คุรุการแพทย์ – บทที่ 35 กอบกู้! ฟางชิวผู้อยู่บนเวที!

คุรุการแพทย์

บทที่ 35 กอบกู้! ฟางชิวผู้อยู่บนเวที!

บทที่ 35 กอบกู้! ฟางชิวผู้อยู่บนเวที!

“…หมั่นเรียนรู้…”

“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม…”

“สิ่งที่เราเรียนรู้…”

“สามารถสร้างความมั่นใจให้เราเสมอ…”

“ทวนหนังสือ…”

“…มีประโยชน์ทุกครั้งที่มีสอบ…”

“อย่างน้อยก็รู้ว่าไม่เข้าใจอะไร…”

หลี่ชิงสือเดินร้องเพลงมาจากอีกฝั่งหนึ่ง

“ร้องเพลงไม่เห็นจะเก่ง! แย่กว่าเจ้าห้ามาก!”

ซุนฮ่าวแซะอย่างฉุนเฉียว เขาเกลียดนักพวกที่ชอบหาแสงให้ตัวเอง โดยเฉพาะคนที่เป็นศัตรูของหอพักของพวกเขาแบบนี้ด้วย

“ใช่แล้ว ฟังไม่เห็นเข้าใจ นี่มันร้องเพลงบ้าอะไร!”

โจวเสี่ยวเทียนวิจารณ์หลี่ชิงสือเช่นกัน

ฟางชิวยิ้มและไม่พูดอะไร

เขารู้ว่าเพื่อนร่วมห้องของเขากำลังสู้เพื่อเขา

พูดตามตรง แม้ว่าเขารู้สึกละอายกับนิสัยของหลี่ชิงสือ แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าการออกเสียงภาษาจีนกวางตุ้งของหลี่ชิงสือตรงตามมาตรฐานมาก

ประธานนักศึกษาคนนี้ร้องเพลงได้ดีทีเดียว

สี่นาทีต่อมา การเต้นรำเปิดและเพลงเปิดพิธีก็จบลงด้วยเสียงปรบมือเกรียวกราว

“จ่ายค่าเล่าเรียนที่ลืมไม่ลง…”

“ปีถัดไปที่ไร้ซึ่งความหยาบคาย…”

“พรุ่งนี้มักเป็นเทอมใหม่ของเราเสมอ…”

“ชั่วชีวิตคนเรา…”

ในตอนท้ายของเพลง เจียงเหมี่ยวอวี๋ หลี่ชิงสือ รวมทั้งกลุ่มนักเต้นได้โค้งคำนับผู้ชมอย่างสุดซึ้งแล้วออกจากเวทีอย่างรวดเร็ว

ฟางชิวยิ้มในขณะที่เขามองไปที่เจียงเหมี่ยวอวี๋ที่กำลังออกจากเวที

ทำได้ดีเลย

ดีกว่าครั้งแรกที่ร้องเพลงด้วยกันเสียอีก สองวันที่ผ่านมาคงเตรียมตัวหนักน่าดู

ตอนที่เจียงเหมี่ยวอวี๋ลงจากเวที เธอเหมือนจะรู้ตัวว่ากำลังถูกมอง

สายตาของเธอและฟางชิวประสานตากัน

ฟางชิวยกนิ้วให้เธอพร้อมกับมองมาดวงตาราบเรียบเงียบสงบคู่เดิม

เจียงเหมี่ยวอวี๋คลี่ยิ้มอย่างมีความสุขแล้วพยักหน้าให้ จากนั้นก็ตามทุกคนลงจากเวที

การแสดงลำดับแรกสิ้นสุดลง ลำดับที่สองเป็นการแสดงศิลปะการต่อสู้แบบกลุ่ม พวกเขาปรากฏขึ้นตัวพร้อมกัน

หมัดที่แสดงออกมาช่างทรงพลังน่าประทับใจจริง ๆ

ฟางชิวสังเกตว่าเฉินชงเอาแต่ขมวดคิ้วขณะดูการแสดงศิลปะการต่อสู้

ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

การแสดงไม่ใช่การต่อสู้ที่แท้จริง เฉินชงไม่อาจบังคับอะไรมากเกินไปได้

การแสดงลำดับที่สามเป็นการร้องประสานเสียงโดยอาจารย์ดนตรีสามคน เพลงที่ใช้ร้องคือเพลงประจำมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง ‘The Great Doctor Sincerely’

แม้ว่าการขับร้องแบบเบลแคนโต*[1] จะฟังไม่ค่อยได้อรรถรส แต่ทุกคนก็ปรบมือให้อย่างอบอุ่นให้กับอาจารย์ทั้งสามคนและเพลงประจำมหาวิทยาลัยของเขาเอง!

การแสดงลำดับที่สี่ผ่านไป…

ผ่านไปครึ่งงานแล้ว

สิ่งที่ทำให้ฟางชิวงงงวยก็คือหลิวเฟยเฟยคนสวยยังไม่ปรากฏตัว

ก่อนที่เขาจะคิดเรื่องนี้ได้ หลิวเฟยเฟยก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้านักศึกษาห้องสาม จากนั้นก็ลากเขาออกไป

“ฟางชิว ไปกับฉัน!”

เมื่อมองไปที่จูเปิ่นเจิ้ง ซุนฮ่าว และโจวเสี่ยวเทียนที่อยู่ข้าง ๆ ทุกคนก็ตกตะลึงไม่ต่างกัน

เกิดอะไรขึ้นกัน?

“อาจารย์ มีอะไรหรือเปล่าครับ”

ฟางชิวยังคงงงงวย ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“เกิดเรื่องแล้ว เธอต้องช่วยฉัน!”

พูดไปหลิวเฟยเฟยก็ลากฟางชิวไปที่ประตูถัดจากเขาแล้วออกจากสนามกีฬาโดยไม่หันกลับมามอง

ออกมาข้างนอกแล้วฟางชิวก็ถามว่า

“อาจารย์ครับ เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

ได้ยินเช่นนี้แล้ว หลิวเฟยเฟยก็ถอนใจหายใจเฮือกใหญ่ เอ่ยเสียงอ่อนแรงว่า “น้องสาวของฉันมีประจำเดือน! เธอปวดท้องจะตายอยู่แล้ว ฉันพยายามจะช่วยเธอแล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้เลย”

“อีกสองการแสดงก็ถึงตาเธอแล้ว เธอบอกว่าเธอขึ้นไม่ไหวแน่ ๆ อาจารย์ที่ดูแลการแสดงวุ่นวายกันไปหมด”

“ปัญหาคือเราบอกไปแล้วว่าจะแสดงอะไร ลบการแสดงนี้ออกเลยคงไม่ได้ ไม่งั้นการแสดงข้างหลังก็จะมั่วไปหมด เราทำได้แค่หาคนมาแทน แต่เวลาน้อยขนาดนี้ก็หาไม่ได้เลย เมื่อกี้เจียงเหมี่ยวอวี๋เลยแนะนำคนที่อาจช่วยได้มา”

สายตาของหลิวเฟยเฟยจับจ้องไปที่ฟางชิว

นั่นก็ชัดเจนแล้วว่า

“คงไม่ใช่ผมหรอกนะ?”

ฟางชิวตกใจ

ไม่ตลกเลย!

พิธีเปิดที่ผู้นำทั้งโรงเรียนและน้องใหม่ทุกคนให้ความสนใจแบบนี้

มีเวลาให้เขาเตรียมตัวไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ ถ้าพลาดขึ้นมาจะเป็นอย่างไร?

“ฉันรู้ว่ามันยาก แต่ฉันไม่มีทางเลือกแล้ว”

หลิวเฟยเฟยถอนหายใจแล้วพูดต่อ “งั้นฉันถามหน่อย เธอจะร้องเพลง ‘เชิญดื่มสุรา’ ได้ไหม”

ฟางชิวพยักหน้าตามความจริง แต่ก็อธิบายต่อว่า “ได้ครับ แต่เพลงนี้มีหลายเวอร์ชัน เวอร์ชันที่ผมรู้อาจจะไม่ใช่เวอร์ชั่นเดียวกับที่ทุกคนร้อง!

“ไม่มีแต่!”

หลิวเฟยเฟยพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “ยังไงเนื้อเพลงก็เหมือนกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคือเวลากระชั้นชิดแบบนี้ ไม่มีใครขึ้นเวทีได้แล้วนอกจากเธอ เธอเหมาะสมที่สุดแล้ว!”

“คืนนั้นเธอยังขึ้นไปร้องได้เลย คนอื่นก็อยากฟังอีกทั้งนั้น เธอกอบกู้สถานการณ์ได้แน่!”

“สาวน้อยที่เดือดร้อนเป็นรุ่นน้องจากบ้านเกิดของฉัน ถ้ามีปัญหาในพิธีเปิด เธอต้องถูกประณามแน่ ๆ อาจารย์ที่แนะนำให้แสดงก็เป็นคนที่ฉันรู้จัก ถ้ามีปัญหาก็คงถูกลงโทษ ฟางชิว เธอจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปใช่ไหม”

ฟางชิวยังคงลังเลใจ

นี่มันมากเกินไปจริง ๆ

เพราะถ้าขึ้นเวทีไปแล้วเขาจะทำอะไรผิดพลาดไม่ได้

หลิวเฟยเฟยเห็นว่าฟางชิวลังเลเลยกล่าวเสริมว่า “ฟางชิว ฉันไม่ได้อยากสร้างปัญหาให้เธอหรอก ฉันรู้ว่าเธอทำได้เลยมาหา เจียงเหมี่ยวอวี๋เองก็แนะนำเธอ ถ้าช่วยฉัน ฉันจะไม่ลืมบุญคุณเลย”

“ยังไงตอนนี้เธอก็ควรอยู่บนเวทีไม่ใช่เหรอ เธอโดนแย่งการแสดงไป และทำได้แค่มองดู ไม่อยากพิสูจน์ตัวเองบนเวทีเหรอ?”

“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพิสูจน์ตัวเองต่อหน้าเจียงเหมี่ยวอวี๋ ทำให้หลี่ชิงสือเห็นว่าเธอดีกว่าเขา!”

หลิวเฟยเฟยรู้ว่ามีปัญหาระหว่างฟางชิวและเจียงเหมี่ยวอวี๋เกิดขึ้น

หลี่ชิงสือและฟางชิวเหมือนเสือสองตัวที่อยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ ตอนนี้มีเรื่องขุ่นเคืองใจจนประนีประนอมกันไม่ได้ มีความเป็นไปได้เดียวเท่านั้นที่จะช่วยได้นั่นคือเจียงเหมี่ยวอวี๋

พิสูจน์ตัวเอง?

พิสูจน์ตัวเองกับเจียงเหมี่ยวอวี๋?

พิสูจน์ให้หลี่ชิงสือเห็นว่าเขาดีกว่า?

ถึงจะไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ แต่ก็คุ้มค่าที่จะต่อสู้

ฟางชิวตัดสินใจทันทีแล้วพูดกับหลิวเฟยเฟยว่า “ตกลง ผมจะแสดง!”

“โอเค ขอบคุณนะ ฟางชิว!”

หลิวเฟยเฟยกล่าวอย่างจริงใจกับฟางชิว จากนั้นก็พาฟางชิวไปที่หลังเวทีอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้เหลือเพียงการแสดงเชียร์ลีดเดอร์ก่อนจะถึงการแสดง ‘เชิญดื่มสุรา’

การแสดงเชียร์ลีดเดอร์คงไม่ถึงสามนาทีด้วยซ้ำ

เจียงเหมี่ยวอวี๋ที่อยู่หลังเวทีเห็นว่าหลิวเฟยเฟยเรียกฟางชิวมาจริง ๆ ก็ตกใจไม่น้อย

เธอแค่บอกว่าฟางชิวอาจช่วยได้ แต่เธอไม่คิดว่ามันจะเป็นจริง

เธออดไม่ได้ที่จะเสียใจที่พูดออกไป

ถ้าผลงานออกมาดีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าการแสดงมีปัญหา ฟางชิวจะไม่เจ็บปวดเอาหรอกหรือ?

ตอนนี้เธอได้แต่หวังว่าฟางชิวจะทำออกมาได้ดี และไม่ตื่นเวทีจนทำพลาด

หลี่ชิงสือที่ยืนอยู่ข้างเจียงเหมี่ยวอวี๋มองฟางชิวด้วยสายตาเยาะเย้ย

เขาไม่เชื่อว่าฟางชิวมีกอบกู้สถานการณ์ได้

เป็นไปไม่ได้เลยที่ฟางชิวจะแสดงได้ในเวลากระชั้นชิดแบบนี้

อาจารย์ที่ดูแลการแสดงเห็นว่ามีคนมาร้องเพลง ‘เชิญดื่มสุรา’ แทนแล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

พิธีรับน้องใหม่ครั้งที่แล้ว อาจารย์คนนี้อยู่ด้วย จึงได้ฟังเสียงร้องอันไพเราะของฟางชิว

ดังนั้นฟางชิวคงไม่ร้องแย่เกินไป

เธอมั่นใจในตัวฟางชิวมาก

สิ่งเดียวที่น่ากังวลในตอนนี้ฟางชิวมีเวลาซ้อมน้อยมาก

อย่างไรก็แล้วแต่มีคนแสดงแทนก็ดีกว่าไม่มีนั่นแหละ!

ตอนแรกเธอจะฟังฟางชิวร้องดูก่อน แต่เวลากลับไม่เอื้ออำนวย เจ้าหน้าที่ดูแลเวทีเร่งเขาให้ออกไปแล้ว

อาจารย์ดูแลการแสดงจึงรีบนำไมโครโฟนไร้สายมาให้ฟางชิว จากนั้นชายหนุ่มก็เดินเข้าไปในพร้อมกับกีตาร์และพิกอัประดับไฮเอนด์

เป็นกีตาร์ตัวเดียวในมหาวิทยาลัยที่มีพิกอัปราคาแพงลิบลิ่ว

“การแสดง ‘เชิญดื่มสุรา’ เตรียมตัว!”

อาจารย์ที่ถือใบลำดับการแสดงอยู่ตะโกนเรียกฟางชิว

ฟางชิวพยักหน้าแล้วหายใจเข้าลึก ๆ

“ฟางชิว!”

หลิวเฟยเฟยส่งเสียงเชียร์ฟางชิว

เจียงเหมี่ยวอวี๋ยังคงเป็นห่วงฟางชิว เธอยืนอยู่หลังเวที รอดูการแสดงของฟางชิว เช่นเดียวกับหญิงสาวตัวเล็กผู้ปวดท้องประจำเดือน ส่วนหลี่ชิงสือมองฟางชิว รอดูว่าเจ้าตัวจะพลาดขนาดไหน

จะทำได้แค่ไหนกัน?

ทุกคนต่างตั้งตารอการแสดงของฟางชิว และประหม่าไปตาม ๆ กัน

“เริ่ม!”

ฟางชิวพยักหน้า พร้อมถอนหายใจยาว

“พูดถึงหลี่ไป๋*[2] ทุกคนคงคุ้นเคยกันดี!”

พิธีการทั้งสองเริ่มอ่านสคริปต์

อาจารย์ที่ถือใบลำดับการแสดงส่งสัญญาณให้ฟางชิวขึ้นไปบนเวที

“ฉันเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์! ประโยคนี้คงเป็นแรงบันดาลใจให้หลาย ๆ คนใช่ไหม งั้นเรามาพบกับ ‘เชิญดื่มสุรา’ กันได้เลย!”

ฟางชิวหลับตาลง

และเมื่อลืมตาขึ้น!

สีหน้าท่าทางเขาก็เปลี่ยนเป็นคนละคน!

ชายหนุ่มเดินไปตรงกลางเวที

ไม่ต่างกับเสือออกมาจากกรง

ราวกับว่าเขากำลังลาดตระเวนอาณาเขตและเผยความแข็งแกร่งออกมาไม่มีผิด!

เมื่อนิ้วทั้งห้าเริ่มบรรเลง ท่วงทำนองที่ดุดันก็ดังก้องไปทั่วสถานที่ในทันที

ปลุกจิตวิญญาณของทุกคนให้ตื่นขึ้น!

ครึ่งของการแสดง หลายคนเริ่มขี้เกียจและเบื่อการแสดงช่วงแรกไปหมดแล้ว

การแสดงในพิธีเปิดนั้นมักจะยิ่งใหญ่ ไม่เหมาะกับวัยหนุ่มสาวนัก ดังนั้นเมื่อหมดความตื่นเต้นกับช่วงแรกแล้ว พวกเขาก็เริ่มเบื่อ

ลำดับการแสดงที่ผ่านมา พวกเขารู้สึกว่าเพลงแรก ‘ของขวัญพิธีเปิดเทอม’ ดีกว่า ที่เหลือก็แค่ปานกลาง

ตอนนี้เหลือแค่เพลง ‘เชิญดื่มสุรา’ แต่ก็คงไม่น่าฟังสักเท่าไร

แต่พอดนตรีขึ้นเท่านั้นแหละ!

ท่วงทำนองกีต้าร์ที่เข้มข้นนี้ทำให้ทุกคนตกใจ

ดูเหมือนว่าเพลงนี้คงดีกว่าที่คิด

หลังเวที หญิงสาวผู้ปวดประจำเดือนได้ยินท่วงทำนองนี้ก็ตกตะลึง “ไม่ถูกต้อง!”

“ทำไมล่ะ”

อาจารย์ดูแลการแสดงถามด้วยความตกใจ

ทุกคนมองไปที่หญิงสาว

ใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไป เธอพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ ว่า “นี่ไม่ใช่เพลงที่ฉันจะร้อง ทำนองไม่ใช่แบบนี้ ฉันร้องเพลงในเวอร์ชันซ่งจู่อิน เวอร์ชันที่เขาแสดงตอนนี้ฉันไม่เคยได้ยินเลย”

พูดจบหญิงสาวก็ทำหน้าราวกับจะร้องไห้

อาจารย์ดูแลการแสดงหน้าซีด เกือบจะล้มลงหลังได้ยิน

ทุกอย่างถูกเตรียมไว้อย่างดี แต่กลับผิดพลาดจนได้

หลี่ชิงสือเกือบจะหัวเราะออกมาดัง ๆ

น่าสนใจมาก

ฟางชิวร้องเพลงผิดเวอร์ชัน

ให้ฉันดูหน่อยซิว่านายจะอับอายแค่ไหน

ใบหน้าของหลิวเฟยเฟยและเจียงเหมี่ยวอวี๋ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

สุดท้ายเจียงเหมี่ยวอวี๋ก็พูดว่า “ไม่สำคัญหรอกว่าจะเป็นเวอร์ชันไหน แต่ทุกคนได้ดื่มด่ำไปกับเพลง ไม่มีใครรู้นี่การแสดงจะเป็นเวอร์ชันไหน ปล่อยให้ฟางชิวร้องไปเถอะ เชื่อใจเขา!”

ได้ยินประโยคนี้ปุ๊บ ใบหน้าของทุกคนก็ดูดีขึ้น ถึงอย่างนั้นก้อนหินก็ยังจุกอัดอยู่ในใจ

หลี่ชิงสือยิ่งทวีความอิจฉา เขาไม่ได้คาดหวังว่าฟางชิวจะทำให้เจียงเหมี่ยวอวี๋ออกมาพูดสนับสนุนเขาแบบนี้

ดูเหมือนว่าหลังจากวันนี้ ฉันคงไม่ต้องปรานีนายแล้วฟางชิว ฉันจะทำให้นายอับอายจนทนไม่ไหวให้ได้!

เพลงของฟางชิวไม่ใช่เวอร์ชันของซ่งจู่อิน ทั้งยังไม่ใช่เวอร์ชันของหวงฉีซาน นับประสาอะไรกับเวอร์ชันของฮันเล

มันเป็นเวอร์ชันของเฉินหย่งไห่ที่ไม่เป็นที่รู้จัก

ฟางชิวเคยเห็นเวอร์ชันนี้ในวิดีโอคลิปหนึ่ง มันเป็นวิดีโอของชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนโต๊ะกำลังเล่นกีตาร์และร้องเพลงอย่างออกรส*[3] ถัดจากเขาเป็นชายชราผมขาวตบเก้าอี้ไปตามทำนอง ชายชราหนึ่งคน คนดีดกีตาร์หนึ่งคน เพลงหนึ่งเพลง สามอย่างนี้เติมเต็มซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังโบกมืออย่างสนุกสนาน นั่นเลยทำให้เขาชอบเพลงนี้

ต่อมาเขาก็พบว่านักร้องคนนี้เป็นนักฟิสิกส์จากสถาบันวิทยาศาสตร์จีน และเป็นหัวหน้างานระดับปริญญาเอก เขาล่ะแปลกใจจริง ๆ

ขอชื่นชมความสามารถนี้เลย

เพลงนี้ยังเป็นเพลงที่เขาเล่นบ่อย ๆ ตอนกำลังเรียนกีตาร์เช่นกัน

ท่วงทำนองทั้งหมดประทับอยู่ในใจของเขา เขาสามารถบรรเลงได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสโดยไม่ต้องอ่านโน้ตใด ๆ

ให้ฉัน ฟางชิว เป็นคนนำเพลงที่น่าอัศจรรย์ให้ทุกคนในวันนี้!

ไม่เห็นจะต้องโชว์พาว เขาแค่พิสูจน์ตัวเองเท่านั้น!

เตรียมส่งกำลังใจให้ทุกคนตอนนี้แหละ!

ขณะที่มือกำลังดีดกีตาร์ สองขาของฟางชิวก็เดินไปที่ใจกลางเวที

[1] เบลแคนโต แปลจากภาษาอิตาเลียนได้ตรงตัวเลยว่า ‘การร้องอันงดงาม’ (beautiful singing) ซึ่งเรามักเรียกติดปากกันว่าโอเปร่า

[2] หลี่ไป๋ เป็นกวีจีนที่ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ถัง ได้รับยกย่องเป็น กวีผู้ยิ่งใหญ่ หนึ่งในสองคนเท่าที่ปรากฏในประวัติศาสตร์งานประพันธ์ของจีน เคียงคู่กันกับชื่อของตู้ฝู่ บทกวีของหลี่ไป๋ได้รับอิทธิพลจากจินตภาพของเต๋า นิยมชมชอบการดื่มสุรา

[3] วิดีโอที่พูดถึงในเรื่องชื่อว่า Bringing in the Wine 将进酒 陈涌海 หากผู้อ่านสนใจสามารถฟังได้ใน Youtube เพื่ออรรถรส

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน