ แล้วคุณจะรักฉันอย่างนั้นเหรอ”
จารวีรู้ดี
เธอไม่ใช่คนโง่ เพราะอย่างน้อยเธอก็เป็นถึงลูกสาวตระกูลสาระทา
“ผมขอโทษ…” วริศขอโทษอย่างจริงใจ
“ถ้าขอโทษมันมีประโยชน์ แล้วจะมีตำรวจไว้ทำไม” จารวีจับแก้มที่บวมแดงของตัวเอง “จู่ๆก็โดนตบครั้งแรกในชีวิต ถ้าฉันบอกพ่อของฉัน เกรงว่าคงต้องให้คนในครอบครัวของคุณมาขอโทษถึงบ้าน!”
“คุณตบผมคืนก็ได้” วริศหลับตาและพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน “ขอแค่คุณพอใจ”
“ไม่!” จารวีพูด “คุณต้องเลี้ยงข้าวเย็นฉันเป็นการชดเชย ฉันมาที่เมืองไนร์ก้าคนเดียว คุณควรต้อนรับฉัน”
เรื่องนี้วริศปฏิเสธไม่ได้ เพราะเขาตบหน้าเธอด้วยความเข้าใจผิด
“แค่กินข้าวคงไม่ลำบากใจใช่ไหม” จารวีเตือนเขา “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันโดนตบหน้า”
เขารู้ว่าเธอเป็นแก้วตาดวงใจของตระกูลสาระทา และเติบโตมาอย่างสุขสบาย
เขาไม่รักเธอได้ แต่เขาจะตบเธอไม่ได้… โดยเฉพาะตอนที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิด
วริศไม่อยากให้เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อมิตรภาพและความร่วมมือของทั้งสองครอบครัว เขาจึงตอบตกลง “ได้ ถือว่าเป็นการขอโทษ”
“ฉันเลือกร้านอาหารเอง เดี๋ยวฉันจะหาในเน็ต คุณรอดูข้อความก็พอ” จารวีที่หน้าบวมแดงยิ้มให้เขาเบาๆ “หวังว่าคุณจะไม่ผิดนัด ผู้ชายต้องรักษาคำพูด”
วริศได้ซื้อบ้านอีกหลังไว้แล้ว เขาไม่ได้ไล่พวกเธอออกไป กินข้าวเย็นก่อนแล้วค่อยว่ากันดีกว่า
จารวีมองเขาเดินออกไป เธอไม่ได้รั้งเขาไว้ เพราะเธอรู้ว่าเธอรั้งเขาไว้ไม่อยู่
“คุณหนูคะ…” ป้าจำปีสงสารดูเธอ เธอเดินเข้ามามองใบหน้าของจารวีแล้วพูดว่า “ป้าไปเอาน้ำแข็งมาประคบให้คุณหนูดีกว่า”
จารวีนั่งลงบนโซฟา ป้าจำปีเอาถุงน้ำแข็งมาประคบหน้าให้ที่บวมแดงให้เธอ “คุณหนูคะ คุณหนูรู้สึกยังไง… เจ็บมากไหมคะ”
“เขาต้องชดใช้ให้กับการตบหน้าฉันครั้งนี้” จารวีสายตาเย็นชา เธอค่อยๆพูดออกมาทีละคำ
ป้าจำปีถามด้วยความสงสัย “ไปกินข้าวด้วยกัน ไม่ได้ไปเพื่อปรองดองกันเหรอคะ”
จารวีไม่ตอบ เธอมีแผนของตัวเอง เธอถือถุงน้ำแข็งและครุ่นคิด