เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 801 เรื่องบังเอิญ
วฤนท์ธมสีหน้าอ่อนโยน เขาไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้ตอบตกลง
ที่จริงเขาก็ลำบากใจ ลูกชายไม่กลับบ้านหลายปีแล้ว ในฐานะพ่อ เขาไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ทันทีที่ลูกชายกลับมา
เขายังอยากคลี่คลายความสัมพันธ์พ่อลูก เพราะยังไงก็เป็นครอบครัวเดียวกัน
“วัต” วฤนท์ธมยิ้ม เขาอธิบายด้วยความหวังดี “ไม่ใช่ว่าฉันไม่ให้พวกเขาลองคบกัน เรื่องของความรู้สึกฉันทำอะไรไม่ได้ โดยเฉพาะยุคที่ความรักและเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องอิสระแบบนี้”
“แต่เมื่อก่อนเราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ? ตั้งแต่ลูกๆยังไม่คลอด เรียกพ่อตาแม่ยายมายี่สิบกว่าปี” ดรัสวัตขมวดคิ้ว “ทำไมพอลูกโตก็ทำอะไรไม่ได้”
วฤนท์ธมจิบชา เขาพูดไม่ออก อีกฝ่ายไม่ยอมปล่อย
“วัต ฉันไม่อยากบังคับวริศ เขามีความสุขก็พอ นี่เป็นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉัน”
“บังเอิญจริงๆ” ดรัสวัตยิ้มอย่างขมขื่น “ความสุขของจารวีก็เป็นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันเหมือนกัน และการแต่งงานกับวริศ ก็คือความสุขของเธอ”
วฤนท์ธมไม่พูดอะไรอีก ดรัสวัตมั่นใจ ดูเหมือนว่าช่องโหว่จะอยู่ที่คุณปู่นโรตม์
หลังจากจิบชา เขามองดูสัญญาบนโต๊ะ จากนั้นก็ยิ้มและเปลี่ยนเรื่อง “วฤนท์ธม ยังไม่พูดเรื่องแต่งงานดีกว่า เรื่องธุรกิจจะล่าช้าไม่ได้ โปรเจกต์นี้ไม่เลวเลยทีเดียว เราสามารถร่วมมือกัน ถ้ามีเวลาก็ลองอ่านดูเถอะ”
พูดจบ เขาก็ยิ้มแล้วลุกขึ้นยืน “ฉันจะไปดูว่ามีอะไรให้ช่วยไหม เดี๋ยววริศก็จะกลับมาแล้ว นายพักผ่อนก่อนเถอะ”
มองดูแผ่นหลังของเขาเดินออกไป วฤนท์ธมคิดในใจ ใครเป็นเจ้าภาพงานใครเป็นแขกกันแน่?
ให้เจ้าภาพพักผ่อน แขกไปช่วยงาน?
เขายิ้ม แต่กลับไม่เปิดอ่านสัญญาบนโต๊ะ เขาแค่จิบชาอย่างสบายใจ และยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา ลูกชายใกล้จะถึงบ้านแล้ว
นี่เป็นยุ่งยากที่เขาต้องเจอ เพราะตระกูลเดชอุปและตระกูลสาระทามีความสัมพันธ์ที่ดีมาตลอด
ในตอนนี้เอง ในรถออฟโรดสีดำที่กำลังแล่นอยู่
เบาะหลัง เบญญาลืมตามองออกไปนอกหน้าต่าง “ถึงไหนแล้วคะ?” ในความทรงจำของเธอ บ้านคุณตาไม่ได้ไกลขนาดนี้
“เราจะไปไหนเหรอคะ?” มองวิวที่ไม่คุ้นเคยนอกหน้าต่าง เธอได้สติกลับมาทันที “คุณพ่อคะ ผิดทางรึเปล่า?” เธอเงยหน้ามองคุณพ่อที่กำลังขับรถ
ในตอนนี้เอง คุณแม่ที่อยู่ข้างๆก็ยิ้มแล้วตอบเธอ “ปีนี้คุณตาไม่ได้ฉลองวันเกิดที่บ้าน”
“หะ? ไปฉลองวันเกิดที่บ้านคนอื่นอย่างนั้นเหรอ?” เธองง “วันเกิดครบรอบแปดสิบปี คงมีแขกมากมายมาร่วมงาน”
“ใช่ เราจะไปหาเขาที่บ้านคนอื่น” คุณิตาพูด
“…” เบญญามองข้ามเรื่องนี้ไป เธอถาม “เราจะไปไหนเหรอคะ? ขับรถมาเป็นชั่วโมงแล้ว ทำไมต้องไปบ้านคนอื่น แล้วเรารู้จักพวกเขาไหมคะ?”
“ไปบ้านเพื่อนสนิทของเขา” คุณิตาจับมือลูกสาวตัวเองแล้วอธิบาย “คุณตาของลูก ตอนเป็นวัยรุ่นเขาเคยทำงานเพื่อประเทศชาติ ถือปืนลงสนามรบ ผ่านความตายมากับเพื่อนสนิทคนนั้น ช่วยเหลือกันมามากมาย แล้วพวกเขาสองคนยังเกิดวันเดียวกันเดือนเดียวกันปีเดียวกัน ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาหลายปี หลังจากชนะสงครามก็สัญญากันว่า ถ้ามีชีวิตอยู่ถึงแปดสิบปี พวกเขาจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดด้วยกัน”
เบญญาได้ยินเรื่องนี้ เธอก็น้ำตาคลอเบ้า ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ เธอจะไม่ไปเป็นพยานได้ยังไง?
“หนูคิดว่า… วันนี้คุณตาต้องร้องไห้แน่เลย เพราะโลกใบนี้เป็นเหมือนที่เขาปรารถนาไว้”
ในตอนนี้เอง ธามเมธีที่กำลังขับรถอยู่ก็พูดว่า “คุณตาของลูกเป็นคนอารมณ์อ่อนไหว พูดถึงเรื่องในอดีต เขาอาจจะร้องไห้ก็ได้”
“เพื่อนสนิทของคุณตาสบายดีไหมคะ คุณพ่อกับคุณแม่เคยเจอเขาไหม?” เบญญาถาม
“ยังไม่เคยเจอ วันนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ไปบ้านเขา เราเลยต้องลากลูกไปด้วย”
“ยังอีกไกลไหมคะ?” เบญญามองวิวนอกหน้าต่างอีกครั้ง “เราออกมาจากตัวเมืองแล้วใช่ไหม?”