คุรุการแพทย์ – บทที่ 146 ผมอ่านหนังสือจบแล้ว!

คุรุการแพทย์

บทที่ 146 ผมอ่านหนังสือจบแล้ว!

บทที่ 146 ผมอ่านหนังสือจบแล้ว!

ไม่นานคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ออกมาแสดงความคิดเห็น

[ฉันอยู่ในเหตุการณ์ ฉันสัญญาว่าเรื่องจริงแท้แน่นอน ไม่ใช่เรื่องโกหก!]

[ฉันก็อยู่ในเหตุการณ์เหมือนกัน เห็นกับตาเลย!]

[ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะเต็มใจให้เปิดเผยข้อมูลของตัวเองหรือเปล่านะ แต่เห็นหลายคนสงสัยในตัวเขา ฉันก็เลยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยืนหยัดและพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเป็นฝีมือของชายลึกลับจริง ๆ คนที่ต่อสู้ภายใต้การแนะนำของชายลึกลับก็คือว่านชูเฉวียน!]

ด้วยเสียงยืนยันจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์หลายคน ทำให้ความคิดเห็นของสาธารณชนในเว็บบอร์ดเริ่มเป็นกระแสในทันที เรื่องนี้จุดประกายความสนใจของผู้คนทันที

[ว่านชูเฉวียน?]

[ฉันเคยได้ยินเรื่องเขานะ แต่ฉันไม่เคยเจอ ไม่รู้ว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน ถ้าเป็นอย่างที่เธอเล่าจริง ๆ แสดงว่าตอนนี้ว่านชูเฉวียนเลื่อนขั้นเป็นปรมาจารย์ขั้นหนึ่งแล้วน่ะสิ?]

[เป็นไปไม่ได้ จะมีเรื่องเหลือเชื่อแบบนี้เกิดขึ้นได้ไง?]

[ว้าว ประเด็นร้อนเลยนะเนี่ย! สรุปแล้วชายลึกลับคนนี้คือใคร? อายุเท่าไหร่? สูงแค่ไหน? อ้วนหรือผอม? ไม่เคยเห็นใบหน้าของเขาเลยเหรอ? แล้วไม่มีใครรู้จักเขาสักคนเลยเหรอ ทำไมถึงเรียกเขาว่าชายลึกลับล่ะ?]

[ช่วยบอกหน่อยว่าชายลึกลับแนะนำว่านชูเฉวียนว่ายังไงบ้าง]

มีคำถามมากมายเกิดขึ้นใต้โพสต์ เจ้าของโพสต์กับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จึงเริ่มทยอยตอบคำถามกันอย่างอดทน

[มันเป็นเรื่องจริง เพราะฉันเห็นกับตาว่าว่านชูเฉวียนก้าวข้ามจากระดับผู้ฝึกยุทธ์ไปปรมาจารย์ขั้นหนึ่ง ก่อนหน้านั้นว่านชูเฉวียนขึ้นไปประลอง สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้สามรอบติดต่อกัน แต่สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้ให้กับผู้มากฝีมืออย่างเหลียงหย่งเจี๋ยที่มาจากจังหวัดใกล้เคียง]

[ฮ่า ๆ พูดแล้วก็ตลกนะ ขำอะ รู้ไหมว่าเหลียงหย่งเจี๋ยหยิ่งผยองมากแค่ไหน? ตอนแรกชายลึกลับไม่ได้ตั้งใจที่จะลงมือด้วยซ้ำ แต่หลังจากเหลียงหย่งเจี๋ยเอาชนะว่านชูเฉวียนได้ ในฐานะที่มาจากจังหวัดใกล้เคียง เขาก็ท้าทายผู้ฝึกยุทธ์ของเมืองเจียงจิงทุกคน แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ตัวจริงน่ะ ขึ้นเวทีไม่ได้หรอก เพราะผู้เชี่ยวชาญจากจังหวัดใกล้เคียงจะหัวเราะเยาะเอาได้ ผลที่ตามมาคือ…]

[ผลที่ตามมาคืออะไร]

[ลองทายดูสิ]

[พูดออกมาเหอะ ทำไมต้องยั่วโมโหพวกเราด้วย]

ผ่านไปสักพัก ใต้ความคิดเห็นที่ถามว่า [ว่านชูเฉวียนก้าวข้ามไปสู่ระดับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งได้จริงหรือไม่] ก็มีการตอบกลับจำนวนมาก ราวกับว่าทุกคนกำลังรอฟังนิทานก่อนนอนอย่างไรอย่างนั้น

เมื่อมีคนตอบกลับมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ที่เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นก็รีบตอบกลับทันที

[เหลียงหย่งเจี๋ยตะโกนเสียงดัง ยโสโอหังมากเลยล่ะ พอไม่มีใครกล้าขึ้นไปบนเวทีเพื่อต่อสู้กับเขา เขาก็ยิ่งได้ใจ เริ่มยั่วยุปั่นประสาทไปทั่ว แล้วคนที่เขาเลือกยั่วยุคือชายลึกลับ เขาบอกว่าชายลึกลับดูถูกเขา]

[ฉันไม่รู้ว่าชายลึกลับไปดูถูกเขาตอนไหน เพราะชายลึกลับปกปิดใบหน้าของเขาเสมอและไม่แสดงใบหน้าให้ใครเห็นเลย]

[เพราะเหลียงหย่งเจี๋ยนั่นแหละ พวกเราก็เลยรู้ว่าแท้จริงแล้วชายลึกลับคือคนที่ขายขุมทรัพย์สมุนไพรในงานแสดงสินค้าครั้งที่แล้ว!]

ทุกคนรู้สึกอึ้งกับสิ่งที่ได้อ่าน

[คนที่ขายขุมทรัพย์สมุนไพร?]

[เป็นเขาจริง ๆ เหรอ]

[ฉันได้ยินมาว่าในแวดวงของผู้ฝึกยุทธ์ของเมืองเจียงจิง มีคนประหลาดคนหนึ่งเอาขุมทรัพย์สมุนไพรมาขายเพื่อหาเงิน ไม่คิดว่าเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้จริง ๆ!]

[ก็ไม่น่าแปลกใจนะ เพราะฉันก็ได้ยินมาก่อนเหมือนกันว่า ชายลึกลับคนนี้แข็งแกร่งมาก เขาสามารถผลักรถให้กระเด็นออกไปได้]

[ฉันเคยได้ยินมาว่าระดับการต่อสู้ของชายลึกลับคนนี้สูงมาก]

[แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นล่ะ?]

[รีบมาอัปเดตเถอะ]

[มาอัปเดตไว ๆ หน่อยสิ]

พวกเขายังคงคอมเมนต์ขออัปเดตเรื่องราวต่อไป

จากนั้นเพียงไม่นาน เจ้าของโพสต์ก็มาอัปเดตอย่างต่อเนื่อง

[ทีนี้เกิดเป็นกระแสฮือฮาขึ้นมาทันที! พอรู้ว่าชายลึกลับเป็นคนขายขุมทรัพย์สมุนไพร ทุกคนก็คาดหวังขึ้นมา ในตอนนั้นก็มีชายคนหนึ่งลุกขึ้น บอกว่าตราบใดที่ชายลึกลับสามารถเอาชนะเหลียงหย่งเจี๋ยจากจังหวัดใกล้เคียงได้ เขาก็จะมอบเงินสองแสนหยวนให้กับชายลึกลับ ข้อเสนอเหมือนจะตกลงกันมาก่อนหน้านี้แล้ว]

[ในที่สุด ภายใต้ความคาดหวังของทุกคน ชายลึกลับก็ไปที่เวทีการประลอง]

[แล้วเหตุการณ์หลังจากนั้นก็อยู่เหนือความคาดหมายของทุกคนมากเลยล่ะ]

เจ้าของโพสต์ก็กระตุ้นต่อมความอยากรู้อยากเห็นของทุกคนอีกครั้ง ตอนนี้ทุกคนต่างสนอกสนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก คอมเมนต์จึงผุดขึ้นเป็นดอกเห็น พวกเขาต่างร้องขอการอัปเดตเรื่อย ๆ

ทันใดนั้นเอง ว่านชูเฉวียนก็ปรากฏตัวขึ้น

[ฉันคือว่านชูเฉวียน ฉันไม่รู้ว่าชายลึกลับจะเห็นข้อความของฉันไหม แต่ฉันอยากขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณ ขอบคุณมาก]

ข้อความของว่านชูเฉวียนได้สร้างความปั่นป่วนในเว็บบอร์ดทันที

เวลานี้ ทุกคนก็ได้รู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเป็นความจริง

[แม้แต่บุคคลที่เกี่ยวข้องก็ยังออกมาอธิบาย แล้วเรื่องนี้จะเป็นเรื่องหลอกลวงได้ไง]

หลายคนถามคำถามกับว่านชูเฉวียน แต่ว่านชูเฉวียนแค่ทิ้งข้อความไว้แล้วออฟไลน์ไป

เพราะไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ทุกคนจึงทำได้เพียงเปลี่ยนเป้าหมายกลับไปที่เจ้าของโพสต์และกระตุ้นการอัปเดตต่อไป

[หลังจากนั้น ชายลึกลับก็ไปต่อสู้กับเหลียงหย่งเจี๋ยบนเวที แต่ก็ถูกเหลียงหย่งเจี๋ยสกัดเอาไว้ได้ชั่วคราว ในระหว่างการประลอง ชายลึกลับก็เรียนรู้ทักษะการต่อสู้ของเหลียงหย่งเจี๋ยและเอามาใช้ แม้ว่าจะถูกโจมตีใส่ แต่เขาก็ไม่แพ้ เขาเหวี่ยงเหลียงหย่งเจี๋ยกระเด็นออกไปไกล จนได้รับชัยชนะมาในที่สุด]

[จากนั้นชายลึกลับก็เริ่มแนะนำเทคนิคให้ว่านชูเฉวียน เขาจุ่มมือลงไปในน้ำแล้วควบคุมกระแสน้ำในสระให้เคลื่อนไปรอบ ๆ ตัวเขาทั้งหมดสามรอบ]

[ผลที่ตามมาคือ ว่านชูเฉวียนสามารถก้าวผ่านระดับผู้ฝึกยุทธ์ไปเป็นปรมาจารย์ขั้นหนึ่ง]

[ในตอนท้าย ขณะที่ทุกคนกำลังงุนงง ชายลึกลับก็หายตัวไปทันที]

[จากนั้น งานชุมนุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การต่อสู้ก็สิ้นสุดลง]

เจ้าของโพสต์คนนี้อัปเดตเรื่องราวทั้งหมดรวดเดียวจบ

เมื่ออ่านเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ผู้คนในเว็บบอร์ดก็คอมเมนต์คุยกันอย่างเมามัน

[แม่งเอ๊ย ชายลึกลับคนนี้เท่มาก]

[เขาสร้างตำนานขึ้นและก็จากไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?]

[เขาควบคุมน้ำให้ลอยกลางอากาศได้จริงหรือ]

[แข็งแกร่งมาก!]

[นี่แสดงว่าชายลึกลับมีพลังอันน่าสะพรึงกลัวช่วยให้คนทั่วไปก้าวไปสู่ระดับถัดไปได้โดยที่ไม่ต้องใช้ขุมทรัพย์สมุนไพร ไม่แปลกใจเลยที่เขากล้าเอาขุมทรัพย์สมุนไพรมาขายเพื่อหาเงิน ขุมทรัพย์สมุนไพรสำหรับเขาแล้วคงไร้ประโยชน์]

[เขาเป็นสัตว์ประหลาดแน่! แล้วแบบนี้ทักษะการต่อสู้ของเขาไปถึงระดับไหนแล้ว? สรุปว่าระดับการต่อสู้มีกี่ระดับกันแน่เนี่ย?]

หลายคนต่างประหลาดใจ แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เชื่อเรื่องนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ที่นี่คือประเทศจีน การเป็นประเทศที่กว้างใหญ่และมีทรัพยากรมากมาย ทำให้มีพวกไร้เหตุผลเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากเช่นกัน

[น่าเชื่อซะที่ไหน? เล่านิทานอยู่หรือไง? ถ้าเกิดว่าชายลึกลับมีความสามารถจริง ๆ แล้วทำไมเขาถึงไม่แนะนำเทคนิคให้คนอื่นบ้างล่ะ? เขาอาจจะจัดฉากขึ้นมาก็ได้!]

[ฉันก็ไม่เชื่อ เขาเป็นชายลึกลับแบบไหนกัน? ทำไมคุณไม่แสดงวิดีโอหรือรูปภาพให้พวกเราดูบ้างล่ะ]

[จริงด้วย ที่นั่นมีคนอยู่เยอะแยะ แต่ไม่มีใครเห็นรูปร่างหน้าตาของเขาเลย สรุปแล้ว เขาเป็นชายลึกลับแบบไหนกัน?]

[ถ้าเปิดเผยตัวตนไม่ได้ก็อย่าเรียกตัวเองว่าผู้ฝึกยุทธ์เลย ไม่คู่ควร!]

[ไอ้พวกคนที่เชื่อเนี่ย วัน ๆ เอาแต่หมกหมุ่นเกินไปหรือเปล่า?]

[พวกนายเนี่ย แค่เห็นก็เชื่อ ฟังเขาเล่ามาก็เชื่อ นี่ก็แค่สร้างกระแสหรอก เพราะคนไปงานแลกเปลี่ยนงานชุมนุมน้อยหรือเปล่า? เจ้าของสถานที่เลยแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว ถึงต้องมาสร้างกระแสแบบนี้]

ความสงสัยกับความคิดเห็นปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง คนในเว็บบอร์ดจึงเริ่มสงครามกันด้วยน้ำลาย

แต่แล้วเจ้าของโพสต์ก็กลับมาอีกครั้ง

[ถ้าไม่เชื่อก็ไปดูเองสิ! ผู้อาวุโสอี้เชิญชายลึกลับเข้าร่วมงานชุมนุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การต่อสู้ในวันพฤหัสบดีหน้า แม้ว่าชายลึกลับจะไม่ตอบ แต่ฉันเชื่อว่าเขาจะไปที่นั่นอย่างแน่นอน ดังนั้น พวกนายก็ไปดูด้วยตาตัวเองก็แล้วกัน!]

ทันทีที่ข้อความนี้ปรากฏขึ้น พวกเขาก็ตื่นเต้นทันที

พวกคอมเมนต์ไร้เหตุผลก็ไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป หลายคนบอกว่าพวกเขาตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้เจอชายลึกลับ หวังว่าจะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของชายลึกลับคนนี้

นอกจากนี้ บางคนก็รู้สึกคันมือคันเท้าอยากฝึกศิลปะการต่อสู้มากจนอยากจะไปขอคำแนะนำจากชายลึกลับ

ในระหว่างที่คนในเว็บบอร์ดกำลังถกเถียงกัน ฟางชิวก็กลับมาที่หอพักและหลับไปทันที

หลังเลิกเรียนในช่วงบ่ายของวันถัดมา ฟางชิวก็ไปที่ห้องสมุด พอเขาเจอกับสวีเมี่ยวหลิน เขาก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมอ่านจบแล้ว”

“เธออ่านอะไรจบแล้ว” สวีเมี่ยวหลินที่นั่งอยู่ที่ด้านหลังเคาน์เตอร์ถาม จากนั้นเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “เร็วขนาดนี้เลย?!”

“ครับ!” ฟางชิวพยักหน้าและพูดว่า “อาจารย์ทดสอบผมได้เลย”

สวีเมี่ยวหลินมองฟางชิวด้วยสายตาหลากหลายความรู้สึกแล้วพูดทันทีว่า “ไม่จำเป็น ฉันเชื่อมั่นในตัวเธอ”

ฟางชิวยิ้ม ไม่นึกว่าสวีเมี่ยวหลินจะพูดเช่นนี้ออกมา ตอนนี้เขาก็เลยชื่นใจอย่างยิ่ง

การยอมรับและความไว้วางใจจากสวีเมี่ยวหลินไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

“อาจารย์สวี ขั้นตอนต่อไปคืออะไรเหรอครับ” ฟางชิวถาม

“พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ เธอไปตรวจโรคกับฉันก็แล้วกัน” สวีเมี่ยวหลินกล่าว

ฟางชิวมองไปที่สวีเมี่ยวหลินอย่างงงงวย หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงเอ่ยถามเบา ๆ อย่างไม่แน่ใจว่า “เพื่อไปดูว่าอาจารย์ยอดเยี่ยมแค่ไหนเหรอครับ”

“เพื่อสอนเธอต่างหาก!” สวีเมี่ยวหลินตอบกลับด้วยความไม่พอใจทันที เขาไม่คิดว่าฟางชิวจะคิดแบบนั้น

“ผมเข้าใจแล้วครับ!” ฟางชิวรีบพยักหน้าแล้วตอบกลับอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็คิดกับตัวเองในหัวว่า

คราวนี้อาจารย์สวีไม่ได้อยากพิสูจน์ว่าตนเองยอดเยี่ยมแค่ไหนเหมือนสัปดาห์ก่อนแล้ว!

ที่ผ่านมาเขาคงคิดมากไปเอง

แต่ฟางชิวก็ยังรู้สึกมึนงงอยู่ดี เขาเพิ่งจะอ่านหนังสือเสร็จ สวีเมี่ยวหลินก็จะสอนเขาแล้ว

นี่มันเร็วเกินไปหรือเปล่า?

แต่ว่าจากการที่ลองคิดดูดี ๆ แล้ว

สวีเมี่ยวหลินเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับต้น ๆ ในสาขาการแพทย์แผนจีน เขาก็เลยมีการสอนที่เป็นเอกลักษณ์ ดังนั้นเขาก็น่าจะรู้วิธีการสอนเด็กฝึกงาน

คิดได้ดังนั้น ฟางชิวก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย

“ขอบคุณครับอาจารย์สวี!” ฟางชิวคำนับสวีเมี่ยวหลินเพื่อขอบคุณ

“ไปรอฉันที่ป้ายรถเมล์หน้าประตูมหาลัยพรุ่งนี้แปดโมงเช้า” สวีเมี่ยวหลินพลางพยักหน้า

ฟางชิวพยักหน้าตอบรับแล้วหันหลังจากไป

ตอนฟางชิวกำลังเดินจากไป สวีเมี่ยวหลินก็เลิกคิ้วขึ้น สายตาจดจ้องไปยังแผ่นหลังของฟางชิวที่เดินจากไป อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “ทำไมนักศึกษาคนนี้อ่านหนังสือจบเร็วแบบนี้”

“เพิ่งผ่านไปแค่สามสัปดาห์เอง”

“แถมยังต้องอ่านหนังสือมากมายขนาดนั้น แล้วหนังสือส่วนใหญ่เนื้อหาก็เข้าใจได้ยาก สำหรับคนทั่วไปแล้ว การอ่านคัมภีร์เน่ยจิงให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”

ในบรรดาหนังสือยี่สิบเล่ม นอกจากคัมภีร์เน่ยจิงที่ต้องอ่านร้อยครั้งแล้ว หนังสืออีก สิบเก้าเล่มที่เหลือ เขาก็ต้องอ่านเล่มละยี่สิบครั้ง คนทั่วไปจะใช้เวลาสองปีกว่าจะอ่านจบ แม้ว่าพวกเขาจะอ่านหนังสือวันละเล่มก็ตาม

แต่นักศึกษาคนนี้กลับใช้เวลาเพียงสามสัปดาห์?

แล้วแบบนี้ เขาจะไม่แปลกใจได้อย่างไร

แม้ว่าสวีเมี่ยวหลินจะมีข้อสงสัยมากมาย แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะเชื่อมั่นในตัวฟางชิวก่อน

หลังจากที่ฟางชิวรับประทานอาหารเย็นแล้ว ฟางชิวก็กลับไปที่หอพัก แล้วก็พบว่าจูเปิ่นเจิ้ง ซุนฮ่าวและโจวเสี่ยวเทียนอยู่ในห้อง กำลังทำหน้าขมขื่นเหมือนกันเป๊ะ

“ตอนนี้พวกนายควรจะอยู่ที่ภูเขาเหยาหวังไม่ใช่เหรอ” ฟางชิวถามอย่างงงงวย

ช่วงนี้พวกเขาทั้งสามคนต้องไปฝึกงานที่ภูเขาเหยาหวังสิ!

“ไม่ต้องพูดถึงมันได้ไหม” ซุนฮ่าวมองไปที่ฟางชิวหลังจากที่พูดจบ จากนั้นซุนฮ่าวก็หันหน้าหนี บ่งบอกว่าไม่ต้องการจะตอบอะไรเพิ่มเติมอีก

“เจ้าห้า พวกฉันหมดหวังแล้ว” โจวเสี่ยวเทียนพูดขึ้นมาอย่างเศร้า ๆ

ฟางชิวรู้สึกประหลาดใจจึงถามออกไป “เกิดอะไรขึ้น?”

“พวกฉันถูกไล่ออกมาน่ะเซ่!” จูเปิ่นเจิ้งถอนหายใจแล้วพูดต่อว่า “เมื่อกี้ผู้ดูแลภูเขาเหยาหวังกลับมา พวกฉันก็เลยว่าจะไปขอฝึกงานกับเขา อุตส่าห์ตื่นเต้นรอ แต่ก่อนที่พวกฉันจะพูดความตั้งใจออกไป เขาก็ตะโกนใส่พวกฉัน บอกว่าพวกฉันเป็นคนทำลายสมุนไพรบนภูเขาเหยาหวังทั้งหมด พวกฉันไม่ทันได้พูดอะไรเลย แต่ก็ถูกไล่ตะเพิดออกมาก่อน!”

“ฉันเศร้ามากเลย!” ซุนฮ่าวเอ่ย

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน