คุรุการแพทย์ – บทที่ 127 ฉันมันเป็นแค่คนเลวคนหนึ่ง!

คุรุการแพทย์

บทที่ 127 ฉันมันเป็นแค่คนเลวคนหนึ่ง!

บทที่ 127 ฉันมันเป็นแค่คนเลวคนหนึ่ง!

ผ่านไปสักพัก ชายวัยกลางคนก็ค่อย ๆ ผ่อนคลาย จากนั้นเขาก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ไม่จำเป็น”

“รักษาต่อไป ฉันทนไหว” เขายังกล่าวต่อว่า “มนุษย์น่ะ ถ้ากลายเป็นคนเลวแล้วก็กล้าก่ออาชญากรรมได้ทุกรูปแบบ ฉันเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น”

“แล้วคุณเลวยังไงครับ” ฟางชิวถามด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้หยุดรักษา มือของเขายังคงสัมผัสกระดูกอย่างระมัดระวังเพื่อมองหาตำแหน่งในการจัดกระดูกครั้งต่อไป

“ฉันเกิดในชนบท” ชายวัยกลางคนกำลังจมอยู่ในความทรงจำ ดวงตาจึงค่อย ๆ เลือนรางไป

“หลายปีที่ผ่านมา ฉันทำเรื่องเลวร้ายในหมู่บ้านมากมาย…”

“ในหมู่บ้านของฉัน ทุกครอบครัวจะทำไร่กับเลี้ยงสัตว์ ครอบครัวของฉันก็เหมือนกัน แต่ฉันไม่เคยทำนาเลย ถ้าฉันหิวเมื่อไหร่ ฉันก็จะไปหาของกินที่บ้าน แต่ถ้าหาของกินไม่เจอ ฉันก็จะขโมย หากที่ไหนมีของอร่อยฉันก็จะไปที่นั่น ตอนแรกก็แค่ขโมยของกิน แต่พอขโมยหลายครั้งเข้า ฉันก็มีความกล้ามากขึ้น ฉันกล้าถึงขั้นบุกเข้าไปในบ้านของคนอื่นเพื่อปล้นสิ่งของ”

“ในสมัยนั้น มีชายชราคนหนึ่งชื่อผู้เฒ่าหลี่ เขาอาศัยอยู่ทางตะวันออกของหมู่บ้าน ขากับเท้าของเขาไม่แข็งแรง ภรรยาก็เสียชีวิตก่อนวัยอันควร เขาเลยต้องอยู่คนเดียวในวันหยุด ลูกชายสองคนจะนำอาหารและเครื่องดื่มอร่อย ๆ มาให้เขา ฉันคิดว่าเขาไม่น่าจะกินหรือดื่มได้มากนัก ตอนที่เขาไม่อยู่บ้าน ฉันก็เลยแอบเข้าไปในบ้านของเขาครั้งหนึ่ง ฉันน่ะ กินเนื้อกับเหล้า รวมถึงยาชูกำลังดี ๆ ของเขาจนหมด”

“แล้วพอฉันกินเสร็จ ฉันก็ห่อทุกอย่างเอาไว้ แล้วเตรียมจะขโมยมันไปด้วยเพื่อสนองความปรารถนาตนเอง แต่ฉันก็คาดไม่ถึงว่าผู้เฒ่าหลี่จะกลับมาพอดี”

“หมอคิดว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น?” เมื่อเล่ามาถึงจุดนี้ คนไข้ก็หัวเราะเยาะตัวเองออกมา จากนั้นก็เล่าต่อว่า “ฉันรู้ว่าผู้เฒ่าหลี่ขาไม่ดี เขาจึงต้องเดินด้วยไม้ค้ำยันเท่านั้น พอเขากลับมาถึงบ้าน ฉันก็ไปซ่อนตัวอยู่หลังประตู ทันที่เขาเข้ามาในบ้าน ฉันก็เอาไม้ค้ำยันเขามาหักทิ้งแล้ววิ่งหนีไป เขาก็เลยโกรธมากจนขว้างไม้ค้ำยันที่หักแล้วใส่ฉัน”

“เวลานั้นฉันโกรธมากที่เขาทำแบบนั้นกับฉัน ฉันก็เลยจุดไฟเผากองฟืนในบ้านของเขา ไฟลามเกือบจะไหม้บ้านของเขาอยู่แล้ว ตอนนั้นน่ะ ฉันอายุแค่เก้าขวบเอง”

เมื่อฟางชิวได้ยินคำว่า ‘เก้าขวบ’ มือของเขาก็หยุดเคลื่อนไหวทันที อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นเพียงครู่เดียวเท่านั้น

“ผู้เฒ่าหลี่เป็นเพียงหนึ่งในคนที่ถูกฉันทำร้าย ฉันเลี้ยงไก่กับเป็ด แต่ฉันไม่เคยกินพวกมันเลย ถ้าฉันอยากกินไก่ ฉันก็จะไปขโมยมันที่หมู่บ้าน”

“มีอยู่วันหนึ่ง หลังจากที่กินเหล้าที่ขโมยมาจากผู้เฒ่าหลี่แล้ว ฉันก็วิ่งไปที่บ้านของป้าเจียงเพื่อฆ่าไก่ทั้งหมดสิบตัว ห่านสามตัว และเป็ดเจ็ดตัวที่หล่อนเลี้ยงไว้”

“ฉันเอาไก่ที่ขโมยมาไปที่ไร่ของเลขาหมู่บ้าน เตรียมจะย่างไก่กิน ในตอนนั้นพืชผลในไร่สุกงอมพร้อมให้เก็บเกี่ยวแล้ว แต่ฉันก็จุดไฟเผาทั้งไร่ ตอนนั้นฉันอายุสิบเอ็ด”

“ฉันยังเคยไปขโมยลูกของนายหยางด้วย”

“ฉันเคยไปต่อยซุนต้าจวง”

“ฉันเคยเรียกเก็บเงินค่าคุ้มครองจากเด็กประถม”

“ตอนกลางวันฉันจะหาไปหาของกิน พอถึงกลางคืนฉันรู้สึกเบื่อมาก จึงจุดประทัดก่อกวนทุกครอบครัว ถ้ามีใครมาโวยวาย ฉันก็จะไปที่ทุ่งนา แล้วทำลายพืชผลทั้งหมดของพวกเขา…”

“ยิ่งพวกเขาโกรธ ฉันก็ยิ่งมีความสุข”

“ไม่มีใครควบคุมฉันได้ ถ้าใครทุบตีฉัน ฉันก็จะทำร้ายครอบครัวของพวกเขาลับหลัง!”

“พ่อแม่ของฉันควบคุมพฤติกรรมฉันไม่ได้ หากพวกเขาต้องการที่จะควบคุมฉัน ฉันก็จะขู่พวกเขาว่าฉันจะฆ่าตัวตาย เพราะฉันเป็นลูกชายคนเดียวของพวกเขา…”

ยิ่งชายวัยกลางคนพูดมากเท่าไร เขาก็ยิ่งจมอยู่กับอดีตมากขึ้นเท่านั้น

ในขณะที่กำลังจมอยู่กับความทรงจำของตัวเอง เขาก็ได้ลืมความเจ็บปวดในการรักษาไป

กร๊อบ!

ฟางชิวทำการรักษาต่อไป และคราวนี้คนไข้ไม่ได้ร้องออกมา

ร่างของชายวัยกลางคนกระตุกนิดหน่อย กล้ามเนื้อพลันแข็งทื่อ แต่ไม่นานกล้ามเนื้อก็ผ่อนคลายลง พอผ่อนคลายแล้วเขาก็เล่าเรื่องราวต่อ “ฉันไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมฉันถึงได้เลวนัก ฉันมีความสุขเสมอเวลาเห็นคนอื่นทุกข์ ฉันทำชั่วทุกวันเลย”

“จำไม่ได้ว่าทำเรื่องชั่ว ๆ ไปมากแค่ไหน…”

“จนกระทั่งฉันอายุยี่สิบปี มีคนปัญญาอ่อนคนหนึ่งชื่อเกาเกาในหมู่บ้าน เขาเกิดมาก็ปัญญาอ่อนแล้ว แต่ทุกคนในหมู่บ้านก็ใจดีกับเขาและดูแลเขาเป็นอย่างดี”

“ฉันพยายามหลอกเขา พาเขาไปที่ขอบบ่อหมักก๊าซชีวภาพนอกหมู่บ้าน แล้วยุให้เขากระโดดลงไป ถึงแม้ว่าเขาจะปัญญาอ่อน แต่เขาก็ไม่ฟังฉัน เขารู้ว่าเขาไม่สามารถกระโดดลงไป”

“ฉันรู้สึกร้อนรนมากที่เห็นว่าเขาไม่ยอมกระโดด ฉันจึงเอาประทัดมาขู่เขา”

“แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่ยอมกระโดด ฉันโกรธมากเลยจุดประทัดแล้วขว้างใส่เขา”

“ประทัดเลยติดไฟ และเผาบ่อหมักก๊าซชีวภาพทั้งหมด”

“ฉันไม่สามารถลืมเหตุการณ์ในวันนั้นในชีวิตของฉันได้เลย ภาพกองไฟอันน่าสยดสยองพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า การระเบิดครั้งใหญ่ทำให้เกาเกากระเด็นออกไปทันที”

“เขาล้มลงกับพื้น ไม่ขยับเขยื้อน และไม่ลุกขึ้นมาอีกเลย…”

“เกาเกาตายคาที่ ในตอนนั้นฉันรู้สึกกลัวมาก ฉันแค่อยากจะแกล้งเขาเพื่อความสนุกเท่านั้นเอง ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเขาจริง ๆ นับประสาอะไรกับการฆ่าเขา นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกผิด” เล่ามาถึงจุดนี้ ชายวัยกลางคนก็หยุดเล่ากะทันหัน น้ำตารินไหลอาบใบหน้าไม่ขาดสาย

เขาใช้เวลาอยู่นานกว่าจะระงับอารมณ์แล้วเล่าต่อได้

“จากนั้นฉันก็ถูกชาวบ้านจับและถูกตำรวจจับไป”

“ในวันที่ฉันถูกจับ มีเสียงประทัดและเสียงตะโกนดีใจดังสนั่นไปทั่วหมู่บ้าน แม้แต่พ่อแม่ของฉันก็ยังส่งเสียงดีใจออกมา ฉันจำใบหน้าที่มีความสุขของพวกเขาทั้งหมดได้ วันนั้นหมู่บ้านคึกคักกว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ซะอีก”

“ฉันรู้ว่าพวกเขาเกลียดฉัน ทุกคนเกลียดฉัน”

“แต่เป็นเพราะพวกเขาเกลียดฉัน ฉันเลยรู้สึกโกรธมาก มันเป็นความโกรธที่ไม่อาจระงับได้เลย”

“ตอนนั้น ฉันตัดสินใจว่าตอนที่ฉันกลับไป ฉันจะกลับไปหาทุกคนเพื่อแก้แค้น ฉันจะทำให้คนที่เคยเฉลิมฉลองตอนฉันถูกจับกลัวฉัน รวมถึงทุกคนที่เกลียดฉันด้วย ฉันอยากให้พวกเขาเสียใจ”

เล่ามาถึงตอนนี้ อารมณ์ของชายวัยกลางคนก็ยังคงสงบ ไม่มีอาการขึ้น ๆ ลง ๆ ราวกับว่าเขาไม่ได้รับผลกระทบจากความทรงจำของเขาเลย

ชายวัยกลางคนไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกับเมื่อก่อน แต่เขากำลังติดอยู่ในความทรงจำต่างหาก

ฟางชิวฟังอย่างเงียบ ๆ โดยที่สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก ชายหนุ่มยังคงขยับมือตนเพื่อจัดกระดูกต่อไป

“ยี่สิบปี” คนไข้เล่าต่อหลังจากหยุดครู่หนึ่ง “ฉันถูกตัดสินจำคุกยี่สิบปีในหลายข้อหา ไม่ได้ถูกปล่อยตัวจากคุกเลยจนกระทั่งเมื่อสามปีที่แล้ว”

“คุณไม่ได้รับการผ่อนผันโทษเหรอ?” ฟางชิวถามอย่างไม่จริงจัง

ชายหนุ่มรู้ว่าในตอนนี้ประเทศจีนมีโทษจำคุกสูงสุดสิบห้าปี แต่ในกรณีที่ก่ออาชญากรรมหลายครั้ง โทษอาจนานถึงยี่สิบห้าปี

ในขณะเดียวกัน การผ่อนผันจะมากหรือน้อยก็ขึ้นกับว่าผู้ต้องขังทำความดีในเรือนจำมากแค่ไหน น้อยคนที่จะติดคุกนานเท่าที่ตนเองถูกตัดสินจำคุก

“ไม่” คนไข้ที่นอนอยู่บนเตียงเล่าต่อ “ในตอนนั้นฉันเป็นคนเลว เป็นคนเลวที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง! แม้แต่ในคุก ฉันก็ยังกลายเป็นคนที่เลวร้ายที่สุดในคุก ถ้านักโทษคนอื่นไม่สามารถเอาชนะฉันได้ ฉันก็จะทุบตีพวกมันจนตาย!”

ฟางชิวเงียบไปทันทีที่ฟังจบ มือของเขาก็หยุดเคลื่อนไหวด้วย จากนั้นเขาก็ถามว่า “คุณเป็นโรคนี้ตั้งแต่อยู่ในคุกหรือเปล่า”

“ไม่ใช่” คนไข้หัวเราะอย่างเศร้าสร้อยและเล่าต่อว่า “พอออกจากคุก ฉันก็กลับไปที่หมู่บ้าน แต่ฉันหาพ่อแม่ไม่เจอ เพราะพวกเขาตายไปแล้ว”

“เพื่อช่วยฉันจ่ายหนี้สินต่าง ๆ พวกเขาจึงไม่ยอมไปหาหมอเมื่อป่วย แล้วพวกเขาก็ยอมทำงานสกปรกทุกรูปแบบเพื่อหาเงินไปชดใช้ชาวบ้าน สุดท้ายพวกเขาก็ตายจากความอ่อนล้ากับอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาตายตาไม่หลับ…”

ขณะที่เล่า คนไข้ก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้อีกต่อไป น้ำตาของเขาก็เริ่มไหลลงมาอีกครั้ง

“อันที่จริง การติดคุกมายี่สิบปีทำให้ฉันเข้าใจสิ่งหนึ่ง” คนไข้ร้องไห้สะอึกสะอื้นและพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “ตอนที่ฉันรู้ว่าพ่อแม่ของฉันตายไปแล้ว ฉันถึงได้เข้าใจว่าฉันเป็นคนเลวที่ไม่สมควรจะเป็นมนุษย์!”

“ฉันไปที่หลุมศพของพวกเขา ต่อหน้าหลุมศพ ฉันก็ตบตัวเองแรง ๆ เก้าครั้ง โขกหัวคำนับที่พื้นสี่สิบครั้ง พวกเขาเลี้ยงดูฉันในช่วงยี่สิบปีแรก แต่ในช่วงยี่สิบปีให้หลัง ฉันไม่สามารถดูแลพวกเขาได้เลย”

“ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นไป ฉันสาบานกับตัวเองว่าฉันจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ สาบานว่าจะล้างความอัปยศที่ฉันมีต่อพ่อแม่ให้หมด”

“ฉันกลับไปที่หมู่บ้าน ขอโทษทุกคนที่ฉันเคยทำร้ายด้วยการโขกหัวคำนับพื้นสามครั้ง หวังให้พวกเขาจะยกโทษให้ฉัน แม้ว่ามันจะเป็นความหวังที่ดูเลือนรางก็ตาม”

“แม้ว่าทุกคนจะไม่มีใครอยากเจอฉันเลย แต่ฉันก็ยังไปที่บ้านพวกเขาทีละหลัง เพื่อโขกหัวคำนับพื้นหน้าบ้านของพวกเขา”

“ฉันโขกหัวคำนับทุกครอบครัวเลยจริง ๆ”

คนไข้กัดฟันพร้อมกับหันหน้าหนีสายตาของฟางชิว เขาปาดน้ำตาบนใบหน้าทิ้ง ไม่ลืมเช็ดน้ำตาที่เปื้อนเตียงออก “หลังจากนั้นฉันก็เริ่มหางานทำ ฉันทำทุกอย่างไม่ว่าจะหนักหรือเหนื่อยแค่ไหน ตราบใดที่ฉันสามารถหาเงินได้ ฉันก็จะทำ”

“ฉันไปทำงานในเหมืองถ่านหินหนึ่งปี”

“เป็นลูกเรือหนึ่งปี”

“และเป็นคนงานก่อสร้างหนึ่งปี”

“ฉันทำงานทั้งวันทั้งคืน ได้กินข้าวน้อยมาก ภายในสามปี ฉันก็เก็บเงินได้หนึ่งแสนห้าหมื่นหยวน”

“เพราะทำงานหนัก ฉันเลยเป็นโรคนี้มาตลอดสามปี”

เมื่อได้ยินดังนั้น ร่างกายของฟางชิวก็สั่นเทาขึ้นมา เขานึกภาพไม่ออกเลยว่าคนไข้รายนี้จะต้องใช้ชีวิตลำบากขนาดไหนมาตลอดสามปีเต็ม

การใช้ชีวิตที่สามารถทำลายกระดูกสันหลังของคนคนหนึ่งได้ มันก็ไม่ต่างกับการใช้ชีวิตในนรกเลย

โรคนี้ไม่ได้เกิดขึ้นภายในวันหรือสองวัน แต่มันถูกสะสมมาตลอดหลายปี แม้ว่าคนไข้รายนี้จะป่วย แต่เขาก็ยังคงทำงานหนักได้ เขาต้องทนทุกข์ทรมานอย่างที่ไม่มีใครสามารถคาดถึงแน่นอน

“สองวันก่อน ฉันกลับไปที่หมู่บ้าน” คนไข้ยังคงเล่าต่อไป

“บริจาคเงินไปหนึ่งแสนหยวน เพราะได้ยินว่าชาวบ้านต้องการจะสร้างถนน” เมื่อพูดถึงประโยคนี้ คนไข้ก็ก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เขาเล่าเสริมว่า “ฉันบริจาคเงินในนามของพ่อแม่ของฉัน ชื่อของพวกเขาจะได้อยู่บนรายชื่อของผู้บริจาค ตอนนี้พ่อแม่ของฉันคงจะรู้สึกมีหน้ามีตา พวกเขาน่าจะนอนหลับในหลุมฝังศพของบรรพบุรุษในหมู่บ้านได้อย่างมีเกียรติแล้ว”

“ฉันบริจาคเงินห้าหมื่นหยวนที่เหลือให้กับนักเรียนที่ยากจนในพื้นที่ภูเขา”

“ฉันรู้ว่าในช่วงชีวิตนี้ ฉันสามารถทำได้แค่นี้แหละ ฉันช่วยเหลืออะไรสังคมไม่ได้เลย ฉันจึงบริจาคเงินให้กับพวกเขา เพราะหวังว่าพวกเขาจะสามารถช่วยเหลืออะไรสังคมได้บ้าง”

“ฉันหวังว่าพวกเขาจะสามารถเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อประเทศและสังคมแทนคนเลว ๆ อย่างฉัน สำหรับพวกเขาแล้วยังพอมีความหวัง แต่สำหรับฉัน มันหมดหวังไปตั้งนานแล้ว” คนไข้กล่าวออกมาอย่างจริงใจ

ฟางชิวสูดหายใจเข้าลึก ๆ น้ำตาเอ่อคลอรอบดวงตา

“คุณจะทำอะไรต่อถ้าผมรักษาคุณหาย”

ชายหนุ่มถามโดยที่มือยังจัดกระดูกต่อไป

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน