คุรุการแพทย์ – บทที่ 3 ชายวัยกลางคนลึกลับ

คุรุการแพทย์

บทที่ 3 ชายวัยกลางคนลึกลับ

บทที่ 3 ชายวัยกลางคนลึกลับ

ฟางชิวสะพายกระเป๋าไว้ข้างหลังแล้วกลับเข้าไปในหอพักของตัวเอง จากนั้นก็ตรงไปที่โรงอาหารเพื่อหาอะไรกิน

ในขณะเดียวกัน ที่บอร์ดเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยก็ได้ปรากฏพาดหัวข่าว [นักศึกษาหนุ่มตำหนิเจ้าของรถเบนซ์ไร้มารยาทแล้วบังคับให้ผู้คุ้มกันของเจ้าของรถขอโทษนักศึกษาพร้อมชดใช้ค่าเสียหาย!]

ในโพสต์ข่าวนี้ บอร์ดเว็บไซต์มหาวิทยาลัยมีภาพประกอบหลายภาพ พร้อมทั้งรายละเอียดของสองพ่อลูกและผู้คุ้มกันผู้เป็นคนขับรถเบนซ์ที่ซิ่งรถจนทำให้น้ำโคลนกระเซ็นไปโดนเหล่านักศึกษา จากนั้นก็เป็นภาพฟางชิวที่ก้าวเข้าไปเผชิญหน้าสั่งให้หยุด รวมไปถึงบังคับให้ผู้สร้างความเสียหายขอโทษและชดใช้ความเสียหายให้นักศึกษา

อีกทั้งยังมีภาพประกอบในโพสต์เป็นการบอกรายละเอียดบทสนทนาทุกช็อตของเหตุการณ์ในวันนี้ แต่ตัวภาพไม่ค่อยชัด นั่นเป็นเพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตอนฝนตก ดังนั้นผู้ชมหรือชาวเน็ตจึงเห็นเพียงภาพเลือน ๆ ของฟางชิวเท่านั้น และไม่มีใครรู้ว่าเขาคือใคร

ดีแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นมีหวังตัวเขาคงไม่ได้ออกจากหอพักอย่างสงบสุขแน่ ๆ เพราะทันทีที่โพสต์นี้ดังขึ้นมา หลาย ๆ คอมเมนต์จากชาวเน็ตต่างหลั่งไหลเข้ามาราวกับกระแสน้ำ

[เจ๋งอะ! ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าในมหาวิทยาลัยเจียงจิงจะมีเด็กที่เจ๋งขนาดนี้ นับถือ ๆ]

[เขาทำในสิ่งที่ฉันอยากจะทำ แต่ฉันไม่มีกล้าพอ ทำดีมาก! นับถือเลย!]

[ไอดอลเลย! ขอภาพชัด ๆ กว่านี้ได้เปล่า?! ขอร้องล่ะ!]

[ขอด้วย!!!]

มีบางคอมเมนต์ต้องการความแน่ใจและชัดเจนเกี่ยวกับโพสต์ข่าวนี้ เพราะถึงอย่างไรก็หายากที่จะเห็นคนที่เถรตรงและรักความยุติธรรมในสมัยนี้

[มันเป็นเรื่องจริงเหรอ? ใครก็ได้ช่วยยืนยันที?]

[ฉันว่าเรื่องแต่งอะ ไม่งั้นคนในข่าวจะมีชีวิตรอดจนถึงทุกวันนี้ได้ยังไง?]

ทว่าคนที่ยังไม่เชื่อข่าวนี้ก็ถูกความจริงตบซะหน้าหัน!

[แค่เพียงเพราะพวกนายไม่กล้าทำอะไรสักอย่างตอนโดนรังแก ก็ไม่ได้แปลว่าคนอื่นเขาจะทำไม่กล้าไหมวะ?! ฉันเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่โดนไอ้รถเวรนั่นสาดโคลนใส่… นี่ไงเสื้อผ้าฉันที่เลอะ! แล้วนี่ก็เงินห้าร้อยหยวนที่เป็นค่าเสียหาย!]

ข้างล่างคอมเมนต์ดังกล่าวมีภาพประกอบสองภาพ ภาพหนึ่งเป็นภาพเสื้อผ้าของเจ้าของคอมเมนต์ที่เลอะไปด้วยโคลน และอีกภาพเป็นเงินห้าร้อยหยวน ค่าเสียหายที่ผู้คุ้มกันของสองพ่อลูกในเหตุการณ์ชดใช้ให้

[ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน!]

[ฉันด้วย!]

หลังจากนั้นก็มีข้อความ รูปภาพ และหลักฐานต่าง ๆ มากมายปรากฏขึ้นมา อย่างเช่นเงินห้าร้อยหยวนที่เป็นค่าเสียหาย เมื่อทั้งหมดประจักษ์ชัดแล้ว ไม่นานทุกคนก็พากันเชื่อข่าวนี้

และแล้วการถกเถียงกันในบอร์ดเว็บไซต์มหาวิทยาลัยก็ยังดำเนินต่อไป หลาย ๆ คนพากันถามถึงฟางชิวเพราะอยากรู้ข้อมูลของเขา ทุกคนต่างสนใจนักศึกษาหนุ่มที่รักความยุติธรรมคนนี้

แต่ฟางชิวไม่รู้เรื่องอะไรเลยแม้แต่น้อย

หลังจากที่ทานอาหารกลางวันเสร็จ ฟางชิวก็พักสักครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มอ่านหนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุดต่อ

“นี่เจ้าหนู… เป็นนายใช่ไหมที่เข้าไปขวางพวกคนไร้มารยาทเจ้าของรถเบนซ์ในข่าว?”

พอถึงบ่ายสามโมง หลังจากที่เขาเพิ่งจะทานมื้อกลางวันเสร็จ ซุนฮ่าว ผู้อายุมากเป็นลำดับที่สองในห้องพักถามฟางชิวพลางชี้ไปที่ภาพในเว็บบอร์ดข่าวของมหาวิทยาลัยจากในคอมพิวเตอร์

แม้ถูกถามอย่างนั้น แต่ฟางชิวก็ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากส่งยิ้มให้แล้วเบือนหน้ากลับไปอ่านหนังสือดังเดิม

ในห้องพักนี้มีนักศึกษาเข้าพักทั้งหมดสี่คน ตั้งชื่อเรียกกันตามลำดับอาวุโส เช่น เจ้าสาม เจ้าสี่ และเจ้าห้า แต่พวกเขาจะไม่ใช้คำว่า ‘เจ้าสอง’ เพราะคำนี้มันสามารถแผลงได้ว่า ‘เจ้าโง่’ ในภาษาจีน!

ดังนั้น ฟางชิวจึงจัดเป็นน้องเล็กสุดในห้องพักนี้

ซุนฮ่าวพูดขึ้นพลางดูหน้าเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัย “ยิ่งดูฉันยิ่งรู้สึกว่าต้องเป็นนาย”

โจวเสี่ยวเทียน เจ้าสี่ประจำหอพักที่กำลังนอนเล่นสมาร์ตโฟนบนเตียงอยู่ก็เบือนสายตามาทางฟางชิวแล้วถาม “เจ้าห้า ได้ยินว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นจะโชว์การเป่าฟลูตนี่นา เจ๋งว่ะ! นายซ่อนความสามารถนี้ไว้โคตรดีเลย โชว์ให้ดูหน่อยสิ!”

“นั่นสิวะ! ปิดไว้โคตรเนียน เล่นให้ฟังเดี๋ยวนี้เลย!”

ซุนฮ่าวเลิกสนใจคอมพิวเตอร์ของตัวเองก่อนจะเบือนหน้ามาทางฟางชิวด้วยแววตาเจ้าเล่ห์

จูเปิ่นเจิ้งที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ข้างหลังฟางชิวก็เป็นรูมเมตของห้องนี้เช่นกัน เขาหันมาทางฟางชิวอย่างเงียบ ๆ รอให้น้องเล็กสุดเล่นฟลูตให้ฟังด้วยใจจดจ่อ

“พวกนายนี่มัน… โอเค เล่นให้ดูรอบนึงก็ได้!”

เห็นแบบนี้แล้ว ฟางชิวจึงปิดหนังสือแล้วพูดต่อ “วันนี้ฉันจะให้พวกนายฟังเสียงเพลงที่มาจากธรรมชาติที่แท้จริง…”

“หืม…?”

รุ่นพี่ร่วมห้องพักทั้งสามพูดออกมาพร้อมกัน

ฟางชิวใช้เวลาสักครู่จัดระเบียบความคิดตัวเองเพื่อตั้งสมาธิ จากนั้นก็ตั้งท่าแล้วเริ่มบรรเลง

ห้านาทีต่อมา รุ่นพี่ทั้งสามต่างมีสีหน้านิ่งงันราวกับตกอยู่ในภวังค์

เมื่อเห็นดังนี้ ฟางชิวก็รู้ได้ทันทีว่าตัวเองไม่สามารถอยู่ในห้องพักได้นานกว่านี้แล้ว เขาจึงเก็บหนังสือใส่กระเป๋าแล้วเดินไปที่ห้องสมุด

ปัง!

เสียงประตูปลุกรุ่นพี่ทั้งสามตื่นจากภวังค์ ต่างคนต่างจ้องมองกันอย่างประหลาดใจ

ครู่ใหญ่ผ่านไป ซุนฮ่าวก็ถามขึ้น “พวกนายคิดว่าหลังจากคืนวันพรุ่งนี้ น้องเล็กของเราจะได้จดหมายรักกี่ฉบับกัน? มันจะเต็มห้องพักของเราเปล่า?”

จูเปิ่นเจิ้งและโจวเสี่ยวเทียนคิดอยู่แวบหนึ่งแล้วพยักหน้าตอบไป “แน่นอนว่าต้องได้เพียบ อาจจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำ!”

“โอ้มายก๊อด! ทำไมห้องพักของเราถึงมีเด็กอัจฉริยะขนาดนี้! ฟางชิวไม่ใช่แค่น้องเล็กธรรมดา ๆ แต่ยังเป็นคนที่มีเสน่ห์ที่สุดอีกต่างหาก!”

ซุนฮ่าวรู้สึกเสียเชิงของตัวเองไปในทันที เขากุมหน้าอกแล้วพูดว่า “ในอนาคตพวกเราจะหาแฟนได้ยังไง ดูหน้าตาของน้องเล็กสิ ไหนจะความสามารถเขาอีก รับรองสาวต้องติดตรึมแน่ ๆ! เดินเคียงข้างตอนไหนเราสามคนก็ได้แต่อยู่ในเงาของเขาเท่านั้นแหละ ไม่มีหญิงชายตาแลเราหรอก!”

ได้ยินซุนฮ่าวพูดดังนั้น จูเปิ่นเจิ้งและโจวเสี่ยวเทียนก็พร้อมใจกันพยักหน้า

ซุนฮ่าวดูเหมือนจะยังไม่พอใจ เขาจึงเสริมต่อว่า “ปล่อยไว้ไม่ได้! ดีล่ะ! ฉันจะให้เจ้าน้องเล็กสอนเป่าฟลูตมือ ถึงจะไม่เก่งเท่า แต่อย่างน้อยขอได้ทักษะของฟางชิวสักสามสิบเปอร์เซ็นต์ แค่นั้นก็หาสาวได้แล้ว!”

จูเปิ่นเจิ้งและโจวเสี่ยวเทียนพยักหน้าพร้อมกันอีกครั้งด้วยดวงตาเป็นประกาย

ในขณะที่ทั้งสามกำลังวางแผนการใหญ่อย่างลับ ๆ ฟางชิวก็กำลังเดินท่ามกลางสายฝนในเจียงหนาน

สายฝนโปรยปรายที่เจียงหนานให้ความรู้สึกแผ่วเบาราวกับผ้าฝ้าย ไม่ต้องบอกเลยว่าชายหนุ่มมีความสุขเพียงใด…

ในเวลาต่อมา ฟางชิวก็มาถึงโต๊ะเวียนของห้องสมุด มอบหนังสือและยื่นบัตรห้องสมุดให้กับบรรณารักษ์ชายวัยกลางคนที่ประตู

บรรณารักษ์จำฟางชิวได้ ชายหนุ่มคนนี้ยืมหนังสือแพทย์แผนโบราณไปเยอะมากนับตั้งแต่เริ่มเรียนเทอมแรก จึงไม่แปลกที่เขาจะจำได้

เมื่อเห็นฟางชิวคืนหนังสือทั้งหมดที่ยืมไปในช่วงเช้าที่ผ่านมา บรรณารักษ์ชายวัยกลางคนก็ยิ้มเยาะแล้วถามขึ้น “หนังสือยากเกินกว่าจะอ่านเข้าใจสินะ เธอเลยไม่อยากอ่านอีกจนต้องเอามาคืนเร็วแบบนี้?”

“ไม่เลยครับ…”

ฟางชิวส่ายหัวแล้วตอบ “ผมอ่านจบหมดแล้วต่างหาก”

“อ่านจบหมดแล้ว?”

หลังจากที่แยกหนังสือมาดูได้ครึ่งหนึ่ง บรรณารักษ์ชายก็มองมาที่ฟางชิวด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะหัวเราะออกมา “เจ้าหนู การโกหกเป็นสิ่งไม่ดีหรอกนะ”

ฟางชิวได้แต่ยิ้มไม่โต้ตอบอะไรกลับไป

หากแต่บรรณารักษ์วัยกลางคนยังคงไม่ยอมแพ้ เขาสุ่มหยิบหนังสือแล้วลูบอย่างอ่อนโยน จากนั้นจู่ ๆ ก็ถามขึ้น “หนึ่งนิ้วจากข้อต่อที่เจ็ดของด้านหลังเรียกว่าจุดชิกู เมื่อมันถูกตี เหยื่อก็จะคายเสมหะและเลือดเป็นเวลาสิบเดือนก่อนตาย ฉะนั้นต้องรักษาอย่างไร?”

ดวงตาของฟางชิวเป็นประกายขึ้น เขามองไปที่บรรณารักษ์ตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วตอบว่า “ขั้นแรกให้เติมซุป ใส่โต๋วต่ง*[1] ลงไปสามกรัม เหล้าสามกรัม เพียงเท่านั้นก็จะได้ยาสำหรับการรักษาแล้วสามหรือสี่โดส”

ในขณะที่ฟางชิวพูดอยู่นั้น เขาไม่สนใจหนังสือการจัดกระดูกที่บรรณารักษ์ผู้อยากลองภูมิถืออยู่เลย ตรงกันข้าม เขากลับดึงเอาหนังสือเกี่ยวกับ ‘การสั่งยาสำหรับรักษาบาดแผล’ ที่กองอยู่กับหนังสือแพทย์แผนจีนโบราณออกมาแทน เสร็จแล้วก็จ้องไปยังบรรณารักษ์ด้วยดวงตาเปล่งประกาย

เมื่อบรรณารักษ์เห็นหนังสือที่ฟางชิวเลือกหยิบออกมา ดวงตาก็เบิกโพลงขึ้นทันที

บรรณารักษ์ลุกขึ้นยืนด้วยสายตาตกใจ!

คำถามที่บรรณารักษ์ถามไม่ได้เกี่ยวกับการจัดกระดูก แต่เกี่ยวกับการสั่งยาสำหรับรักษาบาดแผล ที่แท้เป็นตัวเขาเองที่หยิบหนังสือผิดเล่ม!

เขาไม่เคยคาดหวังว่าฟางชิวจะตอบคำถามของเขาได้ ที่สำคัญ เด็กคนนี้ยังเลือกหนังสือได้ถูกเล่มด้วย!

“มหัศจรรย์มาก!”

ในตอนแรก เขามักจะกระตือรือร้นที่จะถามใคร ๆ เกี่ยวกับหนังสือ ในฐานะที่ตัวเขาทำงานเป็นบรรณารักษ์มาหลายปี นี่นับเป็นครั้งแรกเลยที่ได้พบกับนักศึกษาที่ฉลาดขนาดนี้!

“สำหรับผู้ชายนั้น ระบบไหลเวียนเลือดจะอยู่ทางซ้าย การรักษาร่างกายส่วนบนที่ได้รับบาดเจ็บจึงเป็นเรื่องง่าย แต่ยากที่จะรักษาร่างกายส่วนล่าง นั่นเป็นเพราะพลังหยางที่เพิ่มขึ้น แล้วสำหรับผู้หญิงล่ะ?”

ฟางชิวอธิบายเรื่องการรักษาอาการบาดเจ็บอย่างใจเย็น “สำหรับผู้หญิงนั้น ระบบไหลเวียนเลือดจะอยู่ทางขวา การรักษาอาการบาดเจ็บที่ร่างกายส่วนล่างเลยไม่ได้เป็นเรื่องยาก แต่จะยากสำหรับการรักษาร่างกายส่วนบน เพราะพลังหยินไหลเวียนสู่ร่างกายส่วนล่าง”

“แล้ววิธีรักษาล่ะ?” บรรณารักษ์วัยกลางคนถาม

ฟางชิวอธิบายต่อ “ขั้นตอนแรกให้แช่ซกซายิ้ง*[2] แล้วดื่มซุปที่มียาผงแกรนูลเข้าไป แล้วส่งเสริมพลังชี่*[3] และบำรุงการไหลเวียนของเลือด จากนั้นก็เติมเหล้าหวานและยารักษาแผลห้าเม็ด”

“ส่วนใหญ่หากบาดเจ็บที่ศีรษะจนมีปัญหาทางสมอง นับว่ายากที่จะการรักษา เพราะในส่วนกระดูกจะกลายเป็นสีเขียว แล้วถ้าส่วนอื่น ๆ ของกระดูกและเนื้อแตก จะมีวิธีการรักษายังไง?”

บรรณารักษ์ยังคงถามต่อไป

“ทายาในส่วนที่ได้รับบาดเจ็บ ดื่มซุปเสริมพลังชี่ที่มีส่วนผสมของยาจีนเข้าไปห้าถึงหกโดส เมื่อแผลหายดีแล้ว ให้ทานซุปเพื่อเสริมเลือดและพลังชี่ หากมีอาการบาดทะยัก กล้ามเนื้อเกร็ง หลังแอ่น ให้ดื่มยาจีนมังกรทันที”

ฟางชิวนำใบสั่งยาที่ไม่ค่อยมีใครรู้นักออกมา ใบสั่งยานั้นไว้สำหรับการรักษาอาการบาดเจ็บจากการหกล้ม

“สำหรับกระดูกแนวนอนที่อยู่ตำแหน่งเหนือหัวใจจากร่างกายส่วนล่างไปจนถึงส่วนบน คนที่ได้รับบาดเจ็บในข้อต่อแรกจะเสียชีวิตภายในหนึ่งปี หากบาดเจ็บในข้อต่อที่สองจะเสียชีวิตภายในสองปี และสุดท้าย บาดเจ็บในข้อต่อที่สามจะเสียชีวิตภายในสามปี จุดนี้เกี่ยวพันกับปอด ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บตรงส่วนนี้จะมีอาการอาเจียนเป็นเลือดและไอ หากบาดเจ็บสาหัสที่อกและหลังจะทำให้เกิดเสมหะ ร่างกายอ่อนแอลง หากบาดเจ็บที่เต้านมซ้ายจะทำให้เกิดอาการไอ และหากบาดเจ็บที่เต้านมขวาจะทำให้มีอาการสะอึก แล้วถ้าทั้งหน้าอกและบริเวณช่องท้องเจ็บทั้งคู่ จะมีวิธีรักษาอย่างไร?”

“ใช้ยาเม็ดหลี่ตงและยาเม็ดขี้ผึ้งสีเหลืองสามเม็ดปรับการทำงานของปอดครับ”

ฟางชิวอธิบายการรักษาอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ

“ฮ่า ๆ ไม่เลว!” บรรณารักษ์หัวเราะอย่างชื่นชม เขาทำแค่ถามคำถามสี่ข้อ แต่เด็กตรงหน้าเขากลับสามารถตอบคำถามได้ ไม่เพียงเท่านั้น ยังเลือกหนังสือทั้งสี่เล่มได้ตรงกับประเด็นคำถามซะด้วย!

แม้จะจงใจหยิบหนังสือผิดเล่มเพื่อให้ชายหนุ่มเข้าใจประเด็นคำถามแรกผิด แต่อีกฝ่ายก็ยังหยิบหนังสือที่ถูกต้องจนได้

นี่มันหมายความว่าอย่างไร?

มันหมายความว่าเจ้าหนุ่มนี่สามารถจำเนื้อหาของหนังสือได้ขึ้นใจเลยหรืออย่างไร?

ช่างเป็นเด็กที่ฉลาดอะไรอย่างนี้!

“คุณพอจะบอกผมหน่อยได้ไหมว่าคุณเป็นใคร?” ฟางชิวถามบรรณารักษ์วัยกลางคนกลับด้วยความเคารพ

ชายหนุ่มไม่เชื่อว่าชายวัยกลางคนตรงหน้าเขาจะเป็นเพียงบรรณารักษ์ธรรมดา เพราะชายคนนี้สามารถอ่านเนื้อหาในหนังสือแต่ละเล่มซ้ำ ๆ และรู้ว่าคำตอบของเขาผิดหรือถูก เพียงเท่านี้มันก็สื่อให้เห็นแล้วว่า คนตรงหน้าคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาแน่…

ความทรงจำของฟางชิวเกี่ยวกับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้เริ่มพรั่งพรูขึ้นมาในหัว แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงออร่าหรือคลื่นพลังของผู้บ่มเพาะกำลังภายในจากชายคนนี้เลย ถ้าหากเขาไม่สามารถสัมผัสถึงออร่าดังกล่าวนี้ได้ แล้วชายคนนี้คือใครกัน?

“ฉันก็เป็นเพียงแค่บรรณารักษ์ที่ทำงานดูแลห้องสมุดหาเลี้ยงชีพ เผอิญมีมันสมองฉลาดไปหน่อย มันก็เท่านั้นแหละ”

บรรณารักษ์วัยกลางคนพูดยิ้ม ๆ

ได้ยินแล้วฟางชิวก็ยังไม่ปักใจเชื่อ ดูแล้วบรรณารักษ์คงไม่อยากจะอธิบายอะไรต่อ เขาจึงไม่ถามอะไรอีก

แต่อย่างไรก็ตาม ฟางชิวก็ได้รู้แล้วว่าชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา เหมือน ๆ กับที่ชายตรงหน้าของเขาเองก็ได้ตระหนักแล้วว่า ตัวฟางชิวก็ไม่ใช่เด็กธรรมดาเช่นกัน

หลังจากที่ยื่นบัตรห้องสมุดคืนให้ฟางชิว บรรณารักษ์วัยกลางคนก็ก้มมองหนังสือการแพทย์แผนจีนโบราณพลางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดว่า “บนชั้นที่สามของโซนหนังสือเกี่ยวกับการจัดกระดูก ตรงชั้นล่างทางทิศใต้มีหนังสือเล่มที่แปดสิบสอง ชื่อเรื่อง ‘วิทยาการบาดเจ็บ’ อยู่ นับจากช่องเก็บหนังสือทิศตะวันออก”

“ครับ?”

ฟางชิวมองไปที่บรรณารักษ์ ไม่รู้ว่าควรทำอะไรต่อไป

“ถ้าเธอชอบอ่านหนังสือแพทย์แผนจีนโบราณเรื่องการจัดกระดูก แนะนำว่าให้อ่านเล่มนั้นแหละ”

หลังพูดจบ ชายวัยกลางคนก็ไม่สนใจฟางชิวอีก และหันกลับไปทำงานของตัวเองต่อไป

ฟางชิวมองดูชายวัยกลางคนอย่างครุ่นคิด พิจารณาคำแนะนำของอีกฝ่าย ก่อนจะเดินไปยังชั้นหนังสือ

บรรณารักษ์วัยกลางคนเองลอบมองฟางชิวด้วยความคาดหวัง

“อืม… แปดสิบ… แปดสิบเอ็ด… แปดสิบสอง!”

ตรงบริเวณที่ชายวัยกลางคนบอก ในที่สุดฟางชิวก็พบกับหนังสือที่มีหัวข้อเขียนว่า ‘วิทยาการบาดเจ็บ’

ในขณะที่หยิบหนังสือขึ้นมา ฟางชิวก็ยิ่งสับสนมากขึ้น เพราะมันดูราวกับว่า หนังสือเล่มนี้ไม่มีใครแตะมานานอย่างไรอย่างนั้น

‘ชายคนนั้นเป็นใครกันแน่?’

‘อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะทำตัวให้เหมือนบรรณารักษ์ปกติหน่อยได้ไหม?’

‘คงมีเพียงคนที่คุ้นเคยกับการใช้ห้องสมุดเท่านั้นที่สามารถบอกตำแหน่งที่แน่นอนของหนังสือให้กับฉันได้’

‘แล้วที่สำคัญ พวกบรรณารักษ์ส่วนใหญ่ทำไม่ได้หรอก’

ฟางชิวคิดอย่างสับสน เขาเริ่มเปิดหนังสือแล้วอ่านด้วยความระมัดระวัง และเมื่อได้อ่านเนื้อหาในนั้นแล้ว เขาก็รู้สึกได้ว่าหนังสือเล่มนี้ก็ไม่เห็นมีอะไรพิเศษเลย

มันก็ดูเหมือนพวกหนังสือแพทย์แผนจีนโบราณเกี่ยวกับโครงสร้างกระดูกนี่นา…

“ไม่เห็นน่าแนะนำให้ฉันเลย”

ชายหนุ่มบ่นอย่างเซ็ง ๆ แต่มือก็ยังคงพลิกหน้าหนังสือต่อไป และในขณะนั้นเอง ก็มีหน้าหนังสือหน้าหนึ่งหล่นลงมา!

ชายหนุ่มรีบเก็บมันขึ้นมาด้วยความเร็วผิดมนุษย์ หัวใจเต้นแรงและเร็วรัว

“พังหรือเปล่า?! หนังสือเก่าด้วย อาจจะมีอยู่แค่เล่มเดียวด้วยซ้ำ ฉันไม่มีปัญญาจ่ายค่าปรับด้วยเงินอันน้อยนิดในกระเป๋าหรอก!”

ชายหนุ่มดูหน้าหนังสืออีกรอบ จึงพบกับหน้าหนังสือว่างเปล่าดังเดิม ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของการฉีกขาด ฟางชิวเลยถอนหายใจด้วยความโล่งอก

อืม… ดูเหมือนกระดาษน่าจะมาจากหนังสือเล่มนี้

เมื่อฟางชิวสอดกลับเข้าไปในหนังสือเล่มเดิม นิ้วของเขาก็สัมผัสกับบริเวณตรงกลางของหน้าหนังสือ แล้วเขาก็ถึงกับนิ่งงันราวกับโดนไฟฟ้าช็อต

ฟางชิวจ้องมันด้วยความประหลาดใจกับหน้ากระดาษที่ว่างเปล่า

[1] โต๋วต่ง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Eucommia ulmoides) หรือในภาษาจีนกลางเรียก ตู้จ้ง ( 杜仲) เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กที่เป็นไม้พื้นเมืองของจีน มีปลูกทั่วไปในจีนเนื่องจากเปลือกไม้มีฤทธิ์เป็นยา และใช้ในตำรับยาจีน เปลือกไม้นั้นใช้เป็นยาบำรุงตับไต ภายนอกเป็นสีน้ำตาลอ่อน ผิวหยาบ ด้านในเรียบสีม่วงเข้ม มียางขาว

[2] ซกซายิ้ง (缩砂仁) ผลสุกแห้งของพืชชนิดหนึ่งที่ช่วยสลายความชื้น ช่วยให้การไหลเวียนของพลังปราณดีขึ้น อุ่นจงเจียว ระงับอาเจียน บรรเทาอาการท้องเสีย กล่อมครรภ์

[3] พลังชี่ หมายถึงพลังชีวิต (ตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน) ที่ไหลเวียนไปมาในร่างกายเป็นรูปแบบของพลังงานในสิ่งมีชีวิต

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน