คุรุการแพทย์ – บทที่ 19 ผมไม่เชื่อใจคุณ!

คุรุการแพทย์

บทที่ 19 ผมไม่เชื่อใจคุณ!

บทที่ 19 ผมไม่เชื่อใจคุณ!

“อะไรนะ?”

เจียงเหมี่ยวอวี๋ไม่เข้าใจ

แล้วไม่นาน เธอก็รู้แล้วว่าฟางชิวพูดหมายความว่าอย่างไร เขาเริ่มทำอะไรบางอย่างที่ทำให้สีหน้าของเธอขึ้นสี

นี่มันเป็นครั้งแรกที่มีผู้ชายมาจับขาของเธอ

ฟางชิววางมือซ้ายที่เท้าซ้ายของเจียงเหมี่ยวอวี๋ และมือขวาที่เท้าขวาของเธออย่างอ่อนโยน

สัมผัสสัมบูรณ์!

เขาต้องการจะใช้ทักษะ ‘สัมผัสสัมบูรณ์’ เพื่อที่จะได้รู้แน่ชัดว่าเจียงเหมี่ยวอวี๋บาดเจ็บที่ส่วนไหนของเท้า

ด้วยทักษะการสัมผัสจากนิ้วของเขา ภาพสองภาพก็ปรากฏขึ้นในใจของฟางชิว

หลอดเลือด… กล้ามเนื้อ… และกระดูก เขาเริ่มมองเห็นมันบางส่วนแล้ว!

“นี่นายทำอะไรอยู่น่ะ? ใครบอกให้นายทำกัน!”

หลี่ชิงสือเพิ่งกลับมา

เขาเดินแหวกฝ่าฝูงชนมาทางฟางชิวแล้วถามด้วยความเกรี้ยวกราด “ก่อนที่ฉันจะไป ฉันสั่งไว้ว่าห้ามใครขยับหรือทำอะไรเด็ดขาด นี่นายไม่ได้ยินเลยหรือไง?!”

ฟางชิวเงยหน้ามองหลี่ชิงสือที่กำลังโกรธ

สิ่งนี้ยิ่งทำให้หลี่ชิงสือรู้สึกหงุดหงิดกว่าเดิม เขาผลักไหล่ของฟางชิวออกไป!

ทันทีที่เขาแตะไหล่ของฟางชิว เขาก็ต้องตกใจมาก เพราะไหล่ของอีกฝ่ายนั้นหายไป ราวกับเขากำลังผลักอากาศ!

หลี่ชิงสือกัดฟันด้วยความเหลือเชื่อ เขายังคงพยายามผลักไหล่ของฟางชิวหลายครั้ง แต่ทุก ๆ ครั้งสิ่งที่เขาสัมผัสได้ก็มีแต่อากาศ

ฝูงชนถึงกับสับสนเมื่อเห็นสิ่งที่หลี่ชิงสือทำ

“เขาทำอะไรน่ะ?”

“ผลักอากาศมันสนุกมากเหรอ?”

ฟางชิวเยาะเย้ย เขายังคงเบี่ยงไหล่ของตัวเองไปข้างตรงข้ามทุกครั้งเมื่อมือของหลี่ชิงสือใกล้โดนเขา ดังนั้นจึงเท่ากับว่าหลี่ชิงสือผลักอะไรไม่ได้เลย

หากคนธรรมดาสามารถสัมผัสเขาได้ทัน การฝึกกำลังภายในของเขาก็ไร้ประโยชน์!

“อย่ามัวแต่เถียงกันอยู่ตรงนี้เลย! อาการบาดเจ็บเป็นเรื่องเร่งด่วนยิ่งกว่า ให้ฉันดูหน่อยซิว่ามีเรื่องอะไร?!”

หลี่ชิงสือกลับมาตั้งสติของตัวเองอีกครั้งแล้วรีบเบี่ยงตัวเองออกไป เขาชี้ไปที่ชายวัยกลางคนรูปหล่อคนหนึ่งที่มีอายุประมาณสามสิบห้าปีแล้วพูดว่า “นี่คืออาจารย์เสิ่น ผู้อำนวยการแพทย์ด้านศัลยกรรมกระดูกจากโรงพยาบาลในเครือของมหาวิทยาลัยของเรา”

ผู้อำนวยการแพทย์ด้านศัลยกรรมกระดูก เสิ่นชุน หรืออาจารย์เสิ่น!

คนรอบ ๆ ที่รู้จักเขาต่างอุทานออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

ตอนพวกเขาเข้ามหาวิทยาลัยมา ทุก ๆ คนล้วนได้ยินเรื่องของบุคคลสำคัญในมหาวิทยาลัยจากอาจารย์ประจำชั้นของตัวเอง

และหนึ่งในบุคคลสำคัญของมหาวิทยาลัยนี้ก็คือ อาจารย์จากคณะศัลยกรรมกระดูก เสิ่นชุน หรือ อาจารย์เสิ่น!

ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงอาจารย์นักบรรยาย และไม่ใช่รองศาสตราจารย์หรือศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย แต่ความรู้เกี่ยวกับศัลยกรรมกระดูกของเขาจัดว่าเป็นอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิงเลยก็ว่าได้

นี่มันเป็นความจริง!

เขามีป้ายขอบคุณของผู้ป่วยแขวนไว้ทั่วคลินิกของสาขาศัลยกรรมกระดูก แต่น่าแปลกที่ทำไมคนที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ถึงไม่ได้รับการเลื่อนขั้นให้ขึ้นเป็นรองศาสตราจารย์ แต่เป็นเพียงอาจารย์นักบรรยายเฉย ๆ?

มันมีเรื่องอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่? กระนั้นเหล่าอาจารย์ประจำชั้นก็ไม่เคยเล่าเรื่องนี้เลย

“ฉันเจออาจารย์เสิ่นตอนที่ฉันโทรหาคนอื่นขอความช่วยเหลือ อาจารย์เสิ่นบังเอิญเดินมาพอดี พอได้ยินว่ามีคนบาดเจ็บ เขาก็รีบมาเลย!” หลี่ชิงสืออธิบายก่อนจะหันไปพูดกับเสิ่นชุน “อาจารย์เสิ่น รบกวนด้วยครับ”

อาจารย์เสิ่นยิ้มบาง ๆ แล้วส่ายหัว

“เฮ้ย นายน่ะ ช่วยหลบไปด้วย” หลี่ชิงสือพูดกับฟางชิวอย่างเย็นชา

ฟางชิวยืนขึ้นแล้วหลบทางให้

เขาได้ตรวจสอบและรู้อาการเจ็บข้อเท้าของเจียงเหมี่ยวอวี๋แล้ว

เธอไม่ได้เจ็บที่เอ็นเท่านั้น กระดูกข้อเท้าของเธอก็เคลื่อนเล็กน้อยด้วย

แล้วฟางชิวก็รู้วิธีจัดการกับอาการนี้

ฟางชิวลุกขึ้นแล้วหลบทางเพื่อสังเกตดู ถ้าอาจารย์เสิ่นชุนสรุปอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าของเจี่ยงเหมี่ยวอวี๋ได้เหมือนกับเขา แสดงว่าทักษะสัมผัสสัมบูรณ์ของเขานั้นแม่นยำ!

อาจารย์เสิ่นตรวจดูแล้วพูด “ไม่มีอะไรมาก แค่เท้าแพลง มีอาการบาดเจ็บที่เอ็นและข้อเท้าเคลื่อนเล็กน้อย เดี๋ยวฉันจะจัดกระดูกให้ พักสักหน่อยเธอก็น่าจะดีขึ้นแล้ว…”

ฟางชิวพยักหน้า

อย่างที่คิดไว้เลย อาจารย์เสิ่นวิเคราะห์ได้ตรงกันกับเขา

สิ่งนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า ทักษะสัมผัสสัมบูรณ์ของเขานั้นแม่นยำมาก!

“ฉันจะรักษาเธอเดี๋ยวนี้”

เสิ่นชุนพูด จากนั้นเขาก็จับข้อเท้าขวาของเจียงเหมี่ยวอวี๋ จากนั้นยื่นมืออีกข้างไปสัมผัสใบหน้าซีดเซียวของเธอเพื่อทำการรักษา

แต่จู่ ๆ ก็มีมือมาแตะที่แขนซ้ายของเขาขณะที่กำลังจะขยับตัว

เสิ่นชุนรู้สึกว่ามือที่จับนี้เหมือนกับคีมขนาดใหญ่ที่กำลังหนีบเขาอยู่ และไม่สามารถขยับได้เลย

“แรงเยอะอะไรปานนั้น!”

เสิ่นชุนผงะ เขามองไปที่เจ้าของมือผู้จับแขนซ้ายตนอยู่ด้วยความสับสนงุนงงเล็กน้อย เป็นฟางชิวนั่นเอง

“ผมไม่สามารถเชื่อคุณได้!”

ฟางชิวมองไปที่เสิ่นชุนด้วยสายตาเย็นชา

“ว้าววว!!!”

ความวุ่นวายเริ่มมาเยือน!

“ผมไม่เชื่อใจคุณ!”

มันเป็นอะไรที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ฟางชิวกล้ามีข้อกังขากับผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูกที่กำลังจะรักษาเจียงเหมี่ยวอวี๋!

“โคตรกล้าเลยแฮะ!”

“กล้าเกิ๊นน!”

“เขากล้าที่จะตั้งคำถามกับอาจารย์เสิ่น!”

ในขณะที่ทุก ๆ คนกำลังชื่นชมและอึ้งทึ่งกับความกล้าหาญของฟางชิว พวกเขาก็รู้สึกว่าฟางชิวไม่มีเหตุผลเช่นกัน

“ฟางชิว! ทำบ้าอะไรของนายห้ะ?! อย่ามาขวางการรักษาของอาจารย์เสิ่นนะ! นายจะปล่อยให้เจียงเหมี่ยวอวี๋ทรมานต่อไปเหรอ ถอยไปเดี๋ยวนี้!”

หลี่ชิงสือตะคอกและยื่นมือออกไปจะผลักแขนฟางชิวอีกรอบ

แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามผลักอีกฝ่ายแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถสัมผัสตัวฟางชิวได้เลย!

“ปล่อยมือจากเขานะ!”

หลี่ชิงสือยังคงพยายามผลักอีกฝ่ายจนเหนื่อยหน้าแดงไปหมด แต่เขาก็ยังไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้

คนที่ดูอยู่รอบ ๆ ต่างรู้สึกประหลาดใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า

เจียงเหมี่ยวอวี๋มองมาที่ฟางชิวด้วยความตกใจเช่นกัน

“ทำไมเขาถึงพูดแบบนั้นกัน?”

“ทำไมเขากล้ากังขากับทักษะของผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมกระดูก?”

เธอกำลังรู้สึกสับสน

เสิ่นชุนมองฟางชิวด้วยความตกใจ เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีคนกล้าหยุดขวางการรักษาของตัวเอง

ตลอดหลายปีของการรักษาคนไข้มา นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีใครสักคนพูดว่า ‘ไม่เชื่อใจ’

แล้วอีกฝ่ายยังเป็นเพียงเด็กใหม่ซะด้วย

เหตุการณ์นี้มันทำให้เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น

“เจ้าหนู ฉันเป็นผู้อำนวยการแพทย์ด้านศัลยกรรมกระดูกจากโรงพยาบาลในเครือของมหาวิทยาลัยของเรา และต่อไปจะมีโอกาสได้สอนพวกเธอในฐานะอาจารย์ด้านการศัลยกรรมกระดูกในอนาคต เธอไม่ควรจะสงสัยในทักษะการรักษาของฉันนะ”

“…แล้วตอนนี้ที่นี่ก็ไม่มีหมอคนอื่น ๆ อยู่เลย ปล่อยให้ฉันได้รักษาดีกว่า เจ้าหนู ผู้หญิงคนนี้กำลังทรมานจากอาการบาดเจ็บนะ เธอจะปล่อยให้ฉันทำการรักษาได้หรือยัง?”

แต่ฟางชิวก็ยังส่ายหัวช้า ๆ

เขาไม่เชื่อใจผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ตรงหน้า

ด้วยเทคนิคการจัดกระดูกและการสรุปผลลัพธ์ของอาจารย์เสิ่นนั้น ฟางชิวรู้ว่าอาจารย์เสิ่นสมควรเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูก แต่เขาได้รู้อะไรบางอย่างเข้า

อาจารย์เสิ่นอาจจะรักษาเธอได้ แต่ฟางชิวก็รู้สึกมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าอีกฝ่ายอาจเคลื่อนย้ายกระดูกอย่างไม่เหมาะสม

สำหรับกรณีนี้ เขาเชื่อใจได้แค่ตัวเองเท่านั้น!

“เจ้าหนู… เธอเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลนะ ถ้าเธอไม่ปล่อยให้ฉันทำการรักษา แล้วใครล่ะที่จะรักษาได้? ใจเธอทำด้วยอะไรกัน ถึงจะปล่อยให้คนเจ็บทรมานอยู่แบบนี้?”

อาจารย์เสิ่นขมวดคิ้ว

“ผมเอง!” ฟางชิวพูด

“!!!”

ทุกคนต่างพากันช็อกตาตั้ง

ไม่มีใครคิดมาก่อนว่าฟางชิวจะพูดออกมาแบบนี้

พวกเขาไม่รู้ว่าจะตัดสินการกระทำของฟางชิวอย่างไรดี?

“สมองกลับแล้วหรือยังไง?”

“โดนลาเตะมาหรือไงถึงพูดอะไรโง่ ๆ ออกมาแบบนั้น?!”

“สมองเขาไปแล้วเหรอ?!”

“ฉันรู้วิธีรักษานะ ฉันอยากจะรักษาเธอ โอเคไหม?” ฟางชิวถามพร้อมกับมองไปที่เจียงเหมี่ยวอวี๋

เจียงเหมี่ยวอวี๋ไม่พูดอะไร ขณะที่หลี่ชิงสือนั้นมีแววตาเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด

หลี่ชิงสือชี้นิ้วใส่ฟางชิวแล้วตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว “นายคิดว่าตัวเองเป็นใครกันฟางชิว? นายจะรักษาขาของเธอเหรอ? ถ้าหากล้มเหลวขึ้นมาล่ะ? ไปให้พ้นซะ! ได้ยินไหม?!”

แต่ฟางชิวไม่สนใจหลี่ชิงสือแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เขาทำเพียงมองเจียงเหมี่ยวอวี๋แล้วถามเธอ “เธอเชื่อใจฉันไหม?”

“เชื่อใจฉันไหม?”

เจียงเหมี่ยวอวี๋ดูมีท่าทางลังเลอย่างเห็นได้ชัด

เธอรู้ดีว่าอีกฝ่ายสามารถจัดกระดูกได้ แต่เขามีความสามารถในการรักษาอาการข้อเท้าเคล็ดของเธอเหรอ?

เธอไม่แน่ใจ…

แล้วที่นี่ก็มีผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดกระดูกอยู่ด้วย ดังนั้นเธอจึงไม่เชื่อว่าฟางชิวจะมีทักษะการรักษาที่เหนือกว่าอาจารย์เสิ่น

แต่ฟางชิวก็ยังคงถาม

“จะปฏิเสธหรือเปล่า?”

หลี่ชิงสือยังคงมองไปที่เทพธิดาของเขาด้วยความเป็นกังวล เขากังวลมากว่าหญิงสาวจะตอบว่าเชื่อใจอีกฝ่าย

ความสัมพันธ์และความเชื่อใจแบบไหนกันที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งฝากบาดแผลไว้ให้ผู้ชายคนหนึ่งได้?

นี่มันไม่ใช่ความสัมพันธ์ธรรมดา ๆ ระหว่างนักศึกษาแน่ ๆ!

เจียงเหมี่ยวอวี๋เป็นของเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเชื่อและฝังลึกในใจตัวเองนานแล้ว!

เขาจะไม่ปล่อยให้ไอ้เวรหน้าไหนมาแตะตัวเธอได้!

รวมถึงจะไม่ปล่อยให้ใครหน้าไหนมาเข้าใกล้เธอมากกว่าเขาเด็ดขาด!

ฝูงชนรอบตัวต่างมองไปที่ฟางชิวกับเจียงเหมี่ยวอวี๋ด้วยความประหลาดใจ พวกเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทั้งสองคน

แต่พวกเขากำลังรอคำตอบจากเจียงเหมี่ยวอวี๋ “เธอเชื่อใจเขาหรือเปล่า?”

อาจารย์เสิ่นในฐานะที่เป็นผู้สังเกตการณ์ เขามองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าตัวเอง

ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงตัวเองสมัยวัยรุ่น

แล้วเขาก็พบว่าเหตุการณ์ตรงหน้านั้นมีอะไรน่าสนใจมากอยู่

“เชื่อฉันไหม?”

เจียงเหมี่ยวอวี๋ยังคงนิ่งเงียบ

หนึ่งวินาที…

สองวินาที…

ห้าวินาทีผ่านไป…

ความเงียบนี้ทำให้รู้สึกแย่เป็นบ้า

สิบวินาทีผ่านไป…

ยี่สิบวินาทีผ่านไป…

เจียงเหมี่ยวอวี๋ยังคงเงียบ…

หรือบางที… ความเงียบของเธอเป็นคำตอบกันนะ?

ฟางชิวค่อย ๆ ยิ้ม เผยความอ้างว้างเศร้าสร้อยพร้อมกับค่อย ๆ คลายมือออกจากเธอช้า ๆ

หัวใจของเจียงเหมี่ยวอวี๋สั่นไหว เธออดไม่ได้ที่จะโพล่งออกมา “ฉันเชื่อใจเธอ”

ฟางชิวจับเท้าของเธอไว้อีกครั้ง

กระดูกของเธอเริ่มถูกจัดเรียงใหม่อีกครั้ง

“รักษาเรียบร้อยแล้ว”

ฟางชิววางเท้าของเจียงเหมี่ยวอวี๋ลงบนรองเท้าของเธอ จากนั้นก็ลุกขึ้นจากไป

ทุกคนไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบรับกับเหตุการณ์ตรงหน้า รวมทั้งเจียงเหมี่ยวอวี๋ด้วย

“จู่ ๆ ก็ทำได้ไง?”

“ทำไมจู่ ๆ เธอก็หายดีแล้ว?”

“มันเกิดขึ้นเร็วมากเลยใช่ไหม?”

มีเพียงเสิ่นชุนเท่านั้นที่ตาเบิกโพลง

“เทคนิคนี้… สุดยอดมาก!”

เสิ่นชุนรีบก้าวมาข้างหน้าแล้วตรวจสอบว่าเจียงเหมี่ยวอวี๋ดีขึ้นแล้วจริง ๆ! เขาพูดกับหญิงสาวที่กำลังงุนงงว่า “เท้าของเธอดีขึ้นแล้วจริง ๆ เอ็นข้อเท้าที่เจ็บอยู่นั้นรอแค่ให้มันฟื้นตัวเท่านั้น พยายามอย่าใช้การมันเยอะ พักฟื้นดี ๆ ล่ะ”

เขาพูดก่อนจะเดินฝ่าฝูงชนเพื่อไล่ตามฟางชิวไป

“ดีขึ้นแล้ว?”

ทุกคนต่างพากันงุนงง

“ดีขึ้นแล้วจริง ๆ เหรอ?”

“เขาทำให้มันหายได้ยังไง?”

“เจ้าหมอนั่นจัดกระดูกได้เหรอ?”

พวกเขายังคงไม่เชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดกระดูกอย่างอาจารย์เสิ่นยืนยันเองเลยว่าอาการบาดเจ็บของเจียงเหมี่ยวอวี๋ดีขึ้นแล้วจริง ๆ

อีกทั้งความจริงก็ประจักษ์แก่สายตาของทุกคนแล้ว พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเชื่อมัน!

“นี่มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าหมอนั่นไม่ได้ขี้โม้ ไม่ได้ดีแต่ปาก เขามีความสามารถจริง ๆ!”

“เขาคือผู้เชี่ยวชาญ! เป็นอัจฉริยะ!”

“แค่คำพูดไม่กี่คำและการกระทำของเขา เท้าของเธอก็ดีขึ้นเลย!”

“โคตรเจ๋ง!!”

เจียงเหมี่ยวอวี๋มองดูข้อเท้าของตัวเองและไม่ตอบสนองอะไรเลยเป็นเวลานาน

เธอดูจะมีความสุขจนล้นใจ ทว่าก็ยังรู้สึกสงสัยอะไรบางอย่างเล็กน้อย

เธอรู้สึกดีมากที่เชื่อใจฟางชิว!

แต่เธอก็ยังสงสัยว่าฟางชิวจงใจเบี่ยงเบนความสนใจของเธอเหมือนคราวที่แล้วหรือเปล่า?

หลี่ชิงสือในตอนนี้เองก็มีสีหน้าบิดเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าไอ้ฟางชิวที่เพิ่งเข้ามามหาวิทยาลัยจะมีความสามารถมากมายและดีขนาดนี้

“ร้องเพลงเก่ง…”

“เล่นดนตรีก็เก่ง…”

“แล้วไหนจะจัดกระดูกได้อีก!”

หลี่ชิงสือรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังเจอกับหายนะ

เขาเชื่อแล้วว่าฟางชิวได้ทำคะแนนประทับใจกับเจียงเหมี่ยวอวี๋เป็นอย่างมาก ถึงมันจะไม่ใช่การกระทำของฮีโร่ที่อยากจะช่วยสาวงาม แต่มันก็เกือบจะเป็นแบบนั้นไปแล้ว…

ไม่มีอะไรจะน่าตกใจไปกว่าการที่มันให้ความช่วยเหลือเจียงเหมี่ยวอวี๋ ในตอนเธอกำลังเดือดร้อน นี่มันพล๊อตหนังของซูเปอร์ฮีโร่ที่ไปช่วยนางเอกสาวงามชัด ๆ!

“ไม่!!”

หลี่ชิงสือจะต้องหาทางทำคะแนนกับเทพธิดาของเขาให้ได้!!!

รูมเมตตัวแสบของฟางชิวทั้งสาม จูเปิ่นเจิ้ง ซุนฮ่าว และโจวเสี่ยวเทียนมองหน้ากันและกันด้วยความช็อกตาตั้ง

“ดูเหมือนเจ้าห้าจะซ่อนความลับอย่างอื่นอย่างที่พวกเราเคยคิดไว้นะ”

“แถมมีความสามารถด้านการจัดกระดูก แล้วก็ไม่เคยบอกพวกเรา…”

“ผู้ชายคนนี้กำลังทำตามความคิดของตัวเองจริง ๆ!”

“ฉันชักอยากรู้แล้วสิว่าเจ้าหมอนี่ยังมีความสามารถอะไรอีก?!”

คนอื่น ๆ รีบพากันช่วยประคองเจียงเหมี่ยวอวี๋ไปที่ห้องพยาบาลเพื่อรักษาอาการบวมและอาการเจ็บปวด

ขณะเดียวกัน ในอีกด้านหนึ่ง เสิ่นชุนกำลังวิ่งตามฟางชิว

“เจ้าหนู รอเดี๋ยว!!”

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท